“ฮ่าๆๆ ท่านลุงหม่า ตอนนั้นข้ายังไร้เดียงสา” ฉินเฮ่ากล่าวกลั้วหัวเราะ
“แล้วคนที่อยู่ด้านหลังเ้าคือใคร?” หม่าเทียนเจิ้งมองถังเหล่ย
การแต่งกายของถังเหล่ยแตกต่างจากหน่วยผู้คุมกฎอย่างสิ้นเชิง
“คนผู้นี้คือสหายของข้านามว่า…เอิ่ม…เซี่ยชิง” ฉินเฮ่ายักไหล่และละสายตาจากหม่าเทียนเจิ้ง
“คารวะขุนพลหม่า!” ถังเหล่ยกล่าวอย่างเรียบเฉย
หม่าเทียนเจิ้งยิ้มโบกมือให้ทั้งสองนั่งลง หลังจากนั้นผู้พิทักษ์ที่หน้าประตูก็นำอาหารเข้ามาให้ถังเหล่ยและฉินเฮ่า อาหารที่อยู่ตรงหน้าเขาทั้งสองเป็เนื้อสัตว์อสูรตากแห้ง
“เนื้อสัตว์อสูรตากแห้งแข็งยิ่งกว่าหินเสียอีก” ฉินเฮ่ากระซิบถังเหล่ย
แม้ว่าจักรวรรดิจะให้ความสำคัญกับด่านซิวหลัวมากเพียงใด แต่ทรัพยากรอาหารที่นี่ยังคงแร้นแค้น ขุนพลที่สามารถอยู่ที่นี่ได้จึงกลายเป็คนโปรดของาาอวี่
“เ้ามีเื่อะไรร้อนใจหรือ ถึงได้มาหาข้าถึงที่นี่ เมื่อวานข้าได้รับข่าวว่าในจักรวรรดิมีคนร้ายนามว่าถังเหล่ย พวกเขาเดาว่าอาจจะผ่านมาทางนี้ ภารกิจจับกุมตัวผู้กระทำผิดอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยเ้าไม่ใช่หรือ?” หม่าเทียนเจิ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า
โดยปกติหม่าเทียนเจิ้งไม่สนใจเื่พวกนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เขาสนใจก็คือชายผู้นั้นเป็เพียงผู้ชำนาญยุทธ์แต่กลับกล้าสังหารเยียนหลิงซานซึ่งอยู่ในระดับยอดยุทธ์ เื่ที่เหนือความคาดหมายเช่นนี้ทำให้เขาอดสนใจไม่ได้
“เดิมทีเป็เช่นนี้” ฉินเฮ่ามองถังเหล่ยและกล่าวว่า
“หน่วยของข้าถูกซุ่มโจมตี สมาชิกภายในหน่วยของข้าตายเรียบ ข้าจึงหนีมาที่นี่”
“มีคนกล้าลงมือกับหน่วยผู้คุมกฎด้วยหรือ? ช่างโอหังเสียจริง” หม่าเทียนเจิ้งงุนงง
หน่วยผู้คุมกฎคือคนของจักรวรรดิเทียนอวี่ คนที่ลงมือกับหน่วยผู้คุมกฎเท่ากับประกาศากับจักรวรรดิเทียนอวี่
“ถ้าข้าคาดการณ์ไม่ผิดพวกมันคือมือสังหารที่เยียนหลิงเทียนส่งมา” ฉินเฮ่ากล่าวด้วยความคับแค้นใจ ถึงแม้จะรู้ว่าเป็มือสังหารที่เยียนหลิงเทียนส่งมาแต่เขาไม่มีหลักฐาน
“กองทัพอวี่หลินผยองยิ่งนัก เยียนหลิงเทียนต้องส่งมือสังหารมาเพื่อแก้แค้นให้เยียนหลิงซานอย่างแน่นอน และเป้าหมายก็คือถังเหล่ย แล้วพวกเ้ารอดมาได้อย่างไร? หรือว่าถังเหล่ยอยู่กับเ้า?” หม่าเทียนเจิ้งเผยรอยยิ้มบนใบหน้า และจ้องมองถังเหล่ย
ฉินเฮ่าตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าหม่าเทียนเจิ้งจะรู้สถานะของถังเหล่ยจากบทสนทนาเพียงไม่กี่ประโยค เดิมทีเขายังคิดว่าจะปล่อยถังเหล่ยไป แต่ตอนนี้สถานการณ์พลิกผันแล้ว
“ขุนพลหม่าสายตาเฉียบแหลมนัก ข้าก็คือถังเหล่ย!” ถังเหล่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า เขารู้ดีว่าไม่สามารถปกปิดตัวตนได้อีกต่อไปแล้ว
“หากคนที่มีฝีมืออย่างเ้าถูกเยียนหลิงเทียนฆ่าตาย มันก็คงเป็เื่ที่น่าเสียดายอยู่พอสมควร” หม่าเทียนเจิ้งมองถังเหล่ยอีกครั้ง
แม้ว่าถังเหล่ยจะเป็คนร้ายที่ถูกติดป้ายประกาศจับไปทั่วจักรวรรดิ แต่หม่าเทียนเจิ้งก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมในความกล้าหาญของเขา
“หมายความว่า?” ฉินเฮ่ารู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำพูดของหม่าเทียนเจิ้ง
“เื่นี้ขึ้นอยู่กับเ้า การจับคนร้ายเป็เื่ของหน่วยผู้คุมกฎ ข้าเป็ผู้พิทักษ์ด่านซิวหลัว เื่นี้ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า” หม่าเทียนเจิ้งกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“ขอบคุณท่านลุงมาก”
“ขอบคุณขุนพลหม่า!” ฉินเฮ่ากับถังเหล่ยกล่าว
ถังเหล่ยเป็คนร้ายที่ถูกออกหมายจับ แต่น้ำเสียงของหม่าเทียนเจิ้งช่างดูเป็มิตร
อย่างไรก็ตามนี่คือการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจภายในจักรวรรดิ หม่าเทียนเจิ้งกับฉินเฮ่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ดังนั้นเขาจึงเลือกยืนอยู่ข้างตระกูลฉิน ในเมื่อถังเหล่ยคือคนที่เยียนหลิงเทียนอยากจะกำจัด แต่ถังเหล่ยคือสหายของฉินเฮ่า ดังนั้นหม่าเทียนเจิ้งจึงให้ฉินเฮ่าเป็คนตัดสินใจเื่นี้ด้วยตัวเอง
“รุ่งเช้าจะมีขบวนลำเลียงสินค้าเดินทางไปจักรวรรดิซือฉี เ้าสามารถไปกับขบวนสินค้าได้” หม่าเทียนเจิ้งกล่าวกับถังเหล่ย
“ขอบคุณขุนพลหม่า” ถังเหล่ยพยักหน้าและกล่าวขอบคุณอีกครั้ง
ถังเหล่ย้าไปยังูเาจู่หุน แต่ต้องเดินทางผ่านจักรวรรดิซือฉีที่เกิดความวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา การแฝงตัวอยู่ในขบวนสินค้าจึงค่อนข้างปลอดภัยสำหรับเขา
าในจักรวรรดิซือฉีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นสินค้าจึงขาดแคลนมาก
ในขบวนลำเลียงสินค้าชายรูปร่างกำยำคนหนึ่งได้รับคำสั่งจากหม่าเทียนเจิ้งให้รับถังเหล่ยเข้ากลุ่ม การเป็ผู้ชำนาญยุทธ์ของถังเหล่ยสามารถคุ้มกันกลุ่มของชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำได้ เขาตอบรับด้วยความยินดีและยังรับปากว่าจะให้ค่าตอบแทนถังเหล่ยอีกด้วย
ก่อนที่ถังเหล่ยจะออกเดินทาง เขามอบยาถอนพิษสองเม็ดให้ฉินเฮ่า
“เ้าปรุงยาให้ข้า!? ดูท่าเ้าคงจะมีความลับอีกมากมายซ่อนอยู่” ฉินเฮ่ามองถังเหล่ยและกล่าวต่อว่า
“การไปกับขบวนลำเลียงสินค้านี้เ้าจะปลอดภัย ข้าเอาชีวิตของข้าเป็ประกัน”
“ข้าจะกลับมาให้เร็วที่สุด ยังมีอีกหลายคนที่ข้ายังไม่ได้คิดบัญชี!” ถังเหล่ยกล่าวด้วยความไม่พอใจ
“เอาเถอะ หวังว่าเ้าจะรอดชีวิตกลับมา” ฉินเฮ่าโบกมือลาถังเหล่ย
จากนั้นถังเหล่ยก็ขึ้นนั่งบนรถม้าของกลุ่มชายวัยกลางคน แล้วค่อยๆ ออกจากด่านซิวหลัวเข้าสู่จักรวรรดิซือฉี ในขณะที่ด้านหลังมีฉินเฮ่าและหม่าเทียนเจิ้งมองส่ง
“ถ้าปู่ของเ้ารู้ว่าเ้าทำผิดกฎเพื่อนักโทษคนหนึ่ง เ้าต้องได้รับโทษหนักอย่างแน่นอน” หม่าเทียนเจิ้งยิ้มกล่าวติดตลกออกมา
“หากถังเหล่ยสามารถรอดชีวิตกลับมาได้ ข้าจะให้เขาเป็ส่วนหนึ่งของตระกูลฉิน” ฉินเฮ่าไม่ได้ยอมรับคำพูดของหม่าเทียนเจิ้งแต่เลือกที่จะเปลี่ยนเื่สนทนาแทน
ฉินเฮ่าคาดเดาไว้ว่าหากถังเหล่ยมีชีวิตรอดกลับมา ความแข็งแกร่งของถังเหล่ยจะสามารถช่วยตระกูลฉินของเขาได้ไม่มากก็น้อย
………