“แปลกจัง สมบัติล้ำค่ามีเพียงสองไม่ใช่หรือ เปลี่ยนเป็สามั้แ่เมื่อไหร่?”
มู่เหยาเอะใจเมื่อได้ยินว่ามีของชิ้นที่สาม ข่าวที่นางได้รับมาคือสองชิ้นนี่นา มีของเพิ่มมาอีกชิ้นนางกลับไม่รู้เื่อย่างนั้นหรือ!
ผู้เฒ่าอวิ๋นเบะปากเล็กน้อย “คุณหนู เดิมทีมีแค่สองชิ้น แต่เมื่อวานค้นพบของล้ำค่าเพิ่มอีกอย่างนึง เื่นี้ข้าบอกท่านไปเมื่อวาน ท่านไม่ได้ยินหรือ?”
เมื่อฟังเขาเอ่ยเช่นนี้ มู่เหยาพึ่งนึกออกว่ามีเื่เช่นนี้จริง พลันหันออกไปอีกทางอย่างเก้อเขิน “ผู้เฒ่าอวิ๋น ของนั่นมันคืออะไรกันแน่? ถึงขั้นวางไว้หลังเคล็ดวิชายุทธ์อีก”
ผู้เฒ่าอวิ๋นลูบเคราพลางเอ่ย “เมื่อคืนข้าได้ส่งคนไปสืบ เห็นว่าเป็น้ำปราณ”
เมื่อได้ยินสองคำสุดท้าย มู่เหยาแทบเด้งตัวขึ้นมาจากที่นั่ง ดวงตาฉายแววตื่นเต้นดีใจ “น้ำปราณจริงๆ งั้นรึ? มีเท่าไหร่?”
ผู้เฒ่าเดาไว้แล้วว่าคุณหนูต้องมีปฏิกิริยาแบบนี้ ขำแล้วเอ่ย “ข้าสืบได้ความว่า การประมูลน้ำปราณครั้งนี้มีทั้งหมดแปดสิบแปดหยด นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย เนื่องจากเป็การขายครั้งเดียว ดังนั้นคาดว่าราคาต้องสูงมากแน่ คนที่ออกราคานี้ได้ เห็นจะมีเพียงพรรคเซียวเหยา หอจี๋เล่อและสำนักเซวี่ยซ่า”
“งั้นก็เท่ากับว่า เราต้องเลือกแค่หนึ่งในสามของสมบัติล้ำค่างั้นสินะ ผู้เฒ่าอวิ๋น มีข่าวคราวอะไรจากท่านพ่อหรือไม่?” มู่เหยาท่าทีครุ่นคิด พลางขมวดคิ้ว
จากความคิดของนาง น้ำปราณแปดสิบแปดหยดนั้นล้ำค่ามากมาย ปล่อยให้หลุดมือไม่ได้เด็ดขาด แต่หากได้มันมา ของล้ำค่าชิ้นสุดท้ายก็จะตกไปอยู่ในมือหอจี๋เล่อหรือไม่ก็สำนักเซวี่ยซ่าได้ และเป้าหมายสูงสุดของการร่วมประมูลครั้งนี้สำหรับพรรคเซียวเหยาก็คือของล้ำค่าชิ้นสุดท้าย ตอนนี้กลับมีน้ำปราณโผล่ขึ้นมา ทำเอายากที่จะตัดสินใจได้
ผู้เฒ่าอวิ๋นเอ่ยเสียงต่ำขึงขัง “จุดมุ่งหมายของท่านประมุขคือน้ำปราณขอรับ”
มู่เหยามองสีหน้าจริงจังของผู้เฒ่า แววตาก็ฉายแสงประกายวาบ แล้วคลี่ยิ้ม “ข้ารู้แล้วผู้เฒ่าอวิ๋น งั้นก็ทำตามประสงค์ของท่านพ่อเถอะ”
ผู้เฒ่าอวิ๋นโล่งใจพลางพยักหน้า คุณหนูของเขาหลักแหลมเพียงจุดประกายนิดเดียวก็เข้าใจได้
ขณะที่พวกเขาคุยกันนั้น เคล็ดวิชาสายฟ้าพิฆาตนั้นก็พุ่งทะลุไปถึงหกล้านสี่แสน จนทุกคนอ้าปากค้างไปตามๆ กัน แต่คนที่สู้ราคานั้นเหนือความคาดหมายตรงที่นอกจากหอจี๋เล่อและสำนักเซวี่ยซ่าแล้ว ยังมีคนชุดดำไม่ทราบชื่อเสียงเรียงนามนั่งอยู่ตรงชั้นหนึ่งร่วมด้วย เขาสวมชุดดำั้แ่หัวจรดเท้า ทำให้เห็นหน้าไม่ชัด
ขณะที่เขาร่วมสู้ราคาระหว่างหอจี๋เล่อและสำนักเซวี่ยซ่านั้น ทุกคนต่างมองไปทางเขาอย่างประหลาดใจ คนชุดดำนี่ช่างกล้าแทรกระหว่างการสู้ราคาของทั้งสองเ้า แต่ที่ทำให้คนยิ่งประหลาดใจก็คือ เขาจะรวยเกินไปแล้ว!
