เวลานี้ หลงเหยียนกำลังครุ่นคิดว่าจะลงมือที่ไหนดี ปีศาจอสูรจำนวนมากเพียงนั้น หากไม่ระวัง อาจนำมาซึ่งความสนใจของพวกมันได้ กลางดึก เงาจากร่างปีศาจอสูรนั้นใหญ่เหลือเกิน ดวงตาที่ประกายรังสีความโหดร้าย หากสังหารตัวไหนตายโดยไม่ระวัง อาจทำให้ปีศาจอสูรตัวอื่นๆ โจมตีเขา เช่นนั้นคงไม่พ้นคำว่าอนาถ
“ช่างเถอะ รออีกหน่อยก็แล้วกัน อย่างไรเสียก็ยังพอมีเวลาอยู่ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าปีศาจอสูรพวกนั้นจะอยู่นิ่ง!” ขณะที่หลงเหยียนกลับหลังหัน ทันใดนั้น ิญญาัที่แข็งแกร่งก็ััได้ เขาพบเงาหลบๆ ซ่อนๆ ของคนสองคน
“เขาคือใคร?” ท่ามกลางความมืด ถึงแม้เห็นรูปร่างจากเงาว่าเป็คน ทว่าก็รู้สึกได้ว่าไม่ใช่คนตระกูลเซียว
“หรือมีคนรู้ว่าที่นี่มีต้นเซียนหอมหมื่นลี้? ดูเหมือนการเดิมพันนี้ชักจะสนุกขึ้นทุกที”
หลงเหยียนเข้าใกล้เงาของสองคนนั้น เห็นในมือของคนหนึ่งถือหญ้าวิเศษหนึ่งต้นพร้อมคุยกับอีกหนึ่งคนที่อยู่ข้างๆ
ราชสีห์หิรัณย์ยื่นหัวออกมาจากถึงผ้าเฉียนคุนแล้วพูดด้วยความตื้นตัน “พี่เหยียน นั่นมันต้นหิมะแปดทิศ รีบช่วยข้าชิงมาเร็ว หากได้มันมา อาการาเ็ของข้าคงฟื้นฟูได้มาก”
“จริงหรือ?” หลงเหยียนเองก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที นึกไม่ถึงว่าที่นี่จะมีคนนำต้นหิมะแปดทิศมาหาถึงที่ ผ่านการััทางพลังิญญา สองคนนั้นมีพลังระดับชีพัขั้นที่แปด สำหรับหลงเหยียนในตอนนี้ การเอาชนะย่อมไม่ใช่เื่ยาก ผ่านการสังหารมาหลายครั้ง รวมถึงพลังปราณในตัวหลงเหยียนก็มากเพียงพอที่จะเอาชนะพวกเขาได้
หลงเหยียนเดินตามสองคนนั้นไปยังมุมที่เป็เหวอีกด้านหนึ่งของเทือกเขาหยุนหลัว หนึ่งในนั้นออกแรงส่งที่เท้า ใช้แรงส่งตัวพุ่งไปตรงกำแพงเขาที่อยู่ด้านหน้า ส่วนอีกคนก็ตามหลังไปติดๆ
จากนั้นหลงเหยียนก็บังเอิญเห็นว่าพวกเขาสองคนหายไปบนกำแพงเขา
คิดว่าที่นี่ต้องมีถ้ำลับหรือถนนลับอะไรบางอย่างแน่ ที่นี่กว้างใหญ่ ไม่แน่อาจเป็โพรงถ้ำของเหล่าปีศาจอสูรสักอย่างก็ได้
หลงเหยียนครุ่นคิดครู่หนึ่ง เพื่อสิงโตน้อย ครั้งนี้เขาพร้อมสู้ตาย เขาต้องชิงต้นหิมะแปดทิศมารักษาอาการาเ็ของสิงโตให้ได้
ร่างะโพุ่งขึ้นไปในถ้ำนั้นอย่างไม่ลังเล เวลานี้ สองคนนั้นกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นที่มีกองไฟล้อมรอบ กำลังหลอมต้นหิมะแปดทิศ แต่หลงเหยียนที่บุกเข้ามาอย่างกะทันหันทำให้เขาใ
“ใคร? ช่างบังอาจเข้ามารบกวนเราสองพี่น้อง?” หนึ่งในนั้นะโเสียงดัง ไม่พูดพร่ำทำเพลง ขับเคลื่อนพลังปราณทันที หลงเหยียนหัวเราะด้วยเสียงเยือกเย็นแล้วเก็บกลิ่นอายบนตัว “ช้าก่อน ข้าถูกปีศาจอสูรตามล่าจึงได้หนีมาถึงที่นี่ เมื่อครู่ข้าเห็นเงาของคนกะพริบตามมา ข้ากลัวยิ่งนัก ขอท่านทั้งสองปล่อยข้าไปเถิด”
ชายที่พุ่งเข้ามาเก็บพลังปราณ ร่างหยุดเคลื่อนไหว เขารับรู้ได้ว่าหลงเหยียนมีพลังระดับชีพัขั้นที่เจ็ดจึงวางใจลงมาก
“ไอ้หนุ่ม เ้ามาจากที่ใด ใจกล้าไม่เบาเลย มีพลังเพียงขั้นที่เจ็ดยังกล้าเข้ามามุมลึกของเทือกเขาหยุนหลัวอีก ไม่รักตัวกลัวตายหรืออย่างไร”
หลงเหยียนจ้องไปยังต้นหิมะแปดทิศที่อยู่ในมือเขาจึงพูดประจบสอพลอ “พี่ชายทั้งสอง ข้ามาจากเมืองั พวกท่านเรียกข้าว่าเสี่ยวเหยียน หรือจะเรียกว่าเสี่ยวหลงก็ได้ ได้ยินคนตระกูลหลงอู่บอกว่าที่นี่มีสมบัติ ข้าจึงเข้ามาเสี่ยงดวง นึกไม่ถึงว่าเกือบเอาชีวิตไม่รอด”
เมื่อเห็นหลงเหยียนมีพละกำลังน้อยกว่า อีกทั้งใบหน้าดูซื่อๆ พวกเขาทั้งสองจึงปล่อยวางลงมาก
“ไอ้หนุ่ม เมื่อครู่เ้าทำข้าใแทบแย่ ในดินแดนป่าลึกแห่งนี้ พวกเราสองพี่น้องก็นึกว่าเจอภูตผีปีศาจเสียอีก ถึงกระนั้นก็มารบกวนการหลอมกายของพวกข้า เ้าจะชดใช้เราอย่างไร”
ดูจากการแต่งตัวของหลงเหยียนแล้ว คาดว่าต้องเป็เด็กหนุ่มที่อยู่ตระกูลใหญ่ อายุน้อยกลับมีพลังระดับชีพัขั้นที่เจ็ด ยังดีที่วันนี้เจอพวกเรา ฮึๆ!
หนึ่งในนั้นประกายความเ้าเล่ห์ในแววตา แล้วนึกในใจ ‘เ้าหมอนี่ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเอาเสียเลย มีพละกำลังนิดหน่อยก็นึกว่าตัวเองเข้ามาเผชิญอันตรายในนี้ได้แล้ว ทั้งยังเข้ามาในถ้ำนี้อีก เนื้อเข้าปากเสือ มีหรือที่จะยอมคายออก’
“เสี่ยวเหยียนใช่ไหม เฮ้อ! น่าเสียดาย น่าเสียดาย เหตุใดเ้าถึงไม่อยู่เมืองัดีๆ เหตุใดต้องเข้ามาในป่าลึกที่นี่ลำพังด้วย เ้านึกว่าการที่คนตระกูลหลงบอกว่ามีสมบัตินั่นหมายความว่าอยากให้พวกเ้าออกมาชิงสมบัติงั้นหรือ ได้ยินว่าเป็หญ้าวิเศษระดับมายาเป็ของล้ำค่าที่ทุกคน้า เพราะอยากสร้างความลำบากให้ตระกูลเซียว ต่อให้เ้าจะมีสมองก็หารู้ไม่ว่ามีคนจิตใจชั่วช้ามากเพียงใด ยกตัวอย่างเช่นพวกเรา…”
คนที่พูดแหงนหน้าหัวเราะ “เสี่ยวเหยียน บนตัวเ้าต้องมีของมากมายใช่หรือไม่ ต้องพกของเข้ามามากแน่ เอามาแบ่งพวกเราเสียหน่อย”
ขณะที่พูดอยู่นั้น เขาก็เตรียมลงมือ หลงเหยียนถอยหลังหนึ่งก้าว มือจับถุงผ้าเฉียนคุนแน่น ก่อนจะหยิบตำราสะท้านปฐีออกมา
“พี่ใหญ่ ฮือๆ อย่าฆ่าข้าเลย บนตัวข้า ของที่มูลค่าสูงที่สุดก็คือของชิ้นนี้แล้ว พวกท่านเอาไปเลย…”
“วิชาต่อสู้ระดับทองคำหรือ?” ทันใดนั้น แววตาของพวกเขาสองคนก็เป็ประกาย วรยุทธ์ระดับทองคำที่พวกเขาฝึกทุกวันนี้ยังเป็ตำราที่ขโมยมาจากตระกูลหนึ่งในหมู่บ้านฮวงหยาง พวกเขาทำตัวเป็โจร อาศัยที่มีพร์ด้านวรยุทธ์ ท่องไปทั่วหมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ไม่รู้ว่าทำความชั่วมามากเท่าใด ฆ่าเพื่อชิงทรัพย์คงเป็วิธีการที่พวกเขาใช้จนเคยชินแล้ว
เวลานี้ เห็นหลงเหยียนหยิบตำราระดับทองคำมาให้ พวกเขาสองคนรีบยื่นมือมาชิงอย่างรวดเร็ว ทว่าหลงเหยียนกลับประกายรอยยิ้มร้ายๆ ที่มุมปาก
ถึงกระนั้น เขายังจับต้นหิมะแปดทิศในมือแน่น หลงเหยียนมองแล้วประกายรังสีสังหารทันที
“พี่ใหญ่ ท่านมอบต้นหิมะแปดทิศในมือท่านให้ข้าช่วยดูแลก่อน แล้วพวกท่านค่อยชิงกันต่อ…”
เขาไม่ทันครุ่นคิด โยนต้นหิมะแปดทิศมาให้หลงเหยียนทันที หลงเหยียนนึกไม่ถึงว่าเื่จะสำเร็จง่ายปานนี้ ความจริงต้นหิมะแปดทิศไม่ได้ช่วยเื่การหลอมกายสักเท่าไร เพียงแค่เมื่อเจอมัน พวกเขาก็ไม่อยากปล่อยสูญเปล่า
หลงเหยียนนำต้นหิมะแปดทิศใส่เข้าไปในถุงผ้าเฉียนคุนให้ราชสีห์หิรัณย์ มองพวกเขาสองคนสู้กันด้วยรอยยิ้ม คนที่เรียกกันว่าพี่น้อง เวลานี้กลับต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงวรยุทธ์
“คนสกุลหลี่ ครั้งก่อนเ้าเป็คนอ่านวรยุทธ์ระดับทองคำก่อน ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่ยอมให้เ้าเอาไปฝึกก่อนแล้ว”
“ได้ เช่นนั้นเ้าก็เอาชนะข้าให้ได้สิ”
พวกเขาสองคนปล่อยพลังขั้นที่แปดออกมา ทว่าหลงเหยียนมองเพียงครู่เดียวก็รู้แล้วว่าพวกเขาทั้งสองมีพลังปราณไม่เพียงพอ คนบางส่วนไม่เคยเจอตำราวรยุทธ์มาก่อน กระบวนท่าที่พวกเขาใช้ ในสายตาหลงเหยียนแล้วยังเทียบไม่ได้กับหมัดทะลวงฟ้า วิชาต่อสู้เบื้องต้นในตระกูลหลงเลยด้วยซ้ำ
“หมัดดารา!”
“หมัดพยัคฆ์!” ทั้งสองหมัดปะทะกัน หลงเหยียนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดูเหมือนนี่คงเป็การะเิพลังขั้นสูงสุดของพวกเขาทั้งคู่แล้ว
--------------------