เสียงดาบกระทบกันดังขึ้นท่ามกลางอากาศเย็นะเืของค่ำคืน บรรยากาศในร้านหมูปิ้งที่เงียบสงัดกลับถูกทำลายด้วยการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด ท่ามกลางการปะทะ ลี่ฮวาเอ๋อร์มองไปรอบ ๆ ร้านอย่างรวดเร็ว เพื่อหาจังหวะที่จะพลิกสถานการณ์ที่กำลังคับขัน
“พวกเ้าคิดจะเอาไปง่าย ๆ หรือ?” เสียงของลี่ฮวาเอ๋อร์ดังขึ้นขณะที่นางหมุนตัวหลบการโจมตีของชายชุดดำ
เซียวเหวินหลงและหลี่เสวี่ยยืนอยู่ข้าง ๆ นาง มือข้างหนึ่งถือดาบ ส่วนมืออีกข้างยกขึ้นมาพร้อมจะป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้ง ชายสูงใหญ่ที่เป็ผู้นำกลุ่มศัตรูเคลื่อนที่มาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาสงบนิ่งและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“เ้าคิดว่าจะหยุดพวกเราได้หรือ?” ชายสูงใหญ่กล่าวเสียงเย็น ขณะที่เขาขยับตัวเข้าหาลี่ฮวาเอ๋อร์
ลี่ฮวาเอ๋อร์ไม่ตอบ แต่นางมั่นใจในฝีมือของตัวเองและทักษะที่ได้ฝึกฝนมานาน ทุกการเคลื่อนไหวของนางแฝงไปด้วยความรวดเร็วและความแม่นยำ ในขณะที่จิตใจของนางมั่นคงไม่หวั่นไหว
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด หลี่เสวี่ยและเซียวเหวินหลงต่างก็ใช้ทักษะทางยุทธภพของตนเองเพื่อป้องกันและโจมตีกลับไปยังศัตรูอย่างไม่ลดละ แม้ในสถานการณ์ที่ท่าทางจะเสียเปรียบ
ในขณะเดียวกัน ลี่ฮวาเอ๋อร์หยิบไม้หมูย่างจากเตาถ่านและยิ้มอย่างเยาะเย้ยไปที่ชายชุดดำคนหนึ่งที่เข้ามาใกล้ “หากเ้าอยากได้สูตรหมูปิ้ง ข้าก็ขอแนะนำให้ลองชิมหมูย่างของข้าก่อนนะ” นางพูดพร้อมยื่นไม้หมูย่างไปข้างหน้า
ชายชุดดำมองไปที่หมูย่างในมือของลี่ฮวาเอ๋อร์ด้วยความไม่เข้าใจ แต่แล้วก็ต้องใเมื่อกลิ่นหอมของหมูย่างเริ่มกระจายไปทั่วร้าน ทำให้ทุกคนในพื้นที่สะดุดนิ่งไปชั่วขณะ
“เ้าคิดจะใช้หมูย่างเป็อาวุธหรือ?” ชายชุดดำพูดด้วยเสียงขบขัน แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความสงสัย
ลี่ฮวาเอ๋อร์ยิ้มแย้มก่อนจะกล่าวอย่างมั่นใจ “หมูย่างของข้าคือของที่ไม่เหมือนใคร ในยามนี้มันอาจช่วยให้เ้าได้สติบ้าง”
ทันใดนั้น ขณะที่ชายชุดดำกำลังลังเล ลี่ฮวาเอ๋อร์ก็ะโขึ้นไปบนโต๊ะข้าง ๆ เพื่อใช้ท่าทางที่คุ้นเคยในการหลบหลีกการโจมตีของศัตรู
“ข้าจะทำให้พวกเ้ารู้ว่า หมูย่างไม่ใช่แค่สิ่งที่จะทำให้เ้าพอใจ แต่มันยังสามารถชี้ขาดชะตากรรมได้” ลี่ฮวาเอ๋อร์กล่าวเสียงดัง
ในขณะเดียวกัน เซียวเหวินหลงและหลี่เสวี่ยต่างก็สามารถจับจังหวะได้ เมื่อเห็นว่าศัตรูกำลังเริ่มสับสน พวกเขาจึงพุ่งเข้าหาและทำการโจมตีพร้อมกัน
“เป็การเปิดทางให้เ้าหมูย่างของข้าได้พิสูจน์ตัวเอง!” หลี่เสวี่ยพูดพลางตีดาบไปที่ศัตรู
