ตอนที่ 31 ทะลวงอีกแล้วเหรอ ?
โจวเย่ทดลองควบแน่นพลังแห่งธาตุบนฝ่ามือ และได้มีเปลวไฟสีน้ำเงินบนฝ่ามือของเขาปรากฏขึ้น และหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความปีติยินดี
แต่เมื่อโจวเย่สังเกตุเปลวไฟดีๆเขาก็พบว่าในเปลวไฟมีกลิ่นอายความอาฆาตแพร่กระจายออกมา และมันแปลกประหลาดมาก
โจวเย่ หลับตาแล้วลองเปลี่ยนพลังงานธาตุต่างๆ!
เมื่อจิตใต้สำนึก นึกถึงลักษณะของน้ำแข็ง แท่งน้ำแข็งก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ
หลังจากนั้นโจวเย่ ก็ทดลองพลังธาตุอื่นๆต่อไป ไม่ว่าโจวเย่้าสร้างพลังธาตุในรูปลักษณ์อะไร เขาก็สามารถสร้างรูปลักษณ์ธาตุนั้นๆได้
ในอนาคตหมายความว่าไม่ว่าจะเป็ทักษะการต่อสู้ประเภทใดก็ตาม โจวเย่สามารถฝึกฝนได้โดยไม่มีข้อจำกัด
นี่ก็หมายความว่าโจวเย่สามารถเล่นแร่แปรธาตุและยังสามารถปรับแต่งอาวุธได้อีกด้วย!
“ช่างเป็ลมหายใจที่ดุร้ายและน่าสะพรึงกลัวจริงๆ !” โจวเย่มองดูเปลวไฟสีน้ำเงินบนฝ่ามือของเขาอย่างปลาบปลื้มใจ
เมื่อเปิดประตูห้องโจวเย่ ก็พบว่าหงเยว่มายืนรออยู่แล้ว เมื่อจ้องมองหงเยว่เขาก็พบว่าหงเยว่ทะลวงผ่านระดับที่เก้าของอาณาจักรปราณยุทธ์แล้ว
โจวเย่ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับความสามารถที่น่าตกตะลึงของหงเยว่
"หงเยว่ ไปกันเถอะ !” โจวเย่ยิ้มอย่างมีความสุข และจับมือของหงเยว่ แล้วเดินออกไปข้างนอก
การกระทำของโจวเย่ดูเหมือนเขาไม่ใสใจอะไร แต่ใบหน้าที่สวยงามของหงเยว่กลับแดงก่ำทันที แม้ว่าเธอจะเขินอายเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธ เธอติดตามโจวเย่อย่างเชื่อฟังและไม่ได้ถามว่าจะไปไหน
เพราะไม่ว่าโจวเย่จะไปที่ไหนเธอก็จะติดตามไป
ขณะที่โจวเย่เดินผ่านหน้าห้องโถงใหญ่ของตระกูล โจวเฟิงก็ได้เห็นทั้งคู่เดินผ่าน โจวเฟิงไม่ได้สนใจและ้าจะหันหลังกลับ แต่เขากลับหยุดอีกครั้ง สายตาของเขากวาดไปทางโจวเย่อย่างรวดเร็ว และเขาก็ตกตะลึง
"อาณาจักรนักยุทธ์เหรอ?"
