บึงมรกตใสสะอาดเงียบสงบและสวยงามยังคงมีลมเย็นโชยมาไม่ขาดสาย
เืงูกระเซ็นกระจัดกระจายอยู่ทั่วริมบึงพร้อมกับกลิ่นคาวอยู่บ้างเล็กน้อย
เสี่ยวเฮยวิ่งไปถึงริมบึงอยู่นานแล้ว จ้องเขม็งที่ผิวน้ำใสสะอาดดั่งเฝ้าตอรอกระต่าย ไม่นาน ใช้อุบายเดิมอีกครั้ง ตวัดกรงเล็บแมวแหลมคมลงไปหนึ่งที ปลาเงินหนึ่งตัวเล็กหล่นลงบนพื้นดินพร้อมกับละอองน้ำกระเซ็นขึ้น
หูฉางกุ้ยอ้าปากค้างมองเสี่ยวเฮยที่เดินนวยนาดอย่างสง่างาม ในปากคาบปลาเงินตัวเล็กขาวนวลโปร่งแสงหนึ่งตัว
“มัน ไม่ใช่ว่าจับปลาเองได้หรือ?”
หูฉางกุ้ยมองเจินจูแล้วถามด้วยความงงงวย
“มันจับได้แค่ตัวเดียวเ้าค่ะ” เจินจูเม้มปากหัวเราะเบาๆ “ปลาถูกมันทำให้ใจนพากันหลบไปที่ก้นบึงกันหมด ไม่ว่ายลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ เสี่ยวเฮยไม่สามารถะโลงไปจับปลาในน้ำได้หรอกเ้าค่ะ”
“…” ร่างกายเล็กนั่น ปลาเงินหนึ่งตัวคงเพียงพอให้แก้ความอยากกินแล้วกระมัง หูฉางกุ้ยมองเสี่ยวเฮยที่กินอย่างเพลิดเพลินเอร็ดอร่อยแต่ไม่ได้ถามออกไป
ในบึงมรกตมีปลาหลายชนิด แต่ส่วนใหญ่เป็ปลาตัวค่อนข้างเล็ก ปลาตัวใหญ่มีน้อย
หูฉางกุ้ยม้วนปลายขากางเกงขึ้น หาส่วนที่น้ำตื้นแล้วลุยลงไป
ความเย็นของน้ำในบึงซึมซาบเข้ามาทำให้หูฉางกุ้ยสะดุ้งโหยง เขาถือตาข่ายดักปลาเดินไปส่วนลึกสองสามก้าว หลังจากนั้นหยุดร่างกายนิ่งไม่ขยับตัวอีก
ผ่านไปพักหนึ่ง ก้นน้ำสงบเงียบผิวน้ำไม่กระเพื่อม หูฉางกุ้ยถือตาข่ายดักปลาค่อยๆ กดจมลงไปในน้ำด้วยความระมัดระวัง
เขาข่มอารมณ์ให้นิ่งไว้ ดูออกได้เลยว่ามีประสบการณ์ดักปลาไม่น้อย
เจินจูยืนอยู่ริมบึง เขย่งปลายเท้าขึ้นมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
อาจเพราะปลาในบึงมรกตเป็อิสระจนเคยชิน ไม่มีสัตว์ที่เป็ศัตรูมาก่อกวน ความระมัดระวังตัวจึงไม่สูง เวลาไม่นานปลาแหวกว่ายมารวมตัวกันข้างขาของหูฉางกุ้ยไม่น้อย
ตาข่ายดักปลาในมือหูฉางกุ้ยที่กดจมลงใต้น้ำก็ยกขึ้นฉับพลันทันที ปลาที่แหวกว่ายในน้ำสิบกว่าตัวตอนนี้ะโไม่หยุดอยู่ในตาข่ายที่ดักไว้
“ว้าว ดักปลาขึ้นมาได้แล้ว ท่านพ่อ ท่านยอดเยี่ยมจริงๆ เ้าค่ะ” เจินจูสองตาเป็ประกายวาว รีบยื่นตะกร้าไผ่ใบใหญ่ไปให้
หูฉางกุ้ยรับตะกร้าไผ่มาแล้วหันมายิ้มซื่อๆ ทางนาง เทปลาในตาข่ายดักเข้าในตะกร้าไผ่ แล้วนำตะกร้าไผ่วางแช่ไว้อยู่บริเวณริมน้ำตื้น หลังจากนั้นดักปลาใหม่อีกครั้ง
