ป่าแห่งแสงอรุณแห่งนี้เป็ดินแดนอยู่ท่ามกลางการแย่งชิง บัดนี้เมื่อต้นไม้แห่งโลกเหี่ยวเฉาลงจึงทำให้ทุกสรรพสิ่งบนผืนแผ่นดินได้รับความยากลำบากไปด้วย ณ ผืนดินรกร้างแห่งนี้ มนุษย์ คนเถื่อนกับิญญาภูตผีปีศาจต่างแข่งกันสร้างบ้านเมืองใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อต่อกรกับิญญารัตติกาล และหมู่บ้านเริ่มต้นเหล่านี้ก็รายล้อมอยู่รอบๆ สุสานใหญ่ มีพรมแดนที่สลับซับซ้อนเชื่อมต่ออยู่กับดินแดนของิญญารัตติกาล
ป่าแห่งแสงอรุณคือสถานที่เก็บเลเวลขั้นสูงที่อยู่นอกเขตหมู่บ้านเริ่มต้น สถานที่นี้ไม่ได้มีแต่ิญญารัตติกาลที่ผลุบๆ โผล่ๆ ไปมาเท่านั้นแต่ยังเป็สถานที่ที่ผู้เล่นเลเวลสูงจำนวนมากเอาไว้ใช้เพื่ออัปเลเวลอีกด้วย
ตามข้อมูลที่ระบุไว้ในเว็บทางการ ป่าแห่งแสงอรุณเป็สถานที่ที่มอนสเตอร์เลเวล 5-12 มักจะโผล่มาบ่อยครั้ง หากผู้เล่นยังไม่ถึงเลเวล 5 ก็ไม่ควรเข้ามาในเขตป่าแห่งแสงอรุณจะเป็การดีที่สุด และถึงแม้ผู้เล่นจะถึงเลเวล 5 แล้วอย่างน้อยๆ ก็ควรจะสร้างกลุ่มกองกำลังของตัวเองไว้ ไม่อย่างนั้นอาจรอดกลับมายาก
ก่อนจะถึงเลเวล 10 ผู้เล่นจะไม่มีทักษะใดๆทั้งสิ้น ทุกคนต้องอาศัยการโจมตีทางกายภาพล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นักบวช นักเวท นักกลยุทธ์และนักร้องอาชีพที่สวมอาภรณ์ป้องกันแบบนี้ก็ต้องใช้การโจมตีทางกายภาพเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ภายในหมู่บ้านเริ่มต้นจึงมีอาชีพโจมตีระยะใกล้เป็จำนวนมาก แต่อาชีพนักเวทและนักบวชจะมีไม่เยอะเท่าไรนัก
แต่ภายหลังจากผู้เล่นได้เลเวล 10 และเข้าเมืองหลักขั้น 2 เพื่อเรียนรู้ทักษะแล้ว ถึงตอนนั้นอาชีพนักบวชก็จะกลายเป็อาชีพที่มีความ้าสูงโดยเฉพาะพวกผู้หญิงสวยๆ นักบวชถือเป็อาชีพที่ฮิตมากเลยทีเดียว
แต่ผมกลับตั้งกลุ่มไม่ได้เพราะไม่มีเพื่อนร่วมทีมที่เหมาะสมกัน และเพราะผมไม่ได้เป็พวกิญญารัตติกาลจริงๆ แล้วก็ไม่ได้เป็พวกเดียวกับมนุษย์ด้วย ดังนั้นจึงมีความเป็ไปได้ว่าก็คงจะมีแค่ผมตัวคนเดียว และพวกผู้เล่นของค่ายฝ่ายสว่างก็ไม่จำเป็ต้องยอมให้ตัวโครงกระดูกน้อยๆแถมรูปร่างหน้าตาขี้เหร่อย่างผมเข้าร่วมกลุ่มด้วย
“กรอบแกรบ”
มีเสียงย่ำลงบนเศษใบไม้ที่ร่วงลงพื้น ตอนผมมาถึงป่าแห่งแสงอรุณ พระอาทิตย์เพิ่งจะโผล่ขึ้นมา แสงอรุณสาดส่องพาดผ่านป่ารกชัฏจนทำให้เกิดเงาสะท้อนบนพื้นเป็ทางยาว ช่างเป็ภาพที่ดูสงบยิ่งนัก
เมื่อเปิดแผนที่ ภารกิจก็ชี้ไปยังพื้นที่การกระจายของเหล่าตั๊กแตนสีเขียว เดินต่อไปอีกไม่ไกลนักจะเข้าสู่เขตแดนที่อยู่อาศัยของตั๊กแตนเขียวแล้ว
ผมเตรียมตัวเตรียมใจรวบรวมสติ 24 ส่วน ยกดาบโทรมๆ เดินเข้าไปในป่ารกชัฏ แต่เดินไปได้ไม่ไกลนัก ผมก็ััได้ถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึง
“ชิ้ง”
ใบมีดแหลมคมสีเขียวตัดผ่านสายลมเข้ามา มีบางสิ่งบางอย่างจู่โจมเข้ามาแบบไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว
“พลั่ก”
โดนตีเข้าซะแล้ว ถึงผมจะใส่เสื้อผ้าคุณภาพดีที่มีพลังป้องกันถึง 9 หน่วยแต่ต้านทานการโจมตีครั้งนี้ไม่ไหวจนทำให้ตัวเลขความเสียหาย 41 ลอยขึ้นมาบนหัว
ยอดไปเลยเพื่อน พลังโจมตีแกชักจะสูงเกินไปแล้ว
ผมเงยหน้ามองขึ้นไปบนต้นไม้พุ่มเตี้ยต้นหนึ่ง บนนั้นมีมอนสเตอร์สวมเกราะเหล็กตัวสีเขียวอี๋เกาะอยู่ มันคือตั๊กแตนที่มีรูปร่างหน้าตาชวนสยอง บนลำตัวของมันมีเกราะสีเขียวที่ดูน่าจะแข็งแรงมากๆอยู่และขาหน้าสองขาของมันยังเป็ใบมีดแหลมคมด้วย แล้วไอ้ตัวที่โจมตีผมเมื่อกี้ก็คือเ้านี่นี่เอง
ตั๊กแตนสีเขียวเลเวล7
มอนสเตอร์ทั่วไป
เฮ้อ ที่แท้เป็มอนสเตอร์เลเวล 7 มิน่าถึงโจมตีแรงขนาดนั้น แต่ในชั่วพริบตาเดียวผมก็วิเคราะห์ได้ว่าถึงพลังโจมตีของตั๊กแตนสีเขียวจะสูงมากแต่ความเร็วในการเคลื่อนที่และความเร็วในการโจมตีของมันกลับเชื่องช้า การเว้น่ระหว่างการโจมตีต่อครั้งก็นานถึง 4 วินาที ดูเหมือนว่าถึงผมจะต่อสู้กับตั๊กแตนเขียวเลเวล 7 ตัวนี้ตัวต่อตัวได้ไม่เป็ปัญหา
ผมย่อตัวลงแล้วเดินเป็เส้นโค้งเข้ามาประชิดด้านขวาของเ้าตั๊กแตนก่อนจะยกดาบในมือขึ้นมาแล้วเสียงฟันก็ดังขึ้น
“31!”
พลังทำลายล้างก็นับว่าไม่เลวเลย หลักๆ ก็เพราะพลังป้องกันของตั๊กแตนเขียวไม่นับว่าสูงมากนักหรือไม่ก็เพราะดาบเก่าคร่ำคร่าของผมเล่มนี้สามารถทำลายการป้องกันได้ไม่เลวเลย
มอนสเตอร์เลเวล 7 มีปริมาณเืไม่ถึง 300 ด้วยซ้ำ ถ้าตี 9 ต่อเนื่อง ก็จะสามารถจัดการได้ฉับไว
“จี๊ดๆ”
ตั๊กแตนเขียวร้องเสียงดังแล้วหมุนตัวพร้อมทั้งตวัดใบมีดแหลมคมทั้งสองข้างของมันหมายจะประสานการโจมตี
ผมก้าวถอยหลังอย่างเร็ว ฝ่าเท้าเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วพลิ้วไหวเป็ธรรมชาติ ตอนนี้ผมได้มาอยู่ด้านหลังของตั๊กแตนสีเขียวแล้ว ผมฟันเข้าใส่มันติดต่อกันเสียงดัง “ชิ้งๆๆ” 3 ครั้ง จังหวะเหมาะเจาะถึงขนาดทำให้ผมรู้สึกปลื้มใจมาก นานแล้วที่ผมไม่ได้รู้สึกมีความสุขในการเก็บเลเวลเบบนี้ เฮอะๆ ผมต้องทนทรมานจากอาการตอบสนองช้าไป 3 วินาทีมานานถึงครึ่งปี ตอนนี้ผมดีใจเหมือนปลาได้น้ำ
ผมยังคงรักษาระยะประชิดตัวสลับกับการถอยห่างอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะพลาดโอกาสโจมตีตั๊กแตนสีเขียวไปเปล่าๆ แต่ผมก็ยังใช้ดาบเก่าคร่ำคร่าแทงเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ถึงตั๊กแตนเขียวจะมีเลเวลสูงกว่าผม 2 เลเวลแต่ท้ายสุดมันก็ต้องยอมศิโรราบ
ท่ามกลางป่ารกชัฏมีเพียงคนหนึ่งคนกับตั๊กแตนอีกหนึ่งตัวเท่านั้นแต่กลับแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์และประสิทธิภาพของการเก็บเลเวลถึงขั้นขีดสุดได้สมบูรณ์แบบ หลังจากฆ่ามอนสเตอร์เลื่อนขั้นขึ้นมาถึงเลเวล 4 แล้วผมก็รู้สึกผ่อนคลายสุดๆ
“ฉับ”
เืสีเขียวพุ่งกระจายตัวออกไปในอากาศ หลังจากที่ถูกโจมตีติดต่อกันเป็ 10 ครั้ง ในที่สุดตั๊กแตนสีเขียวเลเวล 7 ตัวนี้ก็ล้มลงพร้อมกับร้องเสียงโหยหวน จากนั้นมีหินเวทหล่นลงมาจากร่างของมัน 1 ก้อน ผมเก็บขึ้นมาดูก็พบว่าเป็หินเวทระดับต่ำที่สุด คุณภาพของมันอยู่ที่ 14 หน่วย ราคาก็คงประมาณ 140 เหรียญทองแดงซึ่งไม่ถือว่าเยอะ แต่สำหรับ่แรกเงินพวกนี้ถือว่ามีมูลค่ามากมาย เพราะถึงอย่างไรก่อนจะถึงเลเวล 10 ก็ต้องเก็บเงินเอาไว้เรียนทักษะ ไม่อย่างนั้นพอเห็นทักษะดีๆ ก็อาจจะเรียนไม่ได้และนั่นคงจะเป็เื่ที่น่าหัวเสียสุดๆ
ผมโยนหินเวทเข้ากระเป๋าและพบว่าค่าประสบการณ์ของผมสูงขึ้นมาก การฆ่ามอนสเตอร์ข้ามเลเวลทำให้ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นมากดังนั้นผมจึงตั้งหน้าเดินเข้าไปในป่าเพื่อออกตามหาตั๊กแตนสีเขียวที่อยู่ลำพังและไล่ฆ่ามันต่อ
ในเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงกำจัดตั๊กแตนสีเขียวไปได้ 87 ตัว และเลเวลของผมก็เพิ่มขึ้นไปถึงเลเวล 7 ผมเพิ่มค่าพละกำลังเข้าไปอีก 20 หน่วยจนทำให้พลังการโจมตีพุ่งสูงขึ้นไปถึง 22-37 หน่วย การฆ่าตั๊กแตนสีเขียวเลเวล 7 ทำให้ผมผ่อนคลายมากแต่น่าเสียดายที่ยิ่งเดินลึกเข้าไปในป่ามากเท่าไหร่ยิ่งเจอมอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงขึ้นเช่นกัน ตอนผมเจอตั๊กแตนสีเขียวเลเวล 10 ตัวแรกผมเกือบถูกฆ่าตายภายในไม่กี่วินาที ดังนั้นผมจึงทำได้แค่หลบถอยไปด้านนอกอย่างคับแค้นใจ แล้วหันไปฆ่ามอนสเตอร์เลเวล 8 ทั้งหมดเพื่อเป็การตั้งหลักให้มั่นคงก่อน
การตายในเทียนจ้งมีบทลงโทษที่ร้ายแรง เมื่อผู้เล่นถึงเลเวล 10 ถ้าตายเลเวลจะลดไป 1 ขั้น นอกจากนั้นแล้วการจะสร้างิญญาขึ้นมาใหม่โดยการคืนชีพให้ิญญาอยู่ข้างๆ ศพก็ต้องแลกกับการเสียเลเวลไปอีก 1 เลเวล หรือจะคืนชีพให้ิญญาเข้าไปอยู่ในเมืองก็ได้แต่กรณีนี้จะต้องเสียถึง 3 เลเวล ระยะห่างจากป่าแห่งแสงอรุณถึงหมู่บ้านเริ่มต้นต้องใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 20 นาที ตัวผมก็ไม่อยากเสียเวลาวิ่งกลับมา
ผมมองดูเวลา ตอนนี้ก็ตี 4 กว่าแล้วแต่สถานะเซิร์ฟเวอร์ยังแน่นขนัดอยู่เลย แค่เห็นก็รู้เลยว่ามีคนจำนวนมากแค่ไหนที่กำลังออนไลน์และมุ่งหน้าบุกไปยังหมู่บ้านเริ่มต้น
“อืม คืนนี้ทำให้ได้ถึงเลเวล 10 แล้วกัน พอทักษะอาชีพโผล่ขึ้นมาค่อยออฟไลน์”
ผมแอบให้กำลังใจตัวเองก่อนจะออกเดินทางต่อไปยังป่าลึกในป่าแห่งแสงอรุณอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย ผมฆ่าตั๊กแตนสีเขียวไปทีละตัวๆ เก็บจำนวนรอให้ครบตามที่กำหนดจึงจะไปส่งภารกิจ
แต่ในขณะที่ผมกำลังปลิดชีพเ้าตั๊กแตนอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงคนแว่วมาจากที่ไกลๆ เห็นได้ชัดว่าต้องมีผู้เล่นคนอื่นผ่านมาแน่
ผมรีบเก็บหินเวทก้อนเล็กๆ ที่อยู่บนพื้นอย่างว่องไวแล้วะโเข้าไปซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางกิ่งไม้ใบไม้ที่ขึ้นอยู่หนาแน่นโดยมีแค่ตา 2 ข้างที่โผล่ออกมา โอ๊ะ ไม่ใช่สิ คงเรียกว่าตาไม่ได้หรอก เป็แค่หลุมดำกลวงโบ๋ 2 ข้างตรงเบ้าตาที่อยู่บนโครงกระดูกเท่านั้น
มีเสียงกรอบแกรบตามมาด้วยการปรากฏตัวของคน 4 คนจากในป่า พวกเขาเป็คนวัยหนุ่มสาวอายุประมาณ25 ปีประกอบด้วยผู้ชาย 3 ผู้หญิง 1 ผู้หญิงคนนั้นเป็นักร้องเลเวล 7 ส่วนผู้ชายที่เหลือคนหนึ่งเป็นักรบเวทเลเวล 8 คนหนึ่งเป็นักรบเลเวล 7 และยังมีนักกลยุทธ์เลเวล 6 อีกคน ถือว่าเป็การแบ่งหน้าที่ในกลุ่มที่ได้มาตรฐานมากเลยทีเดียว แต่่ก่อนที่นักกลยุทธ์และนักร้องจะได้เรียนรู้ทักษะ พวกเขาช่วยอะไรมากไม่ได้นัก
“ไอ้สาม นายแน่ใจนะว่าาาตั๊กแตนสีเขียวตัวนั้นอยู่ในพิกัดป่าแห่งแสงอรุณนี่จริงๆ” นักรบพูดออกมาอย่างหงุดหงิด “พวกเราไล่ฆ่าตั๊กแตนมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ตั๊กแตนเลเวล 6 พวกนั้นมีค่าประสบการณ์แค่นิดเดียวอย่างกับเส้นขน”
นักรบเวทมองนิ่งๆ แล้วพูดออกมา “พี่ใหญ่ มันอยู่ในแถวนี้แหละ เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วเพื่อนผมคนหนึ่งที่เป็นักฆ่าโดนบอสฆ่าตายตรงนี้ มันไม่กล้าคืนชีพตรงนี้เลยกลับไปคืนชีพในตัวเมืองแทน เลเวลของมันก็ลดไปตั้ง 3 เลเวล เวลา 2 ชั่วโมงกว่าที่เก็บเลเวลไปก็ดันเสียไปเปล่าๆ”
นักรบพยักหน้า “เฮ้อ ฉันก็หวังว่าจะเป็อย่างนั้นแหละ ถ้าให้พวกเราเสียเวลามาโดยเปล่าประโยชน์เห็นทีเที่ยงคืนพรุ่งนี้คงต้องเชิญนายออกล่ะ”
“ฮ่า เื่จิ๊บจ๊อยน่า”
……
พวกเขาเดินผ่านป่าไปอย่างรวดเร็วแต่ยังไม่ถึงครึ่งนาทีดีนักรบเวทก็ชูมือขึ้นแล้วพูดขึ้นมาเสียงดัง “ระวัง อยู่ตรงนี้จริงๆ ด้วย ฮ่าๆๆ”
พอมองผ่านกิ่งไม้ใบไม้ที่รกรุงรังออกไปผมก็เห็นตั๊กแตนสีเขียวขนาดมหึมาแกว่งใบมีดแหลมคมทั้ง 2 ข้างไปมาอยู่ด้านหน้า เปลือกสีเขียวั้แ่หัวจรดเท้าของมันเปล่งแสงสีทองออกมาและดูจากลักษณะแล้วมีพลังไม่ธรรมดาเลย
ขณะนั้นผมก็รู้สึกเสียดายจนต้องตบต้นขาตัวเอง เมื่อกี้ถ้าผมเดินหน้าไปอีกไม่กี่ก้าวก็อาจจะเจอกับบอสตัวนี้แล้วแท้ๆ แต่ว่าพอกลับมาคิดอีกที ช่างมันเถอะ ถือซะว่าต่อให้เจอบอสตัวนี้ ผมคงตายได้ในทันทีเพราะแม้แต่เลเวลของบอสตัวนี้ผมก็ยังมองไม่เห็นเลย
นักรบเลเวล 7 คนนั้นกลั้นขำไม่ไหวจนต้องหัวเราะออกมาเสียงดัง “พวกนายดูสิ ถ้าหากวันนี้พวกเราได้ก้าวไปอีกขั้นแล้ว บอสเลเวล 12 ระดับ F ชั้นสูง าาตั๊กแตนสีเขียวเป็บอสที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้านเริ่มต้นแล้ว แค่โค่นมันให้ลงเท่านั้นก็จะได้อาวุธหรืออุปกรณ์ที่มีพลังมากมาแน่นอน”
สีหน้านักรบเวทนิ่งสงบ “พี่ใหญ่ มีสติหน่อยสิ นั้นบอสเลเวล 12 เลยนะ ในบรรดาพวกเราคนที่เลเวลสูงที่สุดก็แค่เลเวล 8 แถมทักษะอะไรก็ยังไม่เคยเรียน โอกาสที่จะล้มมันนี่ไม่น่าเกิน 20 เปอร์เซ็นต์เลย”
นักรบพึมพำเสียงเย็น “ถึงจะจัดการไม่ได้แต่ยังไงก็ต้องเตรียมตัวเผชิญหน้ากับมันแล้วแหละ จะปล่อยให้บอสที่แข็งแกร่งขนาดนั้นยืนอยู่ตรงหน้าแต่ดันไม่ตีเนี่ยนะมันไม่ใช่วิถีของฉันเลย”
“อื้ม งั้นก็เตรียมตัวเถอะ!”
