ตอนนี้ าาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือ และาาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ กำลังพยายามอย่างหนัก เพื่อแก้หมากในกระดานตรงหน้า ขณะที่กำลังเพ่งสมาธิไปกับการเดินหมากนั้น จู่ๆ ก็มีผู้ใต้บัญชาของคุณชายเก้าเข้ามากระซิบที่ข้างหูของคนทั้งคู่
ท่าทีของทั้งสองพลันเปลี่ยนไปทันที ใบหน้าเคร่งขรึมนั้นเงยขึ้นมา ก่อนมองดูผู้ส่งสาร
“ท่านอาจารย์ เกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านอาจารย์ ้าอะไรอย่างนั้นหรือ?”
กลุ่มศิษย์ต่างสงสัยในท่าทีของอาจารย์ตน ทว่าาาหมากล้อมทั้งสองหาได้ใส่ใจจะตอบไม่ เพียงหันหน้าไปมองกู่ไห่ที่อยู่ห่างออกไปอย่างไม่วางตา
ก่อนหน้านี้ คนทั้งสองให้ความสำคัญกับหมากล้อมตรงหน้าตนมากเกินไป จนไม่รับรู้ถึงการมาของอีกฝ่าย แต่ทันทีที่ได้รับข้อความจากคุณชายเก้าแล้ว พวกเขาพลันละทิ้งสิ่งที่ทำอยู่อย่างไม่ลังเล
ตรงหน้าของกู่ไห่ในยามนี้ มีหมากล้อมห้ากระดานวางเรียงกัน ซึ่งชายหนุ่มก็มิได้ใจร้อน ค่อยๆ คิดพิจารณา และตรวจสอบหมากตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะวางหมากลงไป
ทันใดนั้น จู่ๆ าาหมากล้อมทั้งสองก็ก้าวมาอยู่ตรงหน้าเขา
เหล่าศิษย์และคนรับใช้ต่างพากันกังขา แต่าาหมากล้อมทั้งสองกลับมิได้สนใจพวกเขา เพียงเดินฝ่ากลุ่มผู้ฝึกตนกว่าพันห้าร้อยคน ที่กำลังจ้องมองคนทั้งสองอย่างไม่เข้าใจ แล้วมุ่งตรงไปยังกู่ไห่ ซึ่งกำลังแก้หมากในกระดานตรงหน้า
ทุกคนต่างจ้องมองสองาาหมากล้อมด้วยความงุนงง กู่ไห่เองก็ค่อยๆ เงยหน้ามองผู้มาเยือนทั้งสองเช่นกัน
“ท่านกู่!” าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ทักทายด้วยท่าทีสุภาพ
“คารวะท่านกู่!” าาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือเอ่ยอย่างนอบน้อม
เพราะพลังของทั้งสองอยู่ในระดับหยวนอิง ส่วนกู่ไห่เพิ่งจะอยู่ในระดับก่อ์ จึงทำให้ผู้ฝึกตนที่อยู่โดยรอบต่างรู้สึกสับสน เมื่อเห็นว่าสองาาหมากล้อมปฏิบัติต่ออีกฝ่ายอย่างถ่อมตนเช่นนี้
กู่ไห่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้แล้วหรือ? แม้เขาจะมีค่ายกลตารางหมากยี่สิบแปดเส้น และสังหารศิษย์สำนักซ่งเจี่ยไปนับไม่ถ้วน แต่หากพูดถึงความแข็งแกร่งแล้ว ก็ยังไม่อาจเทียบกับระดับหยวนอิงได้
ทว่าที่าาหมากล้อมทั้งสองให้เกียรติอีกฝ่าย หาใช่ด้วยชื่อเสียงของเขา แต่เป็เพราะคุณชายเก้าให้ความสนใจต่อชายผู้นี้ ทั้งสองได้ยินมาว่าคุณชายเก้านั้น ให้ความสำคัญกับกู่ไห่มาก แต่จะมากกว่าพวกเขา ที่เป็ถึงาาหมากล้อมหรือ?
