ยามออกจากตำหนักเย็นเย่หงอี้เก็บงำความชิงชังที่ปะทุออกมาจากก้นบึ้งดวงตาก่อนกำชับสั่งการเหยาซู่หลวนด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
“ลั่นกุญแจปิดตายที่นี่เสียไม่อนุญาตให้ส่งข้าวส่งน้ำั้แ่บัดนี้เป็ต้นไป” หลังทิ้งวาจาประโยคสุดท้ายเย่หงอี้ก็ผละจากไปทันที เมื่อเงาร่างของอีกฝ่ายเลือนหายไปจากสายตาของตนเองแล้วเหยาซู่หลวนกระดกมุมปากแสยะยิ้มอึมครึม ก่อนก้าวเข้าสู่ตำหนักเย็น
“ชิ !ไม่นึกเลยว่าฝ่าาจะทรงมีความรักมั่นคงถึงขั้นไม่อาจตัดพระทัยลงมือกับเ้าด้วยพระองค์เอง”เหยาซู่หลวนเลิกคิ้วสูงเอ่ยวาจาเยาะหยันมองเหยาโม่ซินที่กำลังคร่ำครวญปานใจจะขาดด้วยความเศร้าโศก เสียงที่เปล่งออกมาส่อเจตนาร้ายอย่างโจ่งแจ้ง
ทว่าเหยาโม่ซินกลับไม่นำพาต่อการถ้อยคำถากถางเ่าั้แม้แต่น้อยนางยังคงโอบกอดร่างไร้ิญญาของบุตรชาย ร่ำไห้รำพึงรำพันเช่นคนหัวใจสลาย
จ้งเอ๋อร์...แม่ผิดต่อเ้าให้อภัยแม่ด้วยเถิด เพราะแม่แท้ ๆ เ้าถึงต้องตายอย่างอเนจอนาถ ์...นางทำผิดตรงไหนโชคชะตาถึงได้ทารุณโหดร้ายกับนางถึงเพียงนี้
มาตรว่ามิใช่ความผิดที่เคยก่อแล้วไยต้องให้นางตกเป็ผู้แบกรับเื่บ้าบอเหล่านี้ด้วย เป็เพราะเหตุใด !
“ร้องเข้าไปอย่าลืมร่ำไห้เผื่อมารดาชั้นต่ำกับน้องสาวปัญญาอ่อนของเ้าไปด้วยกันเสียเลยเล่า คำนวณจากโมงยามแล้วป่านนี้พวกนางคงไปรอจงเอ๋อร์อยู่ในนรกเรียบร้อยแล้วกระมัง... เฮอะ!”เหยาซู่หลวนยิ้มเยาะอย่างอดไม่ได้ในที่สุดตนเองก็สามารถกำจัดเสี้ยนหนามที่คอยทิ่มแทงั์ตาออกไปได้เสียทีช่างเป็เื่ชวนให้อิ่มเอมใจยิ่งนัก
“จะ...เ้าว่าอะไรนะ?”เหยาโม่ซินเหลือบตาขึ้นอย่างฉับพลัน ดวงตาที่เผยแววสิ้นหวังขึงจ้องอย่างคาดคั้น
“นี่ข้ายังพูดไม่ชัดเจนพอหรือไง?ไม่เป็ไร เดี๋ยวข้าทวนให้ฟังอีกรอบก็ได้เมื่อวานตอนที่ฝ่าาส่งเ้าเข้าตำหนักเย็น มารดาของข้าได้เริ่มทำตามแผนที่วางไว้ด้วยการจัดยาพิษไปให้มารดาผู้ต่ำต้อยของเ้าเป็ที่เรียบร้อยอ่อ...ยังมีน้องสาวผู้โง่เขลาเบาปัญญาของเ้าอีกคนป่านนี้คงถูกนายท่านหื่นกามในหอนางโลมย่ำยีจนคุ้มกับเงินทองที่จ่ายไปแล้วกระมัง”ทุกถ้อยคำทุกประโยคจากปากเหยาซู่หลวนประหนึ่งเสียงกลองจากแดนปะาที่กระหน่ำโจมตีหัวใจของเหยาโม่ซินอย่างรุนแรง
“เหยาซู่หลวนข้าปฏิบัติต่อเ้าอย่างดีเสมอมา ไยจึงเนรคุณย้อนกลับมาแว้งกัด ข้าช่างทำคุณบูชาโทษโปรดสัตว์ได้บาปแท้ ๆ คนอย่างเ้ามันเลวทรามต่ำช้ายิ่งกว่า...”
