เขตปลอดอัลฟ่าระดับ 6 แผนการทำลายเขตปลอดอัลฟ่า
“เป็บ้าอะไรของคุณอีกเนี่ย”
ระฟ้าพยายามทุบหลังคนที่ถือวิสาสะอุ้มเขาพาดบ่า นี่สูง 180 เลยนะเฮ้ย เทียบกับพนักงานหลายคนในบริษัทระฟ้าเป็ผู้ชายตัวใหญ่มากเลยนะเฮ้ย ไหงอีตาศิธาถึงจับระฟ้าหิ้วประหนึ่งว่าเบาหวิวเป็ปุยนุ่นได้ละเนี่ย
“ถ้าไม่หยุดดิ้นพี่จะเอาเธอตรงบันไดนี่แหละ”
“คุณมันเพี้ยนไปหมดแล้ว”
เขตปลอดอัลฟ่าถูกเปิดออกพร้อมกับร่างบางที่ถูกเหวี่ยงลงบนเตียง ตามด้วยคนตัวโตที่ก้าวขึ้นคร่อมทับ ซีนเหมือนอย่างในหนังอีโรติกเวลาพระเอกรั้งข้อมือนางเอกทั้งสองข้างไว้เหนือหัว ลมหายใจร้อนรินรด ปลายจมูกของศิธาอยู่ห่างจากระฟ้าแค่เพียงนิดเดียว นิดเดียวเสียจนหวาดกลัวว่าใครบางคนจะได้ยินเสียงโครมครามในอก
“ทำไม ทีนี้รู้หรือยังว่าตัวเองผิดอะไรยัยตัวดี”
“จะไปรู้ได้ยังไงเล่า!”
“ไม่รู้พี่ก็จะสงเคราะห์ให้”
พูดพร้อมกับเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ระฟ้าหลับตาปี๋ พยายามจะดิ้นสู้แต่ไม่รู้เรี่ยวแรงหายไปไหน ร่างกายอ่อนระทวยอย่างไม่ทราบสาเหตุ อาจเพราะกลิ่นของเขา ััของเขา น้ำเสียงของเขา ระฟ้าตอบไม่ได้ ที่ทำได้คือเม้มปากแน่น ผินใบหน้าหนีสุดชีวิต แล้วก็เป็ศิธาเองนั่นแหละที่กัดฟันกรอดยอมผละปลายจมูกที่เกือบจะแตะลงบนซอกคอระฟ้าออก
“เธอเล่นชู้กับมันหรือ”
หา? ระฟ้างงมาก ร่างบางที่กำลังหอบหายใจรวนรินรีบสูดอากาศเข้าเต็มปอด พอเรี่ยวแรงกลับมาก็ชันกายขึ้นมองอัลฟ่าเืบริสุทธิ์ เขาเปลี่ยนไปนั่งแสนงอนอยู่ตรงปลายเตียง ซ้ำยังหันมองกันด้วยแววตาขุ่นโกรธ
“ไอ้ชวิศ เธอเอามันเข้ามาเหยียดหยามศักดิ์ศรีพี่ถึงบ้าน”
“เหยียดหยาม?” ระฟ้ายังไม่หายงงเป็ไก่ตาแตก “หมายถึงผมกับพี่ชวิศเนี่ยนะ บ้าหรือไง เราไม่ได้เป็อะไรกันครับ พี่ชวิศทำงานอยู่ฝ่ายกฎหมายบริษัท และผมกับเขาเป็แค่พี่น้องที่สนิทกันเท่านั้น”
“พี่น้องที่สนิท? เหอะ คิดว่าพี่โง่นักหรือ สายตาที่มันมองเธอไม่ใช่แบบนั้น อัลฟ่าด้วยกันรู้ดี ไม่สิ มันเป็อีนิกม่า!”