"เย่เอ๋อทะลวงผ่านอาณาจักรนักยุทธ์แล้ว" โจวเฟิงปิติยินดีอย่างยิ่ง แต่ขณะที่โจวเฟิง้าจะเรียกโจวเย่ ตัวเขาก็ผงะและแข็งทื่อ เมื่อพบว่าฐานการฝึกฝนของหงเยว่อยู่ในระดับที่เก้าของอาณาจักรปราณยุทธ์แล้ว เขาตกตะลึงอย่างยิ่ง ที่ผ่านมาเขาไม่เคยสนใจถึงฐานการบ่มเพาะของหงเยว่เลย
"ตระกูลของข้ามีสัตว์ประหลาดสองคนั้แ่เมื่อไหร่ ?" ใบหน้าของโจวเฟิงจ้องมองแผ่นหลังของทั้งสองอย่างว่างเปล่า เขาใจนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
"อาจารย์ของเย่เอ๋อให้ยาชนิดใดแก่เขา ระดับพลังยุทธ์ถึงได้รับการเลื่อนระดับอย่างรวดเร็วเช่นนี้!” โจวเฟิงอยากรู้จริงๆ ว่าอาจารย์ของโจวเย่เป็ปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งแบบไหน และเขาก็คิดว่าสิ่งที่ทำให้หงเยว่แข็งแกร่งขึ้นเป็เพราะยาของอาจารย์โจวเย่ด้วยเช่นกัน
"นี่เป็สิ่งที่ดี ในอนาคต เย่เอ๋อจะกลายเป็คนที่แข็งแกร่ง และตระกูลโจวของเราจะกลายเป็ตระกูลที่ยิ่งใหญ่"! โจวเซียวยิ้มอย่างมีความสุข รูปแบบของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ได้ผุดขึ้นมาในใจของเขาแล้ว
-
บนถนนในเมืองไป๋หนาน โจวเย่กำลังกุมมือของหงเยว่ ชายหล่อหญิงสวยโดนคู่กัน ทำให้ผู้คนในเมืองไป๋หนานเกิดความอิจฉา
“คุณชายเย่!” ผู้คนบนท้องถนนทักทายด้วยความเคารพ
โจวเย่เอาชนะซ่งเทียนในระดับแรกของอาณาจักรนักยุทธ์โดยที่เขาอยู่ระดับที่แปดของอาณาจักรปราณยุทธ์เท่านั้น สิ่งนี้ทำให้คนในเมืองไป๋หนานใ นอกจากนี้โจวเย่ยังขับพิษเหมันต์ออกจากร่างกายของเต้าชิงเฟิง และยังได้รับความไว้ว่างใจจากหอสมบัติให้ติดหนี้ได้ สิ่งที่ยอดเยี่ยมนี้ทำให้ทุกคนในเมืองไป๋หนานชื่นชมเขา
โจวเย่ ได้ซื้อปิ่นปักผมสีม่วงที่สวยงามและมอบให้กับ หงเยว่ ซึ่งทำให้หงเยว่ มีความสุข
หงเยว่ เพื่อขอบคุณเ้า ที่อยู่เคียงข้างข้ามาตลอด ข้าจะหลอมปิ่นที่สวยงามกว่านี้ให้เ้าในอนาคต” โจวเย่พูดด้วยรอยยิ้ม
"ขอบคุณ พี่เย่!” หงเยว่มีความสุขมากโดยจับแขนของโจวเย่ไว้
ขณะที่เขาเดิน โจวเย่ก็พาหงเยว่ไปที่ร้านขายยาของเขาเอง
"คุณชายเย่ ทำไมท่านถึงมาที่นี่?” เมื่อเห็นโจวเย่ และหงเยว่ปรากฏตัว หัวหน้าทหารยามของตระกูลโจว ลิซ่ง ก็ถามอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้ม
ลิซ่ง เป็หัวหน้าทหารยามของตระกูลโจว และฐานการฝึกฝนของเขาอยู่ในระดับที่หกของอาณาจักรนักยุทธ์แล้ว
โจวเย่ยิ้มเบา ๆและกล่าวว่า "ข้ามาซื้อสมุนไพรสำหรับปรุงยา"
"เตรียมสมุนไพร ทีอยู่บนกระดาษให้หน่อยสิ" โจวเย่ยื่นกระดาษให้กับลิซ่ง
"ขอรับ! คุณชายใหญ่รอสักครู่” ลิซ่ง ไม่ได้ถามอะไรมากนัก และรีบไปเอายามา
"พี่เย่ ท่านวางแผนที่จะเล่นแร่แปรธาตุเหรอ?” หงเยว่ถามด้วยเสียงที่แ่เบา
"ถูกต้องแล้ว!" โจวเย่ตอบ ตอนนี้เขาก้าวเข้าสู่อาณาจักรนักยุทธ์แล้ว โจวเย่ตั้งใจที่จะเริ่มปรุงยา เพื่อเพิ่มระดับการฝึกฝนของเขา
วัสดุยาได้รับการเตรียมเสร็จอย่างรวดเร็ว และหลังจากได้รับแล้ว โจวเย่ก็พาหงเยว่ ไปที่หอสมบัติต่อ
เมื่อโจวเย่มาถึง เหมยเหมยก็ให้การต้อนรับอย่างดี และไม่กล้าที่จะละเลย
"แม่นางเหมยเหมย หอสมบัติมีแกนของสัตว์อสูรหรือเปล่า?” โจวเย่ถามทันที
"แกนอสูรธาตุเหรอ?" เหมยเหมยผงะไปครู่หนึ่งแล้วถามว่า "คุณชายเย่ ข้าไม่รู้ว่าท่าน้าแกนอสูรระดับไหน?"