“เหมียวๆ” เสี่ยวเฮยอยากเข้าไปดูอย่างอดรนทนไม่ไหว แต่ตะกร้าไผ่แช่อยู่ในน้ำ พออุ้งเท้ามันััน้ำก็หดกลับไป
มันรีบหันไปร้องทางเจินจู
“ร้อนใจอะไร รอครู่หนึ่งก่อน ไม่ใช่ว่าเ้าเพิ่งกินไปหรือ” เจินจูมองแล้วขบขัน จงใจเย้ามัน “เ้ายังอยากได้ปลาอีกหรือไม่ หนวกหูเช่นนี้ ปลาจะถูกเ้าทำให้ใจนหนีไปกันหมดนะ”
เสี่ยวเฮยได้ยินดังนั้น หยุดโวยวายทันทีทันใด ั์ตาเขียวเข้มมันวาวมองนางด้วยความน้อยใจ
เป็อยู่เช่นนี้ จนผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในตะกร้าไผ่ใบใหญ่ก็มีปลาที่ดักขึ้นมาได้จนเต็ม ทั้งขนาดเล็กใหญ่หลากหลายชนิด
หูฉางกุ้ยเลือกหยิบปลาในตะกร้า ส่งปลาเงินให้เสี่ยวเฮยที่มองเขาอยู่ด้วยความกระวนกระวายใจหนึ่งตัว แล้วค่อยทิ้งลูกปลากับปลาตัวเล็กที่มีเนื้อไม่เท่าไรกลับไปในบึง
ส่วนปลาที่ตัวค่อนข้างใหญ่เป็ปลากินหญ้าหนักสี่ถึงห้าชั่ง ปลาเกล็ดเงินหนักสามถึงสี่ชั่ง แล้วยังมีปลาตะเพียนดำหนักสองถึงสามชั่ง สุดท้ายยังดักปลาไหลนาสองตัวขึ้นมาได้ด้วย
ปลาที่จับได้มากที่สุด แน่นอนว่าเป็ปลาเงินที่เสี่ยวเฮยชอบกิน ขนาดตัวของปลาเงินเล็กใหญ่ไม่เท่ากันใส่อยู่ครึ่งตะกร้า
ปลาที่ดักขึ้นมาได้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์นัก หูฉางกุ้ยมีความสุขมาก ปลาตัวใหญ่ไม่กี่ตัวนี้เอาไปบำรุงร่างกายให้ผู้เป็พี่ชายได้พอดี ส่วนปลาตัวเล็กก็เก็บไว้ทำปลาตากแห้งทานเอง
เขาเก็บใบไม้ใบใหญ่จากป่าด้านข้างมาจำนวนหนึ่ง รองก้นตะกร้าให้ทั่วจนแน่นสนิท และใส่น้ำข้างในเล็กน้อย ให้ปลาสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานหน่อย
ทันทีหลังจากนั้น สองคนหนึ่งแมวเตรียมพากันกลับบ้านด้วยความรีบเร่ง
ทันใดนั้นได้ยินเสียงอะไรบางอย่างขึ้นมากะทันหัน ในกอหญ้าคาสูงไม่ไกล กำลังสั่นไหวซู่ๆ หูฉางกุ้ยร่างกายแข็งทื่อ เมื่อตั้งสติได้จึงหยิบมีดฟันฟืนที่พกติดตัวออกมาและก้าวไปยืนอยู่ข้างหน้าเจินจู
เจินจูตะลึงงัน การกระทำของหูฉางกุ้ยทำให้นางซาบซึ้งใจเล็กน้อย หูฉางกุ้ยที่ซื่อๆ ขี้ขลาด เงียบขรึม เนื้อแท้แล้วมีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็บิดาอย่างมาก
