สมาคมรับจ้างแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่เพียงบริการหางานเท่านั้น แต่ยังมีสนามฝึกด้านหลังที่เปิดให้บริการอีกด้วย สนามฝึกนี้เป็เหมือนศูนย์ฝึกฝนร่างกายและจิตใจสำหรับผู้ที่้า ที่นี่มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเอง
สนามฝึกตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างขวางหลังอาคารสมาคม มีกำแพงสูงล้อมรอบเพื่อความเป็ส่วนตัว พื้นที่ภายในประกอบด้วยลานฝึกกลางแจ้ง เวทีต่อสู้ และห้องฝึกเฉพาะทาง เช่น ห้องฝึกยิงธนู ห้องฝึกดาบ เป็ต้น อุปกรณ์ทุกชิ้นผลิตจากวัสดุชั้นดี ทนทานต่อการใช้งานหนัก
นอกจากสถานที่และอุปกรณ์แล้ว จุดเด่นที่สุดของที่แห่งนี้คงหนีไม่พ้นบรรดาครูฝึกผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์และความชำนาญสูง พร้อมถ่ายทอดวิชาให้กับผู้ที่กระหายที่จะเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็การต่อสู้มือเปล่า การใช้อาวุธ หรือเทคนิคการเอาชีวิตรอด
การใช้บริการสนามฝึกนี้ ผู้ที่สนใจต้องสมัครเป็สมาชิกเสียก่อน โดยเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าบำรุงรายเดือน สมาชิกจะได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น เข้าใช้บริการได้ไม่จำกัดครั้ง เลือกเรียนกับครูฝึกได้ตาม้า และยังได้รับส่วนลดพิเศษสำหรับอุปกรณ์ฝึกฝนอีกด้วย
นอกจากระบบสมาชิกแล้ว สนามฝึกยังเปิดสอนเป็รอบสำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจ โดยเสียค่าบริการเป็รายครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่อยากทดลองเรียนโดยไม่ต้องผูกมัดระยะยาว การเรียนมีั้แ่ระดับพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง รองรับผู้เรียนได้หลากหลายระดับ
สนามฝึกเปิดให้บริการทุกวัน ั้แ่เช้าตรู่ยันค่ำคืน โดยมีพนักงานคอยให้บริการและดูแลความเรียบร้อย สมาชิกสามารถจองเวลาฝึกได้ตามสะดวก ทำให้ที่นี่เป็ที่นิยมของผู้ที่สนใจและนักรบเป็อย่างมาก กลายเป็แหล่งรวมตัวของผู้ที่รักในการฝึกฝนพัฒนาตนเอง
สนามฝึกหลังสมาคมแห่งนี้ ถือเป็อีกหนึ่งบริการสำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้กับสมาคมรับจ้างไม่แพ้กัน นอกจากจะช่วยดึงดูดลูกค้าแล้ว ยังเป็แหล่งฝึกฝนบ่มเพาะฝีมือให้กับเหล่าสมาชิก เสริมความแกร่งให้กับผู้ที่ทำงานในสายอาชีพอันตราย เป็ดั่งทรัพยากรสำคัญที่จะยกระดับคุณภาพบริการของสมาคมให้ดียิ่งขึ้นไป
ภายในสนามฝึก เสียงโลหะกระทบกันดังสนั่นไปทั่วสนามเมื่อชาร์ลส์เดินเข้ามาถึง เขามองเห็นสมาชิกคนอื่น ๆ กำลังต่อสู้ฝึกซ้อมกันอย่างดุเดือด บรรยากาศเต็มไปด้วยพลังและความกระตือรือร้น แสงอาทิตย์ยามสายส่องประกายระยับจ้าบนพื้น
ชาร์ลส์ก้าวเข้าไปหามอแกนที่ยืนรออยู่ข้างเวทีประลอง ชายในชุดดำสนิทกำลังจ้องมองเขาอย่างเงียบงัน สายตานิ่งสงบ
"ผมมาแล้วคุณมอแกน พร้อมสำหรับการฝึกประจำวันแล้วครับ" ชาร์ลส์ทักทายด้วยความนอบน้อม
มอแกนมองนักเรียนตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ชาร์ลส์ วันนี้ไม่ใช่การฝึกธรรมดา แต่จะเป็การทดสอบความสามารถของคุณจากบทเรียนที่ผ่านมา จะได้รู้ว่าคุณพัฒนาขึ้นแค่ไหน"
ชาร์ลส์รู้สึกแปลกใจ ได้ยินเช่นนั้นก็รีบถามด้วยความกระหายใคร่รู้ "ผมคิดว่านี่จะเป็การฝึกตามปกติซะอีก แล้วผมต้องทำอะไรบ้าง?"
