เป็เวลานานมากแล้วที่เสิ่นิไม่ได้ัักับความรู้สึกใกล้ตายเช่นนี้เขาต้องยอมรับว่า หลังจากที่กลับเข้าเมืองมานานเขาก็ไม่ได้ฝึกฝนร่างกายอย่างจริงจัง ทำให้ประสิทธิภาพร่างกายของเขาอ่อนแอลงไปมาก
ถ้าเป็่เวลานิรวาน ต่อให้ความเ็ปจะสาหัสกว่าขณะนี้อย่างน้อยเขาก็ยังยืนขึ้นไหว เตรียมงับคอผู้คุมสอบได้ทุกเมื่อ
แต่ตอนนี้ เขาไม่สามารถแม้แต่จะยันตัวขึ้นยืนได้ เขาดิ้นรนอยู่ราว 20วินาที แต่ก็ทำได้เพียงพลิกตัว นั่งพิงต้นซากุระ สายตาล่องลอยเหมือนคนกำลังเพ้อฝัน
“พอดีเลย 9 กระบวนท่า” ดูท่าท่านประธานจะชนะพนันแล้วเพราะดูจากสภาพเสิ่นิในตอนนี้ เขาไม่น่าจะรองรับกระบวนท่าต่อไปของนกยูงได้แล้วแต่ถึงจะชนะ ท่านประธานก็ไม่ได้สุขใจมากนัก เพราะนี่เป็ชัยชนะแบบเฉียดฉิวไม่ใช่ชัยชนะแบบขาดรอย เหมือนกับการฆ่าคนแต่เป้าหมายก็ซัดคุณกลับไปจนหมดสภาพก่อนที่เขาจะสิ้นใจ ช่างไม่น่ายินดีเอาเสียเลย
ลงแรงไปตั้งมากมาย ไม่ใช่เพื่อ “ชัยชนะแบบหวุดหวิด”
“เ้าเด็กนั่น ช่างน่าทึ่ง! ความรุนแรงของแรงกระแทกนั้นสามารถทำลายศูนย์ประสาทของช้างได้แต่เขาก็ยังสามารถควบคุมร่างกายของเขาเพื่อยิงตอบโต้ได้อย่างแม่นยำและแก้สถานการณ์ได้ตามแผนที่วางไว้ เซลล์ประสาทในสมองของเขาทำด้วยเพชรหรือยังไง?ทำไมมันถึงได้แข็งแกร่งนัก”กรรมการในที่ประชุมเริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ธรรมชาติความเป็นักวิทยาศาสตร์ในตัวเขาทำให้สนใจใคร่รู้ในสรรพสิ่งแม้ว่านี่จะไม่ใช่หัวข้อวิจัยของเขาอีกต่อไป แม้ว่าเสิ่นิกำลังจะตายมันก็ยังไม่อาจทำให้เขาระงับความปรารถนาที่จะชำแหละเด็กคนนี้ได้
“มาญี่ปุ่นทำไม? ทำไมพี่ไม่ฟังคำของหวั่นบ้างพี่ไม่จำเป็ต้องมาตายเลย” เสิ่นหวั่นยืนอยู่หน้าเสิ่นิหัวใจที่สูญเสียไปแล้วกลับทำให้เธอรู้สึกเศร้าหมองอย่างหาสาเหตุไม่ได้? มันคือความดื้อรั้นของเสิ่นิ หรือความโง่กันแน่?