“ศิษย์พี่หลิง คนนั้นมีเงินเยอะจังเลย!” โหยวเสี่ยวโม่เอ่ยอย่างอิจฉา
“อีกเดี๋ยวเ้าก็มีเงินแล้ว มีอะไรน่าอิจฉา” หลิงเซียวไม่รู้สึกฝักใฝ่อะไรกับเงินตราพวกนี้ และไม่เห็นความจำเป็อะไร เพราะเขาไม่้ามันมาก่อน
โหยวเสี่ยวโม่มองเขาอย่างเคืองๆ “แต่เดี๋ยวก็จ่ายออกไปแล้ว”
นี่สิ ที่ทำให้เขาครุ่นคิด กว่าจะได้เงินก้อนใหญ่มา ยังไม่ทันซุกในกระเป๋าให้อุ่นใจ ก็ต้องจ่ายออกไปเสียแล้ว ความรู้สึกนี้ช่างพูดยาก
ท้ายสุด “เคล็ดวิชาสายฟ้าพิฆาต” ในที่สุดก็ได้เ้าของที่ทุกคนต่างไม่คาดคิดมาก่อน เป็คนชุดดำผู้นั้น ในราคาเจ็ดล้านห้าแสนและได้กระดาษม้วนนั้นไปครอง กดทับหอจี๋เล่อและสำนักเซวี่ยซ่าสองเ้าอำนาจลงไป ขณะนั้นทั้งสองฝ่ายนั้นต่างหน้ามืดมนไปเลยทีเดียว
“คนสวมชุดดำนี่เป็ใครกัน เ้าหก ไปสืบมาสิ” มู่อวิ๋นเทียนหน้าถมึงทึงจ้องคนชุดดำเบื้องล่าง จากนั้นสั่งลูกน้อง
สำนักเซวี่ยซ่าที่อยู่ห่างออกไปก็ทำสิ่งเดียวกัน พวกเขาเองก็อยากรู้ว่าคนชุดดำนี่เป็ใครกันแน่ ช่างกล้าแก่งแย่งกับสำนักเซวี่ยซ่างั้นรึ อยากได้ของไปก็ต้องลงทุนกันหน่อย
ผู้เฒ่าประกาศผู้ได้เคล็ดวิชาสายฟ้าพิฆาต จากนั้นในที่สุดก็ประกาศการประมูลของชิ้นรองสุดท้าย พลันดึงดูดความสนใจของผู้คนอย่างมาก เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ข้อมูลลับเหมือนพรรคเซียวเหยา แต่บางคนก็มีเส้นสายที่สามารถล่วงรู้ข้อมูลที่คนอื่นมิอาจรู้ได้ อย่างเื่จู่ๆ ก็มีน้ำปราณในการประมูล แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังมึนงง
เมื่อหญิงรับใช้ถือขวดระยิบระยับสีมรกตขึ้นมาบนเวที สายตาคนทั้งหมดก็จดจ้องอยู่ที่ขวดนั้น
ฝั่งที่นั่งแขกพิเศษ หลิงเซียวลืมตาขึ้นมาครึ่งดวง สายตาฉายแววยิ้มกริ่ม “ศิษย์น้องเล็ก ในที่สุดน้ำปราณของเ้าก็มาเสียที ทั้งยังเป็ที่ฮือฮาอีกด้วย”
