คัมภีร์ทองแดงสั่นส่ายในเวลาอันรวดเร็ว มันส่องแสงสุกสกาว จากนั้นก็เหมือนเช่นเก่าก่อน เริ่มสูบเอากำลังภายในของเ่ิูไปอย่างบ้าคลั่ง ความแข็งแกร่งและความเร็วเหมือนจะคั้นเ่ิูให้หมดตัว ทว่าหลายอึดใจต่อมา ภายในกายเ่ิูกลับเปลี่ยนสภาพเหมือนใกล้แห้งเหือดเต็มที
เมื่อละเมิดจึงมีกฎ
เ่ิูรักษาสภาพจิตใจไว้อย่างเข้มแข็ง รอคอยคัมภีร์ทองแดงสำรอกกลับมา
ทว่าคราวนี้ สถานการณ์เปลี่ยนแปลงกว่าที่เคย
สิบห้านาทีผ่านไป ปรากฏการณ์ที่เขารอคอยก็ยังคงไม่ปรากฏ
คัมภีร์ทองแดงยังคงสูบพลังทุกอย่างของเ่ิูออกไปไม่หยุด
ความแกร่งของการสูบนี้น้อยกว่าคราวก่อนๆ มาก แล้วก็อ่อนโยนกว่ากันด้วย รักษาจังหวะพิเศษอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้ะเิตูมเดียวจนสูบเ่ิูกลายเป็ไม้แห้ง
เ่ิูมิได้ลนลาน
เพราะเขาสังเกตเห็นแล้วว่าที่เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นได้นั้น เป็เพราะน้ำยาศักดิ์สิทธิ์คอยทดแทนฤทธิ์ยาและพลังในร่างกายเขาตลอด คัมภีร์ทองแดงสนใจพลังส่วนนี้เป็พิเศษ ถึงได้ค่อยๆ สูบเข้าไปแทน
กายเนื้อของเ่ิูเสมือนเป็ทางผ่าน
พลังฤทธิ์ยาแห่งน้ำยาศักดิ์สิทธิ์โคจรผ่านร่างกายแล้วจึงเข้าไปในคัมภีร์ทองแดง
กระบวนการนี้ดำเนินต่อไปถึงหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม
จากนั้นราวกับว่าคัมภีร์ทองแดงเริ่มเบื่อหน่ายน้ำยาศักดิ์สิทธิ์ มันไม่สูบพลังงานนี้อีกต่อไป หลายสิบอึดใจต่อมา ฉับพลันก็มีพลังบริสุทธิ์ไร้ใดเปรียบสำรอกออกมาจากคัมภีร์ ท่องไปทั่วอวัยวะ กระดูกและชีพจรของเ่ิู สุดท้ายจึงรวมกายเป็หนึ่งเดียวดั่งสายน้ำหลั่งสู่มหาสมุทร สู่โลกทะเลทรายตันเถียนและภายในน้ำพุตาที่สี่
การสำรอกที่รอคอยมายาวนานได้มาเยือน
เ่ิูฮึกเหิมเข้าให้แล้ว
พลังงานใหม่ทำให้เขารู้สึกเหมือนเกิดใหม่
เมื่อกำลังภายในวิ่งพล่านไปทั่วร่าง เ่ิูก็ััได้ว่าความกดดันรอบด้านลดน้อยลงโข เขาลองขยับมือเท้าดูสักหน่อย ที่สุดจึงสามารถปล่อยตัวตามสบายในหม้อทองเหลืองยอดเมฆา สบายเนื้อตัวขึ้นเยอะ
แต่อย่างไรก็ยังอยากจะหลุดพ้นความลำบาก
ส่วนยอดของหม้อทองเหลืองยอดเมฆา ฝาหม้อทองเหลืองปิดผนึกทั้งหม้อยาหมดสิ้น
พลังงานมหาศาลกึกก้อง เติมเต็มอยู่ด้านในหม้อยา โดยเฉพาะส่วนลายสลักแ่ารูปสรรพสัตว์บนฝาหม้อทองเหลือง เริ่มไหลเวียนเป็ลายแสงประหลาดเหมือนกับมีชีวิต ปลดปล่อยพลังงานอันน่าพิศวง ราวกับใต้หล้าแห่งนี้ ชวนให้มนุษย์รู้สึกว่าต่อให้พลังกล้าแกร่งเพียงไหนก็ไม่มีทางเอาชนะเวหาหาวและผืนพิภพ
เ่ิูลองอยู่หลายครั้ง จนแล้วจนรอดก็ยังเปิดฝาหม้อทองเหลืองไม่ได้
ตึงๆ!
หม้อยาดังขึ้นกะทันหัน
เพราะมีคนเคาะมันจากด้านนอก
“เป็ไงบ้าง? ผ่านไปสามวันสามคืนก็ไม่มีเสียงแล้ว มิใช่ว่าโดนกลั่นจนตายแล้วหรอกนะ?” ชายอาภรณ์ดำส่งเสียงมา
เ่ิูไม่ร้อนรนอีกแล้ว เขาวางมาดเหมือนท่อนไม้ หัวเราะพลางตอบเสียงดัง “ถุย เ้าลวงโลกสร้างภาพจอมปลอม กลั่นช้าๆ อยู่ข้างนอกเสียเถอะ กลั่นจนคนแก่เยี่ยงเ้าเหนื่อยตาย ข้าก็ไม่มีทางโดนกลั่นตายหรอกโว้ย มีดีก็เข้ามาสิ มาสู้กันสักตั้ง”
เงียบงันไปพักหนึ่ง
จากนั้นชายอาภรณ์ดำจึงตอกกลับด้วยเสียงหัวเราะเจือโทสะ “ดี ดีเยี่ยม ดูท่าเ้าจะยังมีเรี่ยวแรงอยู่ สามวันแรกมันแค่น้ำจิ้มหกวันหลังคือของจริง พอถึงเวลาข้าจะรอเ้ามาร้องขอชีวิต”
เอ่ยจบ ก็กระตุ้นหม้อปรุงยาให้ทำการกลั่นต่อไป
เ่ิูพลันรู้สึกถึงอุณหภูมิในหม้อยาที่สูงขึ้นอย่างฉับพลัน
แม้แต่เ่ิูผู้พลังถึงขั้นนี้แล้วยังรู้สึกได้ถึงความร้อนอบอ้าวยากจะทานทน
ราวกับว่าร่างกายติดอยู่กับชะง่อนผา
เ่ิูสูบเอาน้ำยาศักดิ์สิทธิ์ภายในหม้อยาเข้าไปอีกจนเหลือประมาณสองในสามส่วน
เ่ิูนึกวิธีใดไม่ออก เขานั่งขัดสมาธิลงลวกๆ รวบรวมสติสัมปชัญญะแล้วเริ่มตนฝึกวิชาต่อไป
ไม่นานนัก หนึ่งวันได้ผ่านพ้นไป
น้ำศักดิ์สิทธิ์เดือดพล่านหนักกว่าเก่า ด้วยการต้มตุ๋นในอุณหภูมิสูงทำให้ส่วนมากผันเป็อากาศซึ่งกลายเป็ไอพันล้อมรอบตัวเตา
เ่ิูไม่เสียเวลาไปรับมันไว้ เขาหายใจเข้าออกก็เพื่อให้พลังของยาอันบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกายทั่วทุกรูขุมขน
เ่ิูคิดว่าเขาใกล้กลายเป็มนุษย์ยาแล้ว
เขาเกิดความคิดแผลงๆ ว่าหากมีจอมยุทธ์คนใดมากัดเขาตอนนี้ กินเนื้อเขาตอนนี้แม้แต่คำเดียว พลังคนผู้นั้นจะพุ่งสูงชะงัด
“ฮ่าๆ หนุ่มน้อย เ้ารู้สึกสบายเนื้อสบายตัวใช่ไหมล่ะ สูบฤทธิ์ยาเป็อย่างไรบ้าง?” เสียงชายอาภรณ์ดำแว่วมาจากด้านนอก ในความหยอกล้อมีความทะมึนแอบแฝงอยู่ “เด็กดีๆ รีบสูบฤทธิ์ยาเข้าเสียล่ะ ข้าจะได้เริ่มกลั่นยาขั้นต่อไปทันที อะฮ่าฮ่าฮ่า!”
“เ้าแก่ จะกลั่นข้าเป็ยามนุษย์ น่ากลัวว่าเ้าจะไม่มีปัญหาว่ะ” เ่ิูะโ “แน่จริงก็เข้ามากลั่นสิวะ”
“เฮอะๆ เป็ลูกไก่ในกำมือข้าแล้วแท้ๆ ยังริปากแข็ง...รอเ้าร้องไห้แล้วกัน” เขาโพล่งด้วยโทสะคราหนึ่งก็ไม่เอ่ยอันใดอีก
ดูท่าจะไปกระตุ้นกำลังภายในกลั่นยาอย่างเอาเป็เอาตายแล้ว
เป็ดังที่คิด เมื่ออุณหภูมิในหม้อยาสูงปรี๊ดชนิดก้าวะโ คราวนี้ไม่ต่างอะไรกับโดนย่างอยู่บนไฟร้อนๆ
“เ้าแก่นี่ชั่วร้ายนัก มันวางแผนจะให้ข้าสูบเอาฤทธิ์ยาน้ำยาศักดิ์สิทธิ์จนหมด ให้ข้ากลายเป็มนุษย์ยาแล้วค่อยอัดข้าเป็ยาเม็ดมนุษย์” เ่ิูพินิจในใจ ทว่าเบื้องหน้านอกจากจะสูบยาเพิ่มระดับพลังเพิ่มแล้ว เขายังไม่เลือกทางอื่นใด แต่ทำเช่นนี้ต่อไป ก้าวหน้าทีละขั้นๆ
เ่ิูต่อต้านความร้อนเพื่อกลั่นของหม้อยาทางหนึ่ง อีกทางหนึ่งก็แบ่งใจมาสำรวจภายในหม้อยาแห่งนี้
เขา้าหาข้อมูลที่เป็ประโยชน์จากในหม้อยานี้
เิ่ิ๋บอกเองว่าได้หม้อยาทองเหลืองยอดเมฆามาจากสถานา นั่นก็แสดงว่าหม้อยานี้มิใช่สิ่งที่เขาหล่อหลอมมันขึ้นมากับมือ เขาไม่มีทางรู้ความลับที่ซ่อนอยู่ทุกส่วนของหม้อยาใบนี้ ไม่แน่ว่าอาจมีสักที่ที่เิ่ิ๋มองข้าม แล้วเ่ิูนำมาใช้ประโยชน์ได้
ใครๆ ก็ล้วนต้องปลอบใจตัวเอง
เ่ิูตรวจตราผนังในหม้อยาอย่างรอบคอบ
แล้วเขาก็พบอย่างรวดเร็วตามคาดว่ามีรอยสลักและภาพอันโบราณ แตกต่างจากลวดลายอึมครึมเป็รูปสิงสาราสัตว์บนฝาหม้อมาก ผนังสี่ด้านของหม้อยาเป็รูปบุคคลและเื่ราวเป็หลัก แกะเป็จารึกน่าพิศวง เ่ิูลองนับคร่าวๆ ได้ทั้งหมดร้อยแปดตัวอักษร อัดกันแน่นขนัดจนลายตา
ภาพเน้นบุคคลและเื่ราวนั้นมีทั้งหมดแปดภาพ
แปดภาพนี้น่าจะบอกกล่าวถึง บุรุษแข็งแกร่งผู้หนึ่งมาจากฟากฟ้ายามอสนีบาต เก็บไฟบรรลัยกัลป์มากลั่นเป็ยา มีพื้นหลังปรุงยาเป็์ทั้งเก้า...มีส่วนที่เกินจริงไปมาก ทั้งลึกลับและยากจะจินตนาการออก
เ่ิูคิด นี่น่าจะเป็เ้าของคนแรกของหม้อทองเหลืองยอดเมฆา ที่ยกหางตัวเองไม่ใช่เบา
ช่างตรงข้ามกันยิ่งนักเมื่อลายเส้นของภาพนั้นแสนง่าย แต่กลับศักดิ์สิทธิ์ไม่เข้าใครออกใคร มั่นใจได้เลยว่ามาจากฝีมือของปรมาจารย์แน่นอน
และตามกาลเวลาที่ไหลเวียน ภาพนี้ดั่งเริ่มมีชีวิต มันโคจรอยู่ภายในหม้อยา มนุษย์บนภาพนั้นราวกับกำลังเดินออกมาจากภาพ
“หม้อยาใบนี้มีที่มาไม่ธรรมดาเป็แน่”
เ่ิูคาดการณ์เงียบๆ ขณะเดียวกันก็นึกขวัญผวา ก่อนหน้านี้เิ่ิ๋มิได้กระตุ้นหม้อยาด้วยพลังทั้งหมดที่มีเหมือนต้มโจ๊กธรรมดา ใช้ไฟอ่อนๆ เคี่ยวไปเรื่อย รอจนเขาสูบฤทธิ์ยาแห่งน้ำยาศักดิ์สิทธิ์เข้าร่างจนหมดแล้ว คงหนีไม่พ้นใช้พลังอัคคีเผด็จศึก
ตอนนี้เด็กหนุ่มได้แต่หวังว่าบุรุษผู้นี้ยังไม่ล่วงรู้ทุกความลับของหม้อยาอย่างที่เขาสันนิษฐาน
เ่ิูสำรวจภายในหม้อยาต่อไป โดยเฉพาะส่วนอักษรทั้งร้อยแปดตัวที่จดจำไว้ในใจแบบตามลำดับ จากนั้นจึงเริ่มถอดความหมายบวกกับเดาสุ่ม เขารู้อักษรสมัยเทพมารและาอยู่ ตอนแรกก็เพื่อจะได้เข้าใจความลับของคัมภีร์โบราณ เขาอ่านหนังสือในหอสมุดคลังแสงของสำนักกวางขาวจบแล้วรอบหนึ่ง อ่านภาษาที่ถูกลืมและแปลกตานี้จนครบรอบ
อักษรเหล่านี้แม้จะซับซ้อนเข้าใจยาก แต่ถ้ามีเวลามากพอ เ่ิูมั่นใจว่าเขาต้องเข้าใจความหมายทั้งหมดได้แน่
“เห็นท่าการเข้าใจภาษาอื่นก็เป็เื่สำคัญ” าามารเย่หัวเราะเย้ยตัวเอง
เพราะในหม้อยานี้ ไม่จำเป็ต้องฝึกฝนก็รับเอาพลังของยาเข้ามาเป็บ้าเป็หลังตลอดเวลาได้อยู่แล้ว เ่ิูจึงเริ่มทำความเข้าใจความหมายและนัยแฝงของอักษรพวกนี้อย่างเต็มที่
เ่ิูมีลางสังหรณ์ว่าอักษรพวกนี้ต้องมีประโยชน์
เวลาเวียนผ่าน
พริบตาสองวันก็ผ่านพ้นไป
เ่ิูรับเอาน้ำยาศักดิ์สิทธิ์ภายในหม้อทองเหลืองยอดเมฆาจนหมดเกลี้ยงในที่สุด
ตอนนี้เพียงแค่เขาอ้าปาก กลิ่นพลังของยาเทวดาก็จะลอยออกมา
ทุกส่วนสัดของเรือนร่างราวกับว่าเปี่ยมเต็มด้วยพลังงาน มากจนแทบจะเอ่อล้นออกมา เ่ิูคิดว่าตัวเองเต็มอิ่มเสียจนเหมือนไม่ใช่เื่จริง ราวกับลูกโป่งที่พองจนถึงขีดสุด หากมีใครนึกครึ้มเป่าเข้ามาอีกเฮือก เหมือนว่าถ้าร่างกายมีพลังเพิ่มเข้ามาอีกสายเดียวทั้งร่างก็จะะเิ
ส่วนเื่อักษรร้อยแปดตัวนั่น เด็กหนุ่มเข้าใจมันประมาณแปดในสิบส่วนแล้ว
“เหมือนจะเป็กลวิธีทำยาเม็ดกับหลอมอาวุธ เหมือนจะชื่อ...ชื่อ...หม้อดินฟ้าปรารถนาแยกจาก?”
เ่ิูพยายามทำความเข้าใจมันอย่างสุดความสามารถ
หม้อดินฟ้าปรารถนาแยกจาก แม้จะเป็ข้อความสั้นๆ แต่หากเมื่อคิดโดยละเอียดแล้ว มันกลับครอบจักรวาล เ่ิูทำความเข้าใจความหมายของมัน ความนัยที่แอบแฝงกลับยากจะหาเหตุผล เขาลองคิดอยู่พักหนึ่งก็ชักมึนและตาลายจนหาคำตอบไม่ได้
ทันใดนั้น...
ตึงๆๆ!
เสียงเคาะดังมาจากผนังหม้อยาอีกครั้ง
“สองวันสองคืนไร้ซึ่งเสียง ตายแล้วยัง? สูบน้ำยาศักดิ์สิทธิ์หมดแล้วล่ะสิ ฮ่าๆ ในที่สุดเวลาที่ข้ารอคอยก็มาถึง ถ้าข้าทายไม่ผิด เ้าต้องไม่เหลือแรงจะพูดแน่ ใช่ไหม?”
น้ำเสียงอาบยาพิษของบุรุษชุดดำดังมา
เ่ิูไม่ตอบ
“หรือจะตายแล้วจริงแท้ น่าผิดหวังเสียจริง อยู่ไม่ครอบเจ็ดวัน ในตำรายาบันทึกไว้ว่าถ้ากลั่นตอนยังมีชีวิตอยู่ ยามนุษย์ที่กลั่นออกมาจะทรงสรรพคุณที่สุด แต่ก็ช่างเถอะ ขอให้เป็ยามนุษย์ก็พอแล้ว...” น้ำเสียงยังแว่วดังอย่างต่อเนื่อง
เ่ิูโกรธ “ไร้สาระ พ่อยังอยู่ดีอยู่เว้ย เ้ามีปัญญาทำได้แค่นี้เหรอ? น่าผิดหวังซะจริง”
ด้านนอกเงียบไป
จากนั้นชายอาภรณ์ดำจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระหืดกระหอบ “ไอ้เด็กเวร ดีๆๆ เ้ารอไป ข้าจะทำให้เ้าน้ำตาเล็ดให้ดู”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้