การต่อสู้ที่ดูเหมือนจะไร้ผลเริ่มมีทิศทางในทางที่ดีขึ้น เมื่อศัตรูเริ่มเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถจะยึดครองร้านหมูปิ้งของลี่ฮวาเอ๋อร์ได้ง่าย ๆ
“ข้าเตือนเ้าครั้งสุดท้าย อย่าทำให้ข้าต้องจัดการกับเ้าจริง ๆ” ลี่ฮวาเอ๋อร์พูดด้วยความเด็ดขาด
ในขณะนั้นเอง ลี่ฮวาเอ๋อร์ก็ใช้จังหวะที่ศัตรูเผลอและพุ่งตัวไปข้างหน้า หมูย่างในมือนางถูกใช้เป็อาวุธในการบิดเบือนทิศทางการต่อสู้ ทำให้ศัตรูที่อยู่ในจุดที่นางเลือกตกเป็เป้าหมายของการโจมตีจากหลี่เสวี่ยและเซียวเหวินหลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อการต่อสู้จบลง ชายชุดดำที่เหลือก็ถอยหลังออกไป พร้อมกับการยอมรับความพ่ายแพ้ ในขณะที่ร้านหมูปิ้งของลี่ฮวาเอ๋อร์ยังคงปลอดภัย
ชายสูงใหญ่ที่อยู่ด้านหลังพวกเขาก้มศีรษะลงไป “เราจะไม่ลืมความพ่ายแพ้นี้” เขากล่าว ก่อนที่จะเคลื่อนตัวหายไปในความมืด
ลี่ฮวาเอ๋อร์ยืนอยู่กลางร้านหมูปิ้ง ขณะที่ความตึงเครียดจากการต่อสู้ค่อย ๆ คลายลง แต่ในใจนางกลับเต็มไปด้วยความระแวง และรู้ดีว่าในอนาคตจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่หนักหน่วงกว่านี้
“คืนนี้แค่บทเริ่มต้น” ลี่ฮวาเอ๋อร์พึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหันไปมองหลี่เสวี่ยและเซียวเหวินหลง “เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสิ่งที่อาจจะตามมา”
หลังจากที่ศัตรูถอยกลับไปในความมืด ทุกอย่างในร้านหมูปิ้งของลี่ฮวาเอ๋อร์ก็กลับคืนสู่ความเงียบสงัดอีกครั้ง แม้เสียงรบกวนจะหายไป แต่ความตึงเครียดยังคงอยู่ในอากาศ ลี่ฮวาเอ๋อร์มองไปที่หลี่เสวี่ยและเซียวเหวินหลงทั้งคู่ ต่างก็มีรอยาเ็เล็กน้อยจากการต่อสู้ แต่พวกเขาก็ยังยืนได้อย่างมั่นคง
“วันนี้เราโชคดีที่ได้หลุดรอดจากการโจมตีนี้” เซียวเหวินหลงพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
หลี่เสวี่ยพยักหน้า “ใช่ แต่นี่ไม่ใช่แค่การโจมตีธรรมดา เห็นได้ชัดว่าเขามีแผนที่ใหญ่กว่าที่เราคิด”
ลี่ฮวาเอ๋อร์ถอนหายใจและมองไปที่ไม้หมูย่างที่ถูกทิ้งอยู่บนโต๊ะในขณะที่นางเดินไปหามัน “หมูย่างของข้าคงเป็สิ่งที่ดึงดูดพวกเขาอย่างไม่คาดคิด แต่ก็ยังไม่รู้ว่าพวกเขา้ามันไปทำไม”
“มันไม่ใช่แค่หมูย่างหรอก” หลี่เสวี่ยตอบกลับ “ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างเกี่ยวข้องกับสูตรนี้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่เสี่ยงขนาดนี้”
“อาจจะเป็สูตรหมูปิ้งที่เ้ามี...หรืออาจจะเป็แค่สิ่งที่พวกเขา้าเพื่อใช้ประโยชน์ในทางอื่น” เซียวเหวินหลงกล่าวเสริม
ลี่ฮวาเอ๋อร์นิ่งคิด ก่อนจะพูดขึ้นอย่างสงบ “หากมันเป็เช่นนั้น ข้าต้องหาทางรู้ให้ได้ว่าใครอยู่เื้ัเื่นี้จริง ๆ”