“อีนิกม่า?” ระฟ้าขมวดคิ้ว ได้ยินมาั้แ่เมื่อครู่แล้วไอ้ศัพท์แสงแปลกๆอย่างคำว่าอีนิกม่า
เดี๋ยวขอนึกสักครู่ อ๋อ จำได้แล้ว จากประสบการณ์อ่านนิยายสมัยมัธยม อีนิกม่าคือเพศพิเศษในโอเมก้าเวิร์สที่อยู่เหนืออีกสามเพศรอง เป็ตัวตนประหลาดพิสดารที่มีพลังทำลายล้างสูง ในนิยายแนวโรแมนติกมักเขียนให้อีนิกม่าเป็ฝ่ายทำอัลฟ่าท้อง อารมณ์ประมาณว่าเปลี่ยนพวกตัวละครโเี้เป็อีหนูตัวกระจ้อย ชดใช้กรรมที่เที่ยวนัดยิ้มเจ็ดย่านน้ำ ส่วนถ้าแนวไซไฟอีนิกม่าก็จะเป็ตัวละครลับสุดแกร่ง เกิดมาพร้อมพลังจิตะเิร่างคนกระจุย
“พี่ชวิศไม่ใช่อีนิกม่าซะหน่อยคุณ”
“เธอยังจะเถียงแทนมันอีกหรือ ชอบมันมากใช่ไหม”
“ก็บอกว่าไม่ได้ชอบ” ระฟ้าเกาหัวแกรก เหนื่อยจะต่อล้อต่อเถียง “เขาเป็... เอ่อ อัลฟ่าที่ระบบรับกลิ่นพังเฉยๆครับ ก็เลยทำให้ไม่มีฟีโรโมนไปในตัว คุณเลยข่มเขาไม่ได้ไง” ตอบไปงี้แล้วกัน
พอพูดงั้นอัลฟ่าศิธาก็นิ่งชะงักครุ่นคิด ปกติอัลฟ่าต้องรับรู้ถึงกลิ่นอัลฟ่าด้วยกันอยู่แล้วเวลามีการรุกล้ำอาณาเขต ทว่าอัลฟ่าชวิศมีความแตกต่างออกไป หมอนั่นนิ่งเงียบ เมินเฉยต่อการข่มของอัลฟ่าเืบริสุทธิ์อย่างศิธา ถ้าไม่ใช่อีนิกม่าก็คงเป็เหตุผลอื่น บางทีที่ยัยฟ้าพูดอาจจริงเื่ระบบรับกลิ่นของอีกฝ่ายพัง
“แต่เธอก็ทำตัวออเซาะมันต่อหน้าพี่ พี่ผัวเธอนะลืมไปแล้วหรือไง”
“ผมไปออเซาะพี่ชวิศตอนไหนมิทราบครับ”
“เธอพามันเข้าบ้าน พูดจากระหนุงกระหนิง บ้านนี้เป็ของเรานะ ทำไมเธอเอาผู้ชายอื่นเข้ามา พี่ยังไม่เคยพาโอเมก้าคนอื่นเข้ามาเลย เหอะ เธอมันคนไร้หัวใจยัยฟ้า อยากเลิกกับพี่มากนักใช่ไหมถึงต้องทำกันขนาดนี้ แต่รู้เอาไว้เสียด้วย พี่ไม่เลิกกับเธอหรอก จะอยู่เป็หนามยอกให้เธออกแตกตายไปนี่แหละ!”
ร่ายเรียงความจบก็ลุกขึ้นยืนสะบัดก้นเดินหนีภรรยาทั้งอย่างนั้น ทิ้งให้คุณโอเมก้านางฟ้าแม่ทูนหัวนั่งงุนงงอยู่บนเตียง คืออะไรวะน่ะ อุ้มขึ้นมาทิ้งกันในห้องนอนแล้วก็ด่ากันฉอดๆก่อนจะเดินงอนตุ๊บป่องจากไป
อัลฟ่าเืบริสุทธิ์เข้าใจยากทุกคนแบบนี้เลยไหม…
/
“คุณศิธาเธอบอกว่าไม่ทานมื้อเช้าค่ะ มื้อเย็นเมื่อวานก็ไม่ทานเลยค่ะ ทั้งๆที่อุตส่าห์ลงมือทำเองแท้ๆ คุณระทะเลาะอะไรกับเธอหรือเปล่าคะ”
วันนี้ระฟ้ามีเข้าบริษัทตอนบ่าย เนื่องจาก่เช้าใครบางคนมีนัดพบหมอ และระฟ้าก็เลยไม่อยากปล่อยอีกฝ่ายไปคนเดียวจึงให้เลขาสาวปุ๊กกี้เคลียร์ตารางงานเอาไว้ล่วงหน้าหลายวัน กะจะลงมารับประทานมื้อเช้าแล้วออกไปพร้อมกันทีเดียว แต่กลับกลายเป็ว่าพ่ออัลฟ่าตัวดีไม่ยอมตื่น ปกติเขาตื่นเช้าจะตาย
นี่ปาเข้าไปแปดโมงแล้วยังไม่เห็นเงาเลย
“ไม่ได้ทะเลาะหรอกครับ ปกติดี”
“ปกติหรือคะ เธอบอกว่าอยากตายไปให้พ้นๆ”
เพี้ยนขึ้นทุกวันจริงๆอีตาสามีของระฟ้าน่ะ…