"มีระดับไหนบ้างละ?"
"คุณชายเย่ รอสักครู่ ข้าจะไปหามัน” เหมยเหมยพยักหน้า
ระหว่างรอ โจวเย่ ได้ไปหาโม่เจียง เพื่อช่วยโม่เจียงกำจัดพิษไฟ นี่เป็ครั้งที่สามและสามารถกำจัดพิษไฟของโม่เจียงได้อย่างสมบูรณ์
ด้วยเหตุนี้โม่เจียงจึงรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่ง
"คุณชายเย่ ท่านได้ทะลวงผ่านอาณาจักรนักยุทธ์อีกแล้วเหรอ?" โม่เจียงถามด้วยความใ ใบหน้าของเขาดูแข็งทื่อเล็กน้อย
"เพิ่งทะลวง" โจวเย่ตอบโดยไม่ได้ซ่อนมันไว้
"คุณชายเย่ เป็อัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะจริงๆ! ด้วยความเร็วของการฝึกฝนที่น่าสะพรึงกลัวนี้ แม้แต่อัจฉริยะอันดับหนึ่งของจักรวรรดิ ข้าเกรงว่าเขาไม่ได้ดีไปกว่าคุณชายเลย" โม่เจียง อุทานด้วยความใ
"ผู้าุโโม่เจียง ตลกแล้ว ข้าเทียบไม่ได้กับอัจฉริยะอันดับหนึ่งของจักรวรรดิหรอก" โจวเย่ยิ้มอย่างสุภาพ
"คุณชายเย่ ข้าได้ค้นหาแกนสัตว์อสูรทั้งหมดแล้ว แกนแท้สัตว์อสูรมีเพียงระดับที่สองเท่านั้น” ในขณะนี้ เหมยเหมย เช็ดเหงื่อแล้ววิ่งมาที่โจวเย่
"แกนอสูรเหรอ?"
"คุณชายเย่ ท่านสามารถตะหนักรู้ได้ถึงพลังธาตุอะไรเหรอ ? หากท่าน้านำแกนสัตว์อสูรไปฝึกฝน แกนสัตว์อสูรนั้นต้องมีพลังธาตุตรงพลังธาตุของท่านด้วย"
โจวเย่ส่ายหัวและกล่าวว่า “ข้า้าหลอมแกนสัตว์อสูรให้เข้ากับหอกแห่งความมืด ด้วยวิธีนี้ พลังของหอกจะแข็งแกร่งขึ้น และหากหลอมรวมหินดึกดำบรรพ์เข้าไปในนั้นด้วย มันจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น "
"หลอมแกนสัตว์อสูรให้เข้ากับหอกแห่งความมืด? นี่ไม่ใช่สิ่งที่นักปรับแต่งอาวุธเท่านั่นที่สามารถทำได้เหรอ? นักปรับแต่งอาวุธในเมืองไป๋หนาน คนนั้นคือใครกันล่ะ?” โม่เจียงรู้สึกสับสนอย่างมาก
"แกนอสูรธาตุนี้ ข้าติดหนี้ใว้ก่อน และจะจ่ายคืนในอีกไม่กี่เดือน” โจวเย่ยิ้มเบา ๆ เขาไม่ตอบคำถามของโม่เจียง จากนั้นเขาก็เดินออกจากหอสมบัติไไปพร้อมกับหงเยว่
โม่เจียงที่อยากจะถามอะไรอีก เขากลับต้องกลืนคำถามนั้นลงไปเมื่อได้ฟังคำพูดของโจวเย่
"เ้าหอ คุณชายเย่ คนนี้ไม่ใช่คิดที่จะปรับแต่งอาวุธด้วยตนเองใช่ไหม?” เหมยเหมยถามอย่างคาดเดา แต่เธอแทบไม่เชื่อการคาดเดานี้ของตนเอง
ใบหน้าของโม่เจียงเคร่งขรึม เขาไม่พูด และรู้สึกว่าโจวเย่ลึกลับมาก