เซี่ยเจียหัวมีสีหน้าเ็าและไม่ได้รับฟิล์มนั้น การพบกันและปะทะกันเพียงสองครั้งของพวกเขาทำให้เขารู้สึกขยะแขยงต่อตัวตน คำพูด และการกระทำของลู่กวงิ เขาไม่เชื่อใน "ของขวัญชิ้นใหญ่" ของลู่กวงิ
ลู่กวงิพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น "ผมเจอมันที่บ้าน 'เพื่อน' ของชย่าลิ่วอี ก็ที่ที่คุณจับตัวชย่าลิ่วอีไปนั่นแหละ"
เซี่ยเจียหัวยังคงเงียบ
"ความสัมพันธ์ระหว่าง 'เพื่อน' คนนี้กับชย่าลิ่วอี ผมคิดว่าคุณก็น่าจะรู้ น่าสนใจมากเลยนะ ถึงเขาจะเป็ลับๆ กับชย่าลิ่วอีอย่างใกล้ชิด แล้วนายก็ดูรูปที่เขาแอบถ่ายสิ มีทุกมุมมอง เหมือนเป็อัลบั้มส่วนตัวเลย ดูเหมือนจะหลงใหลชย่าลิ่วอีมากเลยนะ"
แท้จริงแล้ว เซี่ยเจียหัวรู้จากรายงานของอาเปียวตั้งนานแล้วว่าเหอชูซานเคยช่วยชีวิตชย่าลิ่วอีเมื่อสองปีก่อน ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา และพวกเขาก็สามารถจับกุมชย่าลิ่วอีได้ที่บ้านของเหอชูซานโดยอาศัยความสัมพันธ์นี้ เขาจ้องมองลู่กวงิด้วยความเ็า รอฟังว่าเขายังมีอะไรจะพูดอีก
ลู่กวงิหรี่ตาลงพร้อมกับรอยยิ้ม "สารวัตรเซี่ย ที่จริงแล้วถ้าอยากจะกำจัดพวกแก๊งมาเฟียพวกนี้ ไม่จำเป็ต้องลงมือเองก็ได้ ปล่อยให้เสือสองตัวกัดกันเอง รอจนพวกมันอ่อนแรงทั้งคู่ แล้วค่อยกวาดล้างทีเดียว ไม่ง่ายกว่าหรือ?"
เซี่ยเจียหัวขมวดคิ้ว "นายทำอะไรไป?"
"ผมเอาเื่ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองนี้ ไปบอกต่อให้ปู่เฉียวแห่งแก๊งเหออี้ฟังมา แว่วๆ มาว่าเขาเสียเปรียบชย่าลิ่วอีตอน่ชิงพื้นที่เฝยชี กำลังหาโอกาสแก้แค้นชย่าลิ่วอีอยู่พอดี..."
ยังไม่ทันพูดจบ เขาก็โดนตบหน้าอีกครั้ง!
เขาเอียงศีรษะ เงียบไปครู่หนึ่งขณะมองรูปถ่ายเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยริ้วรอยบนหลุมศพข้างทาง จากนั้นก็หันกลับมาอย่างเชื่องช้า เซี่ยเจียหัวเดินจากไปไกลแล้ว
เขายกมือขึ้นเช็ดเืที่ไหลออกมาจากมุมปาก ขมวดคิ้วพึมพำ "ทำไมโดนตบข้างเดิมทุกทีเลย?"
เขาเอียงศีรษะครุ่นคิดอีกครู่หนึ่ง แล้วก็รู้สึกน้อยใจมากขึ้น เขาะโไปทางด้านหลังของเซี่ยเจียหัวว่า "เฮ้! ที่ตบเมื่อกี้นี่เพราะอะไร!"
