[ฟ้าแชร์โลเคชั่นมาเลย เดี๋ยวพี่ลงเครื่องแล้วรีบไป]
ชวิศเหมือนมีญาณทิพย์ ชายหนุ่มโทรมาหาระฟ้าในเวลาเดียวกันเพื่อพบเื่ชวนปวดหัวอย่างการที่ศิธา วาสุรีโรจน์ ตัดสินใจเดินทางไปกองถ่ายทั้งๆที่ยังไม่หายจากสภาวะความจำเสื่อม ชวิศจินตนาการใบหน้าระฟ้าออกเลยว่าน้องจะสิ้นหวังขนาดไหน ทำงานทุกวันก็เหนื่อยลากเืแล้ว สามีตัวดียังก่อแต่ปัญหาวันเว้นวัน
“ไม่อยากรบกวนพี่วิศเลยครับ เอาเป็ว่าผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุดนะ”
ระฟ้าวางสายพร้อมกับตบหน้าผากตนเองดังแปะเป็ครั้งที่ร้อย
พอรู้ข่าวระฟ้ารีบติดต่อหาตัวการอย่างโอฬารทันที โทรไปสายแรกไม่รับ ระฟ้าต้องโทรย้ำถึงสามรอบ ‘มีเื่จะบอกผมหรือเปล่าครับพี่โอฬาร’ กรอกน้ำเสียงเย็นเฉียบลงไปเสียจนคนทางโน้นกลืนน้ำลายเอื้อกตอบกลับมา
‘ม มันพอแสดงได้อยู่นะครับคุณระ เดี๋ยวผมแชร์โลให้เลย คุณระอย่าเพิ่งโกรธนะ’
ระฟ้าอมยิ้มเืเย็นตอบเสียงหึ ก่อนจะกดวางแบบที่ไม่ลืมแผนการหักคอโอฬารในใจ เห็นอย่างนี้ระฟ้าสูงตั้ง 180 เิเ แม้จะเตี้ยกว่าสามีแต่ก็สูงกว่าโอฬาร สามารถปลิดชีวิตผู้จัดการมือทองไม่รู้ความคนนั้นได้สบาย ลองลงมาก็อีตาคุณสามีเ้าปัญหา ถึงเมื่อก่อนจะสู้ความปากหมาของเขาไม่ไหว แต่ถ้าจับไปขังไว้ในห้องใต้ดินไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเลยก็เป็ความคิดที่ฟังดูเข้าท่า
“เอ่อ คุณระฟ้าครับ ถึงกองถ่ายแล้วครับ”
พลขับรถและเหล่าบอดี้การ์ดคล้ายจะััได้ถึงออร่าแห่งความตายจากท่านประธานได้ คุณระฟ้าบทจะใจดีก็ใจดีมีเมตตา บทจะโหดก็สามารถเปลี่ยนร่างจากนางฟ้าเป็ปีศาจในชั่วพริบตา และเวลานี้ระฟ้า วาสุรีย์โรจนกำลังประทับร่างปีศาจร้ายตัวที่ว่า
“โหลดะุให้พร้อมนะครับ วันนี้จะมีการนองเื”
ดูพูดเข้าสิ...
