คุยกับจิงโม่จนดึกดื่น จนกระทั่งเจรจาธุระกันได้ชัดเจน สุดท้ายจิงโม่ก็ทิ้งตำราฝึกวรยุทธ์พื้นฐานไว้ให้เล่มหนึ่ง ก่อนะโออกจากทางหน้าต่างเพียงแค่แตะเบาๆ ไม่กี่ก้าวก็ได้หายไปจากตระกูลเหยียนอย่างเงียบเชียบแล้ว
เหยียนชิงวางตำราทักษะพื้นฐานทั้งสองเล่มลง เขาตัดสินใจแล้วว่าจะต้องฝึกยุทธ์ให้แข็งแกร่ง ต่อไปก็เริ่มฝึกที่หอชิงเฟิงก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะคิดไปหาเว่ยซูหาน แต่เมื่อพิจารณาจากเื่ที่เว่ยซูหานกำลังจะดูแลจวน และแอบสืบเื่ของตระกูลเว่ย เขาจึงไม่อยากรบกวนอีก
จิงโม่จากไปสักพักเหยียนชิงจึงเดินออกจากห้องหนังสือ เดิมทีคิดจะพักค้างคืนที่หอชิงเฟิงโดยตรง แต่ก็กังวลว่าเว่ยซูหานจะคิดมาก อีกทั้งคนผู้นั้นก็ส่งหลินชวนมารออยู่ด้านนอกแล้ว เห็นได้ชัดว่า้าให้เขากลับไป เขาจึงส่ายหน้าอย่างจนปัญญา ได้แต่ลุกขึ้นตามหลินชวนกลับไปยังเรือนเซียวเหยา
เพิ่งกลับมาถึงชานเรือน เว่ยซูหานก็เดินออกมาจากห้อง บอกให้หลินชวนกลับไป
เหยียนชิงไม่ได้กล่าวอะไร ถึงอย่างไรการจะหักหน้าเขาต่อหน้าบ่าวไพร่คงไม่ดี หลังจากกลับถึงห้องก็พูดกับเขาว่า
“ข้ายังไม่ได้อาบน้ำ”
เว่ยซูหานกลับยิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้าปรนนิบัติเ้าคนเดียวก็เพียงพอแล้ว เสื้อผ้าพร้อมแล้ว ข้าจะยกน้ำให้เ้า เ้าเตรียมตัวไว้ก่อนได้เลย”
เหยียนชิงได้แต่พยักหน้า และกล่าวขอบคุณเบาๆ ดึกดื่นเที่ยงคืนแล้ว เขาี้เีเกินกว่าจะเสแสร้ง ไม่รู้ว่าเขาคิดมากไปหรืออย่างไร หลังจากเกิดใหม่เขารู้สึกเหนื่อยมาก แผนการฝึกศิลปะการต่อสู้ก็ต้องรีบเร่ง แม้ว่าตอนนี้จะฝึกศิลปะการต่อสู้ช้าไป ไม่สามารถเป็ยอดฝีมือได้ แต่ก็สามารถรักษาร่างกายให้แข็งแรงได้
เหยียนชิงอยู่ในห้องอาบน้ำ ส่วนเว่ยซูหานก็รออยู่ข้างนอกกำลังครุ่นคิดเื่ต่างๆ ไปเรื่อยเปื่อย รอจนเหยียนชิงจัดการธุระของตนเสร็จแล้วก็พูดคุยถึงเื่ที่เว่ยซูหานต้องจัดการในอนาคตอีกสักครู่ จากนั้นก็กลับไปนอนในห้องอย่างสงบสุข
จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น เว่ยซูหานตื่นแต่เช้าเพื่อมาฝึกกระบี่ที่สนามหลังบ้าน ไป่เส่าที่ตื่นแต่เช้าตรู่ก็ถือห่อผ้าสีแดงมาให้เขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“นี่คืออะไรหรือ?”
เว่ยซูหานวางกระบี่ลง จากนั้นมองสาวน้อยที่มีใบหน้าขวยเขิน
ไป่เส่ากัดริมฝีปากเบาๆ แล้วกล่าว
“ข้าเห็นในถุงเสื้อของคุณชายเ้าค่ะ… คุณชายน่าจะยังไม่ตื่น ก็เลยเอามาให้ฮูหยินน้อยแทนเ้าค่ะ”
เมื่อไป่เส่าพูดจบ เว่ยซูหานก็ปลดผ้าแดงออกเผยให้เห็นหนังสือเล่มเล็กที่ห่อไว้ด้านใน วิชาของบุรุษในห้องหอ ตัวอักษรที่สะดุดตาหลายคำปรากฏสู่สายตา
เว่ยซูหานหนังตากระตุก เขาพลิกดู ก่อนจะปิดมันอย่างรวดเร็ว ไป่เส่าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก้มหน้าลง
“แค่กๆ เ้าเห็นแล้วรึ?”
เว่ยซูหานถาม ห่อของแล้วใส่ไว้ในอ้อมอก
สาวใช้คุกเข่าลง
“มันหลุดออกมาจากเสื้อผ้าของคุณชายตอนที่ข้าจะนำไปซัก จากนั้น… ข้าไม่ทันระวัง ฮูหยินน้อยโปรดอภัยในบ่าวด้วยเ้าค่ะ”
นางไม่ได้ตั้งใจ คิดไม่ถึงว่าคุณชายจะมีของแบบนี้ติดตัว ทำให้นางทั้งใทั้งประหลาดใจมากเช่นกัน ภายนอกดูเ็าแต่ข้างในกลับเป็คนกระตือรือร้นมาก
“ลุกขึ้นเถอะ จะคุกเข่าทำไม ไม่ใช่เื่ที่ใครเห็นไม่ได้สักหน่อย”
เว่ยซูหานหมุนตัวหยิบเสื้อนอกที่แขวนอยู่ข้างๆ มาใส่อย่างใจเย็น พอเห็นนางลุกขึ้นก็กำชับว่า
“ถ้าคุณชายไม่ถามเ้า ก็ถือว่าเขาไม่รู้ หากเขาถามขึ้นมา ก็ให้เขามาหาข้า ตอนนี้ออกไปเถอะ คุณชายก็น่าจะตื่นแล้ว ไปเตรียมอาหารเช้าเถอะ”
“เ้าค่ะ ขอบคุณฮูหยินน้อยที่ไม่ตำหนิข้า”
ไป่เส่าก้มคำนับถอยออกไป เว่ยซูหานเห็นว่านางเดินไปไกลแล้ว จึงใช้มือกุมหน้าผากแล้วอดหัวเราะเสียงเบาไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าเหยียนชิงจะ ‘มีน้ำใจ’ ถึงเพียงนี้ แต่ดูไม่เหมือนสิ่งที่เขาจะเตรียมมาเอง แน่นอนว่าไม่ว่าสิ่งนี้จะมาจากที่ใด ก็น่าจะเป็โอกาสที่พวกเขาสองคนจะได้ผูกพันกันมากขึ้น
เหยียนชิงลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาและกินข้าวเช้ากับเว่ยซูหานอย่างสบายใจราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เว่ยซูหานก็รอให้เขาคิดบางอย่างออก
แต่จนกระทั่งเหยียนชิงกลับหอชิงเฟิง เว่ยซูหานก็ไปที่ห้องหนังสือของนายท่านเหยียน หลังจากแยกย้ายกันไปเหยียนชิงก็นึกขึ้นได้ว่าตนเองมองข้ามบางอย่างไป ในสมองมีแต่บทสนทนากับจิงโม่เมื่อคืนนี้ รวมถึงการเตรียมการ และแผนต่างๆ
เว่ยซูหานเห็นเขาไม่เอ่ยถึง ตนเองก็จะไม่เอ่ยถึงจึงปล่อยให้เขานึกขึ้นมาได้เอง เมื่อถึงเวลานั้นไม่รู้ว่าคนผู้นี้จะอธิบายให้เขาฟังอย่างไร