เมื่อก่อนคุณหนูอยู่เมืองอวิ๋นเฉิงชื่อเสียงมีแต่จะตกต่ำลงเรื่อยๆ โดยมากล้วนเป็ฝีมือของอวี้ซือหรงกับคุณหนูใหญ่คอยปลุกปั่นคลื่นลมอยู่เื้ั
ยามนี้หัวใจของโม่หลันร้อนระอุไปด้วยโทสะ เฝ้าโทษว่าเป็ความผิดของตนเองที่ทำให้คุณหนูต้องตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย นางแค้นใจจนอยากรับทุกอย่างเอาไว้เอง ใจนึกอยากฉีกหน้ากากจอมปลอมของอวี้ซือหรงให้ขาดเสียเดี๋ยวนี้
บัดนี้นางรู้แจ้งแก่ใจว่าเื่ที่เกิดขึ้นจะต้องเป็อุบายอย่างแน่นอน ตอนนั้นนางเฝ้าอยู่หน้าประตูด้านนอก จู่ๆ ก็มีสาวใช้คนหนึ่งวิ่งมาบอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าฉินมีธุระเรียกนางไปพบ นางมองดูท้องฟ้า คาดว่าคุณหนูคงจะอยู่ด้านในอีกพักหนึ่ง จึงตามสาวใช้ผู้นั้นไป คิดว่าฮูหยินผู้เฒ่าอาจมีเื่้ากำชับเกี่ยวกับคุณหนู แต่เดินไปได้ครึ่งทาง นางพลันนึกขึ้นได้รีบหมุนตัวกลับไปอย่างเร่งด่วน
ข้างกายคุณหนูมีนางติดตามมาเพียงคนเดียว หากฮูหยินผู้เฒ่าฉินเรียกนางไป คุณหนูย่อมไม่มีใครปรนนิบัติอยู่ข้างกาย อีกอย่างฮูหยินผู้เฒ่ารู้ได้อย่างไรว่าคุณหนูอยู่ที่หอกลาง นางมากับคุณหนูเพียงสองคนไม่มีใครรู้เห็น เหตุใดสาวใช้ผู้นั้นมารอบเดียวก็หาพบได้ หรือว่าจับตามองพวกนางตลอดเวลาอยู่แล้ว
ความคิดนี้ทำให้หัวใจของโม่หลันจมดิ่งลงไป รีบวิ่งกลับไปที่ประตูหอกลาง แต่ก็สายไปแล้ว หน้าประตูมีสาวใช้สูงวัยที่อวี้ซือหรงพามาด้วยเฝ้าอยู่ เมื่อเห็นนางหญิงรับใช้ท่าทางหยาบคายทั้งสองคนก็มาคว้าตัวนางไว้ ไม่ว่าจะดิ้นขัดขืนหรือร้องะโอย่างไรก็ไม่นำพา สุดท้ายก็ลากนางเข้าไปในหอกลาง
นางไม่รู้สึกว่าคุณหนูเขาไปในหอกลางแล้วจะมีสิ่งใดไม่เหมาะสม แต่พฤติกรรมของอวี้ซือหรงทำให้นางรู้สึกถึงอันตราย จะต้องมีเื่ร้ายเกิดขึ้นกับคุณหนูเป็แน่ ดังนั้นนางจึงอาละวาดดิ้นรนขัดขืนสุดชีวิต คิดถ่วงเวลาไม่ให้พวกนางเข้าไปเร็วเกินไป หากภายนอกเกิดเสียงดังคุณหนูอยู่ข้างในจะได้ไหวตัวทัน
คุณหนูเป็คนฉลาด จะต้องหาวิธีได้แน่
ยามนี้เมื่อเห็นว่าคุณหนูไม่ได้อยู่ในหอกลางจึงค่อยรู้สึกเบาใจ แต่ไม่คิดปล่อยวาง หันมาชี้หน้าอวี้ซือหรง พูดเปิดโปงความชั่วร้ายของนางที่วางแผนปองร้ายต่อคุณหนูั้แ่อดีตออกมาทั้งหมด
อวี้ซือหรงเป็คนชอบวางอำนาจ ไหนเลยจะยอมให้สาวใช้คนหนึ่งมายืนชี้หน้าด่าทอ
เมื่อถูกสาวใช้ชี้หน้าด่าอย่างไม่เกรงใจอวี้ซือหรงก็หน้าเขียวหน้าแดง จากอับอายกลายเป็โทสะ รู้สึกถูกหยามเกียรติได้รับความอัปยศอย่างยิ่งใหญ่ จึงบังคับตนเองให้สงบนิ่ง แล้วเอ่ยวาจาเสียงดุดันร้ายกาจ
“นังขี้ข้าชั้นต่ำพูดจาเหลวไหล ข้าหาเื่คุณหนูของเ้าเสียเมื่อไร เพียงแค่รู้สึกเป็ห่วงนางเท่านั้น ไฉนกลับกลายเป็ถูกสาวใช้ต่ำต้อยอย่างเ้ากล่าวหาว่าคิดร้ายกับน้องหญิงถง มิน่าเล่าพอน้องหญิงเห็นข้าก็หมางเมินใส่ ที่แท้ก็เพราะบ่าวชั่วช้าอย่างพวกเ้าคอยยุแยงนี่เอง เด็กๆ ลากขี้ข้าชั้นต่ำคนนี้ไปโบยให้หนักยี่สิบไม้สั่งสอนนางแทนน้องหญิงถงให้ดี”
นางไม่เชื่อว่าสาวใช้คนหนึ่งจะสามารถพลิกแผ่นฟ้าได้
ทันทีที่สิ้นเสียงคำสั่งจากปากของนาง หญิงรับใช้สูงวัยท่าทางหยาบคายสองคนก็เข้ามาลากตัวโม่หลัน พวกนางล้วนเป็คนของสกุลอวี้ ย่อมฟังคำสั่งของนายตน โม่หลันขืนตัวดิ้นรนสุดกำลัง แต่กลับถูกฉุดกระชากจนล้มลงที่พื้น
“คุณหนูอวี้ช่างวางท่าประหนึ่งผู้สูงศักดิ์เสียจริง แค่สาวใช้ไม่รู้ความคนหนึ่งยังทำให้คุณหนูอวี้โมโหโทโสถึงเพียงนี้ ทั้งยังจะลงโทษคนแทนผู้อื่นอีก”
น้ำเสียงเ็ากระทบกระเทียบลอยมาจากประตู แม้ว่าจะย้อนแสง แต่อวี้ซือหรงก็ยังเห็นว่าเป็ฮูหยินผู้เฒ่าฉินที่ยืนอยู่หน้าประตูหอกลาง ฮูหยินผู้เฒ่าฉินสีหน้าเคร่งขรึมดำทะมึน เห็นได้ชัดว่ากำลังขุ่นเคือง
อวี้ซือหรงอึ้งงันไปชั่วครู่ จึงนึกได้ว่าเพื่อให้มีคนรู้เห็นเหตุการณ์เยอะขึ้น อาหญิงจึงต้องตามฮูหยินผู้เฒ่าฉินมาด้วย จะได้เห็นด้วยตาตนเองว่าโม่เสวี่ยถงแอบลักลอบพบบุรุษในหอกลาง
ความจริงก็เห็นอยู่ตำตา ยายเฒ่าผู้นี้น่ะหรือจะมาช่วยนาง มาแล้วพูดแบบนี้น่าถูกตบให้คว่ำเสียมากกว่า ยายแก่แร้งทึ้ง!
แต่ไม่คิดว่าเื่จะกลับตาลปัตรไม่เหมือนที่พวกนางจินตนาการไว้ โม่เสวี่ยถงหายตัวไปจากหอกลางอย่างไร้ร่องรอย นี่คือสิ่งที่พวกนางล้วนไม่คาดคิด อวี้ซื่อซึ่งยืนอยู่หลังฮูหยินผู้เฒ่าสีหน้าย่ำแย่ มองไปไม่มีใครเลย เฉินซื่อซึ่งอยู่ข้างกายพอกวาดตาไปโดยรอบใบหน้าพลันเปลี่ยนสี
คนอยู่แค่ใต้ตา จู่ๆ จะหายตัวไปเฉยๆ โดยไม่มีสาเหตุได้อย่างไร
“ฮูหยินผู้เฒ่า ข้ามิได้... เป็สาวใช้ผู้นี้ที่ไม่มีมารยาท...” เมื่อเห็นฮูหยินผู้เฒ่าฉินปรากฏตัวขึ้น สีหน้าของอวี้ซือหรงก็ซีดเผือด กลัวว่าตนเองจะทิ้งความทรงจำที่ไม่น่าประทับใจให้อีกฝ่าย จึงสงวนท่าวางอำนาจลงทันใด มองไปที่อาหญิงและมารดาของตนอย่างจนใจ ไม่รู้จะรับมืออย่างไร ได้แต่พูดชี้แจงกระท่อนกระแท่น หญิงรับใช้ใจหยาบสองคนเห็นฮูหยินผู้เฒ่าเข้ามา แม้แต่นายของตนเองยังหน้าเจื่อน จึงไม่กล้าจับตัวโม่หลันอีก รีบปล่อยมือทันที กลัวว่าหากผลีผลามไม่ดูตาม้าตาเรือไฟจะลามมาถึงตัวด้วย
“คุณหนูอวี้เป็ถึงธิดาตระกูลใหญ่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี การทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของผู้อื่นถือว่าเป็สิ่งที่สมควรหรือ แท้จริงแล้วแม่หนูถงไปทำสิ่งใดให้คุณหนูอวี้ไม่พึงใจ จึงต้องให้ร้ายว่านางนัดพบกับบุรุษที่นี่ มิหนำซ้ำยังจะลากสาวใช้ของนางไปสั่งสอนแทนอีก หากคนสกุลโม่ทำผิดย่อมลงโทษตามกฎประจำตระกูลของตนเองได้ ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับสกุลอวี้แม้แต่น้อย คุณหนูอวี้ชอบก่อเื่เยี่ยงนี้ หรือเพราะเห็นแม่หนูถงไม่มีใครรักไม่มีใครสนใจ ตนเองก็เป็แค่เด็กสาวอายุน้อยไฉนจึงยุ่งเื่ของผู้อื่นมากมายได้เพียงนี้” เมื่อคิดถึงคำพูดของอวี้ซื่อที่กล่าวต่อหน้าของตนเองเมื่อครู่ ฮูหยินผู้เฒ่าก็ลุโทสะจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว จ้องอวี้ซือหรงด้วยแววตาดุดัน ไม่คิดไว้หน้าสกุลอวี้อีกต่อไป
นางมีอำนาจอยู่ในเรือนชั้นในมาเนิ่นนานย่อมรู้แจ้งแก่ใจว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น นี่คือการหมายเอาชีวิตโม่เสวี่ยถงเชียวนะ! ดวงตาดุดันกวาดมองไปที่อวี้ซื่อซึ่งอยู่ข้างกายสีหน้าเต็มไปด้วยความแคลงใจสงสัย รวมไปถึงเฉินซื่อที่ดูร้อนใจ ท่าทางแบบนี้คงเป็เพราะ้าใส่ร้ายแม่หนูถง แต่ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์พลิกผันอันใดทำให้ไม่พบตัวนางเวลานี้ล่ะสิ
นางไม่ชอบอวี้ซือหรงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ลูกสะใภ้สกุลอวี้ก็ชอบเล่นลูกไม้ลับหลังอยู่เรื่อย จะจับคู่หลานของตนเองกับอวี้ซือหรงก็ช่างเถิด แต่นี่ถึงขั้นคิดวางแผนให้ร้ายแม่หนูถง สาเหตุที่ซ่อนอยู่ภายในตนเองจะไม่รู้ได้อย่างไรเล่า อวี้ซื่อช่างโง่งมนัก หากโม่เสวี่ยถงเกิดเื่ขึ้นที่นี่จริงๆ สกุลฉินหรือจะปัดความรับผิดชอบได้
ครั้งนี้เจิ้งเอ๋อร์มาบอกกับนางเป็การส่วนตัวว่า บัดนี้โม่ฮว่าเหวินเป็ที่ยอมรับในแวดวงราชการ ฝ่าาทรงไว้วางพระราชหฤทัยโปรดใช้ให้ทำงานสำคัญ นอกจากนี้แม่หนูถงไม่เพียงแต่เป็บุตรสาวสกุลโม่ ยังเป็หลานนอกของฝู่กั๋วกง ฮูหยินฝู่กั๋วกงรักใคร่บุตรสาวที่จากไปผู้นั้นเป็ที่สุด หากไม่ใช่ว่าอยู่ไกลเมืองหลวง นางหรือจะยอมปล่อยให้หลานสาวของตนเองไปอยู่ในความดูแลของผู้อื่น และหากเกิดเื่ขึ้นมาจริงๆ ฝ่ายนั้นหรือจะยอมเลิกราง่ายๆ สกุลฉินไม่มีทางแบกรับข้อกล่าวหาจากจวนฝู่กั๋วกงได้ ดีไม่ดี สกุลฉินทั้งตระกูลอาจถึงกาลหายนะ!
อวี้ซื่อไม่ระแคะระคายว่าแม่สามีของตนเองรู้แจ้งยิ่งกว่าสิ่งใด สวี่เหล่าไท่จวินฮูหยินฝู่กั๋วกงยามแรกรุ่นก็เป็สตรีองอาจไม่แพ้บุรุษ คือยอดพธูที่หาได้ยากยิ่ง ปีนั้นที่ลั่วเสียฮูหยินสกุลโม่ถึงแก่ชีวิต ฮูหยินฝู่กั๋วกงกำลังล้มป่วย แต่พอทราบเื่ก็เกือบจะแล่นไปอวิ๋นเฉิงในบัดดล หากไม่ใช่เพราะร่างกายไม่ไหวจริงๆ โม่เสวี่ยถงคงไม่ถูกทิ้งอยู่เมืองอวิ๋นเฉิงแน่นอน ต่อมาโม่ฮว่าเหวินก็ถูกคนของจวนฝู่กั๋วกงกักไว้หน้าประตูเมืองหลวง กลายเป็เื่เล่าขานมาจนทุกวันนี้
อวี้ซื่อไม่เพียงแต่ไร้คุณธรรม ทว่ายังโง่งมและร้ายกาจเหมือนงูพิษ ไม่รู้ว่ายามนั้นเจิ้งเอ๋อร์แต่งสตรีเช่นนี้เข้ามาได้อย่างไร ยามนี้ยิ่งเห็นก็ยิ่งขัดตานัก
ดวงตาของฮูหยินผู้เฒ่าฉินฉายแววชิงชังและเ็าขึ้นเรื่อยๆ
อวี้ซื่อได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเฝื่อน หลบสายตาคมกริบของแม่สามีด้วยจิตใต้สำนึก ถลึงตาดุใส่อวี้ซือหรงอย่างผิดหวังที่ไม่อาจตีเหล็กให้เป็เหล็กกล้าได้ดังใจหมาย ยิ่งเห็นนางทำท่าเหมือนคนถูกรังแกก็ยิ่งเดือดดาล ไม่ได้เื่จริงๆ เมื่อครู่ยังพูดกับนางอยู่ว่าให้วางใจได้ ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว นางจึงพาเฉินซื่อกับผู้เป็แม่สามีออกมา
ไฉนเวลาเพียงชั่วครู่จึงเกิดผิดพลาดเช่นนี้ได้ ภายในใจพลันรู้สึกขมขื่น ฟังจากคำพูดของแม่สามีก็รู้ว่าต้องจับสังเกตได้แล้วเป็แน่ ครานี้คงไม่ปล่อยตนเองไปแน่นอน แต่นางจำเป็ต้องช่วยอวี้ซือหรง ถึงอย่างไรก็เป็หลานสาวที่มาจากตระกูลมารดาตน ไม่อาจให้คนเอาไปซุบซิบนินทาได้ หาไม่แล้วสกุลอวี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน สตรีที่ออกเรือนแล้วเช่นนางจะมีหน้าคุยกับผู้ใดได้อีก
อวี้ซื่อทำใจกล้า ก้าวเข้ามาสู้สายตาของแม่สามีด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ อย่าโมโหไปเลยเ้าค่ะ ปรกติซือหรงกับถงเอ๋อร์ก็ดีต่อกัน นางก็แค่กังวลว่าถงเอ๋อร์จะเกิดเื่จึงรีบร้อนมาบอกกล่าว ไม่ใช่เพราะท่านแม่ได้ยินว่าถงเอ๋อร์เกิดเื่ ด้วยความเป็ห่วงจึงยอมมาดูหรือเ้าคะ ตอนนี้ถงเอ๋อร์ไม่อยู่ที่นี่ ก็อาจจะไปที่อื่นแล้ว พวกเราอย่ามัวแต่มาถกเถียงกันอยู่ให้คนเห็นเป็เื่น่าขันดีกว่า”
ฮูหยินผู้เฒ่าฉินหรี่ตาลง แววตาคมกริบดั่งมีด สีหน้าเผยแววเยาะหยัน ว่ากระทบอย่างเ็า “เื่น่าขันหรือ? แล้วที่เป็อยู่นี้มิใช่เื่น่าขันหรืออย่างไร คุณหนูอวี้ แม่หนูถงของเราคงไม่อาจคบค้ากับสหายแสนดีอย่างเ้าหรอก ต่อไปหากไม่มีธุระอันใดก็อย่าไปปรากฏตัวต่อหน้านางอีก ได้ยินมาว่าคุณหนูอวี้สนิทสนมกับคุณหนูบุตรอนุภรรยาสกุลโม่ราวกับเป็พี่น้องท้องเดียวกัน ย่อมอยู่คนละเส้นทางกับแม่หนูถงอยู่แล้ว”
เดิมทีการคบหากับบุตรอนุภรรยาก็เป็การลดฐานะของตนเองอยู่แล้ว ยังเพิ่มเื่จงใจให้ร้ายบุตรภรรยาเอกเข้าไปอีก คำกล่าวหานี้ทำให้อวี้ซือหรงเป็ใบ้ พูดไม่ออก สีหน้าเดี๋ยวคล้ำเดี๋ยวซีด
“ท่านแม่...” อวี้ซื่อคิดแก้ต่างโดยสัญชาตญาณ แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยปาก กลับถูกฮูหยินผู้เฒ่าตัดบทอย่างเ็า
“หากเ้าอยู่ว่างๆ ไม่มีธุระอันใดก็ไปเอาใจใส่เื่ของเจิ้งเอ๋อร์เถิด เมื่อก่อนก็ยื่นมือเข้าไปวุ่นวายกับเื่ทำนองนี้จนเสียหน้าไปหนหนึ่งแล้ว เื่ของเซวียนเอ๋อร์ ข้ากับบิดาของเขากำลังจัดการอยู่ ในเมืองหลวงมีสตรีสกุลดีมากมาย ไม่ว่าคนไหนก็ล้วนมีหน้ามีตามากกว่าหญิงสาวที่มาจากเมืองเล็กๆ ทั้งสิ้น อย่าให้โลกทัศน์ที่คับแคบมาบดบังสายตาของตนเอง”
นี่คือการแสดงท่าทีต่อต้านการแต่งเข้าสกุลฉินของอวี้ซือหรงอย่างชัดเจน และเป็การฉีกหน้าอวี้ซื่อด้วย ทำให้อีกฝ่ายแค้นเคืองขบฟันจนกรามแทบป่น
ยามนี้ฮูหยินผู้เฒ่าไม่พอใจอวี้ซื่ออย่างยิ่ง เห็นแล้วขวางหูขวางตา พูดไปพูดมาก็ยกเื่การแต่งงานของฉินอวี้เซวียนขึ้นมาเอ่ยถึง พลางชายหางตามองอวี้ซือหรงที่ยืนก้มหน้าอย่างอับอาย ความหมาย้าให้นางล้มเลิกความคิดเสีย
อวี้ซือหรงได้ยินแล้วก็เงยหน้าขึ้นฉับพลัน สีหน้าขาวซีด นี่คือการบอกให้นางตัดใจจากฉินอวี้เซวียน เลิกฝันที่ได้จะแต่งเข้าสกุลฉิน แล้วนางจะยอมรับได้อย่างไร ขณะที่กำลังจะอ้าปากพูดก็ถูกนางเฉินผู้เป็มารดารั้งไว้อย่างแรง
