บนสนามประลอง หลิงอ้าวไม่ใช่คนตัวใหญ่ ใบหน้าของเขาคมเหมือนมีด และเขาหน้าตาดีมากๆ เขาได้เปล่งจิตสังหารที่น่ากลัวของเขาออกมาจากทุกส่วนในร่างกายเขา จิตสังหารที่มองไม่เห็นได้ปกคลุมทั่วลานประลอง
"เ้าหนู เ้าพอมีความสามารถบ้าง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับข้า แค่นั้นมันยังไม่พอ ข้าจะให้โอกาสที่จะรักษาชีวิตของเ้า ยอมแพ้ซะและคุกเข่าต่อหน้าศิษย์พี่หนานเป่ยเฉาและโขกศีรษะขอขมาซะ!"
หลิงอ้าวพูดดังก้อง น้ำเสียงเขาไม่อาจที่จะปิดความเย่อหยิ่งของเขาได้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เห็นเจียงเฉินอยู่ในสายตา
ยอมแพ้ คุกเข่าขอขมา
นี่เป็การข่มเหงผู้คนอย่างง่าย หากเป็คนอื่นย่อมหวาดกลัวต่อท่าทีข่มขู่ของหลิงอ้าว แต่ไม่ใช่ในกรณีของเจียงเฉิน
"ช่างเจื้อยแจ้วเสียจริง"
เจียงเฉินเผยรอยยิ้ม
"ฮึ่ม! เจียงเฉิน ในเมื่อเ้าไม่สนใจข้อเสนอของข้า ก็อย่าตำหนิข้าว่าไม่เกรงใจก็แล้วกัน! จะได้ตายในน้ำมือของข้า เ้าจะได้ไปยิ้มต่อในปรโลก!"
หลิงอ้าวแค่นเสียงออกมาอย่างเ็า จิตสังหารที่ออกมาจากร่างกายเขารุนแรงยิ่งขึ้น เขากระทืบเท้าลงทำให้เวทีการแข่งขันสั่นไหว หลังจากนั้นชุดสีดำของหลิงอ้าวได้สั่นกระเพื่อม เขาเป็เหมือนกับลูกศรที่กำลังออกจากคันศรและพุ่งตรงไปยังเจียงเฉิน สายลมได้รวมที่กำปั้นของเขาและก่อรูปร่างเป็ดาบอันแหลมคม และวาดดาบใส่เจียงเฉิน
รู้สึกได้ถึงพลังอันมหาศาล ท่าทางของเจียงเฉินได้เปลี่ยนเป็จริงจัง หลิงอ้าวผู้นี้สมควรแล้วที่จะเป็หน้าตาของศิษย์นอกของนิกายอัคคีผลาญฟ้า เขาไม่ใช่คนที่อยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายทั่วๆไปสามารถเปรียบได้ หากเทียบหวงเฟิงและหลิงอ้าว พวกเขาอยู่กันคนละชั้น
ทันใดนั้นเจียงเฉินยืดฝ่ามือออกไป เขายืดนิ้วมือทั้งห้า และปลดปล่อยแสงสีทองห้าสายออกมา เข้าปะทะกับการโจมตีของหลิงอ้าว หากเป็เมื่อไม่กี่วันก่อน การที่เจียงเฉินจะจัดการหลิงอ้าวได้นั้น เขาอาจจะต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่ตอนนี้เขาได้ตราประทับัเพิ่มเติมหกดวง ทำให้พละกำลังการต่อสู้ของเขาเลื่อนขึ้นอีกระดับ เขามีความมั่นใจอย่างสมบูรณ์ว่าสามารถที่จะเอาชนะหลิงอ้าวได้โดยไม่ต้องใช้พยายามมากมาย
ปัง!...
เวทีประลองสั่นไหว พลังงานที่ปะทะกันทำให้อากาศโดยรอบระอุขึ้นระลอกคลื่นที่เกิดจากฉากนี้ ได้กวาดผ่านบริเวณโดยรอบนับสิบจ้าง ผู้ชมบางส่วนที่ยืนอยู่ใกล้เวทีประลองรู้สึกหวาดกลัว นี่คือการปะทะกันระหว่างอัจฉริยะ!
นี่เป็เพียงแค่การปะทะครั้งแรกเป็การประชันระหว่างพลังหยวน อาจเรียกได้ว่าการโจมตีแบบหยั่งเชิง มันไม่ได้แสดงถึงพลังที่แท้จริงของทั้งสองฝ่าย หลังจากพลังงานได้กระทบกันแล้ว กำปั้นของหลิงอ้าวที่หุ้มด้วยพลังหยวนได้พุ่งเข้าใส่ เจียงเฉินเองก็ไม่ได้รอช้า เขาซัดฝ่ามือสวนทันที
ปัง!
หมัดปะทะกับฝ่ามือทำให้เกิดเสียงดังก้อง ศูนย์กลางปะทะเกิดประกายไฟขึ้นเป็จำนวนมาก พลังอันรุนแรงทำให้อากาศสั่นะเื นี่เป็ผลการปะทะกันระหว่างพลังหยวนและปะทะทางกายภาพของพวกเขา
ตึก ตึก ตึก!
ฉากที่น่าตกตะลึงปรากฎขึ้นอีกครั้ง หลิงอ้าวที่เริ่มโจมตีเข้าไปได้ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว หลังจากการปะทะกันอย่างรุนแรง หลิงอ้าวถูกบังคับให้ถอยไปสามก้าวก่อนที่จะพยุงร่างกายเขา ทุกก้าวที่เขาถอยหลัง ทำให้สนามประลองสั่นไหว
"มันเป็ไปได้อย่างไร?"
ท่าทางของหลิงอ้าวเปลี่ยนไป แขนของเขารู้สึกชา ความตกตะลึงในใจของเขาได้หนักยิ่งกว่าก่อนเป็เท่าตัว เขารู้ถึงความสามารถของตัวเขาเองดี แทบไม่มีผู้ใดในขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ที่สามารถเป็คู่ต่อสู้ของเขาได้ แต่ตอนนี้เขาถูกผู้เชี่ยวชาญแก่นมนุษย์ขั้นต้นบังคับให้ถอยหลัง นี่มันน่าเหลือเชื่อ!
"์! เจียงเฉินมาจากที่ใดกันแน่?! แม้แต่หลิงอ้าวยังถูกเขาบังคับให้ถอยหลัง! ข้าไม่อยากเชื่อเลย!"
"น่ากลัวจริงๆ! หลิงอ้าวเป็หนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นเยาว์และเจียงเฉินสามารถทำให้เขาถอยหลังไปได้ในขณะที่ระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าเขาถึงสองขั้น! หากข้าไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง ข้าจะไม่เชื่อเด็ดขาด!"
"สัตว์ประหลาด! เขาเป็สัตว์ประหลาด! เจียงเฉินผู้นี้จะต้องถูกจารึกในประวัติศาสตร์ในฐานะสุดยอดม้ามืดผู้ที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันประจำแคว้นฉี ! นามของเขาจะเป็ที่รู้จักเฉกเช่นเดียวกับหนานเป่ยเฉา"
"อย่าได้ตื่นเต้นจนเกินไป นี่เป็เพียงแค่การแลกเปลี่ยนกระบวนท่าเล็กน้อยเท่านั้น! หลิงอ้าวเป็หน้าตาของศิษย์นอกของนิกายอัคคีผลาญฟ้า เขาจะต้องมีทักษะที่แข็งแกร่งกว่านี้อยู่เป็แน่! มันเร็วเกินไปที่จะบอกว่าผู้ใดจะเป็ผู้ที่ยืนเป็คนสุดท้าย! แต่ว่าั้แ่ที่เจียงเฉินได้ชนะการแลกเปลี่ยนกระบวนท่าครั้งแรก นี่เป็ข้อพิสูจน์ถึงว่าเขามีพร์ดุจปีศาจ! นอกจากนี้เขาเป็เพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น หากเขาอยู่จุดสูงสุดของแก่นแท้มนุษย์เหมือนหลิงอ้าว ข้าเชื่อว่าหลิงอ้าวไม่สามารถที่จะยืนหยัดได้จากการโจมตีเพียงครั้งเดียวของเขา"
ไม่มีผู้ใดไม่ประหลาดใจ ความประทับใจที่มีต่อเจียงเฉินได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง และภาพลักษณ์ของเจียงเฉินในใจของพวกเขานั้นได้เลื่อนไปอีกระดับ ใน่แรกผู้ชมต่างคิดว่าการแข่งขันนั้นตัดสินไปั้แ่เริ่มแล้ว แต่ตอนนี้มันเป็แค่เพียงเกมการคาดเดา
บรรดาศิษย์จากนิกายใหญ่ทั้งสี่ต่างตกตะลึงยึ่งกว่าเหล่าคนนอก เพราะพวกเขารู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของหลิงอ้าวเป็อย่างดี ในหมู่ศิษย์นอก มีเพียงแค่าาปีศาจน้อยและหลี่หวู่ซวงที่สามารถจัดการหลิงอ้าวได้อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เจียงเฉินอีกคนหนึ่งที่สามารถทำเช่นนั้นได้เช่นกัน
"ดูเหมือนว่าข้าจะดูถูกเขาไปหน่อย"
มุมปากของฮันหยานยกขึ้นด้วยท่าทางเป็สุข
"เจียงเฉิน เ้าทำให้ข้าโกรธ! ข้าจะแสดงให้เ้าดูว่าความน่ากลัวที่แท้จริงเป็เช่นไร!"
หลิงอ้าวตอนนี้เกรี้ยวกราดอย่างมาก เขาได้ปลดปล่อยพลังปราณอันรุนแรงออกมาจากร่างเขา ทั่วทั้งร่างเขามีพลังงานราวกับน้ำวนปกคลุม
"ถ้างั้นจงแสดงฝีมือทั้งหมดของเ้าออกมา มิเช่นนั้นเ้าจะไม่มีโอกาสอีกภายหลัง"
เจียงเฉินยังคงใจเย็น ท่าทางของเขายิ่งกว่าหลิงอ้าว
"เจียงเฉิน การโจมตีต่อไปของข้าเป็ทักษะยุทธที่ทรงพลังที่สุดของข้า! ข้าจักสังหารเ้าในกระบวนท่านี้!"
ผมของหลิงอ้าวโบกสะบัด เขาได้อยู่ในใจกลางคลื่นพลังงานน้ำวน คลื่นพลังงานที่หลิงอ้าวสร้างมีขนาดใหญ่ั์ เขายกฝ่ามือทั้งสองของเขาขึ้นช้าๆ กลางฝ่ามือของเขาปรากฏแสงสีเหลืองทองออกมา มันดูทรงพลังราวกับแสงอาทิตย์ คลื่นพลังได้มารวมตัวกันใจกลางฝ่ามือเขา ทำให้ความแข็งแกร่งของหลิงอ้าวเพิ่มมากขึ้น
"ฮ่าฮ่า ศิษย์พี่หลิง ใช้ฝ่ามือคลื่นวายุคลั่ง มันเป็ทักษะยุทธขั้นปฐีระดับต่ำ นอกจากนี้มันยังเป็ทักษะที่หลิงอ้าวภาคภูมิใจมากที่สุด"
"ใช่แล้ว ทักษะยุทธขั้นปฐีแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ยังไม่มีโอกาสได้ ข้าได้ยินมาว่าเมื่อเขาสำแดงฝ่ามือคลื่นวายุคลั่ง ฝ่ามือของเขาจะเป็โซ่ตรวน ตรึงคู่ต่อสู้ของเขาอย่างแ่า
ก่อนที่จะสังหารคู่ต่อสู้ของเขาอย่างเหี้ยมโหด มันช่างอำมหิตและโเี้นัก"
"ศิษย์พี่หลิงอ้าวโกรธแล้ว เ้าเจียงเฉินนั่นจบสิ้นแล้ว"
ศิษย์นิกายอัคคีผลาญฟ้ามีความสุขเป็อย่างมาก แม้กระทั่งหนานเป่ยเฉาที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ได้มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา เขาเข้าใจเกี่ยวกับทักษะยุทธฝ่ามือคลื่นวายุคลั่งดีและเขามั่นใจในตัวหลิงอ้าวมาก
"น้องเจียง เ้าต้องระวังให้มาก นี่เป็ทักษะยุทธขั้นปฐี อย่าได้ดูถูก"
ฮันหยานกระซิบเจียงเฉินผ่านััเทวะ
"ไม่ต้องกังวล"
เจียงเฉินตอบกลับ เขาไม่ได้สนใจทักษะขั้นปฐีแม้แต่น้อย ฝ่ามือคลื่นวายุคลั่งงั้นรึจะเทียบกับหกดัชนีสุริยันของเขาได้
"เจียงเฉิน การที่เ้าได้ตายภายใต้ฝ่ามือคลื่นวายุคลั่งของข้า ถือว่าเป็โชคดีของเ้า "
พลังปราณของเขาพวยพุ่งสู่์ เขารวบรวมพลังหยวนทั้งหมดของเขาไปยังฝ่ามือทั้งสอง คลื่นพลังจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกจากหลิงอ้าว มันครอบคลุมพื้นที่โดยรอบในระยะสิบจ้าง ภายใต้แสงอาทิตย์ มันได้เรืองแสงขึ้นมาและสะท้อนแสงเจ็ดสี
ฮ่าห์...!
หลิงอ้าวะโออกมา ล็อคเป้าไปยังเจียงเฉินอย่างรวดเร็ว เขาผลักฝ่ามือทั้งสองของเขาออกอย่างฉับพลัน คลื่นพลังได้รวมกันเป็รูปร่างฝ่ามือ เสียงดังแสบแก้วหู และพุ่งไปยังเจียงเฉิน
หลายคนต่างตกตะลึง จนลืมที่จะปิดปากของพวกเขา พลังปราณของหลิงอ้าวกล้าแกร่งเกินไป ในตอนนี้ไม่มีผู้ใดละสายตาไปไหน พวกเขาอยากรู้ว่าเจียงเฉินจะโต้กลับกระบวนท่าของหลิงอ้าวได้อย่างไร
เมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ามือคลื่นวายุคลั่ง เจียงเฉินก็หรี่ตาลง รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา ด้วยประสบการณ์ของเขา เขาสามารถบอกถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฝ่ามือคลื่นวายุคลั่งได้ง่ายๆ เมื่อทักษะนี้ถูกปลดปล่อยออกมา มันจะล็อคตัวคู่ต่อสู้โดยสมบูรณ์ กลายเป็โซ่ตรวนจองจำเป้าหมาย
แต่น่าเสียดาย การบ่มเพาะพลังของหลิงอ้าวยังอ่อนแอเกินไป ด้วยพลังแก่นแท้มนุษย์ขั้นสูงสุดเขาไม่สามารถใช้ทักษะนี้ได้เต็มศักยภาพของมัน ทำให้เจียงเฉินเลยเล็งเห็นจุดอ่อนได้โดยง่าย
เมื่อฝ่ามือขนาดั์เข้าใกล้กับเจียงเฉิน เขาก็ได้ชี้นิ้วสองนิ้วอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเกิดเสียงะเิขึ้น และดัชนีทองคำขนาดั์ทั้งสองปรากฏ ถัดจากดัชนีขนาดั์ทั้งสอง ได้ปรากฏดัชนีสีทองขนาดั์ดัชนีที่สามปรากฏขึ้นลางๆ
ดัชนีทั้งสามรวมกันเป็หนึ่งในทันที ดัชนีทองคำขนาดั์นี้ดูราวกับเสาค้ำจุน์ สามารถทำลายทุกสิ่งที่ขวางทางมัน พลังของมันมากพอจะทำลายูเาได้ทั้งลูก และในตอนนี้มันได้ปะทะกับฝ่ามือคลื่นวายุคลั่ง
เตูม!
ท้องฟ้าปั่นป่วน แม้แต่เวทีการประลองที่มีม่านพลังที่สร้างโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญได้เกิดรอยร้าว ที่ศูนย์กลางของการปะทะกันเกิดประกายไฟขึ้นเป็จำนวนมาก มันเกิดขึ้นจากการปะทะกันระหว่างสองทักษะ
ผลจากการปะทะกับหกดัชนีสุริยัน ทักษะฝ่ามือวายุคลั่งได้ถูกขยี้แหลกเป็เสี่ยงๆ
ว้าก!
หลิงอ้าวได้รับาเ็จากพลังที่รุนแรงจากคลื่นกระแทกที่สวนกลับมา เขาได้กระอักเื และถอยหลังไปที่มุมของลานประลองก่อนที่เขาจะพยุงตัวกลับมาได้ เขาตัวสั่นและสั่นสะท้าน ท่าทีของเขาดูซีดเซียว และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
"หลิงอ้าวพ่าย เขาพ่ายแพ้ในการต่อสู้จริงๆ!"
"ทักษะยุทธที่เจียงเฉินใช้นั่นมันอะไรกัน? เหตุใดถึงน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก?ข้าคิดว่าระดับไม่ได้ต่ำกว่าฝ่ามือวายุคลั่ง! เ้าผู้ฝึกตนพเนจรนี่มีทักษะการยุทธที่ร้ายกาจเช่นนี้ได้ ข้าแน่ใจว่าเขาจะต้องมีประสบการณ์ที่ยากแก่การพบเจอเป็แน่"
"บ้าไปแล้ว! ความแข็งแกร่งของเจียงเฉินมันไม่มีขีดจำกัดหรืออย่างไร? ตอนนี้หลิงอ้าวได้รับาเ็ ข้ากลัวว่าเขาจะยอมแพ้ หากตัดสินจากการกระทำของเจียงเฉินก่อนหน้านี้ ข้าคิดว่าเจียงเฉินจะต้องสังหารเขาแน่!"
หลังจากที่หลิงอ้าวโจมตีด้วยฝ่ามือวายุคลั่ง เขาก็ยังพ่ายแพ้แก่เจียงเฉิน นี่เป็สิ่งที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อน
และเมื่อทุกๆคนต่างตกตะลึง เจียงเฉินเคลื่อนไหวอีกครั้ง ร่างเขาพริ้วไหวดั่งภูติผี เขาได้มาถึงตรงหน้าหลิงอ้าว ในมือของเขาปรากฏดาบแหลมคมเย็นเฉียบขึ้นมา
มุมปากของเขายกขึ้น ดาบอันแหลมคมได้แทงไปยังหัวใจของหลิงอ้าว
ท่าทีของหลิงอ้าวเปลี่ยนไปทันที ด้วยสภาพของเขาในตอนนี้ ไม่มีทางที่เขาจะต้านการโจมตีจากเจียงเฉินได้ เขาได้ถูกพลังปราณของเจียงเฉินกดข่มไว้ ตอนนี้เขาไม่สามารถทำได้แม้แต่จะเปิดปากและพูดยอมแพ้
"หยุดมือ!"
หนานเป่ยเฉาะโออกมาด้วยน้ำเสียงเ็า กลิ่นอายของผู้ปกครองได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขา ใน่เวลานั้นหลายต่อหลายคนได้พยายามอ่านความคิดของเจียงเฉิน
สวบ!
แต่แย่หน่อย การะโของหนานเป่ยเฉาไม่ได้หยุดสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ได้ ดาบของเจียงเฉินได้เสียบทะลุลึกเข้าไปในหัวใจของหลิงอ้าว และทะลวงร่างของเขา และปลายของคมดาบได้โผล่ขึ้นที่หลังของหลิงอ้าว
ดาบนี่ได้แทงทะลุหัวใจของหลิงอ้าว เขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
นี่เป็เวทีการต่อสู้ของความเป็และความตาย นี่คือสิ่งที่มันเป็ มันสามารถมีผู้ที่ยืนอยู่ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่มีความจำเป็ต้องอธิบายถึงสาเหตุ สำหรับนิกายอัคคีผลาญฟ้า ในเมื่อเขาได้ล่วงเกินพวกเขาไปแล้ว การสังหารหนึ่งในอัจฉริยะของพวกเขามันก็ไม่ต่างกัน
มีคำพูดว่าเมื่อเ้ามีหนี้แค้นเกินกว่าที่จะรับไหว ก็จงกำจัดมันทิ้งเสีย เ้าจะไม่รู้สึกรบกวนอีกต่อไป ดังนั้นเมื่อเ้ามีศัตรูมากขึ้นกว่าที่เ้าจะรับได้ เ้าจึงไม่ต้องสนใจหากที่จะจัดการสักหนึ่งหรือมากกว่านั้น