โหยวเสี่ยวโม่จ้องมองน้ำปราณขวดนั้น น้ำแข็งแกะสลักก้อนมหึมา คิดไม่ถึงว่าจะหลอมออกมาได้ขวดเท่านี้ ผิดจากที่คาด แต่ขวดเล็กเพียงแค่นี้ กลับมีราคาเริ่มต้นสูงขนาดนั้น ทำให้เขาดีใจมากจริงๆ
สองชั่วยามก่อนหน้านี้ผ่านไปแล้ว โหยวเสี่ยวโม่รับรู้ได้ว่าน้ำปราณนั้นมีค่าเพียงใด เพราะดูจากราคานั้น ขวดน้ำปราณนี้สูงกว่าคัมภีร์เล่มเมื่อครู่มากนัก
“น้ำปราณขวดนี้เป็ของล้ำค่าชิ้นรองสุดท้ายของการประมูลหนนี้ ทั้งหมดแปดสิบแปดหยด เนื่องจากผู้ขายร้องขอมาว่าให้ขายทีเดียว” ผู้เฒ่าหยิบขวดน้ำปราณขึ้น กล่าวอย่างละเอียด “น้ำปราณมีประโยชน์หลักๆ อยู่สองอย่าง นั่นก็คือ หนึ่งช่วยฟื้นฟูพลังปราณของนักฝึกตน สองก็คือช่วยเพิ่มโอกาสการหลอมยาให้สำเร็จและเพิ่มคุณภาพของตัวยา…”
การปรากฏตัวของน้ำปราณนั้นสร้างแรงกระพือยิ่งกว่าเคล็ดวิชายุทธ์ คนที่สนใจหาใช่เพียงนักหลอมโอสถ แม้นักฝึกตนแต่ละคนก็ใจเต้นไม่น้อย สายตาร้อนแรงจ้องมองขวดในมือผู้เฒ่า
จากราคาเริ่มต้นที่แปดล้านแปดแสน ผ่านการแย่งชิงด้วยหยาดเื จนท้ายสุดพุ่งทะยานไปแตะที่ราคา์ สิบเจ็ดล้าน มากกว่าเคล็ดวิชาสายฟ้าพิฆาตถึงสิบล้าน ยังไม่จบเพียงเท่านี้…
ผู้เฒ่าผู้ทำหน้าที่ขายประมูลมาชั่วชีวิต ก็ไม่อาจอดกลั้นความตกตะลึงนี่ไว้ได้
แม้จะไม่ใช่ราคาที่สูงที่สุดั้แ่เขาทำอาชีพนี้มาก็ตาม แต่ก็ติดหนึ่งในสอง สิบเจ็ดล้านนั้นพอๆ กับรายได้ทั้งเดือนของเมืองฮุยจี๋ทีเดียว
ราคานี้เล่นเอาคนทั้งลานประมูลเงียบกริบ ท้ายสุดนั้นเหลือเพียงสี่เ้าอำนาจที่กำลังสู้ราคากันอยู่ ซึ่งมีพรรคเซียวเหยา หอจี๋เล่อ สำนักเซวี่ยซ่าและคนชุดดำลึกลับที่ได้เคล็ดวิชาสายฟ้าพิฆาตไป
การเข้าร่วมประมูลของคนชุดดำนี้สร้างความฮือฮาให้ผู้คนอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าเขาได้เคล็ดวิชาสายฟ้าพิฆาตไปแล้ว ยังมีทุนในการแย่งชิงน้ำปราณอีก ช่างร่ำรวยล้นฟ้าเสียจริง!