คนเป็ภรรยาถอนหายใจเฮือก ไม่ว่าจะศิธาเวอร์ชั่นไหนก็ขยันสร้างความปวดหัวให้แก่ระฟ้าได้ตลอด ร่างบางเพยิดหน้าให้คุณป้าแม่บ้านจัดมื้อเช้าลงโต๊ะเลย ใครไม่ทานก็เื่ของเขา คิดว่าระฟ้าจะโอ๋สามีเหมือนที่คุณหญิงเยาวมาลย์ชอบโอ๋หลานชายหรือไง ต่อให้คุณหญิงจะฝากฝังเขาไว้ ระฟ้าก็ไม่คิดสปอยล์คนพรรค์นั้นหรอกนะ อายุมากกว่าตั้งเกือบสิบปี ทำตัวเป็เด็กกะโปโลไปได้ คุณหญิงก็เลี้ยงหลานเป็ไข่ในหิน ทีกับระฟ้าละเลี้ยงด้วยลำแข้ง
“มองแบบนั้นหมายความว่าไงครับ”
แต่ดูเหมือนคุณป้าแม่บ้านและทีมงานจะคิดเห็นตรงกันข้าม ระฟ้าตักข้าวต้มเข้าปากได้เพียงสองคำก็ััได้ถึงสายตาอ้อนวอนจากด้านหลัง
“มื้อเย็นก็ไม่ได้ทาน มื้อเช้าก็ไม่ยอมทาน คงหิวแย่เลยนะคะ”
“ป้าอยากให้เขาทานก็ไปตามเองสิครับ”
พอพูดงั้นคุณป้าก็ก้มหน้างุด ตามด้วยเหล่าทีมงานและบอดี้การ์ดที่รีบหุบปากฉับ วงแตกฮือแยกย้ายกันไปทำภารกิจของตนเอง ส่วนระฟ้าหงุดหงิดมากเลยไอ้ท่าทางที่ทำกับระฟ้าเหมือนเป็ตัวร้ายประจำบ้าน ใจั์ใจมารไม่เห็นแก่อัลฟ่าตัวน้อยอะไรนั่นน่ะ ร่างบางถอนหายใจเฮือก สุดท้ายก็ลุกขึ้นยืนเติมความสูงแล้วเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน แค่ตามลงมากินข้าวก็พอใช่ไหม
“คุณ ตื่นหรือยัง”
เสียงของระฟ้าะโเรียกใครบางคนล่วงหน้าั้แ่โถงทางเดิน ก่อนจะมาหยุดยืนหน้าบานประตูห้องฝั่งตรงข้าม ระฟ้าเพิ่งสังเกตเห็นว่ามันมีแผ่นกระดาษ A4 แปะเอาไว้ตรงหน้าประตู
‘เขตปลอดโอเมก้า :P’
ให้มันได้อย่างนี้สิน่า
อายุสามารถเป็พ่อคนได้แล้วนะ เหตุใดมนุษย์ศิธาถึงได้เ้าคิดเ้าแค้นเสียจริงหนอ สมัยก่อนความจำเสื่อมก็เ้าคิดเ้าแค้น สมัยหลังความจำเสื่อมก็ยิ่งเ้าคิดเ้าแค้น จะต่างกันเล็กน้อยตรงที่เป็ิญญาแค้นสมองเพี้ยน
“คุณครับ ทานข้าว”
ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างไม่สนคำสั่งห้าม ระฟ้าพบกับแผ่นหลังกว้างของใครบางคนที่กำลังนอนตะแคงเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง ผ้าม่านก็ไม่รู้จักเปิด ขดตัวอยู่ในความมืดมิดปฏิเสธการสังเคราะห์แสงอาทิตย์ยามเช้า
“เข้ามาทำไม ดูป้ายบ้างสิ รุกล้ำอาณาเขตหวงห้ามหรือ พี่จะฟ้องเธอ”
“นี่มันบ้านผมครับ”
“บ้านเมียก็เหมือนบ้านผัว แล้วก็นะยัยฟ้า ทีตัวเองห้ามพี่ไม่ให้เข้าห้องพี่ยังไม่เข้าเลย ใช่ซี่”
พูดทั้งๆที่ยังนอนหันหลังไม่ยอมมองหน้ากันดีๆ ขี้งอนอะไรขนาดนั้นวะอีตาเ้าชายแห่งวงการจอเงินน่ะ ระฟ้าถอนหายใจฟืด ถือวิสาสะดึงผ้าห่มใครบางคนออกอย่างเสียมารยาท
“ลุกครับ วันนี้ต้องไปหาหมอ”
“หาทำไม เธอท้องรึไง”
ระฟ้าหยิบหมอนฟาดอัลฟ่าเืบริสุทธิ์จอมกวนประสาทหนึ่งที ขนาดเอาหมอนฟาดยังไม่ยอมหันมามองกันดีๆเลย ดูเข้าพ่อหลานชายคนโปรดของคุณหญิงเยาวมาลย์!
