หลังจากที่เฉียนโมโมะอธิบายแล้ว กูเฟยเยี่ยนถึงได้รู้ว่าร่างเดิมสวมใส่เสื้อผ้าชุดนี้ตอนที่จมน้ำในวัยเด็ก หลังจากที่ร่างเดิมได้รับการช่วยเหลือจากการจมน้ำก็หมดสติไปแล้ว นางถูกนำตัวไปที่บ้านของเฉียนโมโมะเพราะอยู่ใกล้ที่สุด เสื้อผ้าชุดนี้ตกหล่นหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย เมื่อคนรับใช้ทำความสะอาดแล้วเฉียนโมโมะก็ลืมส่งกลับไป
“นายหญิงน้อยเ้าค่ะ ่เวลานั้นท่านไม่ได้สติ ทั้งตระกูลกูเต็มไปด้วยความวุ่นวาย! ท่านเป็ถึงคนโปรดของท่านผู้เฒ่า! เหล่านู๋ต้องรับใช้ท่านผู้เฒ่าไปพร้อมกับดูแลท่าน จึงลืมเลือนเื่นี้มาโดยตลอด ต่อมาท่านผู้เฒ่าเสียชีวิตลง ท่านเข้าไปในห้องยาสำนักหมอหลวง เหล่านู๋บังเอิญรื้อตู้เสื้อผ้าจึงพบเข้ากับอาภรณ์ชุดนี้”
เฉียนโมโมะเอ่ยพลางสะอึกสะอื้น “เหล่านู๋ตัดสินใจเก็บชุดนี้เอาไว้เพื่อรำลึกถึงท่านและหวังว่าจะมีสักวันที่ได้พบท่านอีกครั้งแล้วมอบคืนให้ท่านด้วยตนเอง คิดไม่ถึงเลยว่าเหล่านู๋จะ…”
เฉียนโมโมะเอ่ยต่อไปไม่ไหว ฝ่ามือแข็งกระด้างยังคงปาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาไม่หยุด นางทั้งดีใจและตื้นตันใจ
กูเฟยเยี่ยนลอบแสดงความยินดีในใจที่ตระกูลกูยังหลงเหลือคนรับใช้ที่มีความจริงใจ นับได้ว่าเป็ความโชคดีของร่างเดิมกับนาง! นางปลอบโยนเฉียนโมโมะโดยที่ไม่มีความสงสัยต่ออาภรณ์ชุดนี้
เนื่องด้วยในอดีตตระกูลกูมีความร่ำรวยเป็อย่างยิ่งจึงสามารถหาซื้อเสื้อผ้าคุณภาพเช่นนี้ได้ ในเมื่อเป็สิ่งของวัยเด็กของร่างเดิมจึงเป็เื่ปกติที่นางจะมีความรู้สึกคุ้นเคย
กูเฟยเยี่ยนรวบเสื้อผ้ามาเก็บด้วยตนเอง นางมอบเหรียญทองให้หนึ่งถุงพลางมอบหมายงานเล็กๆ น้อยๆ ให้ จากนั้นจึงถามถึงเื่ราวของตระกูลกูก่อนจะให้เฉียนโมโมะไปพักผ่อน
เฉียนโมโมะคือผู้ที่ไม่อาจอยู่นิ่งได้ ทันทีที่นางปาดน้ำตาที่ไหลรินออกจนหมดก็รีบพับแขนเสื้อเริ่มทำงานทันที เพียงแค่ครึ่งวันนางก็ปัดกวาดเช็ดถูลานเล็กของเหยาหัวเก๋อจนสะอาดสะอ้านขนาดที่ว่าไม่หลงเหลือวัชพืชแม้แต่ต้นเดียว อีกทั้งยังทำความสะอาดห้องเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างเหยาหัวเก๋อเพื่อนำหนึ่งห้องมาทำเป็ห้องทำอาหาร อีกหนึ่งห้องทำเป็ห้องนอนของนาง
่เวลาพลบค่ำ เฉียนโมโมะยกอาหารสี่จานกับน้ำแกงหนึ่งชามร้อนๆ ที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วออกมา ปริมาณนี้เหมาะสมพอดิบพอดี