“สิบเจ็ดล้านหนึ่งแสน!” มู่เหยาจ้องคนชุดดำ ใบหน้าก็ขานราคาที่สูงกว่าเพิ่มขึ้น แม้เพิ่มเพียงหนึ่งแสน แต่ถึงขั้นนี้แล้ว ให้เพิ่มสักแสนสองแสนก็เริ่มถึงขีดจำกัดของแต่ละคนแล้ว ดังนั้นออกน้อยก็ถือว่าออก
ในที่สุดมู่อวิ๋นเทียนที่อยู่ตรงข้ามก็สู้ไม่ไหว ได้แต่กัดฟันแล้วเบะปากถอดใจไปก่อน
แม้ว่าเขาจะตาร้อนกับน้ำปราณขวดนี้ แต่ท้ายสุดยังมีของล้ำค่าชิ้นสุดท้ายอยู่ เดิมทีเขาก็ตั้งใจพุ่งเป้าที่ของชิ้นนั้นอยู่แล้ว เสียดายน้ำปราณขวดนี้เสียจริง ดูท่าทีพรรคเซียวเหยาแล้ว เหมือนว่าต้องแย่งชิงน้ำปราณนี้ไปให้ได้ แบบนี้ก็ดี รอของล้ำค่าชิ้นสุดท้ายมา พรรคเซียวเหยาคงสู้หอจี๋เล่อไม่ได้แน่
ขณะนั้นเอง คนชุดดำก็เอ่ยขึ้นอีก “สิบเจ็ดล้านห้าแสน!”
ทั่วทั้งลานประมูลเสียงดังฮือฮา คนไม่น้อยต่างหันขวับไปยังคนชุดดำ เขาคนนี้ไม่อาจใช้เพียงคำว่าร่ำรวยล้นฟ้ามาสาธยายได้แล้ว นี่มันยากจนแค่ไหนก็มีเงินเหลือใช้
มู่เหยาหน้ามืดมน สำนักเซวี่ยซ่านั้นรามือเป็ที่เรียบร้อย
โหยวเสี่ยวโม่ที่เกาะคานกั้นอยู่ ตอนนี้ยิ้มจนไม่เห็นลูกตาแล้ว พวกเขาสู้ราคากันดุเดือด เขาก็ยิ่งดีใจ ทุกครั้งที่ได้ยินราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ปากก็ยิ่งหุบไม่ลง เหมือนที่หลิงเซียวบอกไว้ไม่ผิด
“บ้าจริง! ทำไมไอ้หมอนี่ถึงมีเงินเช่นนี้?” มู่เหยากัดฟันกรอดแล้วเอ่ย
ผู้เฒ่าอวิ๋นก็หน้าตาเคร่งเครียด เขาคาดการณ์ไว้ว่าคู่ต่อสู้น่าจะเป็หอจี๋เล่อและสำนักเซวี่ยซ่า แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนชุดดำนี่โผล่ออกมา คาดการณ์ผิดไปจริงๆ “คุณหนู จากเหตุการณ์ตอนนี้ คงต้องลองเชิงขีดจำกัดของเขาดู”
“ข้ารู้แล้ว ผู้เฒ่าอวิ๋น” มู่เหยาขมวดคิ้วเป็ปม ก็มีแค่หนทางเดียวแล้ว
กระนั้น สองฝ่ายต่างหยั่งเชิงกัน ราคาท้ายสุดนั้นอยู่ที่ สิบแปดล้านแปดแสน ขึ้นจากราคาเริ่มต้นมาสิบล้านถ้วน เกือบถึงยี่สิบล้านแล้ว นี่ทำให้หลายคนหายใจไม่ทั่วท้อง
มู่เหยาสูดหายใจลึกจนกำหมัดแน่น ราคานี้เป็ราคาสุดท้ายที่นางขีดเส้นไว้ หากอีกฝ่ายยังคงเพิ่มราคาอีก นางคงต้องวางมือแล้ว แม้พรรคเซียวเหยาจะร่ำรวยมากก็ตาม แต่ก็เกินรับได้กับการใช้จ่ายขนาดนี้ ราคา์นี้เทียบเท่ากับรายได้ทั้งหมดของพรรคเซียวเหยาทั้งปี
หลังจากที่มู่เหยาขานจำนวนนี้ไป คนทั้งลานประมูลมีเพียงเสียงลมหายใจของคนดู
ผู้เฒ่าบนแท่นเวทีประมูลสูดหายใจลึก ราคานี้สูงกว่าที่เขาคาดไว้มากโข พลันหยิบค้อนขึ้นมากำลังจะเคาะลงไป คนชุดดำนั่นก็ลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยเสียงแหบพร่า
“สิบเก้าล้าน!”
มู่เหยาไม่ทันรู้สึกตัว ส่วนโหยวเสี่ยวโม่ด้วยความดีใจสุดขีด ะโโลดเต้นจนหงายหลังล้ม…
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้