หลังมื้อเย็น เหลียนเซวียนให้ท่านหญิงหย่งเจียอยู่สนทนา
เซวียเสี่ยวหรั่นไปที่ห้องเซวียเสี่ยวเหล่ยคิดจะคุยตามประสาพี่น้อง
แต่ผูหยางชิงหลันก็พาอวี๋เฟิงหยางมาที่ห้องเซวียเสี่ยวเหล่ย อ้างว่ามาดูอาเหลย
พอเห็นญาติผู้พี่กำมะลอหน้าหนาตามมาด้วย เซวียเสี่ยวหรั่นก็รู้สึกจนใจอย่างมาก
"เสี่ยวหรั่น เื่ที่ข้าบอกเ้าคราก่อนยังจำได้หรือไม่" ผูหยางชิงหลันย่อตัวนั่งลงที่พื้น ลูบขนนุ่มๆ ของอาเหลยโดยไม่ห่วงภาพลักษณ์
ระหว่างการเดินทาง อาเหลยเข้ามาคลุกคลีกับพวกเขาจนเริ่มคุ้นเคยกันบ้างแล้ว จึงยอมให้เขาลูบตัวของมัน
"เื่อะไรหรือ" เขาเคยพูดตั้งหลายเื่ เธอจะไปจำได้อย่างไรว่าประโยคไหน
"ข้าอาศัยอยู่ที่ตรอกจิ่วถ่าทางตะวันตกของเมืองหลวง ข้างจวนมีหมู่เรือนเล็กแบบสามทางเข้าหลังหนึ่ง พวกเ้าคิดจะตั้งรกรากในเมืองหลวงอยู่มิใช่หรือ ก็ใช้หมู่เรือนเล็กหลังนั้นมาจ่ายแทนค่าเห็ดหุยซิน เ้าเห็นว่าดีหรือไม่"
ผูหยางชิงหลันอยู่กับพวกนางมาพักหนึ่งแล้ว ย่อมรู้อุปนิสัยของนางโดยทั่วไป ดังนั้นจึงไม่เอ่ยถ้อยคำตามมารยาทยามพบหน้า แต่ทำตามคำแนะนำของเหลียนเซวียนคือใช้เรือนหลังเล็กมาหักค่าเห็ดหุยซิน
เื่นี้นี่เอง... เซวียเสี่ยวหรั่นลังเลอยู่บ้าง ถามถึงอีกปัญหา "คุณชายผูหยางเตรียมจะเข้าเมืองหลวงใช่หรือไม่" เธอยังไม่ชินกับการเรียกว่าญาติผู้พี่
ผูหยางชิงหลันอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็บึ้งตึง "เ้าดูสถานการณ์ตอนนี้ ข้าอยู่ในฐานะพูดว่าไม่ไปได้หรือ"
เซวียเสี่ยวหรั่นพูดไม่ออก
เธอไม่ค่อยเข้าใจเื่ระหว่างเขากับท่านหญิงหย่งเจียมากนัก แต่ท่านหญิงผู้นั้นแม้ว่าจะดูอ่อนโยนสง่างาม แต่เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกได้ว่านางเป็สตรีมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว และมีสติปัญญาฉลาดปราดเปรื่องคนหนึ่ง
ดูแล้วน่าจะอายุมากกว่าเธอเล็กน้อย ยังเกล้าผมเช่นดรุณีน้อย เป็ที่รู้กันว่าสตรียุคสมัยนี้ที่อายุเกินยี่สิบแล้วยังไม่ออกเรือนมีน้อยมาก ประกอบกับได้ยินถ้อยคำจากปากของเหลียนเซวียน ย่อมเดาได้ไม่ยากว่าคนที่นางรออยู่คือผู้ใด
"แล้ว... แล้วหมู่เรือนเล็กสามทางเข้าหลังนั้นราคาเท่าไร" เซวียเสี่ยวหรั่นนึกดู อย่างไรเสียเรือนก็ต้องซื้อ ถ้ามีแบบพร้อมเข้าอยู่ก็ไม่เลว
"ราคาตลาดประมาณแปดพันตำลึงได้กระมัง เมื่อก่อนเคยมีขุนนางในเมืองหลวงมาอยู่ แต่ต่อมาก็ถูกย้ายไปเป็ขุนนางประจำท้องถิ่น พอดีเขาติดค่ารักษาข้าไว้ไม่น้อย ก็เลยยกบ้านหลังนั้นให้แทน แม้ว่าเรือนหลังนั้นจะเล็กไปหน่อย แต่ก็มีสวนดอกไม้ ปลูกต้นไม้ไว้มากมาย อาเหลยก็จะมีที่เล่น"
ผูหยางชิงหลันไม่ได้กลับเมืองหลวงมาหลายปีแล้ว แต่คฤหาสน์ของเขามีคนดูแล "เอาบ้านมาชดเชยค่าเห็ดหุยซินหกพันตำลึง พวกเราเป็ญาติกัน อย่างไรเสียญาติผู้พี่ก็ไม่อาจเอาเปรียบญาติผู้น้องทั้งสองคน"