“คุณศิธา ผมจะโมโหแล้วนะครับ”
“โมโหเลย พี่ก็เห็นเธอโมโหทุกวัน”
“ผมโมโหทุกวันตรงไหน อย่ามาพูดมั่วนะครับ”
ระฟ้าหน้าร้อนนิดหน่อยตรงประโยคโมโหทุกวัน คือเขาดูเป็คนขี้วีน ขี้โมโห อารมณ์ร้อน ฟาดงวงฟาดงาในสายตาสามีขนาดนั้นเลยรึไง ให้ตาย ระฟ้าคิดว่าตนเองน่ะใจเย็นดุจน้ำแข็งที่สุดในโลกแล้ว
“เนี่ย โมโหอีกแล้ว กับผัวฟึดฟัด กับกิ๊กยิ้มร่า”
พ่ออัลฟ่าขี้งอนหันมาเบะปากใส่ยัยตัวดีในที่สุด ระฟ้าจ้องสามีตาในชุดบอลตาเขม็ง เอ้อ ใส่ชุดบอลนอนด้วย ทีมโปรดคุณเขาเลยนี่ แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลามาสำรวจชุดนอนสามี ระฟ้ายืนเท้าสะเอวกดดันให้ใครบางคนลุกไปทานเข้าจะได้เตรียมไปหาหมอ อุตส่าห์ลางาน่เช้า จะปล่อยให้เวลาอันมีค่าของประธานกรรมการแห่งวาสุกรุ๊ปสูญเปล่าไม่ได้ ใช่ ระฟ้าอยากจะพูดเช่นนั้น ระฟ้าคนที่ต้องคอยลับฝีปากกับศิธาน่ะไม่เคยได้คุยกับเขาดีๆเลยสักครั้งหรอก กระทั่งอีกหนึ่งความคิดลอยเข้ามาในหัว
“ถ้าคุณโกรธเื่พี่ชวิศ เอาเป็ว่าผมขอโทษครับ”
ศิธากำลังป่วยอยู่..
นั่นคือความจริงที่ระฟ้าพึงระลึกได้ ต่อให้ระดับความปวดหัวที่ศิธา วาสุรีย์โรจน์สร้างให้ระฟ้าจะใกล้เคียงกับตอนไม่ป่วย แต่เวลานี้เขาป่วย จะไปเอาชั้นเอาเชิงกับคนป่วยทำไมมากนัก บางทีเขาอาจกำลังต่อสู้กับอาการป่วยอย่างยากลำบาก คิดได้ดังนั้นน้ำเสียงแข็งกร้าวของระฟ้าก็เริ่มอ่อนลง
“ยกโทษให้ผมได้มั้ย”
กลายเป็สีหน้ายุ่งๆของศิธาก็เริ่มดีขึ้นเช่นกัน
ร่างบางทิ้งตัวลงบนฟูกเตียงข้างใครบางคน กลิ่นอันแสนเป็เอกลักษณ์ของอัลฟ่าศิธาลอยวิ้งอยู่ใกล้ๆ คนอายุมากกว่ากลืนน้ำลายเอื้อกเล็กน้อยเพราะวันนี้ฟีโรโมนยัยควีนโอเมก้ารุนแรงเป็พิเศษ ระฟ้าขยับตัวเข้าไปใกล้ เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ จูบง้อแน่ๆ ศิธาคิดว่าต้องเป็จูบง้อแน่ๆ อัลฟ่าหนุ่มรีบทำใจดีสู้เสือ ห้ามแสดงความประหม่าต่อหน้าเมียเด็ดขาด เชิดหน้ารอเลย แบบนั้นศิธา
“หือ”
จนถึงจังหวะใบหน้าของระฟ้าเลื่อนเข้ามาใกล้มากที่สุด พร้อมกับมือเรียวที่ฉวยคว้าอุปกรณ์สื่อสารออกจากฝ่ามือสามี ศิธาถึงได้รู้ว่าจินตนาการสุดโลดโผนทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็เพียงฝันกลางวัน
“หยุดเล่นโทรศัพท์แล้วไปอาบน้ำครับ ผมให้อีกสิบห้านาทีนะ เจอกันที่โต๊ะทานข้าว”
ให้มันได้อย่างนี้ซี่ยัยระฟ้า!