“โอ้! าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และาาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือ ท่านทั้งสองมีเื่ที่จะชี้แนะข้าหรือ?” กู่ไห่ถาม
“มิกล้าๆ แค่ ‘เห็นการล่าสัตว์ จิตใจเบิกบาน[1]’ ดังนั้น เมื่อข้าเห็นทักษะของท่านกู่แล้ว จึงอยากจะลองประลองหมากกับท่านดูสักครั้ง” าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้พูดเสียงเรียบ
“ข้าก็เช่นกัน... ท่านกู่โปรดชี้แนะด้วย” าาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือกล่าวเสริม
“หืม?”
“าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้และทะเลเหนือ กำลังท้าประลองหมากกับท่านกู่”
“แต่ทั้งสองเป็ปรมาจารย์หมากล้อมที่มีชื่อเสียงมานาน เช่นนี้แล้ว เหตุใดยังต้องท้าประลองกับท่านกู่ล่ะ?”
เหล่าผู้ฝึกตนต่างมองไปยังสถานการณ์ตรงหน้า ด้วยความประหลาดใจ
ในเวลาเดียวกัน ติงตงที่กำลังเดินอยู่ไม่ไกล เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็แปลกใจไม่น้อย
าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้และทะเลเหนือ กำลังท้าประลองกับกู่ไห่หรือ?
นี่เขาจำเป็รายงานเื่นี้ให้เปี่ยวอี๋ทราบหรือไม่?
ชายชรายังคงเดินเตร่ไปรอบๆ บริเวณ พลางสอดส่องสถานการณ์ตรงหน้า
ไม่ไกลกันนัก าาหมากล้อมชุดดำก็หยุดมือ มองไปยังจุดที่กู่ไห่นั่งอยู่ด้วยความสนใจใคร่รู้ ส่วนผู้สวมชุดดำซึ่งอยู่ด้านข้าง ที่ดูเหมือนจะเป็หญิงสาวนั้น ก็กำลังเกาะแขนของเขาแน่น ราวกับหวาดกลัวบางอย่าง
าาหมากล้อมในชุดดำ จึงปลอบประโลมหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนหันไปมองกู่ไห่อีกครั้ง
ชายหนุ่มมองาาหมากล้อมทั้งสองด้วยความพิศวง ในใจก็นึกสงสัย ว่าชายทั้งสองคนตรงหน้า้าอะไร
ขณะเดียวกัน สองาาหมากล้อมก็ยังคงจ้องกู่ไห่ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยจิติญญาแห่งการต่อสู้ ทว่าแฝงเร้นไว้ด้วยความวิตกกังวลเล็กน้อย
กู่ไห่เผยรอยยิ้มจางๆ ก่อนเอ่ย “หากท่านทั้งสอง้า ข้าเองก็ได้ลองแก้หมากไปร้อยกว่ากระดานแล้ว ความยากของหมากแต่ละกระดานก็มิได้ต่างกันมากนัก หากข้าจะใช้การแก้หมากเหล่านี้ในการประลอง ท่านคงไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่?”
“ดี!”
“ได้อย่างแน่นอน!”
าาหมากล้อมทั้งสองตอบอย่างพึงพอใจ
กู่ไห่พยักหน้า จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาแก้หมากในกระดานตรงหน้าตนเช่นเดิม
เมื่อเห็นลักษณะการเดินหมากของกู่ไห่ าาหมากล้อมผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองก็ได้เรียนรู้รูปแบบการเล่นเช่นนี้ และทำตาม โดยสั่งให้ศิษย์นำหมากห้ากระดานมาวางไว้ตรงหน้าพวกตนเช่นกัน
ก๊อกๆ!