ช่างเป็ภรรยาผู้เหี้ยมโหดโดยแท้
กองถ่ายซีรีย์โรงเรียนประจำโอเมก้าวันนี้ถ่ายทำอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติแถบสมุทรปราการ ใช้เวลาเดินทางไม่ใกล้ไม่ไกลนักรถประจำแหน่งของระฟ้าก็พาเขามาถึงจุดหมาย ตอนแรกยามไม่ให้เข้าเพราะสถานที่ถูกจำกัดให้ผ่านได้เฉพาะคนใน ต้องรอโอฬารวิ่งมารับหน้าประตู ทันทีที่เจอผู้จัดการตัวดีของสามีระฟ้าก็ฉีกยิ้มให้อย่างเป็มิตร แต่แทนที่จะใจชื้นโอฬารกลับขนลุกวาบ โอฬารรู้ดีว่าเวลาปกติคุณระยิ้มที่ไหน ถ้ายิ้มคือต้องมีคนตายแน่ๆ
“ใจเย็นๆก่อนค้าบคุณระ ไอ้ศิมันทำงานได้จริงๆน้า”
โอฬารเหงื่อแตกพลั่กเมื่อเห็นสีหน้าภรรยาเ้าชายแห่งวงการจอเงิน พยายามก้มหัวพินอบพิเทาให้มากที่สุดแล้วเดินนำไปยังเซตที่ใช้สำหรับถ่ายทำ โดยปกติผู้กำกับเื่นี้ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาดูระหว่างถ่าย แต่เพราะระฟ้า วาสุรีย์โรจน์มีชื่อเสียงอย่างมาก เป็ถึงประธานกรรมการแห่งวาสุกรุป เ้าของธนาคารเอกชนชื่อดัง สปอนเซอร์รายใหญ่ต้องเข้าแน่ๆ นี่ถ้าผู้กำกับรู้ว่าคุณระฟ้าติดแหง็กอยู่หน้าโรงเรียนเมื่อครู่เขาต้องเดินไปบ่นหยามแหงแก๋ โทษฐานปล่อยให้ท่านประธานแห่งวาสุกรุปเสียเวลารอ
“กำลังถ่ายอยู่เลย คุณระดูสิครับ”
โอฬารรีบเปลี่ยนเื่โดยการพุ้ยหน้าไปทางร่างสูงในเซ็ต เวลานี้หกโมงเย็น ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มถูกความมืดปกคลุม ต้องใช้แสงสปอตไลท์และไฟจากอาคารเรียนช่วยเพิ่มความสว่างให้แก่ใบหน้าหล่อเหลาของพระเอก
ศิธา วาสุรีย์โรจน์อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตขาวผูกไทด์ เขารับบทเป็คุณครูพละคนใหม่ที่เพิ่งสอบย้ายเข้าโรงเรียนประจำโอเมก้าสุดมีชื่อเสียงได้ นอกจากเป็ซีรีย์เื่แรกของศิธาแล้ว (เพราะตลอดมาเล่นแต่ภาพยนตร์) บทยังเป็วาย นั่นก็คือชายรักชาย ปกติศิธารับเล่นแต่บทคู่ชายหญิง นี่จึงเป็การผลิกโฉมบทบาทครั้งสำคัญของพ่อดาราหนุ่ม
“ถึงความทรงจำจะหายไป แต่ผมว่าสกิลการแสดงของไอ้ศิมันยังอยู่นะคุณระ อย่างวันนี้ก็ลองให้เล่นซีนธรรมดาไปก่อน เป็ซีนที่ยืนคุยกับนายเอกหลังพบกันครั้งแรก ไม่ต้องส่งอารมณ์มาก แค่แนะนำตัวง่ายๆ มันบอกว่าเล่นได้ ผู้กำกับก็เลยลองให้เล่น แล้วมันก็เล่นได้จริงๆครับ”
‘ผมว่าโรงเรียนนี้มันแปลกๆนะครับครูคาถา’
