ตู้เ้าฮุยถูกดักทำร้ายระหว่างเดินทางไปสนามบิน
ทังหงเอินได้รับแจ้งข่าวนี้ั้แ่เช้าตรู่
“ตู้เ้าฮุยปลอดภัยไหม”
“ตัวเขาได้รับาเ็เพียงเล็กน้อยครับ ได้ยินว่าคนขับและคนติดตามของเขา คนหนึ่งเสียชีวิต อีกคนได้รับาเ็สาหัส ส่วนพวกที่ดักทำร้ายคุณเสี่ยวตู้ตายไป 5 คน และมีบางส่วนหนีไปได้ครับ”
เลขาเผิงแจ้งข้อมูลล่าสุดที่เขาได้รับมาแก่ทังหงเอิน
ทังหงเอินย่อมรู้สึกไม่พอใจ
เพิ่งเจรจาตกลงกับตู้เ้าฮุยได้บางเื่ ตู้เ้าฮุยก็มาถูกลอบฆ่าเสียอย่างนั้น ใครกันที่ไม่อยากให้ตู้เ้าฮุยลงทุนที่เผิงเฉิง?
เลิกคิดที่จะเอาวิธีการของชาวฮ่องกงมาใช้ในแผ่นดินใหญ่เสียทีเถิด เอะอะก็ลงมือฆ่าฟัน ที่นี่ยังใช่ประเทศของประชาชนอยู่หรือเปล่า!
“เื่นี้ต้องสืบให้แน่ชัด นักลงทุนทุกคนที่เดินทางมาที่นี่คือคนที่พวกเราต้องให้ความคุ้มครอง ถ้าเขตเศรษฐกิจของพวกเราไม่ปลอดภัย แล้วนักธุรกิจที่ไหนจะกล้ามาลงทุน”
ขนาดชีวิตยังไม่ปลอดภัย นั่นถือเป็การทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างร้ายแรง
แม้ทังหงเอินจะเดาได้ว่า นี่คงเป็ความขัดแย้งภายในของตระกูลตู้ที่แผ่ขยายมายังแผ่นดินใหญ่ แต่เขาก็ต้องทำการสืบอย่างละเอียด จะต้องตักเตือนคนบางพวกว่าแผ่นดินใหญ่หาใช่ที่ที่พวกเขาสามารถทำอะไรตามใจชอบ!
ตู้เ้าฮุยกับคนติดตามฆ่าคนตายไปห้าคนแสดงว่ามีอาวุธปืน ทว่าตำรวจของหยางเฉิงไม่ได้แจ้งมา แสดงว่าตู้เ้าฮุยกำจัดหลักฐานแล้วเรียบร้อย โทษขอการพกอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงตกไปอยู่ที่คนขับรถที่ตายไปแล้วแต่เพียงผู้เดียว
ทังหงเอินรู้ดีว่าเื่นี้คงไม่ดีแน่ กว่าเขาจะเกลี้ยกล่อมตู้เ้าฮุยได้ก็ไม่ใช่เื่ง่าย คราวนี้ตู้เ้าฮุยคงไม่ยอมรามือง่ายๆ อย่างแน่นอน!
กรมตำรวจให้ความสำคัญกับคดีนี้เป็อย่างมาก มันคือเหตุร้ายที่ส่งผลกระทบต่อทั้งมณฑลกวางตุ้ง
หลังการปราบปรามอาชญากรรมสิ้นสุดลง เหตุร้ายที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้เกิดขึ้นอยู่น้อยครั้ง พอเกิดเื่นี้ขึ้นมา อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับนักธุรกิจชาวฮ่องกง ย่อมส่งผลกระทบต่อหน่วยงานรักษาความสงบของกวางตุ้งทั้งมณฑล
เพราะถูกให้ความสำคัญ ไม่ทันไรก็สามารถสืบหาตัวตนของผู้ตายได้
ผู้ตายมี 6 คน หนึ่งคือคนขับรถของตู้เ้าฮุย ศพถูกเผาไหม้จนไม่อาจแยกรูปพรรณสัณฐานได้
ส่วนอีก 5 คนที่เหลือ สองคนเป็ชาวหยางเฉิง อีกสามคนยังไม่รู้ที่มาที่แน่ชัด
“สองคนนี้มีประวัติอาชญากรรม เพิ่งออกจากคุกปีนี้ครับ”
คนที่เคยติดคุกมีแนวโน้มที่จะก่ออาชญากรรมได้ง่าย เพราะสังคมไม่เปิดใจรับพวกเขา ดังนั้นการกระทำผิดจึงถือเป็วิธีการเอาชีวิตรอด บ้างก็อยากแก้แค้นสังคมเพราะสายตาเคลือบแคลงจากคนรอบตัว หากพวกเขาไม่ทำชั่วสักหน่อยคงทำให้คนอื่นรู้สึกผิดหวัง!