“เพียะ! “ฝ่ามือของเหยาซู่หลวนสะบัดใส่ใบหน้าของเหยาโม่ซินอย่างไม่ปรานีปราศรัยเพื่อหยุดถ้อยคำก่นด่าเ่าั้
“ถุย!หากหวังดีจริงดังว่า เ้าก็ควรสละตำแหน่งหวงโฮ่วให้แก่ข้าโดยดีั้แ่แรก หญิงชั้นต่ำที่เกิดมาจากอนุภรรยาอย่างเ้าถือสิทธิ์อันใดมาบัลลังก์หงส์ที่ควรเป็ของข้าเหยาโม่ซิน... ข้าน่ะอยากเห็นเ้าตายจนแทบทนไม่ไหวมานานแล้ว นับว่า์ยังมีตาถึงจะช้าไปเสียหน่อย แต่อย่างน้อยข้าก็สามารถกำจัดตัวซวยอย่างเ้าได้สำเร็จ”
“อ้อ...เกือบลืมบอกไปข้าใช้ให้คนปล่อยข่าวลือเหลวไหลเ่าั้ออกไปเองแหละ รวมทั้งปรักปรำใต้เท้าเหอเหลียนจนต้องติดคุกอีกด้วยเพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้นจะกระตุ้นให้เ้าสนับสนุนการยื่นฎีกาของเหล่าขุนนางเพื่อปกป้องเขาอยู่เื้ัได้หรือไหนจะเื่ค่ำคืนที่เคหาสน์คลื่นวารี ก็เป็ข้าอีกนั่นแหละที่หาคนมาเป็พยานเท็จใส่ความเ้าแล้วยังมีอะไรอีกนะ...ดูเหมือนจะเยอะจนจำแทบไม่หวาดไม่ไหวทีเดียว”เหยาซู่หลวนเย้ยหยันอวดโอ่ “ผลงาน” ของตนอย่างเหิมเกริม
“ชั่วช้าสามานย์จิตใจโสมม! ข้าจะฆ่าเ้า! อ๊า...” หัวใจของเหยาโม่ซินเหมือนถูกกระหน่ำแทงจนพรุนไม่เหลือชิ้นดีเย่หงอี้บุรุษที่นางรักหมดใจจนยอมสละให้ได้แม้กระทั่งชีวิตกลับเห็นตนเองเป็หนามตำตาแม้แต่น้องสาวผู้สงบเสงี่ยมเจียมตนอย่างเหยาซู่หลวนกลับมีหัวใจซ่อนมีดลอบแทงข้างหลังตอบแทนความดีด้วยการวางแผนทำลายชีวิตทุกคนที่นางรัก
ทว่าขณะที่เหยาโม่ซินพุ่งกระโจนเข้าใส่กลับถูกเหยาซู่หลวนผลักกลับมาจนล้มกระแทกพื้น
“ช่างเถิดเห็นแก่เ้าที่เป็คนเปิดโอกาสให้ข้ามีวันนี้กริชนี่ถือเสียว่าเป็ของตอบแทนที่ข้ามอบให้แล้วกันกลิ่นคาวโลหิตในนี้ชวนให้คลื่นเหียนยิ่งนักเ้าอยากตายอย่างไรก็เลือกเอาตามที่เห็นสมควรเถิด”เหยาซู่หลวนล้วงเอากริชเล่มหนึ่งออกจากแขนเสื้อโยนไปตรงหน้าเหยาโม่ซินพลางยกมือขึ้นปิดจมูก กวาดสายตาไปบนใบหน้าซีดเซียวของเหยาโม่ซินอย่างรังเกียจก่อนเดินจากไป
เสียงโซ่ล่ามประตูดังขึ้นตำหนักเย็นถูกปิดลงอีกครั้งอย่างแ่า แม้ว่ามือที่เต็มไปด้วยาแทั้งสองข้างจะเ็ปสุดหัวใจแต่เหยาโม่ซินยังคงพยายามตะเกียกตะกายคลานเข้าหาร่างทารกน้อยในกองเือย่างไม่ยอมถอดใจ
“จ้งเอ๋อร์อย่ากลัว...อย่ากลัวไปเลย... แม่จะไปอยู่เป็เพื่อนเ้าเดี๋ยวนี้แล้ว แม่ขอสาบานต่อไปจะไม่ให้ใครหน้าไหนรังแกเ้าได้อีก....” น้ำตาที่หลั่งออกมากลายเป็สายเือุ้มลูกน้อยไว้แน่นในอ้อมแขนข้างหนึ่งส่วนมืออีกข้างเอื้อมไปหยิบกริชเล่มนั้นขึ้นมาอย่างช้า ๆ ก้นบึ้งดวงตาจมดิ่งสู่ความมืดมิด
“เย่หงอี้เหยาซู่หลวน หลังจากที่ข้าตายไปจะขอเป็ผีร้ายกลับมาทวงหนี้ที่พวกเ้าติดค้างอย่างสาสม...”
