จี้หลินกำลังรอจี้หย่ากลับบ้าน
ทว่าจี้หย่าก่อเื่มาเช่นนี้ย่อมไม่มีทางกลับบ้านตระกูลจี้แน่นอน
ถึงอย่างไรเธอก็มีที่อยู่ ไม่จำเป็ต้องกลับบ้านตระกูลจี้ เนื่องจากจอร์จเดินทางมาที่จีนและได้พักอยู่ที่โรงแรมมาโดยตลอด เมื่อเห็นจี้หย่าอารมณ์แปรปรวนเช่นนี้ จอร์จจึงเปิดห้องข้างๆ ให้เธออีกห้องหนึ่ง ที่จริงพวกเขาจะอยู่ร่วมห้องกันก็ย่อมได้ ทว่าเขากับจี้หย่ายังไม่จดทะเบียนสมรสกัน สังคมของประเทศจีนทำให้เขาต้องรู้จักระมัดระวังมากขึ้น
อยู่ที่อเมริกา คนมีเงินแทบจะทำตามใจชอบได้ทุกอย่าง
แต่ประเทศจีนกลับมีขนบธรรมเนียมเต็มไปหมด เื่ที่จี้หย่าและจี้เจียงหยวนออกนอกประเทศไม่ได้นั้นนับว่าเป็การสอนบทเรียนให้กับจอร์จอย่างหนึ่ง เขารู้สึกว่าประเทศจีนช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“ที่รัก คุณไปหาคุณอาหนิง ท่านว่าอย่างไรบ้าง”
จอร์จพอเดาได้ว่าเื่ราวคงไปได้ไม่สวยนัก ไม่อย่างนั้นหลังออกจากบ้านตระกูลหนิงจี้หย่าคงไม่เงียบขนาดนี้
เขารู้ว่าหนิงเยี่ยนฝานเป็สถาปนิกใหญ่ของประเทศจีน แต่สถาปนิกคนหนึ่งจะสามารถงัดข้อกับข้าราชการได้หรือ
ใบหน้าขาวซีดของจี้หย่าเริ่มแดงก่ำ
“จอร์จ ประเทศจีนมีคำพูดที่ว่า เมื่อคนจากไปน้ำชาก็เย็นชืด นึกไม่ถึงเลยว่าพ่อของฉันเพิ่งเสียไปได้ไม่นาน แม้แต่คุณอาหนิงก็ไม่ยอมช่วยเหลือกันแล้ว”
คำแนะนำของหนิงเยี่ยนฝาน จี้หย่าไม่แม้แต่จะนำมาคิดพิจารณา
บอกให้เธอประนีประนอมกับทังหงเอิน นั่นเท่ากับว่าเธอต้องยอมก้มหัวให้ทังหงเอินมิใช่หรือ
เท่ากับให้เธอยอมรับว่า การตัดสินใจหย่าร้างเป็เื่ผิดพลาด เธอคือผู้หญิงที่ยินดีร่วมสุขแต่ไม่ร่วมทุกข์อย่างนั้นหรือ!
เื่นี้ทำให้เธอรู้สึกเ็ปเสียยิ่งกว่าฆ่ากันให้ตายเสียอีก
พอคิดว่าเธอต้องยอมก้มหัวให้ทังหงเอิน จี้หย่าก็รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัวเหมือนจะแหลกสลาย ทังหงเอินคู่ควรหรือ คนคนนั้นต่างหากที่ต้องสยบอยู่แทบเท้าเธอไปตลอดกาล จี้หย่าเป็คนตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตร่วมกัน ตอนเลิกรากันก็เป็การตัดสินใจของจี้หย่าเพียงฝ่ายเดียว เธอคือฝ่ายที่อยู่เหนือกว่าทังหงเอินเสมอมา เป็ผู้ควบคุมอำนาจมาโดยตลอด!
จอร์จกอดจี้หย่าอย่างสงสาร “อย่าเศร้าไปเลย ผมจะต้องพาพวกคุณออกจากประเทศนี้ให้ได้ พรุ่งนี้ผมจะไปขอความช่วยเหลือจากสถานทูต!”
จี้หย่ามีอาการลังเลเล็กน้อยอย่างหาได้ยาก
สถานทูตอเมริกาอยู่ที่ปักกิ่ง เธอตามจอร์จไปที่สถานทูตได้ย่อมไม่มีปัญหา แต่มันจะทำให้เื่นี้เปลี่ยนไป... เปลี่ยนแล้วอย่างไร ทังหงเอินเป็ฝ่ายหาเื่เธอก่อนนี่
“ใช่ พวกเราต้องไปสถานทูตด้วยกัน พวกเราต้องพาเจียงหยวนไปด้วย!”
จี้หย่านึกขึ้นได้ว่าลูกชายของเธอยังอยู่ที่บ้านตระกูลจี้
สองวันมานี้จี้เจียงหยวนถูกบีบให้อยู่ที่บ้าน คนตระกูลจี้ไม่ได้จำกัดอิสระของเขา ทว่าใช้ ‘ความเป็ครอบครัวเดียวกัน’ แทนโซ่เพื่อล่ามตัวเขาไว้ ซึ่งนั่นไม่ต่างอะไรกับการกักบริเวณ
จี้หย่าไม่คิดว่าตัวเองผิด จี้เจียงหยวนเป็ลูกชายของเธออย่างไรเขาก็ต้องเชื่อฟังเธอ
คนอื่นบนโลกเถียงกลับเธอได้ เว้นแต่ลูกชายที่จะไม่มีวันทำแบบนั้น!
“ใช่ พวกเราจะพาเจียงหยวนไปด้วยกัน ที่รักฟังผมนะ ตอนนี้คุณต้องนอนพักผ่อนเสียก่อน ผมจะให้ทางโรงแรมเอาชุดนอนมาให้ คุณไปอาบน้ำ ดื่มนมและทานขนมปังสักหน่อยเถอะ ขนมปังเนยสดนุ่มๆ หอมๆ อาหารอร่อยๆ จะช่วยเยียวยาคุณเอง มันไม่ใช่ปัญหาที่ไร้ทางแก้ไขเสียหน่อย”
คำพูดของจอร์จมีพลังในการปลอบโยนอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ต่างคิดผิดไป ทำไมต้องพาเซี่ยเสี่ยวหลานไปต่างประเทศด้วยเล่า ไปขอให้สถานทูตอเมริกาช่วยั้แ่แรกก็ได้แล้วมิใช่หรือ
จอร์จคิดถึงเื่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ ซึ่งมันแย่มาก!
นักศึกษาหญิงชาวจีนช่างไร้วิสัยทัศน์เหลือเกิน ถึงได้ปฏิเสธคำเชิญให้ไปเรียนต่อต่างประเทศของเขากับจี้หย่าเช่นนี้
และต้องเป็พวกวิสัยทัศน์คับแคบ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต่างประเทศหน้าตาเป็อย่างไร
อนาคตหากรู้แล้วค่อยมาเสียใจทีหลัง ก็พลาดโอกาสเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองไปเสียแล้ว
ถูกคนด่าว่าเป็พวก ‘นักบุญจอมปลอม’ จอร์จย่อมรู้สึกไม่พอใจเป็อย่างมาก เขาจอมปลอมอย่างไรกัน หรือว่าการพาคนคนหนึ่งไปต่างประเทศ เงินที่ใช้ไม่ใช่ธนบัตรดอลลาร์ของจริง?
—-----------------------------------------
บ้านตระกูลจี้
จี้หลินได้รับสายจากหัวหน้าภาควิชาสถาปัตยกรรมของหัวชิงก่อน จากนั้นก็ได้รับสายจากหนิงเยี่ยนฝาน
หนิงเยี่ยนฝานบอกว่าเขาไม่อยากก้าวก่าย แต่พอคิดถึงเพื่อนเก่าที่ตายจากไป สุดท้ายก็ทนปล่อยให้ตระกูลจี้เดินมุ่งหน้าสู่เหวลึกไม่ได้ และเพราะเขาเกลี้ยกล่อมจี้หย่าไม่สำเร็จจึงทำได้เพียงเตือนสติจี้หลินแทน
แม้จี้หลินจะไม่มีโอกาสก้าวหน้า หากใช้คำพูดของเพื่อนเก่าคือมีคุณสมบัติธรรมดาสามัญ แต่หนิงเยี่ยนฝานรู้สึกว่า ก็ยังดีกว่าจี้หย่า
“สิ่งที่อาหมายถึงก็คือ ทุกคนควรพยายามปรับความเข้าใจกัน ทังหงเอินก็คงไม่ได้อยากทำลายตระกูลจี้ เขาเพียงแสดงความไม่พอใจ และ้าคำอธิบาย มีเจียงหยวนอยู่ด้วยเขาไม่มีทางทำอะไรตระกูลจี้จริงๆ หรอก”
ก็แค่ทำให้จี้หย่ากับจี้เจียงหยวนออกนอกประเทศไม่ได้มิใช่หรือ?
มันเป็เื่ใหญ่เสียที่ไหน ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรด้วยซ้ำ
ตระกูลจี้เหมือนแมวที่ถูกเหยียบหางจนต้องดิ้นพล่าน หนิงเยี่ยนฝานส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ
โดยเฉพาะจี้หย่า ช่างไม่มีความอดทนเอาเสียเลย ถ้าไม่ฝืนปะทะ และปล่อยให้จี้เจียงหยวนเรียนที่หัวชิงอีกเพียงไม่กี่ปีจะเป็อะไรไป ทำไมต้องรีบร้อนกลับอเมริกาจนทำให้ทังหงเอินนั่งไม่ติดด้วย
เศรษฐกิจของอเมริกาดีกว่าจีนเลยอยากรีบกลับไป?
ถ้าเช่นนั้นก็เท่ากับลืมบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองน่ะสิ ตอนนี้รู้สึกว่าใช้ชีวิตอยู่ที่จีนไม่ได้ ทั้งที่จริงตัวเองก็เคยใช้ชีวิตอยู่ที่จีนมาั้แ่เด็กนานหลายปีขนาดนั้น หนิงเสวี่ยบอกว่าจี้เจียงหยวนเหมือนไม่อยากกลับอเมริกา เพราะเขาสามารถปรับตัวเข้ากับชีวิตที่หัวชิงได้เป็อย่างดี มีแต่แม่ของเขาที่ยังคงโวยวายไม่เลิก
จี้หย่าไม่อยากให้จี้เจียงหยวนใกล้ชิดกับทังหงเอิน เธอจึงทำทุกอย่างตามที่ตนเองคิดไว้ทั้งหมด และเพราะทำตามใจชอบถึงได้ทำให้ทังหงเอินรู้สึกเดือดดาล
ทังหงเอินจึงตัดสินใจประชันหน้ากับตระกูลจี้ทั้งตระกูล
หนิงเยี่ยนฝานเตือนสติจี้หลินว่าให้คิดถึงภาพรวมเป็หลัก เื่ของศักดิ์ศรีบางครั้งชนะไปก็ไร้ความหมาย คิดว่าคนอื่นจะชื่นชมตระกูลจี้ว่าไม่เกรงกลัวผู้มีอำนาจอย่างนั้นหรือ คนอื่นมีแต่จะรอดูเื่สนุก รอหัวเราะเยาะเอาน่ะสิ!
“คุณอาหนิง ทำได้แค่... ประนีประนอมจริงๆ หรือครับ”
คำว่า ‘ประนีประนอม’ นั้นราวกับหนักเป็ร้อยๆ ตัน สำหรับจี้หลินแล้วคำนี้ช่างพูดลำบากเหลือเกิน
หนิงเยี่ยนฝานคิดถึงสิ่งที่หนิงเสวี่ยบอก “วันนี้น้องสาวของหลานไปหาเื่นักศึกษาหญิงที่หัวชิงอีกแล้ว ตระกูลจี้ไม่อยากประนีประนอมกับทังหงเอินก็ได้ แต่อาเป็ห่วงว่าตระกูลของพวกหลานจะมีแต่ศัตรูน่ะสิ หลานลองพิจารณาเองก็แล้วกัน!”
จากความคิดของหนิงเยี่ยนฝาน ฝ่ายที่ไปรังแกผู้อื่นก่อน หากถูกคนอื่นแก้แค้นย่อมไม่ใช่เื่ผิดแปลกแต่อย่างใด
คนที่รังแกผู้อื่นอาจจะบอกว่า ฉันรังแกเขาเพียงสองส่วนเท่านั้น มีสิทธิ์อะไรมารังแกฉันถึงสิบส่วน
มีสิทธิ์อะไรมาแก้แค้นเป็สิบส่วนอย่างนั้นหรือ ยังไม่รู้ตัวอีก?!
สรุปง่ายๆ ก็คือ ใครหาเื่ก่อนย่อมเป็ฝ่ายผิด!
หนิงเยี่ยนฝานไม่มีทางทำร้ายตระกูลจี้ หลังฟังคำแนะนำของผู้เฒ่าหนิงแล้ว ขมับของจี้หลินเหมือนถูกเข็มนับหมื่นเล่มทิ่มแทงลงมาในคราวเดียว
หลังวางสาย เขาก็ะเิอารมณ์ขึ้นมาทันที
“จี้หย่าล่ะ ยังไม่กลับมาอีกรึ?”
จี้หย่าย่อมไม่กลับมา
จี้หลินรอจนถึงสี่ทุ่มก็ยังไม่เห็นเงาน้องสาว เขานึกขึ้นได้ว่าจี้หย่าออกไปกับจอร์จ ทั้งสองคนคงไปพักที่โรงแรมสินะ ก่อเื่จนไม่กล้ากลับบ้าน ภรรยาของจี้หลินไม่อยากสนใจเื่นี้อีกต่อไป ดังนั้นจี้หลินจึงต้องพาจี้เจียงหยวนไปตามพวกจี้หย่าที่โรงแรมด้วยกัน
จี้เจียงหยวนรู้ดีว่าทังหงเอินกำลังงัดข้อกับตระกูลจี้ สองวันนี้เขาขอลาหยุดกับทางมหาวิทยาลัย จนกลายเป็คนเงียบขรึม
อีกทั้งยังต้องไปตามแม่ตัวเองที่โรงแรมกลางดึก จี้เจียงหยวนไม่อาจหาคำไหนมาอธิบายความรู้สึกของตนในเวลานี้ได้เลยจริงๆ
ซ้ำร้ายคุณลุงจี้หลินยังถามเขาอีกว่า
“เพื่อนนักศึกษาหญิงของหลานคนนั้นมีความเป็มาอย่างไรกันแน่”