"อย่าๆๆ อย่าทำเช่นนี้ ราคาควรเท่าไรก็เท่านั้น หาไม่แล้วพวกเราก็ไม่้าเรือนหลังนั้น"
เซวียเสี่ยวหรั่นรีบส่ายหน้า เดิมทีเธอไม่รู้ราคาเห็ดหุยซินเ่าั้ หากมิใช่เหลียนเซวียน เธอไหนเลยจะรู้ว่ามันเป็สมุนไพรล้ำค่าที่ยากจะประเมินราคาได้
ดังนั้นหากให้เก็บเงินค่าเห็ดหุยซินมากมายเพียงนั้น เซวียเสี่ยวหรั่นก็รู้สึกละอายใจ เธอตัดสินใจว่าจะเอาเงินที่ได้จากผูหยางชิงหลันครึ่งหนึ่งไปให้เหลียนเซวียน
ผูหยางชิงหลันก็ไม่เซ้าซี้ รู้ว่านางเป็คนมีจุดยืนที่แน่วแน่ ดังนั้นจึงกดราคาบ้านหลังนั้นให้ต่ำไว้ก่อนั้แ่เอ่ยปากคำแรก
"งั้นก็ได้ ถึงเมืองหลวงแล้ว พวกเราก็จะเป็คนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน ไปมาหาสู่สะดวกมาก นอกจากนี้นะ เสี่ยวหรั่น ข้าจะบอกเ้าอีกเื่"
ผูหยางชิงหลันยิ้มพลางกดเสียงกระซิบ พูดอย่างมีลับลมคมใน "จวนของเสี่ยวชีอยู่ทิศตะวันออก ไกลจากพวกเรามากโขทีเดียว"
เซวียเสี่ยวหรั่นฟังแล้วก็ไม่รู้ว่าควรหัวเราะดีหรือไม่
อวี๋เฟิงหยางซึ่งยืนอยู่ด้านหลังผูหยางชิงหลันไม่ไกลก็มีสีหน้าหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเช่นกัน
บางครั้งอาจารย์ผู้นี้ก็มีอุปนิสัยซุกซนดื้อรั้นเหมือนเด็กเจ็ดแปดขวบ
หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ฝนก็หยุด อากาศภายในเรือนเย็นลงเล็กน้อย
ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังทะเลาะกันอย่างดื้อดึง
"ข้าไม่ไป ข้าจะอยู่กับเสี่ยวชีที่นี่ หย่งเจีย เ้ากลับไปเองเถอะ" ผูหยางชิงหลันวางสีหน้าเ็า ไม่มองหน้าสตรีฝั่งตรงข้าม
"ป๋ออวิ๋น ท่านจะเอาอย่างนี้จริงหรือ" ท่านหญิงหย่งเจียเม้มริมฝีปาก คางเรียวสวยแข็งเกร็ง ั์ตากลับปกคลุมด้วยม่านหมอกจางๆ
"หย่งเจีย เสี่ยวชีกลับมาแล้ว ข้ากับเฟิงหยางอยู่ที่นั่นไม่เหมาะสม" ผูหยางชิงหลันใช้หางตาเหลือบมองแวบหนึ่ง หัวใจเหมือนถูกกระชาก แต่ยังคงปากกล้าไม่อ่อนข้อ
ดวงตาของท่านหญิงหย่งเจียจดจ้องเขาเขม็ง ไม่เอ่ยปากอยู่นาน
เซวียเสี่ยวหรั่น ซ่อนอยู่หลังลายฉลุบานหน้าต่างลอบมองออกไป หัวใจก็เต้นโครมครามตามไปด้วย
ไม่รู้ว่าสองคนนี้มีเื่ราวเป็มาอย่างไรกันแน่ เห็นชัดอยู่ว่าพวกเขาต่างมีใจให้กัน แต่ผูหยางชิงหลันกลับยินดีพาลูกศิษย์ร่อนเร่ไปทั่วสารทิศแทนที่จะกลับเมืองหลวง
ขณะที่ท่านหญิงหย่งเจียยังเฝ้ารอเขาตลอดมา
โอ๊ย... อยากไปถามเหลียนเซวียนจังเลย จะได้รู้ความหลังของพวกเขาสองคนอีกสักนิด
แต่พอนึกถึงสถานะของเหลียนเซวียน เซวียเสี่ยวหรั่นก็ซึมลงไป
เธออยู่ให้ห่างเหลียนเซวียนหน่อยจะดีกว่า
นั่นน่ะ องค์ชายเชียวนะ
องค์ชายคืออย่างไร ด้วยสถานะของเขาสามารถทั้งชายาเอก ชายารอง นางสนม เมียบ่าว และโฉมสะคราญอีกนับไม่ถ้วน
แล้วเธอจะเข้าไปทำไมกันล่ะ?