หยาดโลหิตเคล้าหยดน้ำตาพุ่งทะลักออกมาราวกับน้ำพุอาบย้อมพื้นศิลาเย็นเยียบจนกลายเป็สีแดงฉานดูราวกับบุปผาเืแห่งปรโลกที่เบ่งบานอยู่ท่ามกลางอนธการอันไร้ขอบเขต
เหยาโม่ซินกอดร่างทารกน้อยไว้แแ่ชาตินี้จะไม่มีผู้ใดพรากเขาไปจากนางได้อีก
...
ถนนซิ่งหวาตั้งอยู่ในเขตคึกคักที่สุดของเมืองหลวงแคว้นฉู่ทั่วหัวระแหงคลาคล่ำไปด้วยฝูงชน รถม้ามากมายวิ่งผ่านไปผ่านมาบนท้องถนนทั้งสองฝั่งถนนมีทั้งโรงน้ำชา เหลาสุรา โรงรับจำนำ ตลอดจนร้านรวงต่าง ๆเรียงรายแน่นขนัดอยู่ตลอดแนว เป็บรรยากาศที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองเฟื่องฟู
หากจะกล่าวถึงสถานเริงรมย์ที่โอ่อ่าหรูหราน่าประทับใจบนถนนสายหลักแห่งนี้คงไม่มีที่ใดกล้าประชันกับหออี๋ชุน (หอวสันต์สราญ) ซึ่งเป็อาคารสูงสามชั้นหลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบชั้นดี มีรูปปั้นหงส์เกาะอยู่บนปีกหลังคาที่เชิดโค้งขึ้นทั้งสี่ด้านแม้แต่คานและเสายังแกะสลักและวาดลวดลายสีสันงามวิจิตรตระการตายิ่ง
บรรดาเศรษฐีกระเป๋าหนักผู้ลุ่มหลงในกามตัณหาล้วนเต็มใจโปรยเงินทองมาให้หออี๋ชุนเพื่อซื้อความสำราญกันทั้งสิ้นที่หน้าประตู มีหญิงสาวแต่งหน้าจัดจ้านนุ่งน้อยห่มน้อย เปิดเปลือยหัวไหล่ออกมายืนโบกผ้าเช็ดหน้ากลิ่นหอมจรุงซึ่งทำมาจากแพรไหมเนื้อดีทอดสายตายั่วยวนอย่างมีจริตจะก้านชวนให้บุรุษที่เดินผ่านไปมาหัวใจปั่นป่วนจนแทบก้าวเท้าไม่ออก
ด้านในกรุ่นไปด้วยกลิ่นอายวสันต์อันเย้ายวนเหล่าบุรุษต่างโอบกอดโฉมงามหน้าแฉล้มในอ้อมแขน พลางร่ำสุราจนเมาหัวทิ่มมองจากภายนอกแม้สถานที่แห่งนี้จะดูเหมือนวิมานแก้ว แต่แท้จริงแล้วภายในกลับฟอนเฟะ
ยามนี้ในห้องซึ่งอยู่ด้านในสุดกำลังเกิดเหตุโกลาหลวุ่นวาย
“ฮือ ๆพวกเ้ารังแกผู้อื่น...หลิวสิ่งช่วยข้าด้วย ข้าเจ็บ...”เหยาโม่หว่านร้องไห้น้ำตาไหลพรากอยู่บนเตียงยกแขนเรียวตะกุยตะกายผลักไสบุรุษที่คร่อมทับตนเองอยู่ให้พ้นไปจากร่างแต่เพียงชั่วพริบตาหลังจากนั้นมือน้อยทั้งคู่กลับถูกรวบตรึงไว้เหนือศีรษะโดยบุรุษอีกคน
“เ้าพวกเดรัจฉานปล่อยคุณหนูสามเดี๋ยวนี้นะ ไสหัวไปให้พ้น” ชายที่ถูกเรียกว่าหลิวสิ่งั์ตาแดงก่ำยกเท้าเตะชายกักขฬะที่เอื้อมมือเข้ามาหมายจะลากตนเองออกไปจากห้องก่อนหมุนตัววิ่งไปที่เตียงกระชากตัวคุณชายเสเพลที่คร่อมร่างเหยาโม่หว่านลงมากองที่พื้นแล้วออกหมัดซัดเข้าเบ้าตาของชายอัปลักษณ์อีกคนเต็มแรง