“เพราะพี่เป็พี่ชายของเธอ...พ่อไม่อยู่แล้ว...แม่ก็ไม่อยู่...พี่จึงเป็ผู้ปกครองเพียงคนเดียวของเธอแน่นอนว่าเธอต้องเชื่อฟังพี่ น้องสาวของพี่เสียคนเพราะคนเลว พี่ต้องรับผิดชอบเสิ่นิลดศีรษะลง เืผสมกับน้ำลายไหลยืดเป็สายหยดลงพื้นเช่นเดียวกับวีรบุรุษผู้โดดเดี่ยวที่ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตั้แ่ยังหนุ่มยังแน่น
“หลีกไป ถ้าอยากไหว้บรรพบุรุษก็รอก่อนไว้ฝังมันเสร็จเมื่อไรแล้วจะให้เธอไปไหว้เสียให้พอใจ”นกยูงเดินเข้ามาและผลักเสิ่นหวั่นที่กำลังพะเน้าพะนอเสิ่นิอย่างกับคนรับใช้ออกไปด้วยมือข้างเดียว
เืนั้นทำให้มือลื่นไปบ้าง นกยูงถอดเสื้อซึ่งเปียกชุ่มออกเผยให้เห็นร่างบางซึ่งมีเส้นกล้ามเนื้อและรอยแผลเป็และเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนแผลเป็ของเสิ่นิแล้ว ก็น่าจะเยอะพอๆ กันเครื่องจักรมนุษย์อยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ถือว่ากัดฟันสู้มาทุกวิถีทางการใช้กิเลนดำไม่ใช่การตัดสินใจโดยไม่จำเป็อย่างแน่นอนไม่ใช่ของขวัญที่ได้มาอย่างเร่งรัด
และเมื่อลอกิัเทียมที่แขนขวาเพื่อการอำพรางออกก็เผยให้เห็นภาพทั้งหมดของกิเลนดำแขนโลหะสีดำเมี่ยมเหมือนผลิตภัณฑ์จากภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ตำแหน่งของหัวไหล่ถูกสลักด้วยเลเซอร์เป็ลวดลายกิเลนที่ดุร้าย
“มีอะไรจะสั่งเสียหรือเปล่า?” นกยูงกระซิบ
“มี...”เสิ่นิพยายามอย่างหนักที่จะพิงตัวกับลำต้นของซากุระและเงยหน้าขึ้น
“ว่ามา”
“แขนกิเลนของแกน่ะ เวลาชักว่าวแล้วทำไม้จิ้มฟันน้อยของแกขาดหรือเปล่า?”
“ไอ้ฉิบหาย!” นกยูงยืนหันข้าง แขนหุ่นยนต์กิเลนดำไพล่อยู่ที่ด้านหลังเขากำลังชาร์จพลัง เสียงคำรามของเครื่องยนต์กิเลนดำบนแขนของเขาดังกระหึ่มช่องระบายอากาศที่ต้นแขนบีบอัดอากาศโดยรอบเข้าสู่กิเลนดำเมื่อชาร์จพลังพร้อมะเิผ่านมวลอากาศแรงดันสูง ภายใต้แรงดันนั้นดวงตาของรูปกิเลนบนแขนก็เปล่งแสงสีแดงสด
ต่างคนต่างเฝ้าดูความตายของเสิ่นิด้วยอารมณ์อันหลากหลาย เหล่ามือสังหารณ ที่นั้นมองดูเขาด้วยความสะใจ เสิ่นหวั่นเศร้าสลดอย่างอธิบายไม่ถูกท่านประธานผู้เป็ปฏิปักษ์รู้สึกได้ชำระแค้นกรรมการในที่ประชุมเสียดายที่ไม่ศพจะไม่สมบูรณ์...
แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่อยากเห็นเื่นี้เกิดขึ้น…
“หยุดนะ!” เสียงะโเป็ภาษาจีนดังกึกก้องที่เหนือโถงใหญ่เสียงนั้นดึงดูดให้นกยูงมองขึ้นไป
เซี่ยวอี๋ซึ่งควรจะจากไปแล้วหวนกลับมาอีกครั้ง เธอยังคงถือมีดปอกผลไม้ทื่อๆอยู่ในมือ สิ่งนั้นไม่สามารถทำร้ายใครได้ ยกเว้นตัวเซี่ยวอี๋เอง
เซี่ยวอี๋จ่อมีดไว้ที่คอหอยของตัวเอง การกระทำนั้นช่างเหมือนกับฉากที่เสิ่นิทำต่อแม่มดอันฉีเพื่อช่วยชีวิตเธอ
“คุณทำอะไรน่ะ?” เสิ่นิมีท่าทางตื่นตระหนกถึงขีดสุดเขาไม่เคยกลัวขนาดนี้มาก่อน “ทำไมคุณถึงไม่ฟังคำสั่งผม?”
