เหลือแค่ประกาศสามตัวท้าย
ถ้าเลขลอตเตอรี่ในมือเฉินเฟิงถูกหมด นั่นก็หมายความว่าเขาจะถูกรางวัลที่หนึ่ง ได้แจ็คพอตห้าล้านหยวน
“ลอตเตอรี่สี่ตัวแรกในมือเฉินเฟิงถูกหมดแล้ว…”
พวกตาดีมองตากันและกัน ต่างคนต่างส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเหลือจะเชื่อ
ทันใดนั้นทั่วสารทิศก็เต็มไปด้วยความโกลาหล
“ไอ้ยาจก บ้านนอกเฉินเฟิง!”
“มันกลายเป็คนโชคดีแบบนี้ั้แ่เมื่อไหร่”
ด้วยการประกาศความสัมพันธ์ระหว่างฮูอวี่กับจ้าวฉินเสวียต่อหน้านักศึกษาจำนวนมากมายในพิธีรับปริญญานี้ ก็เป็เหมือนการตบหน้าเฉินเฟิงฉาดใหญ่
เดิมทีพวกเขาคิดว่าเฉินเฟิงจะถูกตบจนต้องลงไปชักดิ้นชักงอ คุกเข่าอ้อนวอนจ้าวฉินเสวีย หรือก้มลงแทบเท้าเพื่อรั้งให้เธออย่าไป
แต่ในความเป็จริงกลับไม่เป็ไปอย่างที่คิด เฉินเฟิงไม่สะทกสะท้านกับเื่ที่เจอสักนิด ความสนใจทั้งหมดกลับตกอยู่ที่ลอตเตอรี่ใบเล็กๆ ในกำมือ
สีหน้าของคู่ชู้น่ารังเกียจกลับบูดเบี้ยวจนดูน่าเกลียดในทันใด!
เมื่อสักครู่ฮูอวี่กับจ้าวฉินเสวียเพิ่งจะประกาศความรัก หวังจะตบหน้าเฉินเฟิงเข้าจังๆ จนต้องร้องไห้น้ำตาแตก แล้วลงไปอ้อนวอนขอความเห็นใจ
แต่หลังจากตระหนักได้ว่าเฉินเฟิงอาจจะถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 กว่าห้าล้านหยวนในไม่ช้า
ทั้งสองตาเบิกกว้าง แววตาเต็มไปด้วยความประสงค์ร้าย พวกเขาจ้องมองด้วยความอิจฉา!
สายตาคมกริบราวกับใบมีดจ้องมองเฉินเฟิงไม่วางตา ทุกสายตาจับจ้องไปที่สีหน้าเฉินเฟิง
ทั้งโรงยิมตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนต่างตกอยู่ในความคิดของตน
คนรอบข้างอาจกลายเป็เศรษฐีในชั่วข้ามคืน
นี่เป็หนึ่งในรูปแบบความอิจฉาที่น่ารังเกียจที่สุดในธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน
โดยเฉพาะคนที่อาจถูกรางวัลใหญ่อย่างหนุ่มหน้าตาดีที่มีฐานะต้อยต่ำยากจน แต่เป็ไอ้โง่ที่ถูกหัวเราะเยาะในสายตาคนอื่น
ตลอดสามปีที่ผ่านมา ทุกคนต่างชมดราม่าเดือนมหาลัยแสนยากจนตามจีบดาวมหาลัยแสนเ้าเล่ห์
พวกเขาสนุกกับบทละครนี้มาก!
ในสายตาพวกเขา เฉินเฟิงเป็เพียงตัวตลกมาโดยตลอด เป็เด็กบ้านนอกยากจนที่คอยประหยัดอดออมเพื่อซื้อของขวัญมีราคาให้ดาวมหาลัยอย่างจ้าวฉินเสวีย
“21 15...06!”
เมื่อสิ้นสุดเสียงประกาศตัวเลขสุดท้าย 06 ซึ่งตรงกับลอตเตอรี่ในมือเฉินเฟิงพอดิบพอดี
“เขาถูกลอตเตอรี่!”