"คุณต้องมาประลองกับผม แล้วผมจะประเมินในระหว่างที่เราประลองกันว่าคุณผ่านหลักสูตรหรือไม่" คำตอบของมอแกนทำเอาชาร์ลส์อึ้งไปครู่ใหญ่
"ต้องสู้จริงๆ เลยเหรอครับ แต่ผม… คงยังไม่เก่งพอ" ชาร์ลส์รู้สึกไม่แน่ใจในความสามารถตัวเอง
"อย่ากลัวไป นี่คือโอกาสให้คุณได้แสดงศักยภาพออกมา พยายามให้เต็มที่" มอแกนปลอบใจลูกศิษย์เขาด้วยรอยยิ้มจาง
ในขณะนั้นเอง ผู้คนที่อยู่ในสนามฝึกที่ได้ยินพวกเขาสองคนคุยกันก็เริ่มทยอยเข้ามาล้อมวงเพื่อชมการประลอง พวกเขาต่างพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น บางคนเริ่มวางเดิมพันว่าใครจะเป็ผู้ชนะ บรรยากาศคึกคักขึ้นเป็กองด้วยเสียงเชียร์และเสียงลงเดิมพัน
“นี่มันน่าสนุกแล้วสิ ฉันว่าคนหนุ่มคนนั้นชนะแน่ เพราะอีกฝ่ายก็แก่มากแล้ว”
“แต่ฉันว่าครูฝึกมอแกนอาจชนะก็ได้ ถึงเขาจะอายุมากแต่เมื่อก่อนเขาเก่งมากเลยนะ”
เสียงของผู้ที่เข้ามาลองดูการประลองเอ่ยความคิดเห็นของตนเองออกแบบไม่ขาดสาย
ชาร์ลส์และมอแกนยืนประจัญหน้ากันบนสนามประลอง ต่างคนต่างถือดาบ สายตาจ้องมองกันอย่างเข้มข้น เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะให้ได้ ทั้งคู่รู้ดีว่านี่ไม่ใช่การฝึกซ้อมธรรมดา แต่เป็การทดสอบครั้งสำคัญที่จะเป็ตัวชี้วัดความสามารถที่แท้จริง
เมื่อการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น ชาร์ลส์รีบกระโจนเข้าหามอแกนด้วยความเร็วสูง ดาบในมือพุ่งปะทะเข้าใส่อย่างหนักหน่วง เขาใช้พละกำลังที่มากกว่าจู่โจมคู่ต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง หวังจะเอาชนะด้วยแรงและความเร็ว
ทว่ามอแกนก็สามารถรับมือได้อย่างเหนียวแน่น ใช้ทั้งประสบการณ์และไหวพริบในการป้องกันและโต้กลับ เขาหลบหลีกและปัดป้องอย่างรวดเร็วและแม่นยำ แถมยังแทรกจังหวะโจมตีกลับเป็ระยะๆ เพื่อสลายแรงกดดันจากฝ่ายตรงข้าม
ผู้ชมที่มาเฝ้าชมต่างลุ้นระทึกไปกับทุกท่วงท่าการต่อสู้ พวกเขาส่งเสียงเชียร์กึกก้องเมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้ฝีมือสูสีกันขนาดนี้ บ้างก็ลงเดิมพันว่าใครจะเป็ฝ่ายชนะ ยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นให้กับการประลองมากขึ้นไปอีก
สายตาของชาร์ลส์เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว เขากัดฟันเค้นแรงโจมตีอย่างดุดัน ดาบในมือฟาดดั่งพายุข้าง มุ่งมั่นที่จะโค่นชายชราให้ได้ ในขณะที่มอแกนก็ยังคงยืนหยัดสู้อย่างไม่ลดละ สายตาของเขาฉายแววเพลิดเพลินชื่นชมฝีมือต่อสู้ของผู้เป็ลูกศิษย์