……
หลังจากที่สี่คนแบ่งงานกันเรียบร้อยก็เป็อันตกลงกันว่าให้นักรบเวทโจมตีครั้งแรกไปก่อนจากนั้นให้คนที่เหลือค่อยมาผสมโรง
“พร้อมแล้ว!”
นักรบเวทะโด้วยความโกรธแล้วพุ่งไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลังพร้อมกับแกว่งหอกขึ้นสนิมในมือออกไป ปลายหอกเปล่งแสงออกมาก่อนที่หอกด้ามนั้นจะแทงเข้าไปที่กรามล่างของาาตั๊กแตนสีเขียว
“27”
ภาพที่ผมเห็นตรงหน้าทำเอาเหงื่อเย็นไหลท่วมตัว การป้องกันของเ้าตัวนี่มันสูงมากจริงๆ ถึงแม้นักรบเวทเลเวล 8 จะใช้พละกำลังทั้งหมดตีเข้าไปแต่สำหรับบอสมันเหมือนแค่มดกัดเท่านั้น
“แย่แล้ว เ้านี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเราด้วยซ้ำ”
นักรบเวทใจนรีบถอยออกมา แต่ก็ยังถูกาาตั๊กแตนเขียวบินมาฟันเข้าที่หัว
“201”
อันตรายมาก แม้ว่าอาชีพของเขาจะมีเืและพลังชีวิตมากมายแต่ก็เกือบโดนฆ่าตายแล้ว ถ้าลองเปลี่ยนเป็คนอื่นคงไม่รอดไปนานแล้ว
ในหมู่บ้านเริ่มต้น ณ เวลานี้คนที่มีเลเวลสูงที่สุดก็คือเลเวล 9 แถมนักรบเวทเลเวล 8 คนนี้ก็เป็คนมีฝีมือระดับท็อปด้วย แต่พอมาอยู่ต่อหน้าบอสเขากลับกลายเป็มือสมัครเล่นไปซะอย่างนั้น
นักรบเวทคนนั้นแกล้งแทงครั้งหนึ่งแล้วรีบถอยไป เพราะตั๊กแตนเคลื่อนไหวช้ามาก พวกเขาจึงสบโอกาสวิ่งหนีไปได้
……
แต่เมื่อ 4 คนนั้นวิ่งออกไปได้ไม่ไกลนักในป่าก็มีผู้เล่นกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนมีท่าทางน่าเกรงขาม เลเวลโดยเฉลี่ยแล้วอยู่ระหว่างเลเวล 4-7 พวกเขาล้วนเป็ระดับหัวกะทิทั้งนั้น นอกจากนั้นแล้วชื่อไอดีของคนกลุ่มนี้ล้วนมีแต่คำว่า “จ้าวัผยอง” อยู่ข้างหน้า ส่วนคนที่เป็ผู้นำมีชื่อว่า “หลงสิงเทียนเซี่ย (ัเดินดิน)” เขาเป็นักรบเวทเลเวล 9 ซึ่งก็คือคนที่มีเลเวลสูงที่สุดในหมู่บ้านเริ่มต้นที่อยู่ใกล้ๆ นี้นี่เอง
หลงสิงเทียนเซี่ยรีบพุ่งตัวขึ้นมาอยู่ด้านหน้าสุดแล้วะโเสียงดัง “สมาคมจ้าวัผยองเคลียร์พื้นที่ คนนอกรีบหลบออกไปไม่อย่างนั้นจะเป็อันตรายได้”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้