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเฉินเฟิงปรากฏความยินดีอย่างยิ่งยวด
ทันทีทันใด!
เพื่อนนักศึกษารอบตัวที่ไม่เคยแม้แต่จะเหลียวตามองเฉินเฟิงผู้เป็คนโง่ที่น่าสงสาร หรือหนุ่มหล่อผู้มีฐานะต้อยต่ำ
เพื่อนนักศึกษาทุกคนต่างอารมณ์พลุ่งพล่านด้วยความใ!
โดยเฉพาะฮูอวี่กับจ้าวฉินเสวีย สองหน่อที่จับตาดูสีหน้าเฉินเฟิง ใบหน้าของพวกเขาตกอยู่ในความหวาดหวั่น!
จ้าวฉินเสวียเพิ่งกำลังสนุกกับความโชคร้ายของเฉินเฟิงอยู่หยกๆ
แต่จู่ๆ ตัวสำรองของตายที่อยู่ท้ายสุดที่เธอเลือกจะสะบัดทิ้งอย่างไร้ความปรานี กลับถูกรางวัลใหญ่กว่าห้าล้านหยวน
ขนาดตัวเพื่อนร่วมชั้นปีที่ดูถูกดูแคลนต่างๆ นานาของเฉินเฟิงก็ไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะถูกรางวัลใหญ่เข้าจริงๆ
ไม่เคยคิดเลยว่าคนใกล้ตัวอยู่ๆ จะกลายเป็เศรษฐีได้ง่ายดายถึงเพียงนี้
ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกมากมายทั้งตื่นเต้นและอิจฉาล้วนโหมกระหน่ำ
ทำไมคนที่ถูกรางวัลไม่ใช่พวกเขา ทำไมพวกเขาไม่ใช่คนที่ได้เงิน?!
ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าเฉินเฟิงจะชนะรางวัลใหญ่กลางที่สาธารณะ
การได้เงินห้าล้านหยวนใน่เวลาแบบนี้ ก็เทียบเคียงได้กับการเป็เศรษฐีแล้ว
ด้วยเหตุนี้เอง สายตาที่พวกเขามองเฉินเฟิงจึงแปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
“ถูกจริง ไม่อยากจะเชื่อ ตัวเลขตรงทุกตัวจริงด้วย!”
“ถ้าไปตีสนิทเฉินเฟิงตอนนี้ เขาอาจจะแบ่งเงินให้สักหน่อยไหมนะ?”
“เฉินเฟิงผู้น่าสงสารดวงดีขนาดนี้ั้แ่เมื่อไหร่กัน? อยู่เฉยๆ เงินห้าล้านหยวนก็ตกใส่หัว!”
บางคนถึงขั้นคิดจะขโมยสลากในมือเฉินเฟิง
แต่เมื่อมองดูเฉินเฟิงดีๆ อีกที ความสูงและร่างกายที่แข็งแรง อีกทั้งความโกรธที่มีต่อฮูอวี่กับจ้าวฉินเสวียซึ่งเดือดดาลอยู่ในภายในอกแล้ว
ใครหน้าไหนมันจะกล้า!