……
เหอชูซานตื่นขึ้นมาในห้องที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง หลังจากมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เริ่มมองเห็นสภาพภายในห้องได้ชัดเจน ที่นี่ดูเหมือนจะเป็โกดังร้าง อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำมันที่รุนแรง มือและเท้าของเขาถูกมัดแน่นด้วยเชือก เขาถูกอันธพาลหลายคนกดลงกับพื้น ชายวัยสี่สิบกว่าปึที่มีสีหน้าป่วยๆ นั่งอยู่ตรงข้ามเขา ใบหน้าของชายคนนั้นประดับด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ
"นายตามชย่าลิ่วอีมานานแค่ไหนแล้ว?" ปู่เฉียวถามขึ้น น้ำเสียงแหบแห้งแปลกประหลาดราวกับหลอดลมถูกกรีด
คนทั่วไปเจอเหตุการณ์แบบนี้ ถึงจะไม่ฉี่ราดกางเกง ก็คงตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ชายหนุ่มหน้าตาสะอาดสะอ้านคนนี้ กลับมองไปรอบๆ ก่อน แล้วค่อยเงยหน้าขึ้นมองเขา จากนั้นก็ตอบอย่างซื่อๆ ไร้เดียงสาว่า "ผมไม่ได้ตามเขา"
ปู่เฉียวเชิดคางขึ้นเล็กน้อย สั่งการให้ลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลังเหอชูซานฟาดกระบองลงมาที่หัวของเขา! เหอชูซานส่งเสียงครางเบาๆ กัดฟันสั่นเทา เืไหลซึมจากหน้าผากของเขาไหลเป็ทางยาวลงมาตามแก้มแล้วหยดลงบนพื้น
"ฉันได้ยินมาว่านายกับเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา" ปู่เฉียวพูดต่อด้วยรอยยิ้มเ้าเล่ห์ "ไม่นึกเลยว่าชย่าลิ่วอีจะชอบแบบนี้"
เหอชูซานหอบหายใจ พยายามอธิบายอย่างยากลำบาก "ผมไม่ได้มีอะไรกับเขาจริงๆ ไม่งั้นผมคงย้ายไปอยู่ที่บ้านเขาแล้ว จะไปอยู่คนเดียวในบ้านโทรมๆ ข้างนอกทำไม แล้วมาถูกคุณจับได้แบบนี้"
ปู่เฉียวแสยะยิ้มมุมปาก "ใช่สิ ชย่าลิ่วอีขี้เหนียวกับนายมาก ฉันเห็นแล้วยังสงสาร"
เขาชูมือขึ้น ลูกน้องด้านหลังก็หยิบโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าออกมากดเบอร์แล้วส่งให้เขา
หลังจากเสียงเรียกเข้าดังขึ้นสองสามครั้ง ก็มีเสียงหงุดหงิดของชย่าลิ่วอีดังมาจากปลายสาย เห็นได้ชัดว่าเขากำลังคุยธุระอยู่แล้วถูกขัดจังหวะ "ฮัลโหล?"
"ฉันเฉียวซิ่ง"
ชย่าลิ่วอีเปลี่ยนเป็น้ำเสียงสุขุม "ปู่เฉียว"
"ชย่าซวงเตา" ปู่เฉียวเรียกชื่อในวงการของเขา "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"
"ปู่เฉียวโทรมาหาผมดึกขนาดนี้ มีอะไรหรือเปล่าครับ?"
"ฉันจับคนๆ หนึ่งได้ ได้ยินมาว่าเขามีความเกี่ยวข้องกับนาย แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ยอมรับ ฉันเลยต้องมาถามนายเอง"
ขณะที่ปู่เฉียวพูด เขาก็พยักหน้าไปทางเหอชูซาน ลูกน้องก็ทำตามคำสั่ง ฟาดกระบองลงบนไหล่ของเหอชูซานอีกครั้ง! เหอชูซานกัดฟันอดกลั้นเสียงร้องด้วยความเ็ป แต่แล้วเขาก็ถูกเหยียบลงบนาแอย่างแรง จนในที่สุดก็ร้องออกมาด้วยความเ็ปอย่างสุดจะทน
ปู่เฉียวยกโทรศัพท์มือถือที่จ่ออยู่ใกล้เหอชูซานกลับมาแนบหู ทำเสียงหัวเราะเยาะเย้ยแล้วพูดต่อ "ว่าไงนะ แก..."
"ตื๊ด—" จากปลายสายมีเพียงเสียงสัญญาณสายไม่ว่าง ชย่าลิ่วอีวางสายไปแล้ว
ปู่เฉียวถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูใกล้ๆ แล้วขมวดคิ้วส่งให้ลูกน้อง ลูกน้องกดโทรออกอีกครั้ง ฟังอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดกับหัวหน้าด้วยความสงสัย "เหมือนว่าปิดเครื่องไปแล้วครับ"
“……”
กลุ่มมาเฟียที่ไม่เคยเจอครอบครัวของตัวประกันปฏิบัติต่อพวกเขาแบบนี้ ต่างมองหน้ากันด้วยความงุนงง เงียบไปครู่หนึ่งแล้วปู่เฉียวก็หัวเราะออกมา
เขาลุกขึ้นเดินไปหาเหอชูซาน ใช้ไม้เท้าเกี่ยวคางของเขาขึ้นแล้วมองใบหน้าที่เปื้อนเืครึ่งซีกแล้วพูดว่า "น่าสนใจ นายอาจจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย หรือไม่ก็นายสำคัญกับเขามากจริงๆ"
เหอชูซานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชย่าลิ่วอี แต่หลังจากที่เขาใไปพร้อมกับกลุ่มมาเฟียแล้ว เขาก็รีบตั้งสติกลับมาได้ ในตอนนี้เขาถูกบังคับให้เงยหน้ามอง "ปู่เฉียว" ที่เขาไม่รู้ว่าเป็ใคร และเริ่มใช้ความสามารถพิเศษของเขาในการแสดงด้นสดเพื่อช่วยชีวิตตัวเอง "แค่ก... อันที่จริง ผมกับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบที่คุณคิด ผมเป็ที่ปรึกษาทางการเงินของเขา"
ปู่เฉียวมองเขาด้วยรอยยิ้มเ้าเล่ห์ ไม่ได้พูดว่าเชื่อหรือไม่เชื่อ แค่รอให้เขาพูดต่อ
เหอชูซานกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แล้วพูดต่อ "ครับ ผมรู้จักกับเขามานานแล้ว เราเคยอาศัยอยู่ในชุมชนเมืองกำแพงเจียวหลงด้วยกัน ผมเป็นักศึกษามหาวิทยาลัยคนเดียวที่นั่น เขาเคยจ้างผมเขียนบทหนัง ต่อมาผมได้เข้าทำงานในบริษัทลงทุน แต่ก็ยังติดต่อกับเขาอยู่เรื่อยๆ เป็ที่ปรึกษาทางบัญชีให้เขา... เอ่อ คือช่วยเขาทำบัญชีน่ะครับ"
"โอ้?"
"ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไปตรวจสอบได้เลย ผมชื่อเหอชูซาน เป็ที่ปรึกษาการลงทุนของบริษัทซิ่นต๋า ผลงานของผมในไตรมาสนี้เป็อันดับหนึ่งของบริษัท ชย่าลิ่วอีไว้ใจในความสามารถของผมมาก มักจะให้ผมช่วยเขาทำบัญชี ผมยังสนิทกับรองหัวหน้าของเขา ชื่อชุยตงตง ชุยตงตงเพิ่งซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงิน[45]จากผมมากมายไปเมื่อเดือนที่แล้ว ได้กำไรไปสามล้านกว่า..."
เขาทำท่าทางจริงจังแล้วก็เริ่มคุยโอ้อวด จากนั้นก็เริ่มคุยกับปู่เฉียวถึงความสำคัญของตัวเอง “จริงๆ นะ คุณดูผมสิ หน้าตาผมก็ไม่ได้ดูเหมือนคนที่จะมาขายตัวใช่ไหม? ผมเป็ผู้ชายตัวใหญ่ ตัวสูง หนังหนาเนื้อแน่น ถ้าชย่าลิ่วอีจะชอบผู้ชายก็คงจะชอบพวกกระต่ายน้อยอ่อนหวานมากกว่า เขาวางสายคุณไปเพราะคงจะไปปรึกษากับชุยตงตง ผมรู้เื่การเงินของพวกเขาเยอะอยู่ และเขายังให้ความสำคัญกับชีวิตเล็กๆ น้อยๆ ของผมอยู่”
ปู่เฉียวมองเขาอย่างไม่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ยอดนักแสดงเหอสามารถโกหกได้โดยไม่กระพริบตา ดวงตาทั้งคู่เปล่งประกายด้วยความจริงใจและขอร้อง "ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็รออีกหน่อย อย่างช้าที่สุดพรุ่งนี้ เขาจะโทรหาคุณเพื่อคุยเงื่อนไข"
ปู่เฉียวหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอาปลายไม้เท้าจิ้มลงไปที่คอหอยของเขาอย่างแรง จนทำให้เขาหายใจไม่ออก “ดีเลย งั้นพรุ่งนี้เราค่อยว่ากัน ถ้าไม่มีสายจากชย่าลิ่วอี นายก็เตรียมตัวไปนอนก้นทะเลได้เลย”
เขาโบกมือส่งสัญญาณ บรรดาชายฉกรรจ์หลายคนก็เข้ามาลากตัวเหอชูซานไป เท้าของเขาไม่แตะพื้นเลย พวกนั้นลากเขาเข้าไปในห้องมืดใกล้ๆ แล้วปิดประตูลงกลอน
ในขณะที่เหอชูซานดิ้นรนไปมาบนพื้นเย็นเยียบราวกับหนอนผีเสื้อ อีกด้านหนึ่งในไนต์คลับย่านเจียนซาจวี่ ชย่าลิ่วอีก็ทำหน้าบึ้งตึงนั่งอยู่บนโซฟาโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ลูกน้องหลายคนที่กำลังคุยธุระกับเขาเมื่อครู่นี้ เห็นกับตาว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ดีๆ ก็กำโทรศัพท์มือถือเครื่องใหญ่จนแตกละเอียดราวกับก้อนอิฐ แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคนก็ใกลัวจนไม่กล้าหายใจ ไม่กล้าถามอะไรสักคำ
พวกเขาไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของหัวหน้ามาก่อน หน้าซีดเผือดจนออกเขียวคล้ำ ดวงตาดุดันราวกับจะกินเืกินเนื้อใครสักคน บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการฆ่าฟันที่เย็นะเืจนพวกเขาขนลุกซู่
หลังจากเวลาผ่านไปนาน ชย่าลิ่วอีก็โปรยเศษโทรศัพท์มือถือในมือลงบนพื้น พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า "ไปตามชุยตงตงมา"
เชิงอรรถ
[45] ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หมายถึง สินค้าหรือบริการที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความ้าทางการเงินของผู้บริโภคและนักลงทุน เช่น หุ้น พันธบัตร กองทุนรวม ประกันภัย บัญชีเงินฝาก และตราสารอนุพันธ์ต่างๆ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกใช้เพื่อการลงทุน การออม การบริหารความเสี่ยง หรือการเก็งกำไรในตลาดการเงิน