เศษเหล็กชิ้นนั้นปักลงกลางกระดูกสันหลังของเซี่ยต้าจวิน หลังการผ่าตัดสิ้นสุดลง แม้เขาจะมีชีวิตรอดมาได้ แต่แพทย์ของหยางเฉิงคิดว่าเขามีโอกาสสูงที่จะกลายเป็ผู้พิการ
ตู้เ้าฮุยด่ากราดยันโคตรเหง้า
ตายคนเจ็บคน อีกทั้งเขายังเกือบไม่รอดจากเงื้อมมือศัตรู
ตู้เ้าฮุยติดต่อโรงพยาบาลของฮ่องกง ถึงอย่างไรเขาก็แค่ออกเงิน ทว่าจะต้องให้หมอรักษาเซี่ยต้าจวินจนหายให้ได้
เซี่ยต้าจวินที่ผ่านการผ่าตัดนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ไม่รู้ความเห็นของหมอที่มีต่ออาการาเ็ของตัวเองแม้แต่น้อย
“คุณชายใหญ่...”
“อย่าเรียกฉัน ได้ยินเสียงแกแล้วฉันปวดหัว”
ตู้เ้าฮุยไม่อยากได้ยินคำขอร้องฝากฝังลูกชายอะไรอีกแล้ว
เดิมทีเขาอยากกลับฮ่องกงไปปรึกษาตู้เชิงหรงเื่ที่เครือเชิงหรงขาดทุนหลักสิบล้านที่มณฑลิ่ ว่าจะเลิกทำธุรกิจค้าของเถื่อนหรือไม่ ถือโอกาสนี้ดูท่าทีของรัฐบาลแผ่นดินใหญ่ดีหรือเปล่า แต่หลังถูกลอบฆ่า ตู้เ้าฮุยก็ล้มเลิกความคิดเดิมทันที ก่อนทำให้คนตายก็ควรทำให้คนคลั่ง เื่การค้าของเถื่อนจะล้มเลิกได้อย่างไร ตู้เ้าฮุยคิดว่าคนร้ายคือหลิวเทียนเฉวียนอย่างแน่นอน ฉะนั้นเขาจะต้องช่วยพูดให้ ‘คุณลุงหลิว’ ทำให้หลิวเทียนเฉวียนมีอำนาจรับผิดชอบงานส่วนนี้มากขึ้น!
เซี่ยต้าจวินช่างน่าสงสารเหลือเกิน หายากนักที่คุณชายใหญ่ตู้จะพูดดีด้วยกับเขา
“ฉันจะส่งแกกลับไปรักษาที่ฮ่องกง หมาไจ่คนนั้นแกยังจำได้ใช่ไหม หลังส่งตัวจากเผิงเฉิงกลับไปฮ่องกง ตอนนี้เ้านั่นกลับมามีเรี่ยวแรงแล้ว แผลของแกแค่นี้จะไปยากเย็นอะไร!”
คุณชายใหญ่ว่าอย่างไรก็อย่างนั้น เซี่ยต้าจวินไม่มีความคิดเห็นเป็ของตัวเอง
ตู้เ้าฮุยพึมพำออกมาเบาๆ
“ฉันติดค้างพวกแกจริงๆ เอาเถอะ แกมีลูกชายที่บ้านเกิดหรือเปล่า ฉันจะส่งเขาเรียนมหาลัยด้วย”
เซี่ยต้าจวินเจ็บตัวเพราะตู้เ้าฮุยมาสองครั้งแล้ว และตู้เ้าฮุยก็ไม่เคยทิ้งเขา พยุงเขาเดินมาไกลตั้งหลายกิโล เซี่ยต้าจวินจึงไม่กลัวคุณชายใหญ่เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป เขายิ้มอย่างอ่อนแรง
“...ไม่ต้องหรอกครับคุณชายใหญ่ ผมไม่มีลูกชายหรอก มีแค่ลูกสาว อีกอย่างเธอสอบติดมหาวิทยาลัยแล้ว”
ตู้เ้าฮุยไม่เชื่อ
ว่ากันว่าระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยของแผ่นดินใหญ่เลวร้ายนั้นยิ่งกว่านรก คิดจะสอบเข้านั้นไม่ง่าย คนหัวขี้เลื่อยอย่างเซี่ยต้าจวินน่ะหรือจะมีลูกสาวที่สามารถสอบติดมหาลัยได้?
ถ้าไม่ใช่เพราะเซี่ยต้าจวินนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง ตู้เ้าฮุยคงพูดจาแสลงหูยิ่งกว่านี้ เขาคงถามเซี่ยต้าจวินว่าเมียเก่าสวมเขาให้หรือเปล่าถึงได้หย่ากัน มิเช่นนั้นแกจะมีลูกสาวสอบเข้ามหาลัยได้อย่างไร!