ทำผัวใจเต้นโครมครามได้แวบเดียวจริงๆ
/
สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างคุณผู้ชายทั้งสองดีขึ้นเล็กน้อย
ป้าแม่บ้านและทีมงานสังเกตได้จากราวๆยี่สิบนาทีนับจากนั้น คุณศิธายอมลงมาทานข้าว แต่งตัวหล่อเนี้ยบสมกับเป็ดาราดัง แม้จะไม่ได้เซตผมแต่ปล่อยปรกหน้าผาก เ้าชายแห่งวงการจอเงินก็ยังดูหล่อเหลาไปอีกแบบอยู่ดี ฝั่งระฟ้าที่นั่งไขว้ขาอ่านข่าวอยู่ก่อนพอเห็นสามีพร้อมเพียงที่โต๊ะถึงเริ่มทานข้าว
บรรยากาศเป็ไปอย่างเงียบเชียบ ที่ว่าสถานการณ์ดีขึ้นเล็กน้อยคือเล็กน้อยจริงๆ ระฟ้าไม่พูดสิ่งใดกับศิธา ศิธาก็ไม่ชวนภรรยาคุยตามประสาอัลฟ่าสมองเพี้ยน ทั้งคู่นั่งทานข้าวด้วยกันโดยมีเสียงทีวีเปิดคลอ จวบจนเวลาเก้าโมงตรง รถมารับ สองสามีภรรยาก็มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล ระหว่างทางระฟ้าแอบลองมองสามีเล็กน้อย ปกติ่ความจำเสื่อมศิธามักหาเื่ชวนคุยกับเขาไม่ให้บทสนทนาเงียบ แต่นี่ไม่คุยเลย เก๊กหล่อเล่นโทรศัพท์อย่างเดียว
สงสัยยังงอนอยู่
ไอ้เราก็ง้ออัลฟ่าเืบริสุทธิ์ไม่เป็ซะด้วยสิ
“จากผลเอ็กซเรย์ ไม่มีอวัยวะส่วนไหนผิดปกติครับ สมองก็ไม่ได้มีเืออกหรือบริเวณาเ็เหมือน่แรกแล้ว รวมถึงรอยฟกช้ำดำเขียวต่างๆก็ดีขึ้น เรียกว่าสภาพร่างกายคุณศิธาแทบจะ 100% แล้วครับ”
ระฟ้ายืนมองคนไข้วีไอพีที่กำลังนั่งให้คุณหมอส่องไฟใส่ดวงตา ขณะเดียวกันระฟ้าก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อน คุณอาศรุตกับอาสิปปางค์โทรมาถามไถ่อาการหลานชาย ระฟ้าโกหกว่าศิธาออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้คุณดารากำลังพักผ่อนอยู่ที่ต่างจังหวัด ้าความเป็ส่วนตัวสูง ใจจริงระฟ้าไม่อยากโกหกเลยหากเขาแค่าเ็ทางร่างกาย แต่นี่สมองเพี้ยน อันตรายต่อการถูกเล่นงานเอามากๆ แม้จะเดาทางไม่ออกว่าคุณอาทั้งสองจะมาไม้ไหน แต่กันไว้ดีกว่าแก้ อย่างน้อยก็ประวิงเวลาไปจนกว่าเขาจะกลับเป็ศิธาคนปกติแล้วกัน
“เข้าบริษัทหรือกลับบ้านก่อนครับคุณระ”
“กลับบ้านไปส่งคุณศิธาก่อน”
ใจจริงอยากตรงเข้าบริษัทเลยแหละ เพราะบริษัทอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรงพยาบาล แต่ระฟ้าจำเป็ต้องคุยกับใครบางคนให้รู้เื่ ใครบางคนที่เอาแต่งอนตุ๊บป่องเื่เขากับชวิศ นี่ถ้าเป็เมื่อก่อนนะระฟ้าไม่คิดจะแยแสความรู้สึกศิธาด้วยซ้ำ ก็ฝั่งศิธาน่ะพูดจาหมาไม่แดกใครจะอยากพูดดีด้วย ทว่าคุณหมอแนะนำให้เล่นไปตามน้ำ
