ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ฮวาก็หน้าถอดสี...
เพราะยาปลุกกำหนัดตัวนี้ มีผลรุนแรงยิ่งกว่ายาปลุกกำหนัดที่ขายอยู่ในตลาดมืดเสียอีก หากกินเพียงเม็ดเดียว ก็อาจพอทนได้ แต่นี่ตนกินไปถึงสามเม็ด ไม่อยากนึกถึงสิ่งที่จะตามมาเลยจริงๆ!
แค่คิด... ก็สะท้านไปทั้งตัว
นางจึงกัดฟันพูด “หนีเสี่ยวเสี่ยว เ้าช่างเก่งกาจนัก ที่สามารถใช้มารยาล่อลวงบุรุษให้อยู่ใต้อาณัติได้เช่นนี้!”
หนีเจียเอ๋อร์แสยะยิ้ม แล้วกล่าวว่า “อะไรกัน! พี่ฮวา ท่านไม่รู้หรอกหรือ ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็ใคร? นี่คือคุณชายสกุลโจว โจวชิงหวาอย่างไรเล่า!”
ฮวาเบิกตากว้าง ก่อนย้อนถามเสียงตื่น “นี่เ้า… เ้า… เ้าเป็ที่ปรึกษาของคุณชายโจวจริงๆ หรือ!”
ที่ปรึกษา?
โจวชิงหวาเหลือบมองหนีเจียเอ๋อร์ พลางนิ่วหน้า แล้วกดกริชให้ชิดลำคอของแม่เล้ามากขึ้น
ตอนนี้ยาเริ่มออกฤทธิ์ ใบหน้าของฮวาแดงซ่านไปด้วยอารมณ์ปรารถนา และยื่นมือออกไปลูบต้นขาของชายหนุ่มอย่างถือวิสาสะ
โจวชิงหวาขนลุกซู่ รีบส่งกริชให้หนีเจียเอ๋อร์ ก่อนถอยหลังกรูด
พอเห็นท่าทีตื่นตระหนกของเขา หนีเจียเอ๋อร์ก็อดหัวเราะมิได้ “คุณชายโจว อย่าให้หนึ่งแสนหกหมื่นตำลึงของท่านต้องเสียเปล่าสิ!”
ชายหนุ่มนิ่งงัน ใบหน้าได้รูปค่อยๆ หันไปมองอีกฝ่าย แสงสว่างที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำให้หนีเจียเอ๋อร์มองเห็นสีหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน…
โกรธแล้วหรือ?
หนีเจียเอ๋อร์หุบปากฉับ รีบเข้ามาประจบประแจงทันที “ท่านพี่ชิงหวา ข้าแค่หยอกเล่นเท่านั้นเอง!”
โจวชิงหวายังคงมองมาด้วยสายตาเ็า ั้แ่เล็กจนโต ต่อให้โมโหเพียงใด ชายหนุ่มก็ไม่เคยลงไม้ลงมือกับนางเลยสักครั้ง คราวนี้ก็เช่นกัน
“รีบไปเถอะ!”
หนีเจียเอ๋อร์เอ่ย พลางปรี่ไปรีดข้อมูลจากฮวา ก่อนเคาะถ้วยชา แล้วรีบกลับมาหาโจวชิงหวา
“ไปรอดูกันตรงนั้นเถอะ!”
โจวชิงหวาโอบรอบเอวนาง พาเผ่นโผนขึ้นไปบนหลังคาของอาคารฝั่งตรงข้าม
หญิงสาวจับจ้องไปยังห้องของฮวาด้วยความตื่นเต้น ภาพที่กุ้ยกงวิ่งเข้ามาหาพี่ฮวา ก่อนจะถูกอีกฝ่ายฉุดกระชากปลุกปล้ำ ทำให้นางเผลอหลุดเสียงหัวเราะออกมา
หนีเจียเอ๋อร์ส่ายหน้า “ดูสิ... ราวกับติดสัดเลย สมควรแล้ว!”
ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าด้วยความสมเพช พลางคิดว่าบุรุษเพียงคนเดียว คงจะไม่เพียงพอสำหรับสตรีอ้วนผู้นั้นเป็แน่!
เขาโอบรอบเอวบาง ก่อนทะยานออกจากหอร้อยบุปผา
หญิงสาวหันมาทักท้วงทันที “จะรีบไปไหนเล่า? ข้ายังไม่สาแก่ใจเลย...”
โจวชิงหวาโน้มหน้าลงมากระซิบข้างหู ด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ดูเหมือนเ้าจะสนใจเื่นี้เหลือเกินนะ เช่นนั้นให้ข้าสอนเ้าไม่ดีกว่าหรือ?”
หนีเจียเอ๋อร์ผงะทันที หุบปากสนิท แล้วมุดหน้าลงกับอกแกร่งของเขา
เพราะฮวายังคงหมกมุ่นอยู่กับเื่นั้น จึงไม่ทันได้สั่งให้ผู้ใดไล่ตามพวกเขา ทั้งสองจึงเดินทางออกจากเมืองไปได้อย่างราบรื่น
ระหว่างทางโจวชิงหวาก็เล่าสถานการณ์ปัจจุบันของสกุลหนีให้นางฟัง ส่วนหนีเจียเอ๋อร์ก็บอกเขาเื่กำยานที่สวีซื่อมอบให้เว่ยอี๋เหนียง ทั้งสองจึงเริ่มปรึกษาหารือเื่แผนการเอาคืนสวีซื่อ
...
พอกลับมาถึงเมืองหลวง ชายหนุ่มได้รวบรวมกำลังคนบุกไปหอร้อยบุปผาอีกครั้ง เพื่อจับตัวฮวา แต่เหมือนว่านางจะไหวตัวทัน ดังนั้นเมื่อพวกเขาไปถึง หอร้อยบุปผาก็ว่างเปล่าไปเสียแล้ว
หนีเจียเอ๋อร์เตะกระถางต้นไม้ข้างประตูด้วยความโมโห แล้วก็ต้องร้องโอดโอยด้วยความเ็ป
โจวชิงหวาเลื่อนนิ้วไปไล้แก้มใส หัวเราะเบาๆ ก่อนเอ่ย “เด็กโง่!”
หญิงสาวกำลังจะสวนกลับ แต่เขาก็อุ้มนางขึ้นไปนั่งบนอานม้า ก่อนะโขึ้นมานั่งซ้อนหลัง
ม้าโผนตัว ยกขาหน้าทั้งสองขึ้น แล้ววิ่งควบออกไป
หนีเจียเอ๋อร์หันมามองค้อน “ทำไมเ้าไม่ไปนั่งม้าตัวเองล่ะ?”
ชายหนุ่มรั้งร่างบางเข้ามาแนบชิด แล้วจึงตอบ “อยู่ใกล้กันไว้ดีกว่า ข้าจะได้ปกป้องเ้าได้”
“ฮึ่ม! ใช่ว่าข้าอยากจะทำตัวอ่อนแอ ให้เ้ามาคอยปกป้องเสียเมื่อไร แต่มีคนจ้องจะปองร้ายข้าอยู่ตลอดต่างหากเล่า!” หนีเจียเอ๋อร์ทุบลงไปที่อกของเขา
โจวชิงหวาลอบมองนาง มิใช่ว่าไม่รู้ ว่าหญิงสาวอ่อนไหวกับเื่เหล่านี้ แต่ก็ไม่อยากให้นางกังวล
ชายหนุ่มจึงลูบหลังมือเล็กเบาๆ “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ตายง่ายๆ หรอก!”
พอหนีเจียเอ๋อร์หันกลับมามอง โจวชิงหวาก็ยิ้มให้ ก่อนพูดต่อ “เสี่ยวเอ๋อร์ ข้าคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว เพื่อที่เ้าจะได้ไม่ต้องเผชิญเื่เหล่านี้เพียงลำพังอีก...”
น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความหวั่นวิตก แต่หญิงสาวมิได้กล่าวอันใด เพียงเอนตัวลงพิงอีกฝ่ายเท่านั้น
ซึ่งระหว่างเดินทางกลับ ทั้งสองก็มิได้สนทนาอะไรกันอีก...
...
คืนนี้ ช่างเป็คืนที่มืดมิดไร้ซึ่งดวงดาว อากาศเย็นลง จนทำให้ทั่วพื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกจางๆ
ชายชุดดำกลุ่มหนึ่งจึงฉวยโอกาส ลอบบุกเข้ามาสังหารหนีเจียเอ๋อร์ในจวนสกุลโจว เพื่อให้ใช้เวลาน้อยที่สุดในการทำภารกิจ พวกมันจึงกระจายกำลังไปทั่วจวนอย่างรวดเร็ว
แม้จะเก่งกาจในการอำพรางตน แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นจากสายตาของบ่าวรับใช้ในจวนสกุลโจว ซึ่งได้รับการฝึกฝนมาเป็อย่างดี
“มีคนบุกรุก... มีคนบุกรุก!”
เมื่อโจวชิงหวาได้ยินเช่นนั้น จึงรีบผุดลุกขึ้นมาสวมเสื้อคลุม หยิบกระบี่คู่ใจของตน แล้ววิ่งออกมาทันที “ปกป้องคุณหนูรอง!”
สือหวู่พร้อมคนจำนวนหนึ่ง จึงทะยานไปยังที่พักของหนีเจียเอ๋อร์ เพื่อปกป้องนางตามคำสั่งของเ้านายทันที
หญิงสาวที่สะดุ้งตื่น เพราะเสียงะโของคนเฝ้ายาม รีบสวมเสื้อคลุมวิ่งออกมาจากห้องนอน จึงพบเข้ากับสือหวู่ที่เพิ่งมาถึง
“ชิงหวาเล่า? ตื่นหรือยัง?”
สือหวู่ตอบด้วยเสียงนอบน้อม “ตื่นแล้วขอรับ! นายท่านยังสั่งให้พวกเรามาปกป้องคุณหนูด้วย”
แต่กระนั้น หนีเจียเอ๋อร์ก็เป็ห่วงความปลอดภัยของโจวชิงหวายิ่งนัก “เ้ารีบไปช่วยโจวชิงหวาเถอะ!”
ทว่าสือหวู่ยังคงยืนนิ่ง เพราะเ้านายมีคำสั่งให้เขามาคุ้มครองคุณหนูหนี
แต่หญิงสาวที่ได้ยินเสียงต่อสู้ฟาดฟัน ก็เริ่มร้อนใจ “ไปเถอะ เร็ว!”
เมื่อโดนกดดันมากๆ เข้า สือหวู่จึงแบ่งคนออกเป็สองกลุ่ม โดยให้คนกลุ่มแรกเฝ้าอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องหนีเจียเอ๋อร์ ส่วนอีกกลุ่มก็ติดตามเขาไปสมทบโจวชิงหวา
พอมาถึง ก็พบว่าผู้เป็นายกำลังจะแทงชายชุดดำที่นอนเจ็บอยู่บนพื้นซ้ำ
ทันใดนั้น เสียงนกหวีดก็ดังขึ้น แล้วบรรดาชายชุดดำก็ล่าถอยไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้