ระหว่างที่หยุดชะงักไม่พูดไม่จา สัตว์ปีกมีขนสลับลายสวยงามหนึ่งตัวได้วิ่งออกมาจากพงหญ้า เป็ไก่ป่าูเาขนหางเล็กเรียวยาว
“เอ๊ะ เป็ไก่ฟ้าธรรมดานี่ น่าเสียดายที่ขาและเท้าของมันแข็งแรงวิ่งได้รวดเร็วนัก หากไม่มีธนูกับลูกศรก็จับไก่ฟ้าไว้ได้ยากมาก” หูฉางกุ้ยผ่อนคลายความตึงเครียดลง พูดจามากขึ้นอย่างเกิดขึ้นได้ไม่บ่อย “เนื้อไก่ฟ้าละเอียดอ่อนนุ่มและสดอร่อยอย่างหาได้ยาก”
เจินจูมองไก่ฟ้ารูปร่างค่อนข้างใหญ่ตัวนั้น ขนปีกงามเพริศพริ้ง ดูเหมือนร่างกายแข็งแรงมาก คาดว่าน่าจะหนักเจ็ดถึงแปดชั่งได้
ลูกตาดำของนางขยับเล็กน้อย มองไปทางเสี่ยวเฮยที่ไม่ยี่หระอยู่ด้านข้าง เ้านักกินนี่อิ่มปลาเงินไปหนึ่งมื้อแล้ว ยามนี้เลียอุ้งเท้าแมวของมันด้วยใบหน้าอิ่มอกอิ่มใจอยู่
“เสี่ยวเฮย ไป จับไก่ฟ้าตัวนั้นไว้ กลับไปตุ๋นน้ำแกงแล้วจะให้ขาไก่เ้ากิน” เจินจูปลุกปั่นมัน ยื่นคางไปยังทิศทางของไก่ป่า
เสี่ยวเฮยช้อนลูกตาสีเขียวเข้มของมันขึ้น ราวกับไม่อยากขยับตัว
เจินจูขมวดหว่างคิ้วถลึงตาใส่มัน กินอิ่มแล้วก็ไม่อยากฟังคำสั่งหรือ?
เสี่ยวเฮยลุกขึ้นอย่างอืดอาด วิ่งพุ่งเข้าไปจู่โจมทางไก่ฟ้า เมื่อเริ่มเข้าไปใกล้เท้าแมวดำตัวน้อยััพื้นอย่างเงียบเชียบไร้เสียง จนกระทั่งวิ่งไปถึงข้างลำตัว ไก่ฟ้าถึงได้สังเกตเห็นมันอย่างกะทันหันและใจนคิดจะวิ่งหนี
เสี่ยวเฮยรวดเร็วดั่งสายฟ้า กระโจนโผเข้าไปที่ตัวไก่ฟ้าทันที
“อ๊ะ จับได้แล้วเ้าค่ะ ท่านพ่อ เร็วเข้า ไปจับไก่ขึ้นมากัน” เจินจูะโตื่นเต้นดีใจ ร้องะโบอกผู้เป็บิดาให้ไปจับไก่โดยมิรอช้า
“…อื้ม ได้” การจู่โจมของเสี่ยวเฮยรวดเร็วอย่างมาก หูฉางกุ้ยเห็นเพียงเงาร่างของมันวิ่งออกไป ต่อจากนั้นจึงโถมตัวเข้าโจมตีไก่ฟ้าให้ล้มลง
หูฉางกุ้ยก้าวไปข้างหน้าสวบๆ คว้าไก่ฟ้าที่ดิ้นไม่หยุดไว้ ถือโอกาสดึงเถาวัลย์ข้างมือมามัดขาของมัน
หูฉางกุ้ยมองไก่ฟ้าในมือ แล้วมองเสี่ยวเฮยคล้ายกับไม่อยากเชื่อเล็กน้อย มันเป็แมวไม่ใช่สุนัขล่าเนื้อ ทำไมเมื่อล่าสัตว์ขึ้นมาถึงได้จู่โจมเร็วกว่าสุนัขล่าเนื้ออีก?
“พึ่บๆ” ในพุ่มหญ้าคา มีไก่ฟ้าสีน้ำตาลอ่อนอีกหนึ่งตัวบินลอยออกมาด้วยความเร็ว หลังจากเท้าลงพื้นไม่ถึงชั่วพริบตาก็วิ่งหายเข้าพงหญ้าไปแล้ว
“เสี่ยวเฮย ไปเร็ว ยังมีอีกตัวหนึ่ง! วิ่งเข้าพงหญ้าไปแล้ว” เจินจูสายตาเฉียบคม บัญชาการเสี่ยวเฮยด้วยความตื่นเต้น
ปฏิกิริยาของเสี่ยