พิเศษ ตอนที่ 3
...
“หม่ำ หม่ำ”
เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเศษ ที่กำลังนั่งเก้าอี้รอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อ โดยที่เก้าอี้ข้างกันนั้นยังมีเด็กชายพี่น้องฝาแฝดที่ทำหน้านิ่งมองหน้าอลิซที มองหน้าผู้เป็พ่อที และเด็กน้อยก็รอเพียงไม่นานผู้เป็แม่อย่างกอหญ้าก็เดินมาพร้อมกับอาหารสีสันสดใสน่ารับประทานนำมาวางไว้ที่เก้าอี้ ส่งผลให้เด็กน้อยอารมณ์ดีอย่างอลิซปรบมือดีใจยกใหญ่
“หม่ำ หม่ำ”
“โอเค ข้าวมาแล้วลูกสาวป๊าจะได้กินข้าวแล้ว”
“อาร์เดนหิวข้าวมั้ยลูก”
“…”
ไม่มีเสียงตอบรับจากลูกชายของเธอมีเพียงตาตาที่ดุราวกับเสือร้ายที่จดจ้องมองไปที่จานข้าวอย่างไม่ละสายตา ดูท่าทางแล้วเขาจะได้ลูกชายที่ค่อนข้างเงียบมากมาคนหนึ่งแน่นอน กอหญ้าไม่ลีลาให้ลูกต้องรอนาน เธอส่งสัญญาณให้ราชันย์เริ่มป้อนข้าวลูกได้ ถึงแม้อาร์เดนจะมีท่าทีไม่เป็มิตรสักเท่าไหร่ แต่พอเธอป้อนข้าวให้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะไม่ทาน ผ่านไปเพียงไม่นานข้าวผัดสีสันสดใสก็หมดเกลี้ยงจานทั้งคู่ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เป็แม่เป็อย่างมาก
“หม่ำ”
และยังคงเป็เช่นนี้ อาร์เดนจะส่งเสียงร้องขอก็ต่อเมื่อเห็นจานผลไม้เท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลูกชายของเขาแลดูจะชอบผลไม้เป็พิเศษ
“วันนี้เป็องุ่นนะครับอาร์เดน ลูกป๊าชอบกินผลไม้จริง ๆ เลย”
“หม่ำ”
“อาร์เดนรอมี๊แป๊บนึงได้ไหม มี๊เอาจานไปเก็บก่อนรอกินพร้อมมี๊นะคะ”
มือน้อย ๆ ของลูกชายสุดที่รักที่กำลังหยิบองุ่นของโปรดก็หยุดชะงักทันทีที่กอหญ้าพูดขึ้น เด็กน้อยมองหน้าผู้เป็แม่นิ่งก่อนจะนำมือออกจากจานองุ่นที่แสนจะยั่วยวน เขามองจานองุ่นสลับกับมองหน้าผู้เป็แม่หลายต่อหลายรอบ เมื่อกอหญ้าเห็นว่าอาร์เดนเองก็พอจะรู้เื่แล้วเธอเลยหันไปมองที่อลิซบ้าง ก็เห็นว่าอลิซเองก็มองจานองุ่นตาเป็มันเช่นกัน แต่ไม่มีท่าทีจะหยิบมาทานก่อน เธอจึงเก็บจานข้าวและแก้วน้ำไปเก็บในครัวทันที
“รอมี๊ก่อนนะ รอมามี๊มาค่อยกินนะครับ”
ราชันย์เอง่แรกก็ไม่ชอบวิธีการของกอหญ้าเท่าไหร่ เพราะเป็ห่วงลูกกลัวลูกหิว แต่กอหญ้าอธิบายว่าต้องเริ่มฝึกให้เด็กรู้จักอดทนรอั้แ่เด็ก ราชันย์ก็ยอมเข้าใจแม้จะต้องพูดกันหลายรอบหน่อยก็เถอะ ราชันย์เองก็ได้แต่นั่งมองลูกที่นั่งมองหน้าเขาสลับกับมองจานองุ่นเป็ระยะ ในใจก็รู้สึกสงสารแต่อีกใจก็คิดว่าเป็การฝึกความอดทนลูกไปในตัว อีกอย่างไม่อยากขัดใจเมียด้วย
“มาแล้วค่า เอาล่ะ! ทานได้จ้า”
เพียงได้ยินการอนุญาตของผู้เป็แม่ ทั้งอลิซและอาร์เดนก็จัดการหยิบผลองุ่นเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งราชันย์และกอหญ้าเองก็เฝ้าดูการเติบโตของพวกเขาไม่ห่าง อาร์เดนและอลิซหยิบองุ่นด้วยมือป้อม ๆ ของเขามายื่นให้ผู้เป็พ่อและแม่ที่นั่งมองอยู่ด้านหน้า แขนสั้น ๆ ป้อม ๆ ของทั้งคู่ยิ่งสร้างความน่าเอ็นดูจนหลงแล้วหลงอีก หลงไม่ไหว
“วันนี้ตอนเย็นเราพาลูก ๆ ไปเดินรับลมหน่อยมั้ย”
“ได้ค่ะเฮีย แต่ตอนนี้เฮียดูเด็ก ๆ ก่อนได้ไหมคะ หญ้าเวียนหัว”
“เป็อะไรมากหรือเปล่า ไปหาหมอมั้ย”
“ไม่เท่าไหร่ค่ะ น่าจะหญ้านอนน้อย”
“งั้นหญ้าไปนอนพักนะ เดี๋ยวลูกเฮียดูเอง ไม่ต้องห่วงนะ”
“ค่ะ หญ้านอนแป๊บหนึ่งนะ”
เื่ดูลูกไม่ใช่ปัญหาสำหรับราชันย์ ั้แ่ที่เขาและกอหญ้าตัดสินใจมาเริ่มใช้ชีวิตครอบครัวจริง ๆ เขาก็เรียนรู้การดูแลเด็กอ่อนทั้งจากจ้างพยาบาลมาฝึกสอน ทั้งเรียนรู้ผ่านแอปพลิเคชัน อะไรที่ว่าดีอะไรที่ว่าปลอดภัยราชันย์เอาหมด จนในที่สุดเขาก็เรียกได้ว่ามือโปรในการเลี้ยงลูกเลยก็ว่าได้ ให้ดูลูกแค่นี้สบายมาก
หลังจากที่ลูกชายลูกสาวกินอิ่มแล้ว ราชันย์ก็พามานั่งเล่นในบ้าน เด็กวัยขวบเศษ กำลังกินกำลังเล่นและตอนนี้กำลังหัดเดินเตาะแตะ การเลี้ยงลูกสองคนสำหรับเขาแล้วไม่ยากอย่างที่คิด อาจจะเพราะมีเว่ยเอินช่วยด้วย
“เดินมาหาป๊าตรงนี้ มามะ”
“แอะ”
“เดินมาอีกหน่อย”
“แอะ แอะ”
“เดินมาอีกหน่อยอลิซมาหาป๊ามา อาร์เดนค่อย ๆ มานะ”
“คุณราชันย์พักหน่อยมั้ยคะ เดี๋ยวเว่ยเอินดูหลาน ๆ ต่อให้ค่ะ”
“งั้นขอฝากเด็ก ๆ แป๊บนึงนะเว่ยเอิน ผมขอไปหาอะไรกินหน่อย”
“ได้ค่ะ”
“อยู่กับพี่สาวก่อนนะ เดี๋ยวป๊ามานะครับ”
ราชันย์วางมือหนาลงบนเส้นผมนุ่มนิ่มของเด็ก ๆ โยกไปมาเล็กน้อย อาร์เดนและอลิซเองก็มองเขาด้วยดวงตาแป๋วแหวว หลังจากที่ราชันย์นั้นฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยงคนสวยอย่างเว่ยเอิน เขาก็เดินตรงเข้ามาในห้องน้ำ มีความรู้สึกคลื่นไส้ เวียนหัว เขากอดชักโครกแน่น เกร็งคอพยายามอาเจียนสิ่งที่อยู่กระเพาะออกมา ราวกับสิ่งที่อยู่ในนั้นคือของร้อน
เขากอดคอเป็เพื่อนกับชักโครกอยู่นานพอสมควร โดยที่ไม่มีอะไรออกมานอกจากน้ำที่ไหลย้อนออกมาจากกระเพาะอาหารเพียงเล็กน้อย สร้างความพะอืดพะอมให้กับเ้าตัวเป็อย่างมาก ราชันย์ค่อย ๆ เดินออกจากห้องน้ำ ที่มีกอหญ้ากำลังยืนอุ้มอลิซ และเว่ยเอินที่กำลังยืนอุ้มอาร์เดนยืนอยู่หน้าห้องน้ำ สีหน้าของกอหญ้าแสดงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
ราชันย์เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทีที่คล้ายจะหมดแรง แต่ก็ยังไม่วายเดินตรงมาหาภรรยาสุดที่รัก ถึงแม้ร่างกายจะไม่อำนวยแต่ก็คงไม่สามารถห้ามความรู้สึกรักเมียของเขาไว้ได้
จุ๊บ!
“เฮียเป็ไงบ้างคะ ไม่สบายหรอ”
“เฮียว่าเฮียก็ปกตินะ แต่เฮียเห็นอะไรก็คลื่นไส้ตลอดเลย”
“ไปหาหมอไหม”
“ไม่เป็ไร เฮียนอนพักก็น่าจะหาย”
“แน่ใจนะเฮีย”
“แน่ใจจ้ะ ว่าแต่หญ้าฉีดน้ำหอมหรอ”
“เปล่านะคะ กลิ่นอะไรหรอ”
“หอมมากเลย เฮียชอบ”
“แต่หญ้ารู้สึกว่า่นี้เฮียตัวเหม็นอะ”
“หืมมม เฮียอาบน้ำนะ”
“ไม่รู้สิหญ้าว่ากลิ่นตัวของเฮียเหม็นแปลก ๆ”
กอหญ้าไม่ได้พูดเล่น แต่เธอรู้สึกว่าราชันย์นั้นมีกลิ่นตัวที่ผิดจากปกติ เป็กลิ่นที่เตะจมูกแบบแปลกกว่าที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังคงใช้แชมพูกลิ่นเดิม ครีมอาบน้ำกลิ่นเดิม และน้ำหอมก็ยังคงกลิ่นเดิม แต่สองสามวันมานี้เวลาเจอราชันย์กลับมีกลิ่นที่แปลกไป แต่เธอไม่กล้าพอที่จะบอกกับเขา กลัวว่าผู้เป็สามีของตนจะน้อยใจแต่พอยิ่งเห็นเขา อาการเหม็นกลิ่นตัวเขาก็ยิ่งจุกในอกมากขึ้นจนบางครั้ง ก็อยากที่จะเดินหนีเขาให้พ้น ๆ ต่างกันกับราชันย์ที่มีความ้าที่อยากจะคลอเคลียนัวเนียกับผู้เป็ภรรยาตลอดเวลา อยากอยู่ใกล้อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อยากจะไปไหนมาไหนทำอะไรด้วย เขารู้สึกว่ากลิ่นกายของกอหญ้าหอมเป็พิเศษ และเป็สิ่งเดียวที่เขาไม่รู้สึกคลื่นไส้เวลาพบเจอ
และเพียงแค่เขาออดอ้อนเมียได้ไม่นานนัก ความมวนท้องก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ยังไม่ทันที่จะได้เดินออกจากหน้าห้องน้ำ ราชันย์ก็หันหลังตรงดิ่งเ้าไปกอดคอชักโครกสุดที่รักเช่นเดิม กอหญ้าเองถึงแม้จะเห็นความทรมานของราชันย์ก็เถอะ แต่พอเธอจะก้าวขาเข้าไปลูบหลังก็ต้องชะงัก เพราะเมื่อเห็นหน้าราชันย์เธอเองกลับรู้สึกคลื่นไส้มาเสียอย่างนั้น
“พี่หญ้าเป็อะไรหรือเปล่าคะ”
“พี่ไม่เป็ไร เว่ยเอินเอาหลานมาให้พี่แล้วพี่ฝากดูแลเฮียให้ที”
“ได้ค่ะ”
“เฮีย หญ้าพาลูกไปนอนก่อนนะคะ”
“เฮียไปด้วย”
“ไม่เป็ไรค่ะ หญ้าพาไปคนเดียวได้”
“แต่เฮีย..โอ๊กกก..”
“…”
“เฮีย.. อยาก.. ไปด้วย”
“คุณราชันย์ เว่ยเอินว่าคุณราชันย์ไปหาหมอไหมคะ หรือว่าอาหารเป็พิษ”
“มันแค่คลื่นไส้ แต่ไม่มีอะไรออกมาเลย”
“นั่นแหละค่ะ ไปหาหมอเถอะขับรถไหวมั้ยคะ”
“ไปเถอะเฮีย หญ้าไปเตรียมเอกสารก่อน”
“ก็ได้”
แม้ความรู้สึกเหม็นกลิ่นของราชันย์จะมากขึ้นทุกที แต่ก็ไม่สามารถทำให้ความกังวลของกอหญ้าลดลงได้เช่นกัน เดิมทีกอหญ้าเองจะพาเ้าแฝดไปด้วย แต่เว่ยเอินอาสาดูแลเด็กให้เอง เื่ดูแลเ้าแฝดสำหรับเว่ยเอินเองก็ใช่ว่าจะน้อยหน้าปฏิเสธหรือกอหญ้า เพราะั้แ่กอหญ้าคลอดแฝดมา เว่ยเอินก็เรียกได้ว่าคือแม่นมคนหนึ่งได้เช่นกัน และเ้าแฝดเองก็ติดไม่ไยดีอินมากเหมือนกัน เื่พานอน ป้อนข้าว อาบน้ำ หรือเล่น ก็คือไม่ต้องเป็ห่วงเลย
เมื่อทั้งคู่วางใจเื่เ้าแฝด ราชันย์ก็พากอหญ้าขับรถมายัง โรงพยาบาล เมื่อซักประวัติทุกอย่างเรียบร้อยกอหญ้าก็พาราชันย์มานั่งรอหมอที่หน้าห้องตรวจ รอเพียงชั่วครู่คุณหมอก็เรียกให้เข้าห้องตรวจ ราชันย์ดึงแขนเสื้อของกอหญ้าเป็การบอกว่าให้เธอเดินเข้าไปด้วย เมื่อราชันย์เข้ามาในห้องตรวจ ทั้งราชันย์และกอหญ้าก็นั่งลงตรงข้ามคุณหมอคนสวย
“คนไข้เป็อะไรมาคะ”
“ผมรู้สึกคลื่นไส้ และอยากอาเจียน แต่ไม่มีอะไรออกมาเลยครับ เหมือนร่างกายหมดแรง และเหม็นทุกอย่าง”
“อดอาหาร หรือกินอาหารตรงเวลาไหมคะ”
“ก่อนหน้านี้กินได้ปกติครับ มี่สามสี่วันมานี้ ที่ได้กลิ่นอะไรก็เหม็นหมดเลย”
“เหม็นทุกอย่างเลยหรอคะ”
“ครับ ยกเว้นกลิ่นลูกชายลูกสาว แล้วก็เมียผมครับ”
