บทที่ 10 ความเสี่ยง 70%ที่ต้องแบกรับเอง...
เส้นทางสู่ยอดเขาเมฆาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันเต็มไปด้วยหินผาขรุขระ ทางลาดชันที่ต้องปีนป่าย และป่าทึบที่แสงอาทิตย์ยังส่องไม่ถึง บาง่เธอต้องใช้มือช่วยยึดเกาะก้อนหินเพื่อปีนขึ้นไป บาง่ต้องใช้มีดถางทางที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้หนาทึบ แต่ไป่ซินซินไม่ย่อท้อ เธอเดินหน้าต่อไปอย่างมุ่งมั่น ความคิดถึงบ้านใหม่ที่อบอุ่นสำหรับน้องๆ คือแรงผลักดันที่สำคัญที่สุดของเธอ
'โสมพันปี... เห็ดหลินจือจักรพรรดิ... พี่มาแล้ว!!!!!'
เธอพึมพำกับตัวเอง สายลมหนาวพัดโชยมาปะทะใบหน้า บรรยากาศเงียบสงัด มีเพียงเสียงฝีเท้าของเธอที่ย่ำไปบนใบไม้แห้งกรอบแกรบราวกับเสียงกลองศึกที่ปลุกเร้าจิติญญานักสู้ในตัวเธอให้ตื่นขึ้นเต็มที่
ดวงอาทิตย์เริ่มทอแสงอ่อนๆ เหนือทิวเขา เปลี่ยนผืนฟ้าสีดำสนิทให้กลายเป็สีครามอมชมพู ภาพเบื้องหน้าคือหมอกหนาทึบที่ลอยอ้อยอิ่งปกคลุมยอดเขา ราวกับม่านลึกลับที่ซ่อนเร้นความลับและอันตรายเอาไว้ ไป่ซินซินรู้ดีว่า ยิ่งสูงขึ้นไปมากเท่าไหร่ อากาศก็จะยิ่งบางเบาและหนาวเย็นมากขึ้นเท่านั้น เธอต้องใช้เสื้อคลุมของพ่อที่หนาและอบอุ่นเป็เกราะกำบังจากความหนาวเหน็บที่เริ่มกัดกินเข้ามาถึงกระดูก
ติ๊ง!
เสียงระบบวิเคราะห์ความสำเร็จดังขึ้นในหัวของไป่ซินซินพร้อมกับหน้าต่างโปร่งใสที่ปรากฏขึ้น
[พื้นที่เขตอันตรายระดับ C: ระวังเหวพรางตาเบื้องหน้า]
[เส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด: เลี่ยงซ้าย 30 องศา]
ไป่ซินซินชะงักเท้าที่กำลังจะก้าว ดวงตาคู่สวยหรี่ลงมองพื้นหญ้าที่ดูเหมือนจะเป็ทางเดินปกติ แต่เมื่อเธอใช้ปลายมีดที่หมอเฒ่าหลี่ให้มาเขี่ยลงไปเบาๆ ดินก็ทรุดตัวลงไปช้าๆ เผยให้เห็นโพรงลึกสีดำมืดมิดที่ซ่อนอยู่ใต้พุ่มหญ้า หากเธอไม่หยุดและก้าวต่อไปเพียงเสี้ยววินาทีเดียว คงตกลงไปสู่ก้นเหวที่มองไม่เห็นก้นบึ้งอย่างแน่นอน!
‘เ้าบ้าเอ๊ย! เกือบไปแล้วไหมล่ะ!’ เธอสบถในใจอย่างหงุดหงิดระคนกับความโล่งใจ การเดินป่าในยุคนี้มันน่ากลัวกว่าที่คิดนัก ไม่ได้มีเส้นทางที่ถูกทำเครื่องหมายไว้ชัดเจนเหมือนในโลกอนาคต
เธอปรับทิศทางตามที่ระบบแนะนำ สองเท้าก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังมากขึ้น แต่ละย่างก้าวเต็มไปด้วยความตึงเครียด เธอรู้ดีว่าความเสี่ยง 70% ที่ระบบแจ้งเตือนไว้ั้แ่แรกนั้น ไม่ได้มาเล่นๆ แน่นอน
การเดินทางเป็ไปอย่างเชื่องช้า เนินเขาสูงชันสลับกับป่าทึบและโขดหิน การปีนป่ายไปตามโขดหินที่ปกคลุมด้วยมอสลื่นๆ ทำให้เธอต้องใช้พละกำลังทั้งหมดที่มี เธอต้องใช้เชือกที่แข็งแรงของหมอเฒ่าหลี่ผูกติดกับก้อนหินใหญ่ เพื่อดึงตัวเองขึ้นไปทีละน้อย กล้ามเนื้อแขนขาที่ไม่ได้ผ่านการใช้งานหนักขนาดนี้มาก่อนเริ่มส่งเสียงประท้วงด้วยความเ็ประบมไปทั่ว
ในจังหวะที่เธอดึงตัวขึ้นไปบนโขดหินใหญ่ จู่ๆ เท้าของเธอก็พลาดท่าไปเหยียบก้อนกรวดเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้ใบไม้ร่วง ร่างกายเสียหลักไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว
พลั่ก!
ไป่ซินซินล้มลงกระแทกกับพื้นดินอย่างแรง มือข้างหนึ่งพยายามยันตัวเองไว้ แต่กลับไถลไปกับก้อนหินคมๆ ที่ยื่นออกมาจากพื้นผิวป่า ความเจ็บแปลบแล่นปราดไปทั่วฝ่ามือ เมื่อยกขึ้นดู ก็พบว่ามีเืสีแดงสดซึมออกมาจากรอยบาดลึกหลายแห่ง
"โอ๊ย!"
เธอร้องออกมาเบาๆ ด้วยความเ็ป คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่น ใบหน้ายู่ยี่ด้วยความไม่สบอารมณ์ 'นี่มันอะไรกันเนี่ย! ในชาติที่แล้วฉันไม่เคยต้องมาล้มหัวคะมำแบบนี้เลยนะ! เป็นักธุรกิจหมื่นล้านใครจะมาปีนเขาหกล้มให้มือแหกแบบนี้ได้!'
ความคิดของเธอกระเจิดกระเจิงไปชั่วขณะ ความเ็ปทำให้สมองเริ่มประมวลผลอะไรแปลกๆ
'ก็เพราะชาติที่แล้วฉันไว้ใจคนผิดไง! ไว้ใจจนตาย! โดนหักหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า! ไม่ว่าจะหกล้มมือแหก หรือโดนหักหลังจนตาย... สุดท้ายมันก็เจ็บเหมือนกันแหละ!' ความเชื่อมโยงที่ไม่มีเหตุผลผุดขึ้นมาในหัว ทำให้ไป่ซินซินถึงกับสับสนงงงวยกับความคิดของตัวเอง 'นี่ฉันเป็อะไรไปเนี่ย! เจ็บจนเพี้ยนรึไง!'
แต่แล้ว ความสับสนก็ถูกแทนที่ด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย เมื่อเธอนึกถึงระบบวิเคราะห์ความสำเร็จที่อยู่ในหัว
"ระบบ!" ไป่ซินซินส่งเสียงแบบหงุดหงิดเข้าไปในหัว
"ทำไมไม่เตือนฉันก่อนล่ะว่าจะมีก้อนกรวดบ้าๆ นี่อยู่ใต้ใบไม้เนี่ย! จะได้ไม่ล้มมือแหกแบบนี้ไง! ระบบอัจฉริยะอะไรกัน! เื่แค่นี้ก็ไม่เตือน!" เธอพยายามส่งกระแสจิตตำหนิเ้าระบบราวกับจะต่อว่าเด็กน้อยที่ทำผิดพลาด
ติ๊ง!
เสียงของระบบดังขึ้นในหัวอย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่คราวนี้มาพร้อมข้อความที่ดูเหมือนจะกวนอารมณ์ไป่ซินซินไม่น้อย
[การล้มเล็กน้อยและาแตื้นๆ จัดอยู่ในหมวดหมู่ 'ความเสี่ยงเล็กน้อย' (Minor Risk) ซึ่งอยู่ใน่70% ที่ผู้ใช้ต้องแบกรับเอง]
[ระบบมีหน้าที่แจ้งเตือนภัยคุกคามถึงชีวิต (Life-Threatening Hazard) หรือ โอกาสสร้างรายได้สำคัญ (Significant Revenue Opportunity) เท่านั้น]
[ผู้ใช้ควรพัฒนาทักษะการระมัดระวังตัวในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยด้วยตนเอง เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการเอาชีวิตรอดโดยรวม ไหนบอกว่าเป็ CEO เก่งกาจ!!1]
ไป่ซินซินถึงกับหงุดหงิดขึ้นมาอีก ไป่ซินซินถึงกับสูดลมหายใจเข้าปอดจนจมูกบาน.. “โอ้โห! ระบบ! นี่แกจะมาสั่งสอนฉันงั้นรึ! เป็แค่ AI ก็ทำตัวให้มันรู้หน้าที่หน่อยสิ! มีหน้าที่เตือนก็เตือนไปสิ ไม่ต้องมาอ้าง 70% บ้าบออะไรนั่นหรอก! ดูสิ มือฉันแหกหมดแล้วเนี่ย! จะไปเก็บโสมยังไง!” เธอเถียงกลับไปในใจอย่างไม่ยอมแพ้
ระบบเงียบไปชั่วขณะ... ก่อนที่ข้อความจะปรากฏขึ้นอีกครั้งราวกับจะตอบโต้คำบ่นของเธอ…ราวกับจะเป็การบอกว่ามันสู้กลับเป็นะ
[ผู้ใช้ควรทราบว่าการบ่นถึงความเสี่ยงเล็กน้อย อาจทำให้ระบบประมวลผลข้อมูลล่าช้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการแจ้งเตือนภัยคุกคามที่สำคัญในอนาคตได้]
[คำแนะนำ: ผู้ใช้ควรรีบปฐมพยาบาลาแ อย่างมาไร้สาระกับเื่เล็กเพียงเท่านี้ ที่ผ่านมาในอดีตผู้ใช้โดนเขาหลอกซ้ำซากจนตายผู้ใช้ยังไม่เห็นจะเป็ไรเลย..จะเดินทางต่อได้หรือยัง!!]
ไป่ซินซินถึงกับอ้าปากค้าง
“นี่มันจิกกัดฉันกลับใช่ไหมเนี่ย! ตอกย้ำถึงความโง่ของฉันด้วยเลยหรือเ้าระบบบ้าเอ๊ย! อัจฉริยะจนกวนประสาทขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!”
เธออยากจะหัวเราะออกมา แต่ก็เจ็บมือจนหัวเราะไม่ออก ได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับระบบที่ดูเหมือนจะมีความคิดเป็ของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
เธอหยิบสมุนไพรทาแผลที่หมอเฒ่าหลี่ให้มาออกมา แล้วทาลงบนาแที่มืออย่างระมัดระวัง แม้จะเจ็บ แต่เธอก็รู้ดีว่าไม่มีเวลามานั่งโอดครวญ เธอต้องไปต่อ! การเดินทางครั้งนี้ยังอีกยาวไกลนัก
ในที่สุด หลังจากผ่านไปกว่าครึ่งวัน เธอก็มาถึงบริเวณที่ระบบระบุว่าเป็จุดที่เห็ดหลินจือจักรพรรดิ น่าจะเติบโต
มันคือผาหินสูงชันที่มีน้ำตกขนาดเล็กไหลผ่าน พืชพรรณดูอุดมสมบูรณ์เป็พิเศษ และมีไอเย็นแผ่ออกมาตลอดเวลา ััได้ถึงพลังงานบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากที่อื่น
ติ๊ง!
[ตรวจพบ: แหล่งพลังงานชีวภาพเข้มข้น]
[สิ่งมีชีวิตหายาก: เห็ดหลินจือจักรพรรดิ (รอดตาย 98%) ]
[ระยะห่างจากเป้าหมาย: 10 เมตร]
[ความเสี่ยงในการเข้าถึง: ปานกลาง (สัตว์ป่าขนาดกลาง, ทางลาดชันลื่น อะไรที่ควรระวังก็ระวังด้วยละ!!) ]
ไป่ซินซินเหลือบตามองบนเล็กน้อยกับข้อความที่เ้าระบบที่ดูเหมือนจะแค้นฝังหุ่นที่เธอว่ามัน มีจิกกัดมาอีกหนึ่งกรุบ…
ไป่ซินซินมองตามทิศทางที่ระบบชี้นำ ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันคือเห็ดขนาดใหญ่สีแดงเข้มสดใส คล้ายปะการังที่เรืองรองใต้แสงสลัวๆ ของป่า มันเกาะอยู่บนหน้าผาที่เปียกชื้น ใกล้กับบริเวณที่น้ำตกไหลผ่าน ขนาดของมันใหญ่กว่าเห็ดหลินจือทั่วไปถึงสามเท่า มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาแตะจมูก แค่มองก็รู้สึกได้ถึงพลังชีวิตที่เปี่ยมล้น
แต่การเข้าถึงมันไม่ใช่เื่ง่าย!
ด้านล่างของหน้าผานั้นมีก้อนหินลื่นๆ ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำ ส่วน้ามีพุ่มไม้หนาทึบและเถาวัลย์เกี่ยวพันไปมา ราวกับกำแพงธรรมชาติที่ปกป้องสมุนไพรล้ำค่านี้ไว้
ไป่ซินซินสำรวจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว เธอหยิบเชือกเส้นยาวที่หมอเฒ่าหลี่ให้มาออกมา ผูกปลายเชือกด้านหนึ่งเข้ากับต้นไม้ใหญ่ที่มั่นคงริมหน้าผา จากนั้นก็ค่อยๆ โรยตัวลงไปอย่างช้าๆ มือหนึ่งจับเชือก อีกมือหนึ่งใช้มีดที่คมกริบของพ่อ ตัดกิ่งไม้และเถาวัลย์ที่ขวางทาง
แคร๊ก!
เสียงกิ่งไม้แห้งหักดังขึ้นใต้ฝ่าเท้า! ร่างของไป่ซินซินเสียหลัก หวิดจะตกลงไปในเหวเบื้องล่าง แต่สัญชาตญาณและความว่องไวของไป่หลิงผู้เคยฝึกฝนการเอาตัวรอดมาอย่างหนักหน่วงในโลกอนาคต ทำให้เธอใช้มีดปักลงไปในช่องว่างระหว่างก้อนหินอย่างรวดเร็ว พยุงตัวไว้ได้ทันท่วงที เหงื่อกาฬไหลซึมออกมาจากไรผม แม้จะหนาวเย็นเพียงใด เธอก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งร่าง
เธอสูดหายใจลึกๆ ข่มความกลัวที่เกาะกุมหัวใจไว้ เดินหน้าต่อไป!
ในที่สุด สองเท้าของไป่ซินซินก็เหยียบลงบนชั้นหินที่มั่นคง เธอหันไปมองเห็ดหลินจือจักรพรรดิที่อยู่ไม่ไกล ดวงตาเปล่งประกายด้วยความปิติ เธอหยิบมีดอีกเล่มขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ค่อยๆ ตัดก้านเห็ดอย่างบรรจง ไม่ให้บอบช้ำแม้แต่น้อย กลิ่นหอมฉุนของสมุนไพรลอยฟุ้ง เมื่อเห็ดหลินจือจักรพรรดิหลุดออกมาอยู่ในมือของเธอ มันดูหนักแน่นและเต็มไปด้วยพลังงานอย่างเหลือเชื่อ! เธอรีบเก็บมันลงในถุงผ้าเล็กๆ ที่เตรียมไว้และผูกปากถุงให้แ่า
ภารกิจแรกสำเร็จลุล่วง!
ขณะที่ไป่ซินซินเก็บเห็ดและเดินออกจากบริเวณนั้น เธอก็รู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างที่เ้าระบบเตือนนั้นขาดหายไป นั่นคือ สัตว์ป่าที่เฝ้าอยู่ เหตุใดถึงไม่เห็น เมื่อข้องใจก็เอ่ยถามทันที
“ระบบ แล้วเ้าสัตว์ที่ระบบบอกว่าเฝ้าเห็ดหลินจือล่ะ ทำไมถึงไม่มี? นี่เธอผิดพลาดใช่ไหม?” ไป่ซินซินแซะไปเล็กน้อยเพราะยังเจ็บใจที่เ้าระบบบอกว่าเธอโง่ถูกเขาหลอกจนตาย... คำพูดนั้นยังคงก้องอยู่ในหัวของเธอราวกับเป็แผลที่ไม่มีวันหาย
ระบบเงียบไปครู่หนึ่ง... ความเงียบที่ยาวนานจนไป่ซินซินเริ่มคิดว่าระบบคงแกล้งทำเป็ไม่ได้ยิน หรือไม่ก็กำลังหาคำแก้ตัวอยู่ แต่แล้ว เสียงสังเคราะห์ที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาในหัวของเธอ ช้าๆ ชัดๆ ราวกับถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย
“...มันหลับ!”
ไป่ซินซินถึงกับผงะ ดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อยกับคำตอบที่เรียบง่ายแต่กวนประสาทอย่างถึงที่สุด 'หลับ?! ให้ตายเถอะ! นี่มันกวนฉันชัดๆ เลยนะ!' เธออยากจะโวยวาย แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่เม้มปากแน่น พยายามสะกดกลั้นรอยยิ้มที่กำลังจะผุดขึ้นมา เพราะคำตอบนั้นทั้ง
“หลับ? แล้วทำไมไม่เตือนว่ามันหลับล่ะ! ถ้าฉันไปปลุกมันขึ้นมาตอนที่กำลังเผลอตัวจะทำยังไง! ระบบนี่... เชื่อถือไม่ได้เลยจริงๆ!” ไป่ซินซินบ่นอุบในใจ ไม่ยอมแพ้
ติ๊ง!
[ผู้ใช้ไม่ระบุว่า้าทราบสถานะการหลับของเป้าหมาย]
[ระบบแจ้งเตือนเฉพาะภัยคุกคามที่ ‘ตื่นตัว’ และพร้อมโจมตีเท่านั้น]
[หากผู้ใช้้าข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม ควรระบุคำสั่งให้ชัดเจน]
[คำแนะนำ: ผู้ใช้ควรมุ่งหน้าสู่จุดหมายต่อไปเพื่อประหยัดเวลา]
ไป่ซินซินถึงกับกัดฟันกรอด 'โอ้โห! มาตรฐานสองชั้นชัดๆ เลยนะ! ระบบกวนประสาทเอ๊ย!' เธอได้แต่คิดในใจ แต่ก็ยอมรับว่าเธอพลาดเองที่ไม่ได้ถามให้ละเอียดไปกว่านี้ คราวนี้สู้เ้าระบบไม่ได้ไป่ซินซินก็เงียบไป่ซินซินมองขึ้นไปยังยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหมอกหนาทึบอีกครั้ง ที่นั่นคือที่ที่โสมพันร้อยปีรอเธออยู่ และเธอรู้ดีว่าการจะไปถึงที่นั่น มันจะยากลำบากยิ่งกว่านี้หลายเท่า!
เธอใช้เวลาพักผ่อนครู่หนึ่ง กินปลาแห้งและเห็ดรมควันเติมพลัง พร้อมกับหยิบยาสมุนไพรบำรุงกำลังที่หมอเฒ่าหลี่ให้มาขึ้นมากินร่างกายที่อ่อนล้าเริ่มฟื้นตัว เธอลุกขึ้นยืนอย่างเด็ดเดี่ยว ใบหน้าเปื้อนฝุ่นและรอยขีดข่วน แต่ดวงตาของเธอยังคงส่องประกายด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่เคยลดเลือน
'ต่อไป... โสมพันปี!'
****อย่าเล่นกับระบบ เดี๋ยวมันเล่นกลับ ***
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้