ไม่ช้า หมากทั้งห้ากระดานของกู่ไห่ก็ถูกแก้จนแล้วเสร็จ เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้ฝึกตนบางคนจึงรีบปรี่เข้ามาช่วยกู่ไห่ ดึงกระดานหมากมาให้ใหม่อีกห้ากระดานทันที
“ท่านกู่ ท่าน้าพักก่อนหรือไม่?” าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ถามขึ้น
“ไม่จำเป็... เริ่มเถอะ!” กู่ไห่กล่าว พลางยกยิ้ม
“ดี!” าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้และทะเลเหนือตอบ
และแล้ว พวกเขาต่างก็มองกระดานหมากล้อมทั้งห้าของตัวเอง
ตอนนี้ กู่ไห่เข้าภวังค์อีกครั้ง เขาอ่านกลหมากในกระดานตรงหน้าทันที ก่อนหน้านี้ แม้จะลงมือแก้หมากอย่างรวดเร็ว แต่จังหวะการเดินมากของชายหนุ่มกลับสม่ำเสมอ แสดงให้เห็นว่ามีสมาธิจดจ่ออยู่กับกระดานหมากตรงหน้าตลอดเวลา
ก๊อกๆๆ!
าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และาาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือ ก็ดูจะกระตือรือร้น อยากแก้หมากทั้งห้ากระดานในคราวเดียว ทั้งสอง้าที่เอาชนะกู่ไห่ ดังนั้นการประลองหมากครั้งนี้ จึงตั้งใจมากเป็พิเศษ
ทั้งสองทิ้งตัวลงนั่ง เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่โดยรอบ ต่างก็มองดูพวกเขาด้วยความประหม่า
“ดูเหมือนจะเป็การเดินหมากที่น่าสนุก” ติงตงกล่าว พลางยกยิ้ม และยืนดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ
หลังจากจุดธูป เป็สัญญาณเริ่มการประลอง
ก๊อก!
าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ สามารถแก้หมากได้แล้วหนึ่งกระดาน
ก๊อก!
าาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือเอง ก็แก้หมากได้แล้วเช่นกัน
แต่กู่ไห่กลับมีท่าทีสบายๆ และยังคงเดินหมากตรงหน้าอย่างสงบ
าาหมากล้อมทั้งสองแก้หมากตรงหน้าตน ทีละกระดานด้วยความประหม่า พลางเหลือบมองหมากอีกสี่กระดานอย่างต่อเนื่อง
หยาดเหงื่อเริ่มผุดขึ้น ตามกรอบหน้าของาาหมากล้อมทั้งสอง หมากในกระดานตรงหน้าเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่วางหมากลงไป
สุดท้าย ความตั้งใจก็สัมฤทธิผล ยามนี้พวกเขาสามารถแก้หมากได้สี่กระดานแล้ว ยังเหลืออีกเพียงหนึ่งกระดานเท่านั้น ในขณะที่กู่ไห่ยังไม่อาจแก้หมากได้เลยแม้แต่กระดานเดียว
ลงมือต่อ...
าาหมากล้อมทั้งสองหมายมั่นปั้นมือเป็อย่างมาก ในการแก้หมากกระดานสุดท้ายนี้
ก๊อกๆๆๆๆ!
กู่ไห่ค่อยๆ วางหมากทั้งห้าเม็ดลงไป
“ท่านกู่แก้หมากทั้งห้ากระดานพร้อมกัน!” จู่ๆ ใครบางคนก็ร้องอุทานด้วยความใ
ก๊อก! ก๊อก!
าาหมากล้อมทั้งสองยังคงแก้หมากต่อไป
“าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และาาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือ ก็สามารถแก้หมากได้แล้วเช่นกัน”
ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่า ตอนนี้พวกเขาทั้งสาม สามารถแก้หมากทั้งห้ากระดานของตนได้สำเร็จ ในเวลาไล่เลี่ยกัน
เหล่าศิษย์สำนักติงหลงจึงมอบหินิญญาให้คนทั้งสาม ส่วนผู้ฝึกตนคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านข้างนั้น ก็ดึงหมากห้ากระดานลงมาให้พวกเขาอีกครั้ง
าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และาาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือจมเข้าสู่ห้วงภวังค์อีกครั้ง ตอนนี้ตามใบหน้าและร่างกายของพวกเขา เปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ
เมื่อเห็นเช่นนั้น กู่ไห่จึงเหลือบมองคนทั้งสองด้วยความไม่เข้าใจ... จะประลองกับตนเองไปเพื่ออะไร? ชายหนุ่มส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนหันไปจดจ่อกับกระดานหมากตรงหน้าตน
“เ้าคิดว่าพวกเขาทั้งสามคน ใครจะเป็ผู้ชนะ?”