ในขณะเดียวกัน เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง “เ้าคิดว่าจะหาคำตอบจากการต่อสู้กับพวกมันได้หรือ?” เสียงนั้นเ็าและคุ้นเคย
ลี่ฮวาเอ๋อร์หันไปมอง และพบว่าเป็ชายชุดดำคนหนึ่งที่กลับมาพร้อมกับท่าทางที่ดูผิดปกติ เขาไม่ได้มาในชุดต่อสู้เหมือนก่อนหน้านี้ แต่กลับแต่งกายด้วยชุดที่ดูสง่างามเหมือนนักการทูต
“เ้า... ยังไม่ไปไหนอีก?” ลี่ฮวาเอ๋อร์ถามด้วยความประหลาดใจ
ชายชุดดำยิ้มบาง ๆ ก่อนจะตอบว่า “ข้ามาเพื่อเจรจา... เ้าคงรู้ดีว่าการต่อสู้มันจะไม่จบแค่ที่นี่”
ลี่ฮวาเอ๋อร์มองเขาด้วยความระแวง “เจรจา? หากเ้าคิดจะข่มขู่ข้าอีก ข้าคงต้องขอปฏิเสธ”
“ข้าไม่ได้มาข่มขู่” ชายชุดดำกล่าวอย่างสงบ “ข้ามีสิ่งที่อาจจะทำให้เ้าพิจารณาใหม่ได้”
เขาชักสิ่งหนึ่งออกจากใต้เสื้อคลุม เป็แผ่นทองคำที่มีอักษรแปลก ๆ สลักอยู่ ลี่ฮวาเอ๋อร์มองมันอย่างระมัดระวัง “สิ่งนี้คืออะไร?”
ชายชุดดำยื่นแผ่นทองคำไปข้างหน้า “นี่คือเครื่องหมายของสมาคมเงา...องค์กรที่อยู่เื้ัการเคลื่อนไหวนี้ พวกเรามีแผนใหญ่สำหรับสูตรหมูปิ้งของเ้าที่ไม่เกี่ยวกับแค่การค้าขาย แต่เป็สิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงยุทธภพได้”
“สมาคมเงา?” ลี่ฮวาเอ๋อร์เลิกคิ้ว “ข้าจะไม่ยอมให้พวกเ้าเอาสูตรของข้าไปอย่างง่ายดาย”
ชายชุดดำยิ้มบาง ๆ “เ้าคงไม่เข้าใจหรอก... หากเ้าไม่ร่วมมือกับเรา เ้าจะสูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดไป”
ลี่ฮวาเอ๋อร์คิดทบทวนคำพูดของเขา แต่ในใจนางก็ยังคงลังเล นางไม่อยากให้ใครมาสูตรหมูปิ้งที่นางทุ่มเททำมาทั้งชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน นางก็ต้องระวังภัยที่อาจมาจากการไม่ยอมรับข้อเสนอ
“ข้าจะไม่ยอมให้พวกเ้าใช้สูตรหมูปิ้งของข้าเป็เครื่องมือของเกมการเมือง” ลี่ฮวาเอ๋อร์ตอบเสียงมั่นคง
ชายชุดดำไม่ได้โกรธเกรี้ยว เขากลับยิ้มอย่างเ็าและพยักหน้า “ดี... ข้าคิดว่ามันจะเป็เช่นนั้น ข้าจะกลับไปบอกเ้านายของข้า แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า ทุกการกระทำของเ้าจะมีผลที่ตามมา”
เมื่อชายชุดดำเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงแต่คำพูดที่ลอยคลุมเครือในอากาศ
ลี่ฮวาเอ๋อร์มองแผ่นทองคำในมือของนาง แล้วหันไปมองเซียวเหวินหลงและหลี่เสวี่ยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกได้ถึงความท้าทายที่หนักหน่วงที่กำลังจะตามมา
“สมาคมเงา... องค์กรที่อยู่เื้ัทุกอย่าง ข้าคงต้องเตรียมตัวให้ดีแล้ว” ลี่ฮวาเอ๋อร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
หลังจากที่ชายชุดดำจากสมาคมเงาหายตัวไป ลี่ฮวาเอ๋อร์รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด แม้ว่านางจะไม่ยอมให้สูตรหมูปิ้งของนางตกไปอยู่ในมือของคนอื่น แต่คำพูดของชายชุดดำยังคงสะท้อนอยู่ในหัวของนาง
“สมาคมเงา… พวกเขาจะไม่หยุดเพียงแค่การข่มขู่ ข้ารู้สึกได้ว่ามันยังไม่จบแค่นี้” ลี่ฮวาเอ๋อร์พูดเบา ๆ ให้กับตัวเอง ก่อนจะหันไปมองเซียวเหวินหลงและหลี่เสวี่ยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
เซียวเหวินหลงเอ่ยขึ้น “เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสูตรของเ้าได้ ข้าคิดว่าเราต้องหาทางสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับสมาคมเงาให้ได้เร็วที่สุด”
หลี่เสวี่ยพยักหน้าเห็นด้วย “ถ้าเราไม่รู้จักศัตรูจริง ๆ อาจจะยากในการรับมือ แต่ข้าก็เห็นด้วยกับเสี่ยวเหวินหลง ต้องหาทางตรวจสอบเื้ัของสมาคมนี้”
ลี่ฮวาเอ๋อร์คิดทบทวนสิ่งที่พวกเขาพูด ก่อนจะหันไปมองร้านหมูปิ้งของนาง “ถ้าพวกเขา้าสูตรหมูปิ้งของข้า ข้าก็ต้องหาวิธีปกป้องมันให้ดี อย่าลืมว่า สูตรนี้ไม่ใช่แค่เพื่อการค้าขาย แต่มันคือสิ่งที่ข้าพยายามสืบทอดและปกป้องมาตลอดชีวิต”
“เราจะช่วยเ้าปกป้องมันจนถึงที่สุด” เซียวเหวินหลงพูดอย่างมั่นใจ
ในขณะนั้น ท่ามกลางความเงียบสงัด ลี่ฮวาเอ๋อร์ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ เข้ามาใกล้ เสียงนั้นคุ้นเคยและเต็มไปด้วยความรีบร้อน
“ลี่ฮวาเอ๋อร์!” เสียงดังขึ้นจากด้านข้าง เมื่อหันไปมอง นางก็พบกับนางยิ้มคนหนึ่งที่สวมชุดผ้าหนาเป็เครื่องแต่งกายของพวกชาวบ้านทั่วไป แต่ท่าทางของนางกลับไม่เหมือนกับคนธรรมดา
นางยิ้มในมือกำลังถือจดหมายผนึกไว้ ลี่ฮวาเอ๋อร์เดินไปใกล้และหยิบจดหมายมาจากมือของนางยิ้ม ก่อนจะเปิดอ่านทันที
จดหมายเขียนด้วยลายมือที่คุ้นเคย
“ลี่ฮวาเอ๋อร์, ข้าคือผู้ที่เคยช่วยชีวิตเ้าจากศึกครั้งก่อน ตอนนี้ข้า้าให้เ้าช่วยข้าด้วยการตอบรับคำขอที่ข้าเขียนมาในจดหมายนี้ ข้าหวังว่าเ้าจะเข้าใจ”
ลี่ฮวาเอ๋อร์เลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าเป็จดหมายจากชายที่เคยช่วยชีวิตนางในอดีต ชายที่คุ้นเคยกับนางมาก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้กลับถูกบังคับให้ขอความช่วยเหลือจากนางอีกครั้ง
“ทำไมเขาถึง้าให้ข้าช่วย?” ลี่ฮวาเอ๋อร์ถามในใจ ขณะจ้องมองที่จดหมายด้วยความสงสัย
หลี่เสวี่ยที่ยืนข้าง ๆ มองดูจดหมายและพูดขึ้น “ดูเหมือนว่าเขากำลังมีปัญหาหนัก ถ้าเป็เช่นนั้น เราคงต้องพิจารณาว่าจะช่วยเขาหรือไม่”
เซียวเหวินหลงก็กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เราต้องระวัง เราไม่สามารถไว้ใจใครได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะเมื่อเื่นี้เกี่ยวข้องกับสมาคมเงา”
ลี่ฮวาเอ๋อร์พยักหน้าอย่างช้า ๆ “ข้าเข้าใจ ข้าจะไปพบเขา แต่ต้องมีการเตรียมตัวให้ดีเสียก่อน”
ทั้งสามคนร่วมกันวางแผนในการดำเนินการต่อไป เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาก็ออกเดินทางไปยังที่ที่ชายในจดหมายบอกไว้ แต่ท่ามกลางการเดินทางครั้งนี้ พวกเขาก็เริ่มรู้สึกถึงความไม่ปกติในอากาศ
ระหว่างทาง ลี่ฮวาเอ๋อร์สังเกตเห็นผู้คนบางกลุ่มที่เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ราวกับมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในเงามืด
“ไม่ช้าเราจะรู้ว่าเื่นี้เกี่ยวข้องกับอะไรกันแน่” ลี่ฮวาเอ๋อร์พูดเสียงต่ำ ขณะเดินไปข้างหน้า
เซียวเหวินหลงเดินเคียงข้างนาง “ขอให้โชคดี แต่เราไม่สามารถไปโดยที่ไม่เตรียมตัว”
หลี่เสวี่ยที่เดินอยู่ข้าง ๆ ก้มหน้าและจับดาบในมือแน่น “ครั้งนี้อาจจะไม่ง่าย”
ลี่ฮวาเอ๋อร์และกลุ่มของนางเดินทางมาตามเส้นทางที่ชายในจดหมายได้บอกไว้ เมื่อพวกเขามาถึงบริเวณหนึ่งที่ดูเหมือนจะห่างไกลจากแหล่งชุมชน พวกเขาเริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ ความเงียบสงบที่ล้อมรอบดูไม่เหมือนกับที่พวกเขาคาดหวัง
“ที่นี่ดูน่ากลัวกว่าที่คิด” หลี่เสวี่ยกระซิบเสียงเบา ขณะที่มองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง
เซียวเหวินหลงยืนเงียบ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เงามืดที่ค่อยๆ ล้อมรอบพวกเขา แม้เขาจะไม่พูด แต่ท่าทางของเขาก็บ่งบอกว่ามีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล
“ระวังตัวให้ดี ทุกย่างก้าวมีความเสี่ยง” เซียวเหวินหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
ลี่ฮวาเอ๋อร์ไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่พยักหน้า นางรู้ดีว่าในยุทธภพนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอน ทุกการตัดสินใจอาจนำไปสู่ชีวิตหรือความตาย
หลังจากเดินมาจนถึงสุดทางเดินที่มืดมิด พวกเขาก็พบกับบ้านไม้เก่าๆ ที่ดูเหมือนจะไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ทันใดนั้นประตูบ้านไม้ก็เปิดออกเองอย่างช้าๆ เสียงไม้ฝืดๆ ก็ดังขึ้นจนทำให้ทุกคนสะดุ้ง
“ข้ารอเ้าอยู่นานแล้ว” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นจากในบ้าน
ลี่ฮวาเอ๋อร์มองไปยังชายที่ยืนอยู่ในเงามืด เขาแต่งกายด้วยชุดสีดำที่ดูธรรมดา แต่แววตาของเขากลับแสดงถึงความมั่นใจที่ไม่เหมือนใคร
ชายคนนั้นเดินออกมาและยื่นมือไปให้ลี่ฮวาเอ๋อร์ “ลี่ฮวาเอ๋อร์ ข้าเป็คนที่ส่งจดหมายถึงเ้า”
ลี่ฮวาเอ๋อร์หยุดยืนและมองมือของชายคนนั้น “เ้าเป็ใคร? และทำไมจึง้าให้ข้าช่วย?”