จ้าวฉินเสวีย หญิงผู้ซึ่งทิ้งเฉินเฟิงพร้อมคำด่าทอและดูถูกเหยียดหยามมากมาย กำลังยืนใด้วยใบหน้าซีดขาวอยู่บนเวที
เธอกำลังนึกเสียดาย ทำไมถึงเลือกทิ้งเฉินเฟิงไปแบบนี้ คืนก่อนหน้านั้นยังตกลงจะคบกันอยู่แท้ๆ แต่มาวันนี้เธอกลับหาคนใหม่มาแทนที่
“ของใช้ราคาแพง ชีวิตอันแสนสุขสบาย ปลิวไปต่อหน้าต่อตา…” จ้าวฉินเสวียยืนนิ่งจนลืมแม้กระทั่งหายใจ เธอเกือบจะเป็ลมล้มอยู่ตรงนั้นแล้ว
ทางด้านเฉินเฟิงซึ่งแสดงท่าทางราวกับไม่เห็นความเกลียดชังและความอิจฉาจากเพื่อนนักศึกษา จ้องมองจ้าวฉินเสวียและฮูอวี่ด้วยท่าทางสงบนิ่ง
“อ่า ใช่ ลืมบอกไปเลย...” เฉินเฟิงเก็บสลากเข้ากระเป๋าก่อนจะหันหลังเดินออกจากโรงยิม ก่อนจะพูดทิ้งท้ายเอาไว้
“ฉันไม่ได้ซื้อเลขนี้มาแค่ใบเดียว... ฉันใช้เงินค่าข้าวที่เหลือทั้งเดือนซื้อเลขนี้มาทั้งหมด!”
เฉินเฟิงพูดด้วยท่าทางไม่แยแส จากนั้นจึงเดินปลีกตัวออกมาจากโรงยิม ทิ้งผู้คนให้อับจนคำพูด ทำได้เพียงมองหน้ากันไปมาอยู่นาน
ในที่สุดจ้าวฉินเสวียก็ตั้งสติได้ เธอเพิ่งจะตระหนักได้ว่าเธอทิ้งเฉินเฟิงอย่างไม่มีเยื่อใย และคบกับฮูอวี่อย่างเป็ทางการเมื่อสักครู่
เฉินเฟิงได้รางวัลใหญ่ และไม่ใช่แค่ห้าล้านหยวน
เขาไม่ได้ซื้อเลขนั้นแค่ใบเดียว!
เขาอาจจะถูกสิบล้าน หรือกระทั่งร้อยล้าน!
โดยเฉพาะรางวัลที่ออกตรงกับเลขวันเกิดของเธอ!
0619!
จ้าวฉินเสวียรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง รู้สึกราวกับอวัยวะภายในถูกฉีกทึ้งออกมา
เธอคิดถึงภาพที่เธอเพิ่งจะป่าวประกาศกับทุกคนว่าเธอคบกับฮูอวี่แล้วั้แ่วันนี้เป็ต้นไป
มาบัดนี้ ถึงแม้เธอจะอยากกลับไปคืนดีแค่ไหน ก็คงสายเกินไปแล้ว จ้าวฉินเสวียอัดอั้นไปด้วยความเดือดดาล เธอเป็ลมล้มพับลงกับพื้น
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฮูอวี่ว่าที่แฟนใหม่ซึ่งกุมมือเธออยู่กลับไม่ได้สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย
กลับกัน เขาสะบัดมือเธอแล้ววิ่งลงจากเวทีไป
ฮูอวี่วิ่งฝ่าฝูงชนจำนวนมาก คุกเข่าลงต่อหน้าเฉินเฟิงที่กำลังจะเดินออกจากโรงยิม
“พี่เฟิง เป็จ้าวฉินเสวียนังจิ้งจอกนั่นที่ยั่วยวนผม ผมไม่ผิด ผมถูกล่อลวง!”ฮูอวี่ตบปากตัวเอง และร้องอ้อนวอนเสียงดังต่อหน้าทุกคนอย่างไม่น่าเชื่อ
“ใจจริงผมน่ะ มองพี่เป็เพื่อนสนิทตลอดมาเลยครับ พี่จะแบ่งส่วนรางวัลห้าล้านหยวนให้ผมสักหน่อยได้ไหม? บ้านผมมีน้องสาวที่เพิ่งสอบเข้ามหาลัยได้ เธอสวยกว่าจ้าวฉินเสวียอีก ผมแนะนำเธอให้พี่ได้นะครับ!”
แค่รางวัลใหญ่ใบเดียวก็มากพอจะซื้อเฟอร์รารี่มือสองของเขาได้เป็สิบๆ คัน รถเฟอร์รารี่มือสองราคาอย่างมากก็แค่ห้าแสนหยวนเท่านั้นเอง!