“เพราะฉันอยากให้นายรอด” เซี่ยวอี๋หายใจเข้าลึกๆเธอประหม่าจนมือที่ถือมีดนั้นสั่นไหวแต่เธอกลับหันไปพูดกับนกยูงด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง “จำสิ่งที่คุณบอกฉันระหว่างทานอาหารค่ำได้ไหม?”
“ผมจำทุกอย่างที่ผมพูดกับคุณได้” แน่นอนว่านกยูงจำได้อาหารค่ำภายใต้แสงเทียน เขานั่งอยู่ข้างเซี่ยวอี๋ ถ้าเป็ไปได้เขายินดีที่จะแลกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้เซี่ยวอี๋ สาวสวยคนนี้เป็แฟนเขา
เซี่ยวอี๋แค่ยิ้มและกล่าวอย่างดูิ่“น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้สนใจทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณเลย...”
“ปล่อยเขาไป! แล้วฉันจะเป็แฟนคุณ!”เซี่ยวอี๋ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะพูดแบบนั้นได้
“แต่ว่าคุณไม่ได้ชอบผมด้วยซ้ำ”
“ใช่ แต่คุณมีกฎว่าแฟนของคุณจะต้องชอบคุณด้วยเหรอ?”
“ทำไม! ทำไมต้องเป็เขา! ทำไมต้องเป็ผู้ชายแบบนี้!เขาเป็ฆาตกรเหมือนกับผม! ทำไมถึงชอบเขาได้! แต่ชอบผมไม่ได้!”โปรดอภัยให้กับความดราม่าของนกยูงด้วยเขาไม่เคยได้ัักับรักแรกที่บีบเคล้นหัวใจขนาดนี้มาก่อน
“ใครบอกว่าฉันชอบเขา? เขาอาจจะไม่ใช่เ้านายที่ดีไม่เคยจ่ายเงินเดือน ให้ฉันทำงานทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ตอนหมดตัวก็ยังกล้ามาขอใช้เงินในบัญชีของฉันบางครั้งเขาก็แอบถ้ำมองตอนฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า...แต่เขาก็เป็คนดี! เขาช่วยชีวิตฉันมากกว่าหนึ่งครั้งด้วย เขาพยายามอย่างมากเพื่อที่จะกลับไปใช้ชีวิตในเมืองเหมือนเช่นคนปกติแต่พวกคนเลวอย่างคุณก็มักจะชอบดึงเขากลับลงไปในเหวนรก”
“ข้อแก้ตัว! ข้อแก้ตัว! คนเราเห็นแก่ตัว!เขาจะยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อผู้อื่นได้อย่างไร!” นกยูงคำราม
“ก็ได้…ฉันยอมรับ…มีเสี้ยวเล็กๆ ที่ฉันรู้สึกชอบบอดี้การ์ดคนนี้”เซี่ยวอี๋ไม่เคยซื่อสัตย์ขนาดนี้ด้วยรอยยิ้มพร้อมกับน้ำตาทั้งสองสายที่ไหลผ่านใบหน้าน้อยๆ ของเธอ“ฉันกลัวที่จะเห็นเขาตาย ฉันไม่รู้ว่าต้องมองศพเขาด้วยสีหน้าแบบไหนกว่าฉันจะชอบใครสักคนมันยากมาก ได้โปรดอย่ากำจัดเขาเลย ได้ไหม?”
