มุมปากยกยิ้ม ั์ตาฉายประกายความชั่วร้าย รวดเร็วจนไม่มีผู้ใดจับสังเกตได้และเพียงชั่วครู่ต่อมา เสียงบรรเลงฉินในมือของเหนียนยวี่ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันฉู่ชิงที่เล่นประสานกับเหนียนยวี่มาตลอด ตระหนักถึงอะไรบางอย่าง ก็รีบบรรเลงตอบรับตามอย่างรวดเร็วจ้าวอี้ก็ตามหลังมาติดๆ ทันใดนั้น ท่วงทำนองเพลงนี้ก็แปรเปลี่ยน จากที่ก่อนหน้านี้จ้าวอี้เป็คนนำตอนนี้ก็กลับกลายเป็เหนียนยวี่ที่เป็คนนำทันที
ในใจอวี่เหวินหรูเยียนหยุดชะงักไปกะทันหันทว่าจิตใจของนางก็กลับมามั่นคงอย่างรวดเร็ว รับท่วงทำนองเข้ามาอย่างสงบ ไม่เร่งรีบกลับกันองค์หญิงหงเยียนแห่งหนานเยวี่ย แม้นางจะเก่งกาจการร่ายรำทว่าชั่วขณะหนึ่งนั้นกลับก้าวพลาด
ทว่าคนที่พลาดเยอะกว่าแน่นอนว่าก็คือเหนียนอีหลาน
การเปลี่ยนแปลงกะทันหันของทำนองดนตรี ยิ่งทำให้นางตื่นตระหนกจนมือไม้พัลวันไปชั่วครู่หนึ่งและเสียงบรรเลงฉินก็ยิ่งยากจะแก้ไขแม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงและหนานกงเยวี่ยที่ฟังอยู่ก็ยังสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
"โอ๊ย..."เสียงร้องเ็ปและเสียงกระทบกันของสายโลหะดังขึ้นในตำหนัก มีเสียงสายฉินขาดและมือของเหนียนอีหลาน...
ทุกคนมองไป เห็นเพียงเืสีแดงสดบนสายฉิน
“มา...ใครก็ได้ เร็วเข้าลูกสาวข้า...” หนานกงเยวี่ยถูกสายตาเ็ปและหยาดเืสีแดงนั้นแทบไม่สนใจใครอื่น รีบเร่งเข้ามาประคองเหนียนอีหลานทันที ใบหน้ากังวล "ฝ่าาขอพระองค์เมตตาช่วยเรียกหมอหลวงให้ด้วย...เรียกหมอหลวงให้ด้วยเพคะ!"
หนานกงเยวี่ยมองมือของเหนียนอีหลานปลายนิ้วชี้ถูกสายฉินบาดจนเนื้อหลุดออกมา เห็นแล้วก็ชวนให้รู้สึกใ...
และเหนียนอีหลาน...ดูเหมือนว่านางจะสูญเสียจิติญญาดวงตาของนางว่างเปล่า นาง...ความหวังของนางหมดลงแล้วหรือ
แต่เมื่อครู่...เื่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่แท้จริงมันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ในหัวของเหนียนอีหลาน มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมันวนเวียนในใจนาง ทันใดนั้นจู่ๆ เหมือนนางคิดอะไรขึ้นมาได้ แววตาเป็ประกายอยากจะสะบัดตัวออกจากหนานกงเยวี่ย "ข้ายังอยากเล่น ฝ่าาเพคะ สายฉินขาดแล้วขอพระเมตตาฝ่าาพระราชทานฉินใหม่ให้ด้วยเพคะ"
ทว่ามือของนางเต็มไปด้วยเืผู้คนด้านข้างที่มองมาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
"ใครก็ได้ พาคุณหนูใหญ่ออกไปให้หมอหลวงตรวจดูเสีย"ฮ่องเต้หยวนเต๋อตรัสด้วยสุรเสียงดัง คิ้วที่ขมวดนั้นคล้ายแสดงถึงความไม่พอใจของเขา
ทว่าเหนียนอีหลาน ไหนเลยจะยอมปล่อยวาง?
คนอื่นๆ ในตำหนักยังคงเล่นฉินกันต่อ ราวกับว่าไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เลยแม้แต่น้อยเหมือนว่าแม้แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตำหนักยามนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา
สายตาจับจ้องไปที่เหนียนยวี่ ความริษยาไม่พอใจที่เกิดขึ้นในใจเหนียนอีหลานยามนี้ก็ยิ่งเติบโตขึ้น ราวกับวัชพืชที่เติบโตอย่างบ้าคลั่ง...
"เหนียนยวี่..."