‘ถึงแม้ผลตรวจสภาพร่างกายจะออกมาน่าพอใจ แต่ความทรงจำของคุณศิธายังคงไม่กลับมาเหมือนเดิมครับ หมอแนะนำว่า่นี้ถ้าคนไข้พูดอะไรก็ตามน้ำเขาไปก่อน อย่าชวนทะเลาะเดี๋ยวจะก่อให้เกิดอาการปวดหัวได้ครับ แล้วก็ ถ้ามีโอกาสลองพาไปสถานที่เก่าๆที่จะช่วยกระตุ้นความทรงจำดูนะ’
ระฟ้าถอนหายใจเฮือก เขารู้สึกจั๊กจี๋มากเลยที่ต้องมาเล่นบทยัยโอเมก้าควีนหวานใจของอีตาอัลฟ่าเืบริสุทธิ์ คนมันเคยอ่านนิยายมาก่อนอะ พอเอามาพูดในบริบทชีวิตจริงแล้วจั๊กจี๋มาก แต่ถ้าไม่เล่นตามน้ำบ้างเดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีก สังเกตจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ระฟ้าบอกว่าชวิศเป็อัลฟ่าไร้กลิ่น พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเล็กน้อยถึงปานกลาง อีตาอัลฟ่าเืบริสุทธิ์เชื่อสนิทใจเลย ใครจะคิดล่ะชีวิตหนึ่งระฟ้าต้องมารับบทโอเมก้าจริงๆ
ถึงจุดหมายพ่อเ้าชายแห่งวงการจอเงินก็เปิดประตูลงจากรถเดินดุ่มๆเข้าบ้าน ระฟ้ามองตาขีด แต่ก็ไม่วายเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปขวางเอาไว้ เราทันกันพอดีบริเวณห้องนั่งเล่นของบ้าน ศิธายกแขนขึ้นมากอดอกปรายตามองร่างบางที่ตัวเตี้ยกว่า 10 เิเ
“จะทำงานเธอก็รีบไปซิ”
“ยังไม่หายงอนอีกเหรอครับ”
“ใครงอน”
ปากพูดแต่หน้าเชิดหนีระฟ้าไปแล้วเรียบร้อย
คนถูกงอนพยายามกัดฟันข่มกลั้นความอยากทุบสามี ปกติระฟ้าไม่ใช่คนอดทนกับศิธามากนัก ยิ่งถ้าอีกฝ่ายระลึกได้ว่าเนื้อแท้นิสัยของตนเองเป็เช่นไร ศิธาจะยิ่งเข้าใจได้ทันทีถึงสาเหตุที่เราเป็ศัตรูทางธรรมชาติกัน แต่เห็นแก่ความจำเสื่อม เห็นแก่แผนการหย่าของเรา เห็นแก่แผนการไหลตามน้ำของหมอ
“ผมกับพี่ชวิศไม่ได้เป็อะไรกันจริงๆ”
“แล้วใครงอนเื่นั้นกัน”
“อ้าว ไหนบอกไม่ได้งอนครับ”
ศิธาหูแดงแปร้ด ฟอร์มที่เก๊กมาตลอดทั้งวันแตกเพล้ง หากถึงกระนั้นพ่ออัลฟ่าหนุ่มก็ไม่วายทำท่ากระฟัดกระเฟียดกลบเกลื่อน ไอ้ที่งอนจริงๆน่ะคือระฟ้าทำท่าจะจูบแต่ไม่ยอมจูบกันต่างหาก แต่ศิธาไม่พูดตรงๆหรอกนะ ของอย่างนี้ยัยฟ้าต้องรู้เอง จะให้ผัวเข้าหาท่าเดียวเลยหรือไงชีวิตยัยนางฟ้าโอเมก้าแม่ทูนหัวเอ๊ย
“ถ้าอย่างนั้นคุณอยากได้อะไรครับ ผมจะทำให้เป็การไถ่โทษ”
“พี่อยากไปถ่ายละคร”
“ไม่ได้หรอก เคยพูดกันแล้วครับมันอันตราย อีกอย่างถ่ายละครใช้สมองเยอะ เดี๋ยวปวดหัว”
