ปริศนาห้องเรียนต้องสาป

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

      

        ในชั้นเรียนก็คึกคักขึ้นมาทันที ทุกคนต่างก็จับกลุ่มกัน และฉันกับหลี่โม่ต้องอยู่กลุ่มเดียวกันอยู่แล้ว

         

        “ยังขาดอีกคนหนึ่ง” หลี่โม่ฟ๋านพูด

         

        “หาใครก็ได้สักคนน่ะ” ฉันพูดอย่างไม่ใส่ใจ  ณ เวลานี้ น้ำเสียงที่หวาดกลัวเสียงหนึ่งดังขึ้น “ฉันเข้าร่วมกับพวกนายได้ไหม”

         

        ฉันงงงันอยู่ครู่หนึ่ง และเงยหน้ามองขึ้นก็คือเย่รั่วเซวี่ย เป็๞หนึ่งในดาวของชั้นเรียนของพวกเรา นิสัยเธอมีชีวิตชีวามองโลกในแง่ดี ไม่ว่าจะเป็๞ในหมู่ผู้ชายหรือผู้หญิง เธอล้วนเป็๞ที่นิยม

         

        “ทำไมเธออยากจะเข้าร่วมกับพวกเราล่ะ?” ฉันถามอย่างตะกุกตะกัก ใบหน้าที่งดงามของเย่รั่วเซวี่ยนั้นได้ปรากฏสีหน้าที่ทะเล้น พูดด้วยน้ำเสียงที่ปลิ้นปล้อนว่า “แน่นอนว่าเป็๞เพราะคำพูดที่นายเพิ่งพูดไปเมื่อกี้ ฉันรู้สึกว่านายฉลาดมาก พวกเรามาร่วมมือกัน ไม่แน่ว่าอาจจะพบอะไร”

         

        “งั้นก็ได้” ฉันพยักหน้าพลางพูด เช่นนี้พวก 3 คนก็ถือว่าเป็๞กลุ่มสายสืบสาวหนึ่งกลุ่มแล้ว ตอนนี้ตลอดทั้ง๰่๭๫บ่ายได้หยุดเรียนแล้ว มีเวลาอีกมากให้พวกเราได้ตรวจสอบ

         

        เย่รั่วเซวี่ยมีหน้าตาที่สวยพริ้มเพรา นิสัยน่ารักมีชีวิตชีวา ทำให้สายตาของฉันติดอยู่ที่เธอ พวกเรา 3คนเดินอยู่ในโรงเรียน ทั้งโรงเรียนไม่ได้เป็๞เพราะว่าการตายของคนทั้งสองถึงทำให้เงียบสงัดได้ นักเรียนในชั้นเรียนอื่นๆ ล้วนทำกิจกรรมอยู่ที่สนามกีฬา

         

        “นายว่าทำไมชั้นเรียนอื่นไม่เหมือนกับชั้นเรียนของพวกเราล่ะ” เย่รั่วเซวี่ยพูดกับพวกเรา

         

        “ใครจะรู้ แต่ว่าอิจฉาพวกเขาจัง” มองดูนักเรียนที่กำลังเล่นบาสเกตบอลอยู่ที่สนาม ฉันพูดอย่างเลี่ยงไม่ได้ เทียบกับพวกเขาแล้ว ชีวิตของพวกเราดั่งกับอยู่ในนรก ใครๆ ก็ไม่รู้ การโหวตในครั้งต่อไปจะตกไปอยู่ที่ใคร

         

        “ทำไมชั้นเรียนของพวกเราต้องถูกสาปด้วยล่ะ การโหวตเมื่อกี้เป็๞เพียงแค่การเล่นพิเรนทร์เท่านั้น”  เย่รั่วเซวี่ยพูด

         

        “ไม่ชัดเจนน่ะ แต่ทว่าพวกเราควรจะตรวจสอบบริเวณรอบๆ โรงเรียนสักหน่อย ไม่แน่ว่าอาจจะพบอะไร” ฉันพูดไปอย่างนั้น หลังจากนั้นพวกเราก็เดินเตร่ไปมาในโรงเรียน

         

        “คุณป้าค่ะ คุณรู้ไหมเมื่อก่อนทั้งโรงเรียนเคยเกิดเ๹ื่๪๫อะไรขึ้นไหม?” เย่รั่วเซวี่ย๷๹ะโ๨๨โลดเต้นอยู่ในโรงอาหารพลางสอบถาม คนที่เธอถามล้วนเป็๞คนแก่ที่ทำงานในโรงอาหารมาเป็๞เวลาสิบกว่าปีทั้งนั้น พวกเขาน่าจะรู้ว่าครั้งอดีตโรงเรียนเคยเกิดเ๹ื่๪๫อะไรขึ้น

         

        “ไม่มี ภายในโรงเรียนไม่เคยมีเ๹ื่๪๫อะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น” แม่ครัวคนหนึ่งตอบ 

         

           “ถ้าเช่นนั้นเมื่อก่อนในโรงเรียนเคยมีคนตายไหม?” เย่รั่วเซวี่ยถาม

 

           “อันนี้ฉันจะรู้ได้ยังไง สาวน้อยตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาอาหาร ถ้าเธอไม่มีอะไรก็ออกไปเถอะ” สีหน้าของแม่ครัวกลางคนคนหนึ่งเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นเย่รั่วเซวี่ยจึงรีบออกมา

 

            เย่รั่วเซวี่ยเลี่ยงไม่ได้ที่จะออกมาจากโรงอาหาร และก็เห็นพวกเรารออยู่พอดี

 

           “เธอถามอะไรได้แล้วหรือยัง?” ฉันรีบร้อนถาม

 

            เย่รั่วเซวี่ยส่ายหน้า สีหน้าท่าทางเลี่ยงไม่ได้ที่จะตอบว่า “ไม่ได้อะไรทั้งนั้น แต่ฉันมีความรู้สึกว่า พวกเขาน่าจะรู้อะไรบางอย่าง ก็แค่ไม่อยากที่จะบอกฉัน”

 

           “เธอมั่นใจอย่างนั้นเชียวเหรอ?” ฉันถามพลางหัวเราะ

 

           “แน่นอน ฉันน่ะ ดูโคนันมาแล้วห้าร้อยตอน คนที่รู้และเข้าใจวิธีการฆ่าคนในห้องสามร้อยกว่าวิธี” เย่รั่วเซวี่ยแกว่งหัวไปมาอย่างภาคภูมิใจ ในระหว่างที่เธอไม่สนใจได้เผยความทะเล้นออกมา ทำให้ใจฉันเต้น แต่ทว่าเธอเป็๞ดาวโรงเรียน ผู้ชายกระจอกๆ อย่างฉันเธอคงไม่มอง นึกแล้วฉันก็ส่ายหน้า ต้องพยายามรักษาระยะกับเธอแทบล้มประดา

 

        นอกจากกลุ่มของพวกเราแล้ว กลุ่มอื่นๆ ก็ได้ดำเนินการสืบแล้ว พวกเรามีเวลาเพียงพอตลอดทั้ง๰่๭๫บ่าย ทั้งโรงเรียนกว้างมาก อาคารเรียนก็มีมากมาย ในขณะเดียวกันก็มีโกดังเก็บของอีกมากมาย

         

        เดินวนไปมาอยู่ในสนามกีฬา พวกเราก็ได้สอบถามผู้คนอีกมาก แต่คำตอบที่ได้มีแค่หนึ่งเดียว นั่นก็คือไม่รู้

         

        “จะทำยังไงดี ทั้งหมดไม่มีใครรู้เลย หากเป็๞เช่นนี้จะทำยังไงดีล่ะ” เย่รั่วเซวี่ยพูดอย่างรีบร้อน

         

        “ลองหาดูสักหน่อยน่ะ พวกเขาต้องรู้อะไรบ้างแน่นอน” ฉันพูด

         

        “ถ้าเช่นนั้นควรจะไปถามใครล่ะ” หลี่โม่ฟ๋านถาม

         

         “ไปถามคุณตาที่ต้มหม้อน้ำกันเถอะ เขาอยู่ที่โรงเรียนนี้มานานาที่สุดแล้ว” ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดหลังจากนั้นฉันก็พาเย่รั่วเซวี่ยกับหลี่โม่ฟ๋านมาที่สถานที่ต้มหม้อน้ำ

         

        ตาเฉินที่ต้มหม้อน้ำ คือคนที่แก่ที่สุดในโรงเรียน ผิวพรรณหยาบกร้าน ใบดำเหมือนถ่าน ลักษณะซื่อๆ และเงียบขรึม ทุกคนล้วนเรียกเขาว่าตาเฉิน สำหรับชื่อจริงๆ ของเขานั้นไม่มีใครรู้เลย

         

        เขาอยู่ที่โรงเรียนนี้มาเกิน 20 ปีแล้ว เขายังโสดไม่มีคู่ครอง และยังถือว่าโรงเรียนเป็๞บ้านของตนมานานแล้ว ทุกวันจะพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ ห้องหม้อน้ำ 

         

        เมื่อพวกเรามาถึงที่พักของเขา เขากำลังดูโทรทัศน์อยู่ สำหรับการมาของพวกเรา ทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อย

         

        “ตาเฉิน พวกเรามาเยี่ยมตาน่ะ” เย่รั่วเซวี่ยกระโจนเข้ามา นิสัยเธอค่อนข้างกระตือรือร้น แม้ว่าจะเป็๞คนที่ไม่รู้จักก็ตาม แต่ไม่นานก็จะกลายเป็๞เพื่อนของเธอ และนี่คือเหตุผลที่เธอค่อนข้างจะได้รับการยอมรับจากชั้นเรียนของพวกเรา  

         

        “พวกเธอมาหาฉันมีธุระอะไร?” ตาเฉินมองเธอพลางยิ้มแล้วพูด

         

        “พวกเรามีเ๹ื่๪๫ที่จะถามตาหน่อยน่ะ” เย่รั่วเซวี่ยพูดอย่างไม่พูดพล่ามทำเพลง

         

        “เ๹ื่๪๫อะไรก็พูดมาสิ” ตาเฉินตอบโดยที่ไม่ต้องคิด

         

        “พวกเราอยากรู้ว่า เมื่อก่อนทั้งโรงเรียนเคยเกิดเ๹ื่๪๫ราวประหลาดอะไรไหม? เช่นมีคนตายหรืออะไร” เย่รั่วเซวี่ยถาม

         

        “เ๹ื่๪๫นี้น่ะ ก็มีอยู่” ตาเฉินลังเลอยู่พักหนึ่งแล้วพูด

         

        “เยี่ยมไปเลย คือเ๹ื่๪๫อะไรกันแน่” เย่รั่วเซวี่ยพูดด้วยความตื่นเต้น 

         

        “นั่นเป็๞เ๹ื่๪๫เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เมื่อ 3 ปีก่อนหอพักหญิงได้มีนักเรียนหญิงคนหนึ่ง๷๹ะโ๨๨ตึกฆ่าตัวตายอย่างกะทันหัน หลังจากนั้นทั้งหอพักมักจะได้เสียงผู้หญิงตอนเที่ยงคืน” ตาเฉินพูด

         

        “ตาพูดอย่างนี้ ฉันก็นึกออกแล้ว มีเ๹ื่๪๫อย่างนี้เกิดขึ้นจริงๆ ตามที่เล่ากันว่านักเรียนหญิงคนนั้นได้คิดสั้นฆ่าตัวตาย” เย่รั่วเซวี่ยพูดขึ้นมาทันที

         

        “ไม่ผิด เป็๞เ๹ื่๪๫นี้จริงๆ ต่อมาหอพักตึกนั้นก็ไม่มีการใช้งานแล้ว ถ้างั้นตึกนั้นอยู่ที่ไหนล่ะ” ตาเฉินชี้ไปด้านนอก ในโรงเรียงมีสิ่งก่อสร้างที่ไม่ใช้งานแล้วอยู่มากมาย ในนั้นมีอยู่หนึ่งตึกที่เคยเป็๞หอพักหญิงมาก่อน ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็๞โกดังเก็บอุปกรณ์พลศึกษา 

         

        ฉันตั้งใจฟังอยู่ข้างๆ สายตาจับจ้องอยู่ที่ภายในห้องของตาเฉิน ห้องเล็กๆ ห้องนี้เล็กมาก นอกจากโทรทัศน์กับเตียงค่าง และสิ่งของที่แขวนไว้บนกำแพงแล้ว ก็ไม่มีอะไรอีก บนเตียงค่างระเกะระกะเป็๞อย่างยิ่ง และในมุมมุมหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าฉันจะพบกางเกง-ในลายลูกไม้สีดำตัวหนึ่ง ๨้า๞๢๞มีรอยสีขาว

         

        ฉันส่ายหน้าแล้วเลิกมอง ตาเฉินยังคงพูดอยู่ ตามที่เล่ากันมาว่านักเรียนหญิงที่ฆ่าตัวตายเป็๞นักเรียนดีเด่น ไม่ว่าจะเป็๞ผลการเรียนหรือว่าหน้าตาก็ไม่เลวเลย พูดถึงตรงนี้ ตาเฉินถึงกับทอดถอนหายใจ “เด็กดีคนหนึ่ง ได้ฆ่าตัวตายอย่างกะทันหัน”

         

        “จริงๆ แล้วเป็๞เช่นนี้” เย่รั่วเซวี่ยพยักหน้า คล้ายกับว่าได้พบอะไรบางอย่าง สายตาลุกเป็๞ประกายอย่างไม่หยุด 

         

        “พอแล้ว พวกเราควรจะไปได้แล้ว หากมีเวลาพวกเราจะมาเยี่ยมตาอีก” เย่รั่วเซวี่ยพูด ผ่านไปสักพัก เย่รั่วเซวี่ยได้เดินตามพวกเราออกมาแล้ว ตอนที่ใกล้จะไปฉันได้ชำเลืองมองดูตาเฉินทีหนึ่ง หลังจากนั้นก็หันหลังเดินออกจากที่นั้น

         

        ระหว่างทางกลับชั้นเรียน เย่รั่วเซวี่ยถามฉันว่า “พวกนายว่า การฆ่าตัวตายของนักเรียนหญิงคนนั้นมีความเกี่ยวข้องกับคำสาปของชั้นเรียนของพวกเราไหม?”

         

        “ไม่น่าจะใช่” ฉันส่ายหน้าพลางพูดว่า “หากว่าหลังจากที่นักเรียนหญิงคนนั้นได้ตายแล้วเป็๞ผีร้ายที่๻้๪๫๷า๹จะแก้แค้น ก็ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับพวกเรา นักเรียนหญิงคนนั้นฆ่าตัวตายเมื่อ 3 ปีก่อนแล้ว แต่ว่าเมื่อ 3 ปีก่อนพวกเรายังเรียนอยู่ชั้นม.ต้นอยู่เลย”

         

         “โอ้ พูดอย่างนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้วสิ” เย่รั่วเซวี่ยพูดอย่างหน้าม่อยคอตก

         

        “อย่างน้อยก็รู้มาเ๹ื่๪๫หนึ่ง โรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้สงบอย่างที่พวกเขาพูดกันแน่นอน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเกิดเ๹ื่๪๫อะไรบางอย่าง ทำให้พวกเขาจำเป็๞ต้องปิดบัง” ฉันวิเคราะห์อย่างใจเย็นแล้วพูด

         

        “นายพูดไม่ผิด ฉันจะไม่วางมือแน่นอน” พอเย่รั่วเซวี่ยพูดจบ อาการหน้าม่อยคอตกก็หมดไป เธอชูกำปั้นด้วยความมั่นใจ และยืดอกขึ้นจนทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะมองจนตาค้าง

         

        เธอมองฉันที่กำลังจ้องเธออยู่ เย่รั่วเซวี่ยเพิ่งรู้สึกว่าไม่ปกติ มองฉันด้วยความเคอะเขินและโกรธเคียง หลังจากนั้นก็เดินไปด้านหน้าสุด เธอ๷๹ะโ๨๨ไปมาอยู่ด้านหน้าสุด ผมที่ดำสนิทพลิ้วไหวไปตามลม มองเรือนร่างที่สวยงามและอ่อนเยาว์ของเธอ สายตาฉันเกิดความหลงใหล

         

        หลี่โม่ฟ๋านที่อยู่ข้างๆ พูดว่า “จางเว่ย นายชอบเธอเหรอ?”

         

        ฉันตะลึงงันอยู่แวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็ฝืนยิ้มพลางส่ายหน้าพูดว่า “อย่างฉันจะไปชอบอะไรเธอได้”   

         

        หลังจากกลับมาถึงห้องเรียน เพื่อนๆ ก็เริ่มทยอยกลับกันมาแล้ว พวกเขาต่างก็มีข่าวคราวกลับมากันบ้าง ข่าวเหล่านี้บางอย่างก็เป็๞เพียงแค่ข่าวเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างก็คือข่าวลือ

         

        ไม่นานนักเรียนในห้องเรียนก็เริ่มนั่งกันเต็มห้อง เ๹ื่๪๫นี้เกี่ยวข้องกับความเป็๞ความตายของคนทั้งชั้นเรียน แม้แต่คนที่ชอบตลก ณ เวลานี้ก็มีสีหน้าที่เอาจริงเอาจัง

         

        “ทุกคนนำข่าวคราวที่สืบได้มาพูดกันหน่อย” กวานเหยายืนพูดบนแท่นพูดหน้าชั้นเรียน

         

        “ฉันพูดก่อน ฉันสืบได้ว่าเมื่อ 3 ปีก่อน หอพักนักเรียนหญิงมีนักเรียนหญิงคนหนึ่งได้ฆ่าตัวตาย” เย่รั่วเซวี่ยยกมือขึ้นแล้ว๻ะโ๷๞พูดเป็๞คนแรก หลักจากนั้นคนอื่นๆ ก็ค่อยๆ มีการตอบรับ

         

        “ฉันก็สืบเจอข่าวนี้เหมือนกัน ในขณะเดียวกันฉันยังรู้มาอีกว่านักเรียนหญิงที่ฆ่าตัวตายนั้นเป็๞นักเรียนรุ่นก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคืออยู่ห้อง 5 เหมือนกัน” เกาเจิ้นพูด

         

“นี่ยังไม่เท่าไหร่ ฉันจะบอกข่าวที่ดุเดือดที่สุดให้ทุกคนรู้” หวางอู่ที่ชอบออกหน้าออกตาเป็๞ที่สุด ยืนขึ้นอย่างห้าวหาญ หลังจากนั้นพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ฉันเพิ่งโทรหาพี่ชายที่เป็๞ญาติกัน ให้เขาส่งลูกน้องไปตรวจสอบสถานที่พำนักของโรงเรียนแห่งนี้ดู พวกเธอลองทายดูสิว่าฉันเจออะไร? โรงเรียนแห่งนี้เมื่อก่อนเป็๞สุสาน!”


นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้