อยากทุกข์ทรมาน หาเื่ใส่ตัวหรือไร?
สมองของเธอไม่ได้ป่วย
เซวียเสี่ยวหรั่นแค่นเสียงฮึดฮัด กลับไปล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างซึมเซา แม้แต่เื่สนุกข้างนอกยังดึงดูดความสนใจของเธอไม่ได้
เฮ้อ...
หลังถอนหายใจหนักๆ เซวียเสี่ยวหรั่นก็กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง
หลังมื้อเย็น เธอจงใจหลีกเลี่ยงเขา
ต่อไปยังไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไร
ที่เขาพยายามปิดบังสถานะมาโดยตลอดก็คงวิตกเื่นี้กระมัง
เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มเยาะตนเอง
เขารู้ตัวเองดี ว่าหลังจากที่เธอทราบสถานะของเขาแล้ว จะต้องใจเสาะทำตัวเป็ทหารหนีทัพ
ดังนั้นหลายวันก่อน เขาถึงทดสอบด้วยการเข้ามาใกล้ชิด สนิทสนม สร้างความประทับใจ ทำแม้กระทั่งหว่านเสน่ห์ใส่เธอ
เธอยอมรับว่าตนเองก็หวั่นไหว
แต่ความจริงช่างโหดร้าย
เธอมิอาจร่วมปรนนิบัติสามีเดียวกับใครได้
ไม่มีใครสามารถทำให้เธอละทิ้งเกียรติและศักดิ์ศรี ลดตัวลงไปใช้บุรุษร่วมกับสตรีเป็ฝูง
แม้ว่าเขาจะคือเหลียนเซวียนก็ตาม
ใช่ ต่อให้เขาคือเหลียนเซวียนก็เป็ไปไม่ได้อย่างแน่นอน
เซวียเสี่ยวหรั่นจ้องม่านมุ้งสีขาวบนยอดเตียงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แววตามั่นคงหนักแน่น
ดังนั้นหากไม่มีอนาคต ต่อไปเธอก็ควรอยู่ให้ห่างจากเขาหน่อย
เธอยอมอยู่เป็โสดชั่วชีวิต ดีกว่าต้องไปเป็หนึ่งในสตรีเป็โขยงในเรือนหลังของเขา
เหลียนเซวียนคิดเอาไว้ว่ารอให้เซวียเสี่ยวหรั่นผ่อนคลายเื่สถานะของเขามากกว่านี้อีกสักหน่อย ค่อยไปคุยกับนางดีๆ แต่คาดไม่ถึงว่านางกลับสร้างกำแพงสูงล้อมหัวใจไว้อย่างแ่า
และยามนี้เขายังต้องช่วยให้คนงี่เง่าสองคนข้างนอกคืนดีกันก่อน
"หย่งเจีย ให้ศิษย์พี่อยู่ที่นี่ก็ได้ ข้าจะเฝ้าไว้เอง" เขาหันไปส่ายหน้าเล็กน้อยกับท่านหญิงหย่งเจีย
บางครั้งผูหยางชิงหลันก็ดื้อรั้นชนิดที่โคเก้าตัวก็ฉุดไม่อยู่
จะใช้ไม้แข็งจัดการกับเขาไม่ได้เป็อันขาด
ท่านหญิงหย่งเจียแววตาหม่นแสงลง นางจะไม่รู้ได้อย่างไร
แต่แยกจากกันคราก่อน เขาก็หายไปสามสี่ปี
หลังจากนั้นไม่ว่านางจะตามหาอย่างไร เขาก็ไม่ยอมพบนางอีก ฝากจดหมายมาให้แค่ครั้งเดียว แต่ก็เพราะว่าตอนนั้นนางป่วยหนัก เขาถึงเขียนจดหมายฉบับนั้นมา
ความหมายในนั้นชัดเจนยิ่งนัก หลังจากแสดงความเสียใจและขอขมา ก็บอกว่าระหว่างเขาและนางไร้วาสนาต่อกัน อย่าได้รอเขาอีกต่อไป
หากนางทำได้ จะมาปรากฏตัวที่นี่ตอนนี้หรือ?