“อะไรวะ งั้นไปทำงานกับเธอก็ได้ พี่เป็รองประธานกรรมการนี่”
“ไม่ได้ครับ ความทรงจำคุณยังไม่กลับมาจะไปทำงานได้ไงกัน”
“อะไรก็ไม่ได้ แล้วจะถามพี่ทำไมยัยบ๊อง”
ศิธาเปลี่ยนมายืนเท้าสะเอวใส่ภรรยา เริ่มหงุดหงิดอยากฟัดเมียแล้วนะ ไม่โกรธหรอกที่ทำตัวเป็ช้างเท้าหน้า แต่โกรธตรงยัยนางฟ้านี่ตั้งใจขังผัวไว้ในบ้านไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน นี่ผัวไม่ใช่อาร์ตทอย
“พี่ก็เป็คน มีจิตใจ โลกนี้มีอะไรให้พี่สำรวจอีกตั้งเยอะ”
“แค่เื่ออกไปข้างนอกเท่านั้นครับที่ให้ไม่ได้”
“งั้นยกเลิกเขตปลอดอัลฟ่า ให้พี่นอนกับเธอ พี่ไม่ชอบนอนคนเดียว”
“ไม่ได้อีกเช่นกันครับ ผมไม่ไว้ใจคุณ”
“ทีหลังไม่ต้องมาถามนะว่าพี่อยากได้อะไร”
เชิดหน้าใส่เป็ครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินสะบัดตูดหนีขึ้นห้องนอน ระฟ้าเอามือตบหน้าผากตนเองดังแปะเป็ครั้งที่เท่าไหร่ของวันก็ไม่รู้ จังหวะนั้นตั้งใจจะปล่อยทิ้งไว้แล้วไปทำงานมันให้รู้แล้วรู้รอด แต่พอหันไปเห็นสายตาของคุณป้าแม่บ้านและทีมงานที่กำลังขอร้องวิงวอนอยู่ท่านประธานก็ถอนหายใจระเหี่ย
สรุปสามีใครกันแน่วะอีตาคุณศิธาเนี่ย
ร่างบางเดินเกาหัวตามใครบางคนขึ้นไปยังชั้นสอง หน้าประตูห้องนอนฝั่งตรงข้ามที่มีป้าย ‘เขตปลอดโอเมก้า’ อันเดิมแปะไว้อยู่ ระฟ้าถือวิสาสะผลักประตูเข้าไปทั้งอย่างนั้นเพื่อพบกับคนตัวโตที่กำลังนอนหันหลังกอดอกเหมือนเด็กโข่ง เหนื่อยจริงๆนะคุณหมอ โรคความจำเสื่อมให้อะไรแก่ญาติคนไข้บ้าง
“เฉพาะสุดสัปดาห์ได้มั้ยครับ ผมถนัดนอนคนเดียว เวลามีคนนอนด้วยจะนอนไม่หลับ”
เป็ข้อเสนอที่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ระฟ้าจะให้ได้แล้ว ในใจคิดว่าเขาคงไม่ยอมแน่ๆ นิสัยพื้นฐานของศิธา วาสุรีย์โรจน์น่ะคืุ์ขี้เอาแต่ใจจะตายไป หากสิ่งที่พ่ออัลฟ่าตอบกลับมาก็คือการเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียง เดินผ่านหน้าระฟ้าไปยังประตูห้องฝั่งตรงข้าม จัดการดึงป้าย ‘เขตปลอดอัลฟ่า’ ออกดังแคว้ก
“ตกลงจ้ะ วันนี้วันศุกร์ สุดสัปดาห์พอดี จะได้นอนกอดเมียละ”
พูดจบก็เดินผิวปากลงไปชั้นล่าง ทิ้งให้ระฟ้ายืนแช่แข็งไปครู่หนึ่ง
สรุปที่ผ่านมาตลอดทั้งวันคือแผนการทำลายเขตปลอดอัลฟ่าของอีตาคนนี้หรือ?
tbc
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้