“ต้องเป็าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้แน่นอน ทักษะหมากของเขาแข็งแกร่งที่สุด”
“แต่ข้าว่าน่าจะเป็าาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือ การวางหมากของเขารอบคอบยิ่ง”
“ไม่! ข้าคิดว่าเป็ท่านกู่ที่ดูสุขุมใจเย็น เขาจะต้องชนะแน่!”
...
ในห้องเล็กใต้หลังคาที่อยู่ไม่ไกลกันนัก คุณชายเก้าที่ลอบมองสถานการณ์อยู่ พลันหรี่ตาลง
“คุณชายเก้า าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และาาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือ จะชนะหรือไม่?” ผู้ใต้บังคับบัญชาถามด้วยความสงสัย
“พวกเขาสองคนแพ้แล้ว!” คุณชายเก้าเอ่ยเสียงเรียบพลาง พร้อมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
“อา? นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น แต่คนทั้งสามกลับมีท่าทีที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และาาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือ ต่างก็แสดงความสิ้นหวังออกมา บนใบหน้ามีแต่เหงื่อผุดพราย ทั้งยังเอาแต่ลอบมองกู่ไห่ั้แ่ต้นจนจบ ส่วนกู่ไห่ ไม่ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย” คุณชายเก้าพูดเสียงแ่
“แต่...”
“าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และาาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือเพียงแค่สังเกตรูปแบบของหมากบนกระดาน แต่ไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่หมาก้าจะสื่อ
แต่จากที่กู่ไห่ได้เอ่ยเอาไว้ในคราแรก ว่าความยากของหมากเหล่านี้ไม่ต่างกันมากนัก แสดงว่าเขาสามารถรับรู้ได้ถึงเจตนารมณ์ของหมากแล้วนั่นเอง” คุณชายเก้าบอกเบา ๆ
“เจตนารมณ์ของหมากล้อม?”
“หมากทั้งสามพันกระดานนี้ คือหมากที่ต้องใช้การคิดวิเคราะห์ ท้ายที่สุด าาหมากล้อมทั้งสองก็ยังคงไม่อาจเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้ จึงทำให้ต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก ในการแก้หมากตรงหน้า
แต่กู่ไห่กลับทำได้ โดยการมุ่งเน้นที่จะเข้าใจในกลหมากเหล่านี้ ยิ่งแก้มาก ก็ยิ่งเข้าใจ” คุณชายเก้ากล่าวเสียงเรียบ
คนใต้อาณัติเมื่อได้ยินเช่นนั้น ต่างก็แสดงอาการงุนงงออกมา
“ดูสิ! การแก้หมากระหว่างกู่ไห่ กับาาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และทะเลเหนือ...” คุณชายเก้าพูด พลางหรี่ตา
...
แน่นอนว่ากู่ไห่ยังคงสุขุมและดูผ่อนคลาย ทว่า าาหมากล้อมทั้งสองนั้น กลับเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน และเศร้าหมองมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกครั้งที่วางหมาก
หากค่อยๆ เดินหมาก พวกเขาก็คงจะทำมันได้ดีไม่ต่างกัน แต่นี่คือการแข่งขัน พวกเขาไม่อาจชะลอความเร็ว ได้แต่ต้องว่องไวยิ่งกว่าเดิมเท่านั้น!
ก๊อกๆๆๆๆ!
ในที่สุด หมากทั้งห้ากระดานของกู่ไห่ก็ถูกแก้จนหมด
ตอนนี้าาหมากล้อมทั้งสอง แก้หมากทั้งห้ากระดานของตนช้ากว่ากู่ไห่ไปก้าวหนึ่ง
“ต่อไป!” าาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือเอ่ยเสียงเครียด
หมากจึงได้ถูกแก้ต่อเรื่อยๆ โดยพวกเขาทั้งสาม
ขณะนี้ ทุกคนต่างให้ความสนใจ กับการประลองหมากตรงหน้าเป็อย่างมาก ราวกับว่าพวกเขากำลังดูัั์สู้กันก็มิปาน
การประลองหมากดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ราวสองชั่วยามครึ่ง[2]
ใน่เวลาดังกล่าว กู่ไห่สามารถแก้หมากได้มากถึงสองร้อยกระดาน เช่นเดียวกับสองาาหมากล้อม
“จากที่ข้าดู การวางหมากของท่านกู่นั้น เป็จังหวะสม่ำเสมอมาก แม้แต่เวลาในการแก้หมากแต่ละกระดาน ก็ยังเท่ากันเลยมิใช่หรือ?” หนึ่งในกลุ่มคนถามด้วยความประหลาดใจ
“อืม! ดูเหมือนว่ากระดานทั้งห้าของท่านกู่จะรวมเป็หนึ่งเดียว?”
“คงจะเป็เช่นนั้น ท่านกู่สามารถแก้หมากตรงหน้า ด้วยเวลาเท่าๆ กันทุกครั้งได้อย่างไร?”
ผู้ฝึกตนที่อยู่โดยรอบต่างมองไปยังกู่ไห่ด้วยความสงสัย
การเดินหมากภายใต้อำนาจจิตที่ทรงพลัง ทำให้าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และาาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือ มีอาการอ่อนเพลียยิ่ง ต่างมองเม็ดหมากในมือด้วยสีหน้ามึนงง
“ท่านอาจารย์ พอเถอะขอรับ!”
“ท่านอาจารย์ ไม่ต้องเดินหมากแล้วขอรับ!”
กลุ่มศิษย์ต่างรู้สึกกังวลอย่างหาที่เปรียบมิได้
“ไปให้พ้น!”
“หุบปาก!”
าาหมากล้อมทั้งสองตวาดไล่กลุ่มคนใต้อาณัติอย่างโกรธเกรี้ยว ก่อนจดจ่อกับการแก้หมากอีกครั้ง ราวกับว่าพร้อมจะเดิมพันหมากเหล่านี้ ด้วยชีวิตของตนเอง
บัดนี้ ผู้ฝึกตนที่อยู่โดยรอบ เริ่มสังเกตเห็นความได้เปรียบของกู่ไห่ ชัยชนะในการประลองหมากครั้งนี้ คงต้องตกเป็ของเขาเสียแล้ว
แต่คนที่มีความสุขที่สุดก็คือติงตง หมากกว่าหกร้อยกระดานได้ถูกแก้ไปแล้ว และดูเหมือนว่าจะแก้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ...
“พรวด!”
ทันใดนั้น าาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือพลันกระอักโลหิต เืสีแดงสดสาดกระเซ็น ย้อมกระดานหมากจนแดงฉาน
“ท่านอาจารย์!”
“พรวด!”
ทางด้านาาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ ก็เป็เช่นเดียวกัน
“อาจารย์!”
ศิษย์ทั้งหลายต่างตื่นตระหนก รีบปรี่เข้าหาอาจารย์ของตนทันที
ตอนนี้ าาหมากล้อมผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองถึงกับอาเจียนเป็เื ดูอ่อนแรง ดั่งตะเกียงที่กำลังจะขาดน้ำมันกระนั้น
เม็ดหมากในมือชะงักค้าง กู่ไห่หยุดเดินหมาก ก่อนมองไปยังสองาาหมากล้อม พลางขมวดคิ้วแน่น “ท่านทั้งสอง ยังไหวหรือไม่?”
าาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือเผยรอยยิ้มบางๆ ก่อนเอ่ย “ท่านกู่ ทักษะหมากล้อมของท่านดีมากจริงๆ!”