“ใจเ้าคงคิดแต่เื่งานแต่งของบุตรชายจนไม่มีเวลาดูแลเจิ้งเอ๋อร์สินะ เอาเถิด... ิเยวี่ยก็เป็หญิงสาวที่เฉลียวฉลาดคนหนึ่ง ข้าจะออกหน้ายกนางขึ้นเป็อนุภรรยาดูแลรับใช้ข้างกายเจิ้งเอ๋อร์ ช่วยดูแลการกินอยู่หลับนอนให้เขา จะได้ช่วยลดภาระให้เ้าที่ต้องดูแลครอบครัวใหญ่ของตนเอง แล้วยังต้องวุ่นวายกับเื่ทางบ้านมารดาอีก”
ฮูหยินผู้เฒ่าฉินปรายตามองอวี้ซื่อและเฉินซื่อที่อยู่ด้านข้างปราดหนึ่ง แล้วส่งคำพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปด้วยโทสะพร้อมกับพาบ่าวไพร่กลุ่มใหญ่ แค่ให้เห็นหน้าหญิงโง่คนนี้นางก็รับไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ยังต้องเพียรทำใจเพราะนางเป็สะใภ้ของตน สกุลฉินแต่งสะใภ้แบบนี้เข้าตระกูลมาได้อย่างไรกันนะ!
โทสะฉายชัดบนใบหน้าของอวี้ซื่อ ผ้าเช็ดหน้าในมือถูกขยำขยี้จนกลายเป็ก้อนกลมด้วยความชิงชัง ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความอดทนสุดขีด ยายเฒ่าสมควรตาย กล้าทำให้นางเคืองใจเชียวหรือ
“อาหญิง ท่านต้องช่วยจัดการให้ข้านะ ข้าไม่ได้ใส่ร้ายน้องหญิงถงจริงๆ แค่เป็ห่วงว่านางจะเป็อันตรายเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะทำให้คนเข้าใจผิดเยี่ยงนี้ อาหญิง ข้าไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว” อวี้ซือหรงเห็นฮูหยินผู้เฒ่าจากไปแล้ว ก็หมุนตัวโถมเข้ากอดเฉินซื่อผู้เป็มารดา แล้วเริ่มร้องไห้เสียงดังอย่างหวาดกลัว
“พอได้แล้ว” ยามนี้อวี้ซื่อหงุดหงิดจนแทบทนไม่ไหวอยู่รอมร่อ เห็นอวี้ซือหรงร้องไห้จะเป็จะตาย ไหนเลยจะอดทนกับนางได้อีก นึกถึงนางจิ้งจอกิเยวี่ยผู้นั้นเดิมทีก็คิดจะปีนเตียงสามีของตนตลอดเวลาอยู่แล้ว ต่อมาตนเองจึงสัญญาว่าจะให้นางเป็อนุภรรยาของเฟิงเอ๋อร์ นางจึงช่วยพูดเข้าข้างตนเองเสมอมา แต่ความหมายของฮูหยินผู้เฒ่าในเวลานี้คือ้ายกนางให้นายท่าน ภายในใจย่อมกระสับกระส่าย ไหน้ำส้มแทบะเิ
สีหน้าของอวี้ซื่อที่มองอวี้ซือหรงจึงบูดบึ้งบอกบุญไม่รับ หากไม่ใช่เพราะหลานสาวโง่เง่าทำเสียเื่ ไหนเลยจะมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นเช่นนี้ แม่สามีไม่ลงโทษ แต่กลับส่งนังจิ้งจอกยั่วยวนคนหนึ่งเข้าห้องสามีของตนเอง ทำให้นางต้องเจ็บช้ำน้ำใจ