น้ำเสียงทุ้มนุ่มถูกปรับให้กลายเป็ตื่นตระหนกอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ระฟ้ามองภาพสามีผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ของผู้กำกับสลับกับภาพจริงอันอยู่ถัดออกไปไม่กี่ร้อยเมตร บทครูอรุณกร ที่ศิธารับเล่นมีคาแรคเตอร์แตกต่างจากตัวตนเขาสิ้นเชิง อรุณกรคือผู้ชายสามัญธรรมดา เติบโตขึ้นมาในยุคปลาย 90 คาบเกี่ยวระหว่างอินเตอร์เน็ตและของเล่นยุคอนาลอค ไม่โดดเด่นไปกว่าใครๆ ไม่ต้องแบกรับภาระหน้าที่ผู้บริหารหรือดาราดัง แต่ถึงกระนั้นอรุณกรก็เป็ผู้ชายอัธยาศัยดีพร้อมช่วยเหลือผู้คน พูดให้เข้าใจตามประสาวัยรุ่นก็คือเป็เมะลูกหมา
ขณะที่นายเอกของเรา คุณครูคาถา บทนายเอกนั้นจะออกแนวเคะแมวหยิ่งผู้ลึกลับ คุณครูห้องแนะแนวผู้ใช้ชีวิตเต็มไปด้วยความน่าสงสัย ทว่าการแสดงของครูคาถาไม่ได้ดึงดูดสายตาระฟ้าเท่ากับของสามีเลย จะว่าอย่างไรดี.. วิธีที่ศิธาเปล่งเสียงถ้อยคำ แบ่งห้วงประโยค ปั้นรอยยิ้มติดเก้อเขิน ทั้งหมดไม่ใช่อัลฟ่าศิธาที่ระฟ้ารู้จักตลอดสองสามวันมานี้ ร่างสูงเบื้องหน้าสามารถสวมบทอรุณกรได้อย่างสมบูรณ์แบบ
‘แปลกยังไงครับครูอรุณกร’ คนที่เล่นบทครูคาถาเอ่ยตอบ
‘ไม่รู้สิครับ บรรยากาศมันวังเวงขนาดเป็ตอนกลางวัน พอกลางคืนยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เงียบเชียบเสียยิ่งกว่าป่าช้า แล้วปกติครูคาถาเดินตรวจตราทั้งตึกแบบนี้ทุกวันเลยหรือครับ’
ชายหนุ่มว่าพร้อมยกมือเกาหัวแกรก รอยยิ้มผูกมิตรแปรเปลี่ยนเป็เหยเกเล็กน้อยพร้อมกับหางตาที่ตกลง ระฟ้าเลิกคิ้วให้กับการแสดงเบื้องหน้า เขาเคยเห็นการแสดงของศิธาเป็ครั้งคราวผ่านโทรทัศน์ เคยมาดูที่กองด้วยครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้วเพราะคุณย่าบังคับมา ทว่าครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ศิธาที่ระฟ้าเห็นช่างแตกต่างจากศิธาที่ระฟ้าเคยรู้จัก เป็ความแตกต่างที่ตอบไม่ได้ว่าแตกต่างตรงจุดไหน เพราะความจำเสื่อมหรือ? เพราะกำลังทำการแสดงอยู่หรือ? ไม่รู้ ระฟ้าไม่รู้..
‘กลับกันเถอะครับครูคาถา ผมว่ามันดึกมากแล้ว’
‘ทำไมครับ ครูอรุณกรกลัวหรือ?’
ฝ่ามือของครูคาถารั้งคอเสื้อชายหนุ่มที่สูงกว่าให้เอนโน้มลงมาทันควัน ไม่ว่าจะยืนอยู่กับใคร อัลฟ่าเืบริสุทธิ์อย่างศิธาก็ล้วนตัวสูงไปกว่าเขาเสียหมด ยิ่งครูคาถาที่สูงเพียง 170 กลางๆยิ่งไม่ต้องพูดถึง กลายเป็มนุษย์ตัวเล็กนิดเดียวเมื่ออยู่ต่อหน้าศิธา ทั้งสองส่งสายตาให้กันด้วยความรู้สึกหลากหลาย ตกหลุมรัก หวาดกลัว ฉงนสงสัย สารพัดความรู้สึกที่ทำให้หัวใจของผู้ชมอย่างระฟ้าเผลออินไปกับบทบาทการแสดง
“คัทททท! ดีมากกก”