กูเฟยเยี่ยนยังไม่ได้ลงมือทานทว่าเพียงแค่มองจากรูปลักษณ์กับกลิ่นหอมแล้ว นางพอใจเป็อย่างยิ่ง
เฉียนโมโมะปลื้มปีติทันทีที่เห็นว่ากูเฟยเยี่ยนมีความพึงพอใจ นางจึงรีบร้อนเอ่ยออกมา “นายหญิงน้อยรีบทานตอนร้อนๆ ท่านต้องทานให้มากกว่านี้เพราะท่านผอมเหลือเกิน ท่านให้เวลาเหล่านู๋หนึ่งเดือน เหล่านู๋รับรองว่าจะปรนนิบัติรับใช้ให้ท่านผิวขาวอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น”
ที่จริงแล้วน้ำหนักของกูเฟยเยี่ยนเพิ่มขึ้นมาบ้างแล้ว ทว่าถึงอย่างไรก็ยังผอมมากอยู่ดี นางจึงนั่งรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความอิ่มเอม
หลังจากที่ทานอาหารไปได้ไม่นานก็มีเด็กรับใช้คนหนึ่งมาขอพบนาง
กูเฟยเยี่ยนคิดว่าเด็กรับใช้คนนี้ถูกส่งมาจากถังจิ้ง ทว่าที่จริงแล้วเป็เซี่ยเสี่ยวหม่านที่ส่งมา เด็กรับใช้บอกกล่าวว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านไม่สะดวกที่จะมาที่นี่ เขามาแสดงความยินดีกับนางในนามของเซี่ยเสี่ยวหม่านและนำของบำรุงมากมายมามอบให้
กูเฟยเยี่ยนอดถามไม่ได้ “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยกลับมาในเมืองหรือยัง? ”
เด็กรับใช้ส่ายหน้า “นู๋ไฉทำงานอยู่ในจิ้งหวางฝู่มาสามปีแล้วแต่ก็ไม่เคยพบจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเลยแม้แต่ครั้งเดียว นู๋ไฉจะไปทราบได้อย่างไร? หม่านกงกงก็ไม่ได้เอ่ยถึงเช่นกัน”
กูเฟยเยี่ยนมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เขาและฝากให้เขานำคำพูดส่งต่อไปให้เซี่ยเสี่ยวหม่าน จากนั้นจึงให้เฉียนโมโมะส่งเขาออกไป
กูเฟยเยี่ยนรำพึงในใจ แม้กระทั่งเซี่ยเสี่ยวหม่านยังไม่กล้ามาที่ตระกูลกูด้วยตนเองเพราะ้าเลี่ยงการถูกสงสัย ดังนั้นในวันข้างหน้าเกรงว่าตัวนางเองอาจจะไม่ได้พบจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอย่างง่ายดายใช่หรือไม่?
ค่ำคืนนี้กูเฟยเยี่ยนพิจารณาจดหมายลับในใบสั่งยาอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่ยังคงคิดอันใดไม่ออก
ยามรุ่งอรุณวันถัดมา กูเฟยเยี่ยนยังคงอยู่ในห้วงนิทรา ทว่าจู่ๆ นางก็ต้องเบิกตากว้างเนื่องจากมีคนเข้ามาบีบจมูกของนาง ผู้ที่เข้ามาไม่ใช่คนอื่นคนไกล คนผู้นั้นก็คือถังจิ้ง!
กูเฟยเยี่ยนปีติยินดีจึงรีบยันกายขึ้น “ในที่สุดก็ได้พบท่าน! ข้าคิดว่าฝ่าาจะเก็บท่านไว้ในพระราชวังเพื่อเป็นางสนมเสียอีก! ”
ถึงแม้จะเคยพบกันเพียงครั้งเดียว ทว่านางกับถังจิ้งก็ถูกชะตากัน บวกกับการเขียนจดหมายไปมาหาสู่กันหลายครั้ง ทั้งสองคนจึงกลายเป็เพื่อนสนิทที่ดีต่อกันมานานแล้ว
ถังจิ้งเย้ยหยัน “นางสนม? ต่อให้เป็หวงโฮ่ว [1] พี่สาวคนนี้ก็ไม่้า! ฝ่าาชราของพวกเ้าใฝ่สูงเข้าหาพี่สาวคนนี้ไม่ได้! เขาสอบถามข้าถึงเื่ราวของหุบเขาเสินหนงแต่ข้าไม่ตอบกลับเลยแม้แต่คำเดียว! หึๆ ถ้าเป็จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยนะ ข้าจะพิจารณาดู”
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนยังคงยิ้มแย้ม ทว่านางตกตะลึงทันทีที่ได้ยินประโยคหลัง
ถังจิ้งหัวเราะเสียงดังลั่นทันทีที่เห็นปฏิกิริยาตอบสนองของกูเฟยเยี่ยน “ดูเหมือนว่าพี่สาวคนนี้จะทำให้เ้าใเสียแล้ว! มานี่มา วันนี้มาพูดคุยให้ชัดเจน ถ้าเ้าชื่นชอบจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย พี่สาวคนนี้จะไม่แย่งชิงกับเ้า! ”
หลังจากที่ได้ยินเช่นนี้ กูเฟยเยี่ยนถึงได้รู้ว่าถังจิ้งจงใจหยอกล้อนาง
หญิงสาวรีบปฏิเสธทันที “ข้ามิอาจใฝ่สูงถึงจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยได้ ถ้าหากว่าท่านชื่นชอบพระองค์ ข้าสามารถช่วยเหลือท่านได้! ”
ถังจิ้งจ้องมองกูเฟยเยี่ยนโดยไม่พูดอะไร
กูเฟยเยี่ยนไม่สะทกสะท้าน ถึงแม้ว่าตัวนางเองจะเคยคิดอะไรเกินเลยต่อเทพบุตรของนางหลายครั้ง แต่นั่นล้วนเป็เพราะปลื้มปีติในความสง่างามของบุรุษ นางไม่กล้าคิดถึงสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากนี้
ความสงสัยแวบเข้ามาในดวงตาของถังจิ้ง ในขณะที่นางกำลังจะเอ่ยขึ้น กูเฟยเยี่ยนก็รีบไปปิดประตูพลางกระซิบแ่เบา “เกิดอะไรขึ้นกัน? หัวหน้าาุโแนะนำตัวข้าแก่ท่านเ้าสำนักหรือ? ท่านได้พบท่านเ้าสำนักหรือไม่? ถ้าข้าไปที่หุบเขาเสินหนง ท่านเ้าสำนักจะยอมพบข้าหรือไม่? ”
กูเฟยเยี่ยนให้ความสนใจลิ่วตันซางลู่ที่มาจากปิงไห่ทางใต้อยู่ตลอดเวลา หากว่านางได้รับคำชมชอบจากท่านเ้าสำนัก นางก็จะพูดคุยเจรจากับหัวหน้าาุโได้อย่างมั่นใจ และการตามหาต้นตอของลิ่วตันซางลู่ก็จะง่ายดายขึ้นเช่นกัน
สีหน้าของถังจิ้งมีความสงสัยมากกว่าเดิม “เ้า…เ้าไม่รู้หรือ? ”
กูเฟยเยี่ยนสับสนมึนงง “รู้เื่อะไรกัน? ”
ถังจิ้งรีบปิดปากส่ายหน้าทันที
กูเฟยเยี่ยนตระหนักได้ถึงความผิดปกติ “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ รีบบอกข้าเถอะนะ! ”
ถังจิ้งมีความลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกระซิบแ่เบา “ข้าคิดว่าเ้ารู้ั้แ่แรกแล้วเสียอีก! หัวหน้าาุโไปขอร้องท่านเ้าสำนักพร้อมกับส่งข้ามาที่นี่ แผนการเดิมก็คือ ถ้าท่านเ้าสำนักไม่ยินยอม ข้าก็จะมอบตำแหน่งว่าที่กรรมการบริหารให้เ้าในนามของหัวหน้าาุโ ในขณะที่ข้ายังเดินทางมาไม่ถึงเมืองจิ้นหยาง จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็ได้รับจดหมายจากหัวหน้าาุโแล้ว เนื้อความในจดหมายกล่าวเอาไว้ว่าท่านเ้าสำนักยินยอม เื่ราวพวกนี้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่ได้บอกเ้าหรือ? ”
กูเฟยเยี่ยนตะลึงงัน จนกระทั่งถังจิ้งผลักนางเบาๆ นางจึงได้สติกลับมาและเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดีอกดีใจ
ที่แท้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็ช่วยเหลือนางอีกครั้ง! ถึงแม้ว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะเ็าทว่าไม่ใช่ผู้ที่เห็นคนใกล้ตายแล้วไม่ช่วยชีวิต!
เหตุใดเขาถึงไม่บอกนางนะ?
กลัวว่านางจะตื่นเต้นจนทำให้เทียนอู่ฮ่องเต้มีความคลางแคลงใจหรือ?
ไม่รู้ว่าถังจิ้งไม่เข้าใจจริงๆ หรือเสแสร้งทำเป็ไม่เข้าใจ เพราะนางเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เยี่ยนเอ๋อร์ เหตุใดจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยถึงได้ปิดบังเ้า? เหตุใดเขากับหัวหน้าาุโถึงได้ทำเช่นนี้? ถ้าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย้าเลื่อนขั้นแก่เ้า เขาไม่จำเป็ต้องยืมอำนาจของหุบเขาเสินหนงไม่ใช่หรือ? ”
แม้ว่ากูเฟยเยี่ยนจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์อันทรงพลังนี้ ทว่าสิ่งที่หญิงสาวคาดคิดไม่ถึงคือจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเปิดเผยความลับของเทียนอู่ฮ่องเต้แก่หัวหน้าาุโ และนางก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดหัวหน้าาุโถึงได้ให้เกียรติจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยถึงเพียงนี้
หลังจากที่กูเฟยเยี่ยนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางก็กระซิบบอกกล่าวสถานการณ์ที่ตนเองกำลังเผชิญหน้าอยู่ให้ถังจิ้งฟัง ใบหน้าของถังจิ้งเต็มไปด้วยความใ
กูเฟยเยี่ยนเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง “ท่านต้องเก็บรักษาความลับของอาการประชวรของฝ่าาชราไว้นะ! ”
ถังจิ้งผงกศีรษะตอบรับด้วยความจริงจัง “การเดินทางในครานี้หัวหน้าาุโไม่อนุญาตให้ข้าถามไถ่มากความ เ้าต้องทำเป็ไม่รู้ไม่เห็นนะ อย่าได้หักหลังข้าเชียว! ”
กูเฟยเยี่ยนพยักหน้าเช่นกัน “แน่นอนอยู่แล้ว! ”
เดิมทีกูเฟยเยี่ยน้าให้ถังจิ้งตรวจสอบที่มาของลิ่วตันซางลู่ ทว่าเมื่อคิดดูอีกทีแล้วนางก็เปลี่ยนใจ เพราะนั่นคือสิ่งของที่อยู่ในหอกักเก็บยาสมุนไพรในหุบเขาเสินหนง ถ้าให้ถังจิ้งไปตรวจสอบจริงๆ มันจะเป็การสร้างปัญหายุ่งยากแก่นาง
ถังจิ้งเอ่ยขึ้นมา “ข้าได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ตระกูลของเ้าเป็ตระกูลแห่งศิลปะการต่อสู้ บ้านหลังนี้คือบ้านหลังเก่า อีกทั้งวัยเด็กเ้ายังเคยจมน้ำ? ไปกันเถอะ พาข้าไปเปิดหูเปิดตาเสียหน่อย ข้าอาศัยอยู่ได้เพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น ค่ำคืนนี้ต้องเดินทางกลับแล้ว”
————
เชิงอรรถ
[1] หวงโฮ่ว หมายถึง ตำแหน่งจักรพรรดินีของจักรพรรดิพระองค์ปัจจุบัน และมีศักดิ์สูงสุดในการปกครองวังหลัง