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปอย่างสูสีและเข้มข้น เสียงกระทบดังสนั่นสนาม ทั้งคู่ต่างมีเหงื่อชโลมกายและหอบหายใจอย่างหนัก แต่ก็ไม่มีใครยอมถอยให้ใครแม้แต่ก้าวเดียว
จังหวะหนึ่ง ชาร์ลส์เห็นช่องโหว่ของมอแกน เขาแทงดาบเข้าไปหมายจะจบการประลองนี้ แต่หารู้ไม่นั้นเป็แค่กลลวง มอแกนเขารวบรวมกำลัง ใช้จังหวะเหยียบดาบที่พุ่งเข้ามาให้ปักลงสู่พื้น ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในระยะประชิด ใช้ด้ามดาบฟาดเข้าเต็มแรงที่ท้องน้อยของศิษย์อย่างจัง
ชาร์ลส์รู้สึกเ็ป ล้มลงจากแรงปะทะ เข่าข้างหนึ่งกระแทกกับพื้นเวที
หายใจไม่ออก… เขาพยายามทรงตัวท่ามกลางความเ็ป แต่มอแกนไม่ปล่อยให้มีโอกาส ชายชราะโพุ่งมาทันควัน กระแทกเข่าเขาหน้าอกชาร์ลส์ร่วงหงายหลังลงกับพื้น ก่อนที่ชาร์ลส์จะทันฟื้นตัว ปลายดาบของอาจารย์ก็ชี้ตรงมาที่ลำคอแล้ว
การต่อสู้จบลง… เขาแพ้แล้ว...
เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วสนาม ผู้คนต่างเฮกันลั่น ชื่นชมให้กับชัยชนะของครูฝึกมอแกน แม้ชาร์ลส์จะเป็ฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ทุกคนก็ยอมรับในความสามารถของเขาที่สู้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ความพ่ายแพ้ในวันนี้ไม่ได้ทำให้เขาด้อยค่าลงเลย มีแต่จะเพิ่มความเคารพนับถือให้มากขึ้นต่างหาก
“เย้! ฮ่าๆ ดี เราต้องมองสมาชิกนักสืบคนนี้ใหม่ซะแล้ว นึกว่าเขาจะเก่งแต่ไขคดีอย่างเดียว การต่อสู้ของเขาก็ไม่เบาเลยทีเดียว” หนึ่งในผู้ชมพูดออกมา
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังกระหึ่มออกมา บางคนพยักหน้าเห็นด้วย เมื่อฝีมือการต่อสู้ของชาร์ลส์เป็ที่ประจักษ์ สมาชิกในสมาคมที่ก่อนหน้านี้เห็นเขาเป็เพียงแค่คนที่เก่งแต่การไขคดี ในตอนนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้วว่าการต่อสู้ของเขาก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน
มอแกนยื่นมือไปจับแขนชาร์ลส์ให้ลุกขึ้น ชาร์ลส์รับไมตรีนั้นด้วยความปลาบปลื้มใจ แม้จะแพ้และเสียดาย
"คุณทำได้ดีมาก แม้ยังสู้ผมไม่ได้ แต่คุณก็พิสูจน์แล้วว่าที่ผมสอนคุณนั้นไม่เสียเปล่า" มอแกนกล่าวด้วยความปลาบปลื้ม ขณะช่วยลูกศิษย์ลุกขึ้นมา
"ขอบคุณครับ ผมได้เรียนรู้มากมาย" ชาร์ลส์เอ่ยซาบซึ้งใจ
"จากนี้ผมไม่มีอะไรจะสอนคุณแล้วล่ะ ภายภาคหน้าก็เพียงแค่คอยเก็บประสบการณ์และพัฒนาฝีมือต่อไป" มอแกนมอบคำสอนสุดท้ายให้กับนักเรียนของเขา
ชาร์ลส์ผงกหัวรับคำ “จริงสิ! คุณว่าฝีมือผมตอนนี้เก่งแค่ไหน?”
มอแกนใช้เวลาคิดพักหนึ่งก่อนเอ่ยออกมา “ก็น่าจะสู้กับคนธรรมดาที่เป็ผู้ชายได้สักสองถึงสามคนล่ะมั้ง”
การทดสอบครั้งนี้จบลงด้วยคำอำลาและมิตรภาพอันงดงาม ทิ้งไว้ซึ่งความทรงจำประทับใจให้กับผู้คนที่ได้เห็น และเป็บทพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทั้งกายและใจของทั้งสองคน
หลังจากจบการฝึกฝน ชาร์ลส์เดินทางกลับถึงบ้านพักในยามบ่ายแก่ๆ อาการเมื่อยล้าเริ่มแผ่ซ่านทั่วกาย เขารีบตรวจดูที่กล่องจดหมายทันที แต่กลับไม่พบสาส์นใดๆ จากสหายเลย ไม่มีแม้กระทั่งจดหมายหลวง
เขาถอนหายใจเดินกลับเข้าบ้านไปชำระร่างกาย เขาใช้ผ้าผืนใหญ่ชุบน้ำอุ่นเช็ดถูไปทั่วเรือนร่าง ขจัดคราบเหงื่อและฝุ่นผงที่ติดมาจากการฝึกวันนี้ออกไปจนหมด ถึงแม้โจเซฟจะเป็เพื่อนสนิทแต่อีกฝ่ายก็มีฐานะเป็ถึงขุนนาง การรักษามารยาทและความเรียบร้อยจึงเป็สิ่งจำเป็ในการพบเจอ
หลังจากแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ดูดี ชาร์ลส์ก็รีบออกเดินทางไปยังร้านเหล้าสองรสทันที สถานที่ที่เขาและโจเซฟมักนัดเจอกันบ่อยๆ เนื่องจากเ้าของร้านเป็คนรู้จักกับโจเซฟดี
ร้านเหล้าสองรสเป็ร้านที่มีทั้งอาหารอร่อยและเครื่องดื่มหลากหลายั้แ่ราคาถูกไปจนของแพงชั้นดี ตั้งอยู่ในกลางใจเมือง เป็อาคารไม้สองชั้นที่ตกแต่งอย่างสวยงาม มีคานไม้แกะสลักทอดยาวจากจั่วหลังคาลงมาจนถึงระเบียงชั้นล่าง หน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงและลมเข้ามาได้โดยสะดวก ภายในประดับด้วยโคมไฟสีอ่อนหลายสิบดวง ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นน่านั่งเสวนา
เพดานร้านประดับด้วยลวดลายเครือเถาวัลย์ที่ประสานกันอย่างวิจิตรบรรจง ฝาผนังประดับด้วยภาพเขียนสีสดใส พื้นไม้สักขัดเงาสะท้อนเงาคนเดินไปมาอย่างคึกคัก โต๊ะไม้ทรงสี่เหลี่ยมหนาหนักจัดวางเรียงรายอย่างเป็ระเบียบ แต่ละโต๊ะมีผ้าปูสีแดงเืนกปักลายบ่งบอกถึงรสนิยม
ลูกค้าที่มาร้านส่วนใหญ่เป็ั้แ่คนทั่วไปจนถึงผู้มีฐานะ นั่งรวมกลุ่มสังสรรค์ พูดคุยกิจการงาน และฟังเพลงจากนักดนตรีที่ทางร้านจ้างมาประจำ กลิ่นอายของความเพลิดเพลินลอยอวลไปทั่วทั้งร้าน
ชาร์ลส์เดินเข้าไปหาโต๊ะประจำของเขาที่มุมหนึ่งของร้าน พนักงานสาวสวยรีบเดินมาต้อนรับทันทีที่เห็นเขา
"ยินดีต้อนรับสู่ร้านเหล้าสองรสค่ะ จะรับอะไรดีคะ" หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงสุภาพนุ่มนวล
"ขอชาร้อนกับเนื้อย่างชุดใหญ่มาให้ผมหน่อยได้ไหม ผมยังไม่ได้ทานอะไรมาั้แ่เช้าเลย" ชาร์ลส์ยิ้มตอบกลับอย่างเป็มิตร
"ได้เลยค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะไปจัดการให้ทันที รอสักครู่นะคะ" พนักงานสาวรับคำอย่างกระฉับกระเฉงก่อนจะวิ่งหายไปหลังประตูไม้
ชาร์ลส์ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้สีแดงแกมน้ำตาล สายตากวาดไปทั่วร้านอย่างประเมินสถานการณ์ บรรยากาศโดยรอบดูคึกคักเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยสนทนาก้องไปทั่ว บทเพลงไพเราะจากนักดนตรีบนเวทีเล็กๆ ช่วยสร้างความครื้นเครงให้ยิ่งขึ้น
อาหารและน้ำชาร้อนมาเสิร์ฟ ชาร์ลส์จัดการเนื้อย่างเข้าปากทีละชิ้น ในปากเต็มไปด้วยอาหารจนแทบอ้าปากไม่ออก ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ชาร์ลส์ก็ยังไม่เห็นวี่แววของโจเซฟ เขาจึงอดกังวลไม่ได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า แต่แล้วเสียงกระดิ่งก็ดังขึ้น ชายหนุ่มผมทองในดวงตาสีฟ้าเดินเข้ามา ดวงตาสีฟ้าครามกวาดมองไปทั่วร้าน ก่อนจะมองเห็นชาร์ลส์ที่กำลังกินเนื้อย่างอย่างเอร็ดอร่อยอยู่
ชาร์ลส์ยังคงยัดเนื้อย่างเข้าปากด้วยความหิว ขณะที่โจเซฟเดินมาที่เขาอย่างมั่นคง บรรยากาศของผู้ดีประดับอยู่บนตัวยิ่งเสริมใบหน้าหล่อเหลานั้นให้ดูดี โจเซฟนั่งลงตรงข้ามกับชาร์ลส์ ไม่ได้ตำนิที่ชาร์ลส์ไม่ได้กล่าวต้อนรับ เพราะเื่แบบนี้เขาชินแล้ว
"ขอโทษที่มาช้าไปหน่อย เกิดมีประชุมเื่เร่งด่วนน่ะ"
"ไม่เป็ไรหรอก ฉันยินดีรออยู่แล้ว" ชาร์ลส์ตอบกลับอย่างอารมณ์ดี
หลังจากที่โจเซฟมาถึง ชาร์ลส์วางส้อมลงเช็ดมือและปากให้เรียบร้อย
"เอาล่ะ มาเริ่มจากตรงไหนกันดี..." ชาร์ลส์กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงขรึมเมื่อทบทวนทุกสิ่งในหัวเป็ที่เรียบร้อย พร้อมกับมีแผนการบางอย่างผุดขึ้นในใจ ปมปริศนาแห่งอดีตกำลังค่อยๆ คลี่คลายออกทีละน้อย ความจริงบางส่วนเผยโฉมให้ทั้งคู่ได้รับรู้แล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้