“คุณหนูสามไม่ต้องกลัวตราบใดที่บ่าวยังอยู่ จะไม่ให้ใครหน้าไหนมารังแกท่านได้ทั้งสิ้น” หลิวสิ่งยกแขนเสื้อปาดคราบเืใต้จมูกอย่างรวดเร็วเข้ามายืนขวางเป็รูปปั้นอยู่หน้าเหยาโม่หว่านโดยไม่นำพาสังขารอันสะบักสะบอมเต็มไปด้วยาแของตนเอง
“พล่ามอะไรไร้สาระ!มัวยืนเซ่ออยู่ได้ รีบอัดมันให้ข้าเดี๋ยวนี้” คุณชายเสเพลตะกายลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเลชี้หน้าหลิวสิ่งพลางะโด่าอย่างกราดเกรี้ยว เหล่าลูกสมุนอันธพาลได้ยินคำสั่งก็เข้ามาล้อมกรอบรุมกระทืบหลิวสิ่งอย่างไม่ปรานี
“อย่านะพวกเ้าอย่าตีเขานะ หลิวสิ่ง...ฮือ ๆ “เหยาโม่หว่านมองนักเลงเ่าั้รุมเตะต่อยบ่าวของตนไม่ยั้งด้วยสีหน้าหวาดผวาครั้นแล้วก็พุ่งลงจากเตียงเข้าไปดึงแขนของนักเลงเ่าั้โดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้นจึงโดนลูกหลงถูกเหวี่ยงกระเด็นออกมา ร่างน้อยลอยวืดศีรษะกระแทกขอบเตียงอย่างแรงมือเท้าพลันหมดแรง คอพับ สิ้นลมหายใจในที่สุด
ทุกคนมัวแต่คิดจะจัดการกับหลิวสิ่งกระทั่งคุณชายเสเพลผู้นั้นก็เข้าไปร่วมผสมโรงกับผู้อื่นด้วยจึงไม่มีใครสนใจความเป็ไปของเหยาโม่หว่านสักคน
“ข้าขอสู้ตายกับพวกเ้า!”หลิวสิ่งซึ่งถูกรุมซ้อมจนาเ็ปางตาย พอเห็นคุณหนูของตนล้มลงที่พื้นก็ร้อนใจยิ่งลุกขึ้นมาอาละวาด เอื้อมมือไปคว้าเก้าอี้ข้างตัวมาฟาดใส่อันธพาลคนหนึ่งที่อยู่ใกล้จนเือาบ
“เ้าสุนัขจรจัดแน่นักหรือไงบังอาจมาทำร้ายคนของคุณชายเยี่ยงข้า มัวชักช้าอยู่ไย อัดมันให้ตายไปเลยสิ!”คุณชายเสเพละโสั่งลูกน้องอย่างฉุนเฉียว พวกที่เหลือจึงเข้าไปต่อยตีกับหลิวสิ่งต่อจนชุลมุนวุ่นวายไปหมด
“หนวกหูจริง...”เหยาโม่ซินพึมพำ รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าผาก สะลึมสะลือลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆนึกฉงนกับบรรยากาศเบื้องหน้า แต่ทันใดนั้นนางเหมือนนึกบางอย่างขึ้นได้ สองมือพลันกอดกระหวัดเข้าหากันด้วยสัญชาตญาณทว่ายามหลุบสายตาลงไปมอง กลับไม่เห็นจ้งเอ๋อร์ของตนเองแล้ว
“คุณหนูสามวิ่งเร็ว ๆ เข้า รีบหนีไป” หลิวสิ่งถูกตีจนหัวแตกเือาบรู้ดีว่าตนเองคงยื้อต่อไปได้อีกไม่นานนัก จึงร้องะโสุดชีวิตหวังว่าเหยาโม่หว่านจะได้ยิน
เหยาโม่ซินตะลึงงันมองออกไปเห็นเงาร่างที่คุ้นตาอยู่ตรงนั้น หลิวสิ่งนั่นเอง นางจำได้แม่นเพราะนี่คือบ่าวชายเพียงคนเดียวในจวนอัครเสนาบดีที่น้องสาวของตนสนิทสนมด้วยแต่เมื่อครู่นี้เขา...
“เ้า...เ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?”เหยาโม่ซินมองบุรุษที่อยู่เบื้องหน้าอย่างตื่นตระหนกก่อนลุกขึ้นวิ่งไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนคว้าคันฉ่องสำริดขึ้นมา
“โม่หว่าน...เป็ไปได้อย่างไรมันจะเป็ไปได้อย่างไร!” เหยาโม่ซินมองตนเองอย่างไม่อยากเชื่อพยายามเช็ดถูคันฉ่องอยู่หลายครั้งก่อนมองซ้ำ แต่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนภาพที่ปรากฏก็ยังคงเป็ใบหน้าเหยาโม่หว่านน้องสาวของตนเอง
นางตายไปแล้วไม่ใช่หรือชั่วขณะที่คมกริชเย็นเฉียบเล่มนั้นฝังเข้าไปในลำคอยังแจ่มชัดอยู่ในความรู้สึกเสี้ยวเวลาสุดท้ายของชีวิตภาพใบหน้าอาบโลหิตของจ้งเอ๋อร์คือสิ่งสุดท้ายที่นางได้เห็น
แต่ยามนี้กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งไม่เพียงเท่านั้น ร่างกายนี้ยังเป็ของน้องสาวตนเองชัด ๆมีใครบอกได้บ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
“แม่สาวน้อย...อย่าได้คิดหนีทีเดียวเพื่อแลกกับตัวเ้า ข้าต้องจ่ายเงินก้อนโตเชียวนะ”คุณชายเสเพลผู้นั้นหันมาคว้าข้อมือของเหยาโม่หว่านทันทีใบหน้าเ้าเล่ห์ฉาบไปด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนหันไปตวาดใส่ลูกน้องของตนเอง “เ้าพวกโง่ยังไม่รีบจัดการไอ้สวะนั่นอีกรึ ทำข้าเสียอารมณ์จริง ๆ”
พอได้รับคำสั่งจากนายก็ยิ่งลงมือหนักขึ้น แต่หลิวสิ่งยังพยายามรวบรวมสติะโบอกทั้งที่เือาบเต็มหน้า“คุณหนูสาม ขว้างเลย ใช้คันฉ่องอันนั้นขว้างใส่มันเลย”
บัดนี้เหยาโม่ซินจำเป็ต้องรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้านางกลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยการยืมร่างคืนิญญา ความรู้สึกปวดแปลบที่หน้าผากทำให้เชื่อว่าน้องสาวของตนเองคงเพิ่งสิ้นใจไปขณะที่ศีรษะชนถูกขอบเตียงเมื่อครู่
ประเสริฐ!เมื่อ์เมตตาให้นางกลับมาเกิดใหม่ นางก็จะทะนุถนอมโอกาสนี้ไว้อย่างดีที่สุดนับจากนี้เป็ต้นไป ตนเองคือเหยาโม่หว่าน ผู้กระจ่างในสันดานโฉดชั่วเยี่ยงหมาป่าของเย่หงอี้และเหลี่ยมเล่ห์ของสตรีใจอสรพิษอย่างเหยาซู่หลวนดีที่สุดในใต้หล้านางคือเหยาโม่หว่าน ผู้มีความพยาบาทของเหยาโม่ซินและจ้งเอ๋อร์ฝังลึกอยู่ในใจ
เหยาโม่หว่านผู้นี้ขอสาบานด้วยจิติญญาว่าจะต้องฉีกร่างของชายโฉดหญิงชั่วสองคนนั้นให้แหลกเป็หมื่นชิ้นให้จงได้!
“หยุดเดี๋ยวนี้เพล้ง!” เหยาโม่หว่านตวาดพร้อมกับขว้างคันฉ่องลงพื้นจนเกิดเสียงดังพร้อมกันน้ำเสียงแข็งกร้าวของนางทำให้คุณชายเสเพลผู้นั้นสะดุ้งสุดตัวปล่อยมือทันที
“คุณหนูสาม...รีบวิ่ง...”เบื้องหน้าสายตาของหลิวสิ่งเริ่มเลือนราง โลหิตไหลอาบเต็มหน้า ทว่ายังคงห่วงใยในความปลอดภัยของเหยาโม่หว่าน
“จิ๊จิ๊...ทำไมจู่ ๆ ก็ร้ายกาจขึ้นมาเล่า แต่สตรีดุเด็ดเผ็ดมันแบบนี้ ข้าชอบ...”คุณชายเสเพลอึ้งงันไปชั่วครู่ ก่อนคลี่ยิ้มส่งสายตาลามเลียเตรียมกระโจนเข้าหาทว่าความเยียบเย็นจนน่าขนลุกจากดวงตาของเหยาโม่หว่านทำให้เขาต้องหยุดชะงัก
“ข้าเป็น้องสาวแท้ ๆ ของหวงโฮ่วพระองค์ปัจจุบันเป็บุตรีคนที่สามของอัครเสนาบดีแห่งราชสำนักเ้าไปกินหัวใจหมีดีเสือดาวมาจากไหนถึงได้กล้ากำแหงล่วงเกินข้าเยี่ยงนี้”น้ำเสียงของเหยาโม่หว่านเย็นะเืปานอสูรร้ายที่ผุดขึ้นมาจากอเวจี ขบริมฝีปากไล่เบี้ยสร้างแรงกดดันให้กับคุณชายเสเพลผู้นั้นทีละก้าว ๆ
“เ้า...”
“อย่าบอกนะว่าไม่รู้?ป้ายคำสั่งที่เอวของหลิวสิ่งมีอักษร ''เหยา'' สลักอยู่ตัวเบ้อเร่อพวกเ้าตาบอดกันหรือไงถึงมองไม่เห็น ผู้อื่นร้องะโปาว ๆ เรียกข้าคุณหนูสามคุณหนูสาม อย่าบอกนะว่าพวกเ้าหูหนวกกันไปหมดแล้ว? ทั่วทั้งเมืองหลวงแห่งนี้หากไม่ใช่ข้ารับใช้จากตระกูลสูงศักดิ์ไหนเลยจะมีป้ายคำสั่งแขวนที่เอวแม้แต่ความรู้พื้นฐานทั่วไปเยี่ยงนี้พวกเ้ายังไม่รู้อีกหรือ?” เหยาโม่ซินตอกย้ำทีละคำอย่างหนักแน่นสายตาเ็าจดจ้องไปที่บุรุษตรงหน้า
“ข้า...”
“อย่าได้คิดจะฆ่าคนปิดปากสถานที่โอ่อ่าใหญ่โตขนาดนี้คนเดินผ่านไปมาตั้งไม่รู้เท่าไรล้วนเห็นหน้าข้ากันหมดแล้วเ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีใครบอกให้ผู้อื่นรับรู้ จงฟังให้ดี รีบช่วยหลิวสิ่งให้ฟื้นขึ้นมาซะมิเช่นนั้นเ้ากับสวะพวกนี้รวมไปถึงคนในตระกูลของเ้าทุกชีวิตจะต้องตามไปอยู่เป็เพื่อนเขาในนรกทีนี้ก็ถอยไปได้แล้ว!” ดวงตาคู่งามสาดประกายเ็าจนน่าขนลุกคุณชายเสเพลผู้นั้นจึงไม่กล้าขัดขืนแม้แต่น้อย
เหยาโม่ซินวิ่งออกจากหออี๋ชุนอย่างสุดชีวิตราวกับคนเสียสติด้วยวาจาของเหยาซู่หลวนที่ตำหนักเย็นดังก้องอยู่ในหูตลอดเวลา
“...มารดาของข้าเริ่มทำตามแผนที่วางไว้ด้วยการจัดยาพิษไปให้มารดาผู้ต่ำต้อยของเ้าเป็ที่เรียบร้อย อ่อ...ยังมีน้องสาวผู้โง่เขลาเบาปัญญาของเ้าอีกคนป่านนี้คงถูกนายท่านหื่นกามในหอนางโลมย่ำยีจนคุ้มกับเงินทองที่จ่ายไปแล้วกระมัง...”
ท่านแม่ท่านต้องอดทนรอข้า รอข้าก่อนนะ!