เมื่อเห็นว่าเื่กลับกลายเป็เช่นนี้ เฉินเฟิงก้มหน้ามองฮูอวี่ที่ยังคงคุกเข่าตบหน้าตัวเองอยู่นานสองนาน
“เฉินเฟิง อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระ ฉันยังมีแต่เธอในหัวใจ...” ในจังหวะนี้เอง จ้าวฉินเสวียรีบลุกขึ้นแทบจะคลานไปหมอบอยู่แทบเท้าเฉินเฟิง เขายังคงร้องไห้อย่างโศกเศร้า
“เป็ฮูอวี่ต่างหากที่ข่มขู่ฉัน ไอ้สารเลวนี่ใช้รูปถ่ายมาแบล็คเมล์ ฉันแค่ไม่มีทางเลือก เลขในสลากตรงกับวันเกิดของฉันด้วยส่วนหนึ่ง นายยังมีใจอยู่ ฉันรู้ดี ได้โปรด เรากลับมาเป็เหมือนเดิมได้ไหม?!”
“ไม่มียาใดในโลกที่รักษาโรคเสียใจภายหลัง คำพูดที่พูดออกมาแล้วไม่อาจกลับคืนไปได้อีก!” เฉินเฟิงยืนมองทั้งสองใส่ร้ายป้ายสีกันอย่างหน้าไม่อาย
“ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหม ตอนเธอนั่งเฟอร์รารี่มือสองอยู่ข้างฮูอวี่ แล้วยิ้มเยาะเย้ยที่ฉันขี่มอเตอร์ไซค์ใกล้จะพังว่า อย่าเสียใจทีหลังแล้วกัน!”
“ถ้าหากการฆ่าใครสักคนไม่ผิดกฎหมาย...” ก่อนที่เฉินเฟิงจะพูดจบ เขาเตะเข้าที่ง่ามขาฮูอวี่อย่างรุนแรง แล้วพูดข่มขู่ว่า
“แกน่าจะโดนเตะยอดหน้าไปแล้วตอนนี้ อยากรู้จริงๆ ว่าจะใช้ถุงยางกล่องที่สามได้ไหมคืนนี้!”
เมื่อกล่าวจบ เฉินเฟิงวางกล่องถุงยางที่ฮูอวี่ปาใส่เขาเมื่อเช้าบนหัวจ้าวฉินเสวีย จากนั้นจึงเดินออกจากโรงยิมโดยไม่หันหลังกลับไปมอง
ฝูงชนเงยหน้ามองร่างของเฉินเฟิงที่เดินห่างออกไป รู้สึกราวกับเขาช่างหล่อเหลา และสง่างามยิ่ง!
ดอกไม้ไฟแสดงความยินดีถูกจุดขึ้นบนฟ้าจากเ้าของร้านขายลอตเตอรี่ เฉินเฟิงสวมหน้ากากไปที่สำนักงานใหญ่ในเมืองโม๋ตู
เขาบริจาคเงินกว่าหนึ่งในห้าส่วนจากหกสิบห้าล้านหยวน รวมทั้งสิ้นเป็เงินกว่าสิบสามล้านหยวนให้กับมหาวิทยาลัยโม๋ตู
ในตอนนี้บัตรยูเนี่ยนเพย์ [1] มียอดเงินที่เขาได้จากลอตเตอรี่เหลือทั้งสิ้นห้าสิบสองล้านหยวน
ณ เวลาเที่ยงวันต่อมา เฉินเฟิงผู้โด่งดังแห่งมหาวิทยาลัยโม๋ตู พร้อมด้วยเพื่อนนักศึกษาอีกหลายคนมาถึงโรงแรมห้าดาวแห่งแรกและแห่งเดียวใกล้มหาลัยโม๋ตู โรงแรมเฉียนต๋า
โรงแรมแห่งนี้เปิดโดยเฉียนต๋ากรุ๊ป ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อเจ็ดปีก่อน
แต่เพราะการบริหารที่ย่ำแย่ ทำให้โรงแรมแห่งนี้ขาดทุนเป็เวลากว่าสองปีผู้บริหารโรงแรมเฉียนต๋าคนปัจจุบัน หรือผู้เฒ่าหวัง เขามีความ้าที่จะโยนเผือกร้อนนี้ทิ้งไปตั้งนานแล้ว
ส่วนเฉินเฟิงผู้กลับมาจากอนาคตปี 2021 จำได้ชัดว่าในปี 2016 สวนสนุกดิสนีย์ปาร์คส์แห่งแรกจะสร้างขึ้นที่นี่
ตราบเท่าที่ซื้อที่ดินโรงแรมเฉียนต๋าแห่งนี้ไว้ ก็สามารถเปลี่ยนดินแดนรอบๆ นี่ให้กลายเป็กำไรมหาศาลได้!