กระทั่งเสียง์ของผู้กำกับพี่นกแพงเอ่ยหยุดชั่วโมงสมมติ สีหน้าตื่นกลัวของคุณครูอรุณกรก็หายวับ แปรเปลี่ยนกลับเป็ศิธา วาสุรีย์โรจน์คนเดิม เขาหันไปทางผู้กำกับอย่างนกแพง ยักคิ้วหนึ่งทีด้วยคำถามที่ว่า พอได้หรือเปล่าเพ่ ไอ้การแสดงเป็ดาราหน้ากล้องน่ะ
“ดีเลยคุณศิธา แต่ยังไง่นี้ผมถ่ายซีนง่ายๆไปก่อนแล้วกัน”
ผู้กำกับนกแพงได้รับแจ้งจากโอฬารแล้วว่าศิธาป่วยด้วยโรคความจำเสื่อม ผู้กำกับจำเป็ต้องรับทราบเื่นี้ การหายไปเฉยๆโดยไม่แจ้งสาเหตุรังแต่จะทำลายงานจนทีมงานเขาไปกันต่อไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นโอฬารก็กำชับให้นกแพงอย่าแพร่งพรายเื่ความจำเสื่อมให้ใครรู้เป็อันขาดแม้แต่ทีมงานด้วยกัน ทีแรกนกแพงตั้งใจคัดนักแสดงใหม่แล้ว ในเมื่อซีรีส์เพิ่งถ่ายไปได้ไม่กี่คิว รีบหาพระเอกคนใหม่อาจดีต่อผลลัพธ์มากกว่า แม้จะหาคนที่ตรงบทเท่าที่ศิธาได้ยากมากๆก็ตาม ทว่าสุดท้ายโอฬารก็พาศิธากลับมา ใครจะคิด ความจำเสื่อมแต่ยังไม่ลืมทักษะการแสดง
สมกับเกิดมาเป็เ้าชายแห่งวงการจอเงินเสียจริง
“ยังไงวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนครับ เลิกกองนะ ขอบคุณทุกคนมาก”
ผู้กำกับโบกมือให้เหล่านักแสดงแยกย้าย ทีมงานฝ่ายอื่นจะได้เก็บของ ศิธาพอถอดบทบาทครูอรุณกรก็กลับมาเป็อัลฟ่าจอมวางมาด เขาเดินไปหาผู้จัดการมือทองอย่างโอฬารโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนยืนกอดอกรออยู่เช่นกัน แน่นอน อัลฟ่าเืบริสุทธิ์ขนลุกซู่ทันทีเมื่อสบประสานเข้ากับสายตาเย็นเฉียบของภรรยา
“ง ไง มารับพี่กลับบ้านถึงนี่เชียวหรือเธอน่ะ”
“ขึ้นรถครับ”
สามคำสั้นๆแบบห้วนมาก ศิธากลืนน้ำลายเอื้อก ศิธาคนก่อนกลัวเมียไหมไม่รู้
แต่ศิธาคนนี้เหงื่อแตกพลั่กไปแล้วเรียบร้อยครับผม
/
ตลอดทางระฟ้าไม่พูดสิ่งใดกับสามีสักประโยค
อีตาผู้จัดการมือทองไม่ได้ขึ้นมาด้วยเพราะระฟ้าไล่กลับบ้านไปแล้ว ทำให้รถประจำตำแหน่งบริเวณเบาะหลังเวลานี้มีเพียงท่านประธานและสามีท่านประธาน ศิธานั่งหลังตรงแด่ว พยายามวางมาดเก๊กขรึมให้สุขุมมากที่สุด ต่างจากหัวใจที่กำลังไหวสั่นครั่นคร้าม อัลฟ่าเืบริสุทธิ์ไม่เคยกินน้ำใต้ศอกใคร แม้จะเป็โอเมก้าควีนตัวแม่ภรรยาสุดที่รัก ศิธาก็จะต้องวางมาดไม่ให้ถูกภรรยาข่มมากไปกว่านี้ได้
กระทั่งทั้งคู่กลับถึงบ้าน ระฟ้าเดินนำเข้าไปยังห้องนั่งเล่น ทิ้งตัวลงบนโซฟาหน้าทีวีแล้วยกขาขึ้นไขว้ แขนทั้งประสองประสานกดอก ั์ตาเย็นเฉียบของควีนโอเมก้าจ้องเขม็งมาทางสามี นี่สินะ อิทธิพลของควีน ศิธาเพิ่งเข้าใจถ่องแท้ได้ในชั่วโมงนี้เอง
“ผมบอกว่าไงนะครับ”
เท่านั้นสามีหนุ่มก็ขนลุกซู่ขึ้นมาอีกรอบ