“ความทุกข์เป็หนทางเดียวที่ทำให้มนุษย์เติบโตหากเขาโดนผมกำจัดคงไม่เหลือแม้แต่ซากศพ ไม่จำเป็ต้องให้คุณต้องเผชิญ เชื่อผมอีกไม่นานคุณก็จะชอบผมเอง” นกยูงพยายามเค้นรอยยิ้มออกมาเม็ดเหงื่อผุดขึ้นและไหลลงมาจากหน้าผากของเขาการชาร์จพลังของกิเลนดำมาถึงขีดสุดแล้ว ถ้าไม่ปล่อยพลังออกไปตอนนี้มันจะะเิตัวเอง
“ถ้าอยากลงมือจริงๆ ก็ลงมือเลย! บางทีฉันอาจจะเป็ผู้ช่วยที่ยอดแย่เสมอมาไม่เคยเชื่อฟังคำสั่งของเสิ่นิ ถ้าไม่มีทางใดสามารถช่วยเหลือเขาได้สิ่งเดียวที่ฉันจะทำก็คงเป็การไปโยมิ1 พร้อมกันกับเขา”มือของเซี่ยวอี๋ไม่สั่นอีกต่อไป เมื่อมาถึงวินาทีนี้ความตายก็ดูเหมือนไม่น่ากลัวอีกต่อไป
“อ๊าก!!!” นกยูงคำรามจนเสียงแหบแห้งหมัดอันบ้าคลั่งหวดเข้าไปที่ศีรษะของเสิ่นิแต่กิเลนดำกลับเบี่ยงออกจากตำแหน่งศีรษะมันะเิต้นซากุระขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของเสิ่นิแทน
ตูม! แรงลมทำให้กระจกของอาคารโดยรอบแตกเป็เสี่ยงๆพลังอันน่ากลัวได้ทำลายต้นไม้และรากของมันเป็เศษผงขี้เลื่อยผสมกับกลีบดอกซากุระลอยคลุ้งไปในอากาศ
เสิ่นิยังมีชีวิตอยู่แม้แต่เซี่ยวอี๋เองก็ยังไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเธอร้องไห้ด้วยความเป็ห่วง ยิ้มด้วยความยินดีเธอขอบคุณพระเ้าและคุกเข่าลงกับพื้น หรือเพียงเพราะกลัวจนขาอ่อนเธอไม่สามารถพูดอะไรได้อีก ทำได้เพียงร้องไห้
“ไม่ต้องกลัว ทุกอย่างผ่านไปแล้ว” เสิ่นิกล่าวท่ามกลางสายฝนกลีบซากุระที่ร่วงหล่น เขาหันหน้าไปทางเซี่ยวอี๋และปลอบโยนเบาๆ “ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนผมจะกลับมาหาคุณ พาคุณกลับบ้าน นี่คือคำสัญญาจากผม เสิ่นิต่อให้จบชีวิตลงก็จะรักษามันไว้”
“อื้อ!” เซี่ยวอี๋พยักหน้าด้วยกำลังทั้งหมดที่มีเธอเชื่อคำมั่นของเสิ่นิจนหมดใจ
“เสิ่นิ ถ้ามีโอกาสได้พบกันอีก ฉันจะให้แกได้ตายโดยไร้ศพฝัง”นกยูงเตือนอย่างเ็า ไม่สนใจคู่แข่งทางใจผู้นี้อีกต่อไปเขาหันตัวเดินไปหาเซี่ยวอี๋พยุงตัวเธอขึ้นมาอย่างอ่อนโยนและโอบบังคับให้เซี่ยวอี๋เดินไปยังทางออก
โถงใหญ่กลายเป็เวทีของคู่พี่น้อง พี่ชายและน้องสาวอีกครั้ง
“นั่นพี่สะใภ้เหรอ? สวยนะ ทั้งขายาว อกโตพี่ไม่คู่ควรกับเธอหรอก” เสิ่นหวั่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ พี่รู้ว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ”เสิ่นิเห็นด้วยกับการประเมินของน้องสาว
“น่าเสียดาย ถ้าพี่ตาย พี่อาจจะมีความสุขกว่านี้ก็ได้? ถ้ารอดแล้วตกอยู่มาในเงื้อมมือของซากุระร่วงโรยก็จะทุกข์ทรมานเสียยิ่งกว่าตายนัก” เสิ่นหวั่นถอนหายใจด้วยความทุกข์“ฉันเพิ่งได้รับข่าว ท่านกรรมการในที่ประชุมของซากุระร่วงโรยสนใจในตัวพี่มากและสิ่งที่เขาสนใจ ส่วนมากแขนขาจะไม่สมประกอบ อวัยวะภายในทั้งห้าบกพร่อง”
“ถ้าพี่ตาย หวั่นเอ๋อร์จะร้องไห้ให้พี่ไหม?” เสิ่นิมองเสิ่นหวั่นอย่างสงสัย
“น้ำตาของหวั่นไหลจนแห้งเหือดไปั้แ่ค่ำคืนที่หวั่นอดอยากเจียนตายแล้วถ้าไม่ลืมความรักระหว่างพี่น้อง หวั่นคงไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ พี่ชายหวั่นมีหัวใจที่เป็เหล็กนะ หวั่นจะหลงเหลือความรู้สึกอยู่ได้ยังไง?” เสิ่นหวั่นโชว์ลักยิ้ม
“สิ่งที่ลืมไป ที่สุดแล้วก็นึกขึ้นมาได้อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดของพ่อกับแม่แล้ว อย่าลืมกราบไหว้ล่ะ” เสิ่นิเตือน
“พี่นี่เพ้อเจ้อ นอนซะเถอะ”เสิ่นหวั่นใช้มือเดียวฟันฉับไปที่แผ่นหลังของเสิ่นิ เธอเคลื่อนไหวอย่างเืเย็นทำเอาเสิ่นิหมดสติไป
โตเกียวอันวุ่นวายสับสนชายที่ขู่ว่าจะตามหาสำนักงานใหญ่ของซากุระร่วงโรยให้พบและตัดหัวของท่านประธานมาเป็กระโถนได้ถูกบรรจุลงถุงและเคลื่อนย้ายออกไปเหมือนกับสัตว์ป่าในสวนสัตว์
ความไม่เที่ยงของชีวิต มีชนะก็มีแพ้ สิ่งสำคัญคือหลังจากแพ้แล้วหลังจากรอดชีวิตกลับมาแล้ว เช่นเดียวกันกับประสบการณ์ตรงจากนิรวานของเสิ่นิ...
“คุณคิดจะทำอย่างไรกับเขา?” การดื่มชาซึ่งเย็นชืดทำให้รสชาติเปลี่ยนประธานซากุระร่วงโรยเอ่ยถามกรรมการในที่ประชุม
“แน่นอนว่าต้องส่งเขาไปให้คู่ขาของผมดู ในมือของเขาเสิ่นิเป็ประโยชน์สูงสุด แม้แต่กระดูกก็จะถูกชำแหละมาตรวจสอบ”กรรมการในที่ประชุมหัวเราะเอิ๊กอ๊าก
“คู่ขาของคุณอยู่ที่ไหน?” ประธานซากุระร่วงโรยรู้แค่ว่ากรรมการในที่ประชุมนั้นเป็นักวิทยาศาสตร์อันยอดเยี่ยมของ‘สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต’แต่เขาไม่รู้ว่าคู่ขาของกรรมการนั้นคือใคร? องค์กรนี้ลึกลับเสียยิ่งกว่าค่ายนิรวานและซากุระร่วงโรยของพวกเขา
“คุณเคยได้ยินชื่อ ‘์ที่สาบสูญ’ ไหม?”
“เขตหวงห้ามเซเวียร์ ์ที่สูญเปล่า?” ท่านประธานขมวดคิ้ว
***********************************
1 โยมิ คือคำภาษาญี่ปุ่นสำหรับดินแดนแห่งความตาย