เพราะการนั้น เฉินเฟิงจึงปล่อยให้พวกเพื่อนร่วมชั้นปีมาเดินดูโรงแรม ในขณะที่เขา หรือผู้ถูกรางวัลหลายสิบล้าน ได้ทำการซื้อหุ้นและที่ดินทั้งหมดของโรงแรมเฉียนต๋าภายใต้การแนะนำของผู้บริหารเฉียนต๋ากรุ๊ปมาไว้ในกำมือเป็ที่เรียบร้อยแล้ว นี่ยังเป็โรงแรมที่ซึ่งฮูอวี่และจ้าวฉินเสวียเคยค้างอยู่สองคืนด้วยกันอีกด้วย
ที่ดินภายใต้โรงแรมแห่งนี้มีมูลค่ากว่ายี่สิบล้านหยวน
จากนั้น ด้วยการพูดคุยกับประธานของเฉียนต๋ากรุ๊ป เฉินเฟิงจ่ายเงินเพิ่มอีกสามสิบล้านหยวน เพื่อซื้อที่ดินบริเวณรอบๆ แห่งนี้จากรองผู้ว่าฯ ที่ดูแลด้านการเงินของสำนักงานที่ดิน รวมทั้งสิ้น 7 ตารางกิโลเมตร ด
ยิ่งไปกว่านั้น
เฉินเฟิงแสดงความจริงใจต่อใบหน้ายินดีของผู้เฒ่าหวัง ผู้บริหารแห่งเฉียนต๋ากรุ๊ปว่าจะซื้อหุ้นในเครือเฉียนต๋ากรุ๊ปเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
ซึ่งแน่นอนว่าผู้เฒ่าหวังแห่งเฉียนต๋ากรุ๊ปย่อมหัวเราะด้วยความยินดีเป็อย่างยิ่ง
ต่อจากนั้นเฉินเฟิงจ่ายหนึ่งล้านหยวนเพื่อซื้อร้านอาหารระดับมิชลินสามดาวที่มีชาวต่างชาติเป็เ้าของร้าน ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นแรกของโรงแรม
หลังจากการทำธุรกรรมทุกอย่างเสร็จสิ้น เฉินเฟิงเห็นหัวหน้าชั้นปีเว่ยจงเม้าเดินออกมาจากร้านอาหารมิชลิน เขาจึงคิดกับตัวเอง
“อาหารในโรงอาหารมหาลัยหลังๆ มานี้เริ่มจะไม่น่ากินมากขึ้นเรื่อยๆ...” ด้วยการนั้นเอง เฉินเฟิงจึงประกาศกับเ้าของร้านอาหารว่า
“หนึ่งสัปดาห์ต่อจากนี้ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยโม๋ตูสามารถมากินที่ร้านนี้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ขอเพียงแสดงบัตรนักศึกษา! ขอให้ทุกคนเข้ามากินได้อย่างเอร็ดอร่อย!”
เชิงอรรถ
[1] บัตรไชน่ายูเนี่ยนเพย์ [银联卡] ในความเป็จริงแล้ว ยูเนี่ยนเพย์ก่อตั้งขึ้นในปี 2002