ศิธารู้แล้วแหละว่าระฟ้าไม่อยากฉีกหน้าสามีต่อธารกำนัล บนรถระฟ้าก็ไม่ทำเพราะมีบอดี้การ์ดนั่งอยู่ จะรังเกียจเดียดฉันท์เพียงไรระฟ้าล้วนให้เกียรติสามีเสมอ เก็บงำเอาความรู้สึกรุ่มร้อนไว้ภายในใจตามประสาผู้บริหาร เมื่อลับตาคน อยู่กันสองต่อสอง เปลวเพลิงที่พร้อมแผดเผาสามีก็พวงพุ่งลุกโชน
“ก็... พี่เบื่อ เธอไม่ให้พี่ไปทำงาน”
“ผมอธิบายเหตุผลคุณไปแล้ว”
ถึงจะอยู่ในสภาวะความจำเสื่อม ระฟ้าก็ไม่ได้ปิดบังสถานการณ์ทางครอบครัวของเรา ศิธาคนนี้ช่างไม่แตกต่างจากศิธาคนก่อน ประสบปัญหาบังลังก์แค้นแก่งแย่งชิงดี ขืนคนบ้านใหญ่รู้เข้าว่าศิธาความจำเสื่อม มีหวังพวกเขาต้องหาทางเล่นสกปรกฟ้องเราสองผัวเมียจนหมดตัว ไม่รู้ว่ากฎหมายมันทำได้ไหม แต่พวกเขาต้องหาทางทำแน่ๆ ที่เป็ไปได้สุดก็คงผ่านการประโคมข่าวว่าศิธาเสียสติ อยู่ในสภาพไม่อาจบริหารงานได้ มรดกของคุณย่าควรจะเป็โมฆะและกลับคืนสู่ทายาทสายตรง
“ถึงตอนนั้นจะไม่กระทบแค่งานแสดงของคุณ แต่เป็งานผมไปด้วย บริษัทนี้มันเป็ของคุณย่าคุณนะครับ กว่าท่านจะสร้างมาได้เืตาแทบกระเด็น ท่านอยากให้เราดูแล แต่นี่อะไร คุณไม่เชื่อฟังผม”
“ธ เธอนั่นแหละไม่เชื่อฟังพี่ พี่บอกว่าพี่เป็อัจฉริยะ เรียนรู้เร็ว ไม่เห็นหรือ เล่นละครวันเดียวก็เก่งแล้ว ไอคิว 200 นี่ก็ไม่ใช่ราคุยเสียหน่อยนึง”
ศิธายืนกรานถึงความเป็อัจฉริยะของตนเอง
อันนี้ไม่ได้พูดเล่น เขาคืออัลฟ่าเืบริสุทธิ์ที่มีไอคิวทะลุ 200 การที่เตี่ยยอมให้ขึ้นบริหารวาสุกรุปแทนพี่ๆก็เพราะเหตุผลนี้ ทักษะด้านกีฬา ตอบปัญหาวิชาการ แม้กระทั่งการแสดงต่อให้ไม่เคยทำมาก่อน หากฝึกฝนไม่กี่ครั้งศิธาก็สามารถทำได้แล้ว ศิธาบอกเื่นี้กับระฟ้าเช่นเดียวกับเื่ที่เขามาจากต่างโลก
“แต่เธอก็ไม่เชื่อพี่”
“ใครจะไปเชื่อล่ะครับบ้าหรือไง” ร่างบางถลึงตา “เอาเถอะครับ ผมไม่อยากเถียงกับคุณแล้ว เอาเป็ว่าต่อไปนี้ห้ามออกไปไหนอีกเด็ดขาด”
ระฟ้าถอนหายใจดังเฮือกก่อนจะเลือกเดินหนี คือถ้าศิธาอยู่ในสภาวะปกติเช่นเมื่อก่อนคงเถียงให้เข้าใจกันไปข้างนึง แต่นี่คุณสามีความจำเสื่อม สมองเพี้ยน คิดว่าตนเองเป็อัลฟ่าเืบริสุทธิ์ ล่าสุดมาบอกว่าเป็อัจฉริยะอีก ระฟ้าปวดหัวเหลือเกิน งานก็ปวดหัวแล้ว ยังต้องมารับมือกับสามีจอมสร้างเื่ปวดหัวอีก
“เฮ้! มาคุยกันให้รู้เื่นะยัยฟ้า อย่าเดินหนีพี่”
ทว่าอัลฟ่าศิธาไม่ยอม ต่อให้เป็นางฟ้าโอเมก้าแม่ทูนหัวที่ตรงสเปคทุกข้อ แต่มาเดินหนีกันแบบนี้มันหยามศักดิ์ศรีกันชัดๆ เกิดมายังไม่เคยมีใครเดินหนีศิธาทั้งๆที่ยังพูดไม่จบเลยนะ!
“ไปนอนครับ ไม่คุย วันนี้เหนื่อยกับคุณมากแล้ว”
“ถ้าไม่คุยพี่ก็จะไปถ่ายละครอีก สนุกจะตาย”
“บอกว่าไม่ให้ถ่ายไงครับ อยากให้ผมจับคุณขังไว้เหรอ”
“ก็เอาซี่ ตัวเท่าเมี่ยง คิดว่าคนอย่างเธอจะสู้แรงพี่ไหวหรือไง”
ระฟ้าหันมาแย่งเขี้ยวแง่งๆใส่สามี
เออ ระฟ้าสูง180 สูงชะรูดเลยแหละ แต่อีตาอัลฟ่าสมองเพี้ยนนี่ดันสูงมากกว่า ต่อยเขาทีคงลอยกระเด็นติดผนังเลยกระมัง ไหนจะมัดกล้ามที่ผ่านการออกกำลังกายมาอย่างดี ถ้าให้วัดกันเื่แรงระฟ้าแพ้ราบคาบอย่างไม่ต้องสงสัย ฉะนั้นไอ้ที่ขู่ว่าจะจับขังน่ะ ระฟ้าไม่ได้จะใช้กำลังของตัวเองสู้กับเขาตัวต่อตัวเสียหน่อย
“ก็ได้ พี่จะไม่ยอมไปถ่ายละครก็ได้ แลกกับสัญญาข้อนึง”
“สัญญาอะไรครับ”
ระฟ้าหรี่ตา ชักตงิดใจที่จู่ๆคุณสามีก็ยอมขึ้นมาง่ายดาย กลิ่นความเ้าเล่ห์มันลอยคลุ้ง สรุปกลับมาแล้วหรือเปล่านะ สามีคนเก่าของระฟ้าน่ะ
“เราจะไม่หย่ากัน”
นั่นไง ทายผิดเสียที่ไหน คนฟังจิ๊ปากหงุดหงิดทันที เื่หย่าศิธาคล้ายจะรู้มาจากโอฬาร รายนั้นขนาดระฟ้ากำชับว่าเื่ไหนเล่าได้ เื่ไหนห้ามเล่า ไอ้ผู้จัดการผีเจาะปากมาพูดก็ไม่ฟังกันสักคำ โดยเฉพาะเื่หย่า ระฟ้าสังหรณ์ใจแปลกๆแล้วว่าสามียังไม่ควรรับรู้เื่นี้จนกว่าความทรงจำจะกลับมาครบถ้วน ในเมื่อเขากำลังรับบทอัลฟ่าเห่อเมีย ก็ไม่ควรให้รู้ว่ากำลังจะหย่ากับเมียหรือเปล่าวะ
“ตกลง ไม่หย่าก็ไม่หย่าครับ”
หากระฟ้าก็คิดแผนรับมือเอาไว้แล้วเช่นกัน รับปากส่งๆไปก่อน อัลฟ่าศิธาเวลานี้้าให้ระฟ้าเล่นบทสามีภรรยาสุดหวานแหวว ระฟ้าก็แค่ต้องเล่นไปตามความปรารถนาของเขา และพอวันหนึ่งที่ศิธาความทรงจำกลับคืนมาทั้งหมด แผนหย่าของเราเพื่อแยกย้ายไปใช้ชีวิตก็จะกลับเข้าสู่เส้นทางเดิม
“งั้นดีลตามนี้นะยัยฟ้า ห้ามตุกติกล่ะ”
“ครับ ตามนี้”
เช่นเดียวกับอัลฟ่าศิธาที่ก็คิดแผนรับมือภรรยาเอาไว้ไม่ต่างกัน หลอกให้เมียตายใจ สืบตารางงานจากเลขาและคนสนิท พอรู้เวลาว่าระฟ้าจะกลับบ้านตอนไหน มีประชุมเมื่อไหร่ เขาก็แค่รีบชิงกลับมาจากกองถ่ายก่อน
หึ ยัยฟ้าน่ะหลอกง่ายจะตายไป
/
หลังเจรจราธุรกิจกันเสร็จสรรพ สองสามีภรรยาก็พักรบเพื่อทานมื้อเย็น ทั้งระฟ้าและศิธาไม่ได้ทานอะไรมาเลยั้แ่่หัวค่ำ ครั้นจะวางฟอร์มขึ้นห้องนอนเลยก็ไม่อาจต้านทานอาการหิวไส้กิ่วไหว ระฟ้าเพิ่งระลึกได้ว่านี่คงจะเป็การทานข้าวด้วยกันครั้งแรกในรอบเกือบสามปี หากไม่มีคุณหญิงเยาวมาลย์มาเป็กาวใจ ศิธาและระฟ้าก็แทบไม่ยุ่งเกี่ยวกันเลย
‘ย่าฝากศิธามันด้วยนะตาฟ้า’
ประโยคไหว้วานที่คุณหญิงย่ามักพูดกรอกหูระฟ้าบ่อยครั้งดังก้องในหัว ทั้งๆที่ศิธาปาเข้าไปตั้ง 35 เป็พี่ระฟ้าตั้งหลายปี ระฟ้ายังเพิ่งจะ 26 เอง เหตุใดคุณหญิงถึงมาฝากฝังคนอายุมากกว่าไว้กับระฟ้าเสียได้ ต้องเป็อีตาศิธาไม่ใช่หรือไงที่ควรดูแลระฟ้าน่ะ กระทั่งวันนี้ที่ระฟ้าเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว ผู้ชายที่เพิ่งถูกลอบฆ่าจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ไม่สามารถอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ไหวหรอก
ใช่... ระฟ้ารู้
อุบัติเหตุรถตกสะพานของศิธาไม่มีทางเป็ผลพวงจากการเมาแล้วขับ ถึงกมลสันดานจะเสียจนกู่ไม่กลับปานใด ศิธาก็รักษาภาพรักเ้าชายแห่งวงการจอเงินอยู่เสมอ ตลอดระยะเวลาหลายปีเขาไม่เคยมีข่าวเมาแล้วขับเลย หากดื่มศิธาก็จะให้โอฬารขับรถมาส่งหรือไม่ก็เรียกแท็กซี่ แต่คืนนั้นเหตุการณ์มันผิดธรรมชาติไปหมด ระฟ้าคิดว่าต้องเป็พวกเขาแน่ๆ คุณอาสุดที่รักของศิธา ลูกชายและลูกสาวคุณหญิงเยาวมาลย์ผู้อิจฉาริษยาหลานชายในไส้
ทั้งหมดเป็เพียงข้อสันนิษฐาน เพราะระฟ้ายังไม่มีหลักฐานจะเอาผิดใครได้ แต่คนเสียผลประโยชน์เื่นี้จะมีใครเสียอีกถ้าไม่ใช่เหล่าๆคุณอาล่ะ คิดแล้วระฟ้าก็ขนหัวลุก ขนาดศิธาเป็สายเืเดียวกันพวกเขายังกล้าทำร้ายได้ลง นับประสาอะไรกับเด็กรับใช้นอกสายเืที่ตะกายขึ้นมาบนจุดสูงสุดอย่างระฟ้า คิวต่อไปต้องเป็ระฟ้าแน่ๆ ฉะนั้น ระฟ้าต้องรีบหย่าตามกำหนดโดยเร็วแล้ว จะได้ออกจากวังวนบ้าๆนี่เสียที
“ว่าแต่นี่มันอะไรกันครับ”
หนังท้องตึง สองสามีก็แยกย้ายไปทำกิจกรรมส่วนตัว ระฟ้ามีงานให้เคลียร์จนถึงราวๆเที่ยงคืน กลายเป็เื่ปกติไปแล้วที่หลังเลิกงาน ท่านประธานกรรมการก็ไม่วายหอบงานกลับมาทำอีก ซ้ำยังต้องตื่นเช้าเพื่อรีบไปออฟฟิศอีก แต่ที่ไม่ปกติเห็นทีจะเป็ร่างสูงของใครบางคนที่นอนไขว้ขากระดิกเท้าดิ๊กๆรออยู่บนเตียง
“นอนไง ถึงเวลานอนแล้ว”
“ก็ไปนอนห้องคุณสิครับ ผมจะทำงาน”
“เธอก็ทำไปซิ พี่จะนอนรอ”
“จะบ้าหรือไงคุณศิธา เราไม่นอนด้วยกัน”
“ผัวเมียที่ไหนไม่นอนด้วยกันยัยบ๊อง”
ระฟ้าเอามือกุมขมับ ปวดหัวมากคุณผู้ชม ตอนแรกสดชื่นเพราะอาบน้ำเสร็จ แต่พอเห็นหน้าสามีความสดชื่นก็หายเกลี้ยงเป็ปลิดทิ้งเลย
“คุณศิธา ออกไปครับ”
“ห้องนอนเธอนี่มีแต่กลิ่นฟีโรโมโมนเธอจริงๆแฮะ”
ทำเฉไฉพร้อมหลับตาพริ้มสูดจมูกฟุดฟิดเหมือนพี่หมาตัวใหญ่ กลิ่นดอกไม้ป่าปริศนาของระฟ้าลอยฟุ้งเต็มห้อง ศิธาชมว่าเป็กลิ่นฟีโรโมนเฉพาะตัวที่หอมเอามากๆ ระฟ้าฟังแล้วงงหนักกว่าเดิม กลิ่นฟีโรโมนอะไรวะน่ะ กลิ่นน้ำหอมเค้าเตอร์แบรนด์ต่างหาก ยี่ห้อ J ที่ระฟ้าใช้เป็ประจำอยู่ตัวเดียว
“แต่จะอะไรก็ช่าง คุณออกไปเลยนะครับ”
ร่างบางตรงเข้ามาฉุดกระชากลากถูสามีจอมถือวิสาสะให้ลุกออกจากเตียง ห้องนอนของระฟ้าคือเขตปลอดภัยที่มีเพียงระฟ้าอยู่ได้คนเดียว อุตส่าห์ยอมให้บริเวณอื่นของบ้านมีคนใช้อากาศหายใจร่วมด้วย แต่ขอแค่ห้องนอนห้องเดียวไม่พอหรือไง
“คิดว่าแรงเธอสู้พี่ไหวเหรอยัยฟ้า”
ศิธาอมยิ้มพลางยักคิ้ว สู้ไม่ไหวจริงๆ ศิธาตัวใหญ่มาก อย่างกับั์จินนี่ ต่อให้ระฟ้าจะดึง จะทึ้ง จะลาก จะเตะ จะถีบพ่ออัลฟ่าเืบริสุทธิ์ก็ไม่ไหวติง ระฟ้าเพิ่งเคยรู้สึกตัวเล็กตัวน้อยขนาดนี้เป็ครั้งแรกนี่แหละทั้งๆที่สูงตั้ง 180 เิเ พอเป็เช่นนั้นคนตัวเล็กกว่าก็ถอนหายใจเฮือก เปลี่ยนมานั่งยองๆกุมท้องตรงปลายเตียง
“ฮึก..”
“ยัยฟ้า เป็อะไร!?”
“ป ปวดท้อง ปวดท้องครับ”
เพราะเมียพูดด้วยน้ำเสียงไหวสั่นไม่สู้ดีอัลฟ่าหนุ่มก็เด้งตัวลุกจากเตียง ศิธาจำได้ไม่เคยลืม หม่าม้าของเขามีโรคประจำตัวเกี่ยวกับท้องและลำไส้ทำให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่เนืองๆ ทุกครั้งที่หม่าม้าปวดท้อง ใบหน้าเธอจะเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน ครั้นพ่ออัลฟ่าเห็นว่าภรรยาตกอยู่ในสภาวะเดียวกันก็ชักร้อนรน
“ฟ้า เธอเป็อะไร บอกพี่ซี ยัยฟ้า อย่านิ่ง”
“ปวดท้อง กระเพาะมั้งครับ”
“เมื่อกี้เพิ่งกินข้าวไปนี่”
มือหนาโอบประคองไหล่ภรรยาพร้อมเขย่าถามเบาๆ
“ก็มีแต่ของเผ็ด น่าจะแสบท้องครับ”
“มียาไหม เดี๋ยวพี่ไปเอาให้”
“เดี๋ยว... อึก เดี๋ยวผมไปหยิบเอง”
ทำท่าจะลุก แต่แล้วก็ร้องโอ้ยพร้อมกับนั่งลงยองๆกุมท้องอีกรอบ ศิธาต้องประคองภรรยาให้ค่อยๆชันตัวเปลี่ยนขึ้นมานั่งบนเตียงแทน ลูบหัวลูบแก้มน้องบอกว่าไม่เป็อะไร เดี๋ยวพี่ไปหยิบให้
“รอพี่แปปนะ”
ว่าแล้วก็รีบเดินจนแทบจะวิ่งลงไปยังชั้นหนึ่งของบ้าน ยาโรคกระเพาะของระฟ้าตั้งอยู่ในตู้ยาสามัญติดผนัง ศิธาจำได้ลางๆว่าตู้นั้นอยู่แถวๆโซนหน้าทีวี แต่พอเข้าไปเปิดดูจริงๆไม่ยักจะมี เขาหาอยู่นานมาก เจอแต่อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อใจแล้วว่ากลิ่นชักแปลกๆจึงรีบเดินกลับขึ้นไปบนชั้นสองเตรียมบ่นยัยระฟ้าตัวดี หากสิ่งที่ศิธาพบก็คือป้ายกระดาษ A4 แปะเด่นหลาอยู่หน้าประตู
‘เขตปลอดอัลฟ่า อัลฟ่าห้ามเข้า’
ไม่พอ ยัยตัวดียังล็อคประตูทั้งจากด้านนอกด้านในอีก พอศิธาะโถามว่าไหนบอกปวดท้อง รายนั้นก็ตอบกลับเสียงเรียบมาว่า หายปวดแล้ว โรคกระเพาะก็งี้แหละ
“หน็อย เม็ดเยอะนักนะยัยตัวแสบ!”
tbc
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้