เหนียนอีหลานกัดริมฝีปากแน่นฝ่าาทรงไม่พระราชทานพระาานุญาตให้นางเล่นฉินต่อไป ทว่าถึงแม้นางจะพลาดโอกาสนางเองก็จะไม่ยอมปล่อยให้เหนียนยวี่มีโอกาสได้กลายเป็จุดสนใจในงานนี้นางไม่ได้เล่นฉิน เหนียนยวี่เองก็ต้องไม่ได้เล่นฉิน!
เมื่อคิดเช่นนี้ดวงตาของเหนียนอีหลานก็เคร่งขรึมขึ้น นางวางแผนจะพุ่งเข้าไปหาเหนียนยวี่ ถ้าแค่เพียงทุบฉินของเหนียนยวี่นางก็น่าจะสำเร็จ
ทว่านางเพิ่งก้าวไปได้ก้าวเดียว ก็มีแขนข้างหนึ่งยกขวางด้านหน้านางกันนางเอาไว้ เหนียนอีหลานเงยหน้าขึ้นและเห็นใบหน้ามืดมนของหนานกงฉี่ ความเกลียดชังในสายตา ราวกับว่านางกำลังถามว่าเหตุใดต้องมาขวางนาง?
หนานกงฉี่ขมวดคิ้ว ถอนหายใจคว้าข้อมือของเหนียนอีหลานไว้ และวิงวอนขอพระเมตตาฮ่องเต้หยวนเต๋อว่า "ฝ่าาพ่ะย่ะค่ะกระหม่อมจะพาเปี่ยวเม่ยไปหาหมอหลวงเองพ่ะย่ะค่ะ"
ยามเอ่ย ไม่รอให้เหนียนอีหลานขัดขืน เขาก็ดึงนางและรีบเร่งเดินออกมาจากตำหนักฉวินฝาง
ในใจหนานกงเยวี่ยคิดถึงมือที่าเ็ของเหนียนอีหลาน ไหนเลยจะรอคอยอยู่ที่นี่ต่อไปได้รีบเร่งตามออกไปทันที
ด้านนอกตำหนักฉวินฝาง
แม้เหนียนอีหลานจะถูกลากออกมา ทว่าความไม่เต็มใจนั้นยังคงวนเวียนไปมาอยู่ภายในในที่สุดเมื่อเดินไปถึงจุดหนึ่ง นางใช้กำลังทั้งหมดสะบัดตัวหลุดจากมือของหนานกงฉี่
"เหตุใดถึงต้องขวางข้า?ข้าปล่อยให้นางเล่นต่อไปไม่ได้ ข้าทำไม่ได้!"เหนียนอีหลานกัดฟันและกรีดร้องตวาดแหบแห้งใส่หนานกงฉี่ ใบหน้าที่แต่เดิมดูงดงามยามนี้เห็นได้ชัดว่าดูดุร้ายยิ่งนัก
หนานกงฉี่ที่มองอยู่ขมวดคิ้วแน่นเหนียนอีหลานตวาดร้องจบก็หันกลับไป คิดอยากจะย้อนกลับไปตำหนักฉวินฝาง ในใจนางมีเพียงความคิดเดียวคือต้องไม่ปล่อยให้เหนียนยวี่ขึ้นไปเป็อันดับหนึ่งได้นางจะต้องไปหยุดมัน นางจะต้องไปทำลาย
ทว่าทันทีที่นางหันกลับไปก็มีฝ่ามือหนึ่งตบเข้าใบหน้านาง ความแสบร้อนแผ่กระจายไปทั่วใบหน้าเหนียนอีหลานกุมใบหน้า และมองไปยังคนตรงหน้าที่ตบนาง แทบไม่อยากเชื่อสายตา "ท่านแม่ท่าน...ตบข้าหรือ?"
ท่านแม่รักนางที่สุด ไหนเลยจะเคยตีนางเหมือนเมื่อครู่?
"ข้าอยากจะตีเ้าด้วยตัวเองเพราะข้าอยากจะเตือนเ้า" ใบหน้าของหนานกงเยวี่ยมืดมนราวกับกังวลว่าจะดึงดูดความสนใจ นางจึงจงใจลดเสียงลง นางรู้สึกสงสารอีหลาน ทว่านางก็ต้องแสร้งทำตัวใจร้าย...
เหนียนอีหลานใเล็กน้อย นางกัดริมฝีปากจ้องมองหนานกงเยวี่ยอย่างไม่ละสายตา ใช้มือกุมใบหน้าที่ได้รับาเ็จากเมื่อครู่ ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยเืใบหน้าของเหนียนอีหลานฉายแววดุร้าย ท่วงท่าของบุตรสาวผู้สง่างามเพียบพร้อมในอดีตคนนั้นไปอยู่ที่ไหนแล้ว?