“การเดินหมากควรนำมาซึ่งความสุข อย่าวางเกวียนไว้หน้าม้า[3]เลย ขอบคุณท่านทั้งสองที่ชี้แนะ!” กู่ไห่กล่าว
“กูไห่... เ้าเป็ใคร จึงได้กล้ามาสั่งสอนท่านอาจารย์?” ลูกศิษย์ของคนทั้งสอง ต่างตำหนิกู่ไห่ทันที
“หุบปาก!” าาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และาาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือ ต่างดุศิษย์ของตนทันที
เหล่าศิษย์ต่างจ้องกู่ไห่เขม็ง
“แต่... ท่านอาจารย์” กลุ่มลูกศิษย์เอ่ยอย่างไม่พอใจ
“หากศิษย์ของเ้าไม่อาจสงบปากได้เช่นนี้ กู่ไห่น่าจะทุบตีพวกเขา จนกว่าจะกระอักเืเสียตั้งนานแล้ว ไม่ควรปล่อยไว้จนถึงตอนนี้” ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของาาหมากล้อมทั้งสอง
“หือ?” ทุกคนหันหน้าไปมองผู้มาใหม่
เป็ชายชุดขาวผู้หนึ่ง ในมือถือพัดพับ กำลังค่อยๆ เดินตรงมาหาพวกเขา พร้อมด้วยกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาชุดเทา ที่เดินตามมาด้วยความนอบน้อม
ท่าทีของาาหมากล้อมแห่งทะเลใต้ และาาหมากล้อมแห่งทะเลเหนือ พลันแปรเปลี่ยน ต่างลุกขึ้นทันทีเพื่อทักทาย แต่ก็ต้องหยุดไป เมื่อชายชุดขาวโบกมือปรามเป็นัยมิให้เอ่ยปาก
กู่ไห่มองชายหนุ่มชุดขาวตรงหน้า สลับกับท่าทีที่แปลกไปของสองาาแห่งหมากล้อม... เป็เพราะคนชุดขาวผู้นี้หรือ?
“ท่านกู่ ข้าก็เคยศึกษาการเดินหมากมาบ้างนิดหน่อย หากท่านยังไม่ยอมแพ้ เช่นนั้นข้าขอโอกาสแก้มือแทนาาหมากล้อมทั้งสองได้หรือไม่?” ชายหนุ่มชุดขาวพูดกลั้วหัวเราะ
เหล่าผู้ฝึกตนต่างจ้องชายหนุ่มสวมชุดขาวด้วยความข้องใจ... คนผู้นี้เป็ใครกัน? เขามาจากไหน? อาการหอบหายใจแรงนี่คืออะไร? เขา้าแก้มือแทนสองาาหมากล้อมอย่างนั้นหรือ?
“ข้ายินดีประลองหมากกับท่าน แต่ยังไม่รู้ชื่อของท่านเลย ข้าควรจะเรียกท่านว่าอย่างไร?” กู่ไห่ถามกลับด้วยความสงสัย
“เรียกข้าว่า กวนจิ่ว!” ชายหนุ่มกล่าว พลางยกยิ้ม
กวนจิ่ว?
เหล่าผู้ฝึกตนต่างสบตากันทันที รู้สึกเคลือบแคลงในตัวตนของเขา
... กวนจิ่วคือใคร? ไม่เคยมีผู้ใดได้ยินชื่อนี้ในทะเลพันเกาะมาก่อน
---------------------------------------
[1] เห็นการล่าสัตว์ จิตใจเบิกบาน (见猎心喜) เป็สำนวนจีน ใช้เพื่อเปรียบเปรยว่านิสัยและความเคยชินนั้นยากที่จะลืม ยิ่งเมื่อพบแรงกระตุ้นเดิมๆ ก็มักจะอดใจไม่ไหว
[2] สองชั่วยามครึ่ง เท่ากับห้าชั่วโมง
[3] อย่าวางเกวียนไว้หน้าม้า (本末倒置) เป็สุภาษิตจีน หมายถึงอย่าเรียงลำดับความสำคัญสลับกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้