ชายคนนั้นยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ยื่นมือให้นางจับ เขาถอนมือกลับและเริ่มอธิบาย “ข้าคือเย่หลิง สมาชิกของสมาคมเงา หากเ้าไม่ช่วยข้า ข้าจะไม่สามารถต่อสู้กับผู้ที่้าขโมยสูตรของเ้าได้”
ลี่ฮวาเอ๋อร์มองเขาอย่างระมัดระวัง “สมาคมเงา? ทำไมข้าจะต้องช่วยพวกเ้า?”
เย่หลิงยิ้มบาง ๆ “เพราะสูตรหมูปิ้งของเ้าไม่ใช่แค่เป็อาหารธรรมดา มันเป็สิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของยุทธภพได้ ถ้าเ้าคิดว่าเ้าเพียงแค่ขายหมูปิ้ง เ้าก็คิดผิดแล้ว”
เซียวเหวินหลงก้าวไปข้างหน้าและพูดขึ้น “พวกเราไม่สนใจว่าเ้าจะพูดอย่างไร แต่สิ่งที่เราสนใจคือ เ้าคิดจะทำอะไรกับสูตรหมูปิ้งนั้น?”
เย่หลิงหัวเราะเบา ๆ “ไม่ต้องกังวลไป ข้าคิดจะช่วยเ้าปกป้องมัน จากการที่พวกเขาตามล่าเ้าอย่างไม่หยุดหย่อน”
“แล้วใครคือพวกที่ตามล่าข้า?” ลี่ฮวาเอ๋อร์ถามเสียงเข้ม
เย่หลิงมองไปที่นางและถอนหายใจ “พวกเขาคือกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า 'จอมยุทธ์เทพ' พวกเขามีความสนใจในสูตรนี้มานานแล้ว แต่พวกเขาไม่สามารถขโมยมันไปได้ จึงหันมาจัดการกับเ้าทางอื่น”
ลี่ฮวาเอ๋อร์รู้สึกถึงความลึกลับที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเย่หลิง ขณะเดียวกันหลี่เสวี่ยก็เริ่มยืนห่างๆ แต่นางไม่สามารถหยุดสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น
“เ้าบอกว่าเราจะต้องร่วมมือกัน แต่ข้าก็ไม่รู้จักเ้ามากพอ” ลี่ฮวาเอ๋อร์กล่าว
เย่หลิงพยักหน้าและเริ่มเดินกลับเข้าไปในบ้าน “ข้าเข้าใจดี แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาสำหรับคำถามมากมาย ข้ามีแผนที่จะต่อต้านพวกจอมยุทธ์เทพ แต่เ้าต้องตัดสินใจเสียก่อน”
ลี่ฮวาเอ๋อร์หันไปมองเซียวเหวินหลงและหลี่เสวี่ย “พวกเ้าคิดว่าเราควรจะร่วมมือกับเขาหรือไม่?”
เซียวเหวินหลงครุ่นคิดอยู่สักครู่ ก่อนจะตอบด้วยเสียงหนักแน่น “ถ้าเขามีแผนที่ช่วยเราได้ เราคงไม่มีทางเลือกอื่นมากนัก”
หลี่เสวี่ยไม่พูดอะไร แต่ใบหน้าของนางก็บ่งบอกว่านางก็คิดเหมือนกัน
“ข้าจะร่วมมือกับเ้า แต่ข้ามีข้อแม้” ลี่ฮวาเอ๋อร์พูดเสียงเด็ดขาด “ข้าจะไม่ยอมให้สูตรหมูปิ้งของข้าถูกใช้ในทางที่ผิด”
เย่หลิงยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่คิดจะใช้มันในทางที่ผิด เ้าแค่ต้องช่วยข้าตามแผนที่ข้าจะเสนอกับเ้า”
ลี่ฮวาเอ๋อร์พยักหน้า “ตกลง ข้าจะร่วมมือกับเ้า แต่ต้องระวังตัวให้ดี”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้