ต้องไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเซี่ยต้าจวินอย่างแน่นอน
เดิมทีตู้เ้าฮุยยังสงสัยในตัวคนขับรถกับเซี่ยต้าจวิน สุดท้ายคนขับกลับตายในที่เกิดเหตุ ส่วนเซี่ยต้าจวินก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
ดังนั้นตอนนี้เขาสงสัยพวกผู้ช่วยว่าอาจถูกคนซื้อตัวไปแล้วและหลุดแพร่งพรายตารางการเดินทางของเขา ถึงได้เกิดเื่ลอบฆ่าคราวนี้ขึ้น
ตู้เ้าฮุยตบไหล่เซี่ยต้าจวินก่อนเอ่ย “แกไม่ตายก็ดีแล้ว ฉันบอกแล้วว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ เงินเดือนของแกจะสามารถเลี้ยงสาวที่แผ่นดินใหญ่ไว้หลายคนก็ไม่มีปัญหา ของเก่าไม่ไปของใหม่ไม่มา ไว้ค่อยหาคนคลอดลูกชายให้แกสักคนก็ย่อมได้!”
เป็ผู้ชายเหมือนกัน ตู้เ้าฮุยย่อมเข้าใจหัวอกผู้ชายด้วยกันดี
ผู้ชายที่ชอบผู้หญิงจากใจจริงนั้นแน่นอนว่ามีอยู่บ้าง แต่ผู้ชายที่ไม่ชื่นชอบลูกชายคงไม่มี ที่ฮ่องกงเองก็มีค่านิยมแบบเดียวกัน โดยเฉพาะครอบครัวอย่างตระกูลตู้ มีแต่ลูกชายที่ได้รับความสำคัญ ลูกสาวช้าเร็วก็ต้องออกเรือน เช่นนั้นจะให้ตระกูลตู้ยกเงินทองให้กับคนอื่นอย่างนั้นหรือ?
อย่างไรก็ตามค่านิยมของแผ่นดินใหญ่นั้นล้าหลังยิ่งกว่า เซี่ยต้าจวินเป็คนบ้านนอก มีลูกสาวแค่คนเดียวคงถูกคนหัวเราะเยาะ!
เซี่ยต้าจวินคิดแค่ว่าหาเงินได้แล้วจะกลับบ้านเกิด เพราะถึงอย่างไรก็เป็ครอบครัวเดียวกัน หาเงินได้เมื่อไร ความขัดแย้งที่เคยมีก็คงหมดไป ถึงหลิวเฟินจะเคยใช้มีดทำร้ายเขา แต่เซี่ยต้าจวินก็ยัง้ากลับไปคืนดีกับหลิวเฟินอยู่ดี ในสายตาเขามันเป็แค่การทะเลาะของสามีภรรยาทั่วไป คืนดีเมื่อไรเมียก็ยังเป็เมียคนเก่า ลูกสาวก็คงยอมยกโทษให้เขาอย่างแน่นอน
ตู้เ้าฮุยบอกให้หาผู้หญิงอื่นมามี ‘ลูกชาย’ ให้เขา เซี่ยต้าจวินรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย
แต่ไม่ทันไรเขาก็หยุดความคิดนั้นทันที มีลูกชายย่อมดีแน่นอน แต่ถ้ามีลูกชายแล้วหลิวเฟินกับเซี่ยเสี่ยวหลานคงไม่ยอมแยแสเขาอีก เซี่ยต้าจวินส่ายหน้าเป็พัลวัน
“คุณชายใหญ่ ลูกสาวผมเธอเป็คนเก่งมากครับ ผมไม่้าลูกชายหรอก”
จะเก่งได้สักแค่ไหนกันเชียว?
ตู้เ้าฮุยไม่คิดจะเก็บมาใส่ใจแต่อย่างใด
เมื่อรู้ว่าคนร้ายสองคนเป็คนหยางเฉิง ตู้เ้าฮุยก็อยากลองสืบข่าวด้วยตัวเอง เพราะข้อมูลบางอย่างทางตำรวจไม่อาจเข้าถึงได้ จำเป็ต้องให้คนวงการเดียวกันเป็คนสืบ
—--------------------------------------------------
เซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนเก่งหรือไม่ ไม่จำเป็ต้องให้ทายาทเศรษฐีจากฮ่องกงมาเป็ผู้ตัดสิน
หลิวเฟินกับย่าอวี๋อยู่ปักกิ่งเป็เวลาสองวันแล้ว ทั้งคู่จึงอยากเดินทางกลับเต็มที ย่าอวี๋ถูกจี้หลินตามตื้อไม่หยุด เพราะจี้หลิน้า ‘ตอบแทนบุญคุณ’ ย่าอวี๋หยุดคิดสักครู่ก่อนจะตอบกลับไป
“ให้เงินฉันก็แล้วกัน”
ตอนนี้ย่าอวี๋กำลังขาดเงิน หากอยากตามหาคนที่อเมริกาแน่นอนว่าจำเป็ต้องใช้เงิน
อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินหยวนกับเงินดอลลาร์สหรัฐโหดร้ายเสียขนาดนั้น ย่าอวี๋ย่อมต้องเตรียมเงินให้มากหน่อย
แต่ต้องเก็บเงินมากเท่าไรนั้น ย่าอวี๋ไม่แน่ใจ
จี้หลินเองก็ลำบากใจ ของอย่างหนี้บุญคุณควรให้เงินตอบแทนเท่าไรจึงจะเหมาะสมกัน?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้