หนานกงเยวี่ยเห็นทุกสิ่งในสายตา ในใจนางก็ยิ่งไม่พอใจ"เ้ารู้หรือไม่ว่าเ้ากำลังทำอะไรอยู่ เ้าก่อเื่วุ่นวายต่อหน้าฮ่องเต้และฮองเฮาเยี่ยงนี้เ้าคิดอยากจะทำลายชื่อเสียงของเ้าและชื่อเสียงของตระกูลหนานกงงั้นหรือ"
"ชื่อเสียง..."เหนียนอีหลานพึมพำ ดวงตานางเป็ประกาย "ทว่าเหนียนยวี่ นาง..."
ความพ่ายแพ้ของนางเมื่อครู่จะยังคงหลงเหลือชื่อเสียงจากไหนอีก ทว่าเหนียนยวี่...กลับยังมีโอกาส!
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เหนียนอีหลานก็กัดฟันไม่ยอมล้มเลิกความคิดที่จะทำลายล้าง
“เหนียนยวี่!”หนานกงเยวี่ยเอ่ยสองคำนี้ขึ้นมา ดวงตาเคร่งขรึมขึ้นมาอย่างฉับพลันตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่เหนียนยวี่ แต่เป็มือของลูกสาวนางเพียงแค่เห็นเืที่อาบทั่วมือนั้น หนานกงเยวี่ยก็รู้สึกเ็ปใจ “แม้เหนียนยวี่จะยังดีดฉินอยู่ทว่าเ้าอย่าลืมว่ายังมีคนที่จะหยุดยั้งนาง แต่เ้า...หากก่อเื่วุ่นวายขึ้นมาจริงๆผ่านวันนี้ไป ทุกคนทั้งแผ่นดินนี้คงรู้ว่า ''เหนียนอีหลาน''คุณหนูใหญ่ตระกูลเหนียน ทำตัวประมาทเลินเล่อ ไร้มารยาทหน้าตำหนักเช่นนี้แล้วเ้าจะยังมีโอกาสได้เข้าวังหลวงอีกงั้นหรือ?”
เหนียนอีหลานสั่นสะท้านไปทั้งตัวคำพูดของหนานกงเยวี่ย ราวกับกระแทกเข้าไปในใจนาง
“ใช่ แล้วท่านอ๋องมู่ หากเขาเห็นว่าเ้าทำตัวเสียกิริยาเช่นนี้ เกรงว่า…” แววตาเหนียนอีหลานเป็ประกาย นึกอะไรขึ้นมาได้ ดวงตาก็ยิ่งกังวล"ท่านแม่ เมื่อครู่ที่สายฉินข้าขาด ท่านอ๋องมู่จะไม่...จะไม่ชอบ..."
ในใจเหนียนอีหลาน รู้สึกไม่สบายใจอย่างอธิบายไม่ถูกนางไม่้าให้ในใจของท่านอ๋องมู่หลงเหลือภาพจำที่ไม่ดีของนางแม้สักนิดเดียว
ทว่า……
หนานกงเยวี่ยมองเข้าไปในดวงตารีบเอ่ยปลอบประโลมอย่างอ่อนโยน "ไม่เป็ไร เื่ราวยังไม่ได้ถึงขั้นแย่ที่สุด โชคดีที่เปี่ยวเกอของเ้าขวางเ้าไว้เมื่อครู่ เ้ายังคงมีโอกาส...ส่วนเหนียนยวี่...วันข้างหน้ายังอีกยาวไกลเหนียนยวี่ พวกเราย่อมมีหนทางจัดการนางได้แน่นอน เื่ที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือมือของเ้า..."
ดูเหมือนว่าเมื่อหนานกงเยวี่ยเอ่ยถึงจุดนี้ เหนียนอีหลานจึงเพิ่งได้หันมาสนใจความเ็ปบนมือนางนางมองเนื้อบนนิ้วชี้ที่เกือบจะหลุดไปเพราะสายฉินบาดเวลานี้กลับมารู้สึกถึงความเ็ปนั้นเป็พิเศษ
“ท่านป้าพูดถูกมือของเ้าจะพังลงไปไม่ได้เด็ดขาด หากภายภาคหน้าเล่นฉินไม่ได้...”น้ำเสียงของหนานกงฉี่เ็า บางคำยังพูดไม่จบ หวนกลับมาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งและเอ่ยต่อไปว่า "ชั่งน้ำหนักดู ว่าในใจเ้าคิดจะทำอย่างไร"
วันนี้เหนียนยวี่ทำให้เขาประหลาดใจมากทว่าเหนียนอีหลาน...กลับทำให้เขาผิดหวัง
นางที่สามารถรักษาความสงบเยือกเย็นมาได้ตลอดทว่าความบ้าคลั่งเมื่อครู่ ทั้งฉุกละหุกและไม่มีสติสัมปชัญญะแม้แต่น้อยพ่ายแพ้คนบางคนไปั้แ่แรกแล้ว!