หวางกุ้ยเซียงเสนอเช่นนี้ หลินหวั่นชิวย่อมตามใจนางอยู่แล้ว “ได้ เช่นนั้นป้าสวีช่วยยกอาหารไปให้พวกเขาทีเถิด”
จ้าวหงฮวาผิดหวังเล็กน้อย ในใจกล่าวโทษว่าหวางกุ้ยเซียงเื่มาก แต่สีหน้านางกลับไม่มีสิ่งใดผิดปกติ นางนั่งลงหลังจากที่หลินหวั่นชิวกับหวางกุ้ยเซียงนั่งลงแล้ว
“ฝีมือพี่สะใภ้อร่อยยิ่งนัก” หวางกุ้ยเซียงคีบหมูสามชั้นกลับกระทะ หลับตาดื่มด่ำกับรสชาติ
“หงฮวาก็กินด้วย ไม่ต้องเกรงใจเด็ดขาด” หลินหวั่นชิวเห็นจ้าวหงฮวาไม่ค่อยขยับตะเกียบก็ชวนอย่างเป็มิตร
“อื้ม” จ้าวหงฮวาตอบเสียงสุภาพ คีบเนื้อมากินคำเล็กๆ เช่นกัน
ใส่น้ำมันเยอะเช่นนี้ ทั้งยังเป็เนื้อสัตว์ ให้นางทำก็อร่อยเช่นกัน
หากคนที่ได้แต่งงานกับหย่วนเกอเป็นางจะดีขนาดไหนกัน
จ้าวหงฮวาคิดด้วยความอิจฉาในขณะที่มองเครื่องประดับรูปผีเสื้อบนผมของหลินหวั่นชิว
เป็ความผิดท่านพ่อท่านแม่และเกอเกอ ทั้งที่สนิทกับบ้านตระกูลเจียงถึงเพียงนั้นแต่กลับไม่มีผู้ใดเสนอว่าจะยกนางให้หย่วนเกอ
จ้าวหงฮวาไม่คิดบ้างเลยว่าตอนนั้นบ้านตระกูลเจียงมีตัวขี้โรค อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังมีภรรยาหนีไปถึงสองคน ไม่มีแม่นางคนใดในระแวกนั้นยินดีแต่งงานกับเขา ตอนที่ตระกูลเจียงจน นางย่อมไม่อยากแต่งงานด้วยอยู่แล้ว
ตอนนี้มาเห็นตระกูลเจียงชีวิตดีขึ้นก็รู้สึกอิจฉา
“พี่สะใภ้ช่างโชคดียิ่งนัก เมื่อก่อนนี้หย่วนเกอไม่ยอมใช้เงินขนาดนี้ ตอนนี้ทั้งสร้างบ้านใหม่ ทั้งเช่าบ้านในอำเภอ ทั้งซื้อรถล่อ ซื้อบ่าวใช้…หย่วนเกอต้องนำความสามารถทั้งหมดออกมาใช้ เห็นได้ว่ารักพี่สะใภ้ขนาดไหน”
หลินหวั่นชิวรู้สึกไม่ชอบใจแปลกๆ ที่ได้ยินจ้าวหงฮวาเรียกเจียงหงหย่วนว่าหย่วนเกอ
แต่นางไม่ได้ถือสาจ้าวหงฮวาด้วยเื่แค่นี้ ก็แค่ชื่อเรียก จะสนใจไปเพื่อเหตุใดกัน
หลินหวั่นชิวยิ้ม “ใช่ สามีของข้าดีต่อข้ามาก ข้าบอกว่าไม่ต้องซื้อบ่าวใช้ เขาก็จะซื้อให้ได้ บอกว่าไม่อยากให้ข้าเหนื่อย ที่เช่าบ้านหลังนี้เองก็เหมือนกัน ครอบครัวเราจะสร้างบ้านหลังใหม่ใช่หรือไม่ เขากลัวข้าอยู่ที่นั่นแล้วจะหนวกหู ดึงดันจะเช่าบ้านในอำเภอให้ได้ พอข้าคัดค้านกลับไม่พอใจ เขาเป็หัวหน้าครอบครัว ข้าจะกล้าขัดได้หรือ?”
คำพูดของแม่นางคนนี้มีความอิจฉา หรือว่านางจะชอบเจียงหงหย่วน?
ั้แ่ที่หลินหวั่นชิวชอบเจียงหงหย่วน นางก็ไม่รู้สึกว่าเขาขี้เหร่อีกต่อไป ตรงกันข้าม นางรู้สึกว่าบุรุษผู้นี้ดีทั้งภายนอกและภายใน ย่อมรู้สึกว่าการที่มีสตรีสาวมาชอบเขาเป็เื่ปกติ
สตรีมักประสาทััไวต่อคนที่เป็คู่แข่งเสมอ ด้วยเหตุนี้นางจึงโอ้อวดตามที่จ้าวหงฮวาปูบทมา ความหมายเรียบง่ายมาก สามีของข้าดีต่อข้ามาก เ้าอย่าหวังเลย
เป็ไปตามคาด จ้าวหงฮวาถูกคำพูดของหลินหวั่นชิวยั่วให้โมโห ขณะเดียวกันก็ตะลึงกับความหน้าหนาของหลินหวั่นชิว
มองผิวที่ขาวเนียนกับใบหน้าดวงงามของหลินหวั่นชิว หัวใจของนางรู้สึกทรมานมาก ทั้งๆ ที่ตอนอยู่บ้านเหล่าหลินก่อนหน้านี้ คนตรงหน้ามีชีวิตอนาถกว่าตัวเองเยอะ มีสิทธิ์กระไรมาได้บุรุษดีเช่นนี้ พลิกตัวมามีชีวิตที่ร่ำรวย?
แต่ตัวเอง…กลับ…กลับไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าที่ไม่มีรอยปะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการได้ใส่ปิ่นเงินและต่างหูหมาเหน่า…
จ้าวหงฮวารู้สึกว่าหลินหวั่นชิวแย่งวาสนาไปจากตัวเอง หากไม่ใช่เพราะอีกฝ่าย ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวจ้าวกับครอบครัวเจียง นางต้องแต่งเข้าตระกูลเจียงได้อยู่แล้ว
หวางฟู่กุ้ยเป็คนซื่อบื้อ ฟังการปะทะในคำพูดนี้ไม่ออก นางพูดตามว่า “ชีวิตของพี่สะใภ้หลังจากได้แต่งงานกับเจียงต้าเกอสบายกว่าตอนอยู่บ้านเหล่าหลินมาก ฟากหนึ่งเป็์ ฟากหนึ่งเป็นรก แต่เจียงต้าเกอก็โชคดีเช่นกันที่ได้แต่งกับพี่สะใภ้ พี่สะใภ้ทั้งสวยทั้งทำอาหารเก่ง ที่สำคัญที่สุดคือ พี่สะใภ้แค่แต่งเข้าตระกูลเจียง โรคของเหล่าเอ้อร์ก็ดีขึ้น เจียงต้าเกอทั้งล่าเสือได้ ทั้งมีงานทำในอำเภอ ท่านแม่ข้าบอกท่านพ่อว่าพี่สะใภ้เป็คนนำโชคดีเข้ามา ผู้ใดดีกับนาง คนผู้นั้นก็จะโชคดีไปด้วย ข้าคงต้องดีกับพี่สะใภ้เสียแล้ว จะได้โชคดีกับเขาบ้าง! ฮ่าฮ่าฮ่า…”
“เ้านี่ปากหวานเสียจริงแต่ข้าชอบฟัง!” หวางฟู่กุ้ยเข้ามาพูดผสมโรงเช่นนี้ อารมณ์หลินหวั่นชิวดีขึ้นมาก
นางไม่สนใจจะคิดเล็กคิดน้อยกับจ้าวหงฮวา ไม่ใช่เพราะว่านางแต่งเข้าบ้านตระกูลเจียงแล้ว แต่เป็เพราะคุณสมบัติภายนอกระหว่างนางทั้งสอง…หลินหวั่นชิวจึงไม่ได้เก็บเอาจ้าวหงฮวาที่ยังไม่ทันโตมาใส่ใจ
ขอเพียงเจียงหงหย่วนไม่ได้ตาบอด เขาก็ไม่มีทางทิ้งนางไปหาจ้าวหงฮวา!
ข้าเชื่อมั่นในตัวเองขนาดนั้นแหละ
เชื่อมั่นอย่างมีหลักฐาน ไม่ได้คิดไปเอง
จ้าวหงฮวา “…”
สตรีนางนี้ช่างหน้าไม่อายเสียจริง!
“ภรรยาจ๋า ข้าไปทำงานก่อน” เสียงของเจียงหงหย่วนดังมาจากลานบ้าน หลินหวั่นชิวรีบลุกออกไป “เหตุใดไม่พักก่อน? ต้องรีบไปขนาดนั้นเลยหรือ?”
“เหตุใด คิดถึงข้าหรือ?”
“ใช่ที่ใดกัน…รีบไปเถิด” หลินหวั่นชิวผลักเจียงหงหย่วนไปด้านนอกอย่างเขินอาย ภาพนี้ทำเอาจ้าวหงฮวาอิจฉาตาร้อน…
ถูกต้อง หลินหวั่นชิวจงใจ!
ลัลลั้ลลา!
มีสาวน้อยมาแอบชอบบุรุษของตัวเองก็พิสูจน์แล้วว่าเขามีเสน่ห์ แต่ว่า!
นางจำเป็ต้องกำจัดความโลภทุกชนิดที่กำลังแตกหน่อ ในฐานะผู้ป้องกันอาณาเขตของตัวเองและเป็เ้าของเพียงผู้เดียว
หรือที่หมายความว่า เ้าชื่นชมได้ แต่ห้ามเพ้อฝัน
“ข้ามีนิสัยชอบนอนกลางวัน พวกเ้าจะไปพักด้วยหรือไม่ ในเมืองจะคึกคัก่เช้า วันพรุ่งพวกเราค่อยออกไปเดินเที่ยว ประเดี๋ยวตอนบ่ายจะมาคุยเื่ดอกไม้ประดับผมด้วย จริงสิกุ้ยเซียง เ้าได้เอาผ้าเช็ดหน้าที่ปักมาให้ข้าด้วยหรือไม่?”
“เอามา ข้าปักไว้สิบผืน จะไปเอามาให้พี่สะใภ้เดี๋ยวนี้” หวางกุ้ยเซียงพูดด้วยรอยยิ้ม วิ่งเข้าไปของออกมาให้ทันที
ผ้าเช็ดหน้าที่ปักเสร็จแล้วถูกนางห่อไว้ในผ้าฝ้ายลายดอกไม้ หลินหวั่นชิวดูแล้วผ้าทุกผืนปักได้ดีมาก มีการปักลายที่ตะเข็บผ้า เป็ลายดอกเหมย ดอกกล้วยไม้ ไม้ไผ่ ดอกเบญจมาศและคำมงคลแบบดั้งเดิม แค่มองก็รู้ว่าเป็งานฝีมือโบราณ ถือว่าเป็ของโบราณ
“สวย!” หลินหวั่นชิวชม นางเอาผ้าเช็ดหน้าไปเก็บที่ห้อง หยิบเงินสิบสองพวงออกมา ให้มากกว่าร้านปักเย็บที่หวางกุ้ยเซียงเอาของไปขายสองอีแปะ
“พี่สะใภ้ ไม่ต้องให้เยอะขนาดนี้เ้าค่ะ!” หวางกุ้ยเซียงปฏิเสธท่ามกลางสายตาอิจฉาของจ้าวหงฮวา
หลินหวั่นชิวพูดเชิงหยอกล้อ “ข้าให้ก็รับไป ข้าไม่ได้ขาดทุนเสียหน่อย ข้าขายผ้าเช็ดหน้าเ้าได้ผืนละสิบห้าเหวิน ข้าไม่ต้องทำกระไรก็ได้เงินมาตั้งสามเหวิน หากไม่ให้เ้าเยอะหน่อย วันหน้าเ้าไม่ช่วยข้าหาเงินแล้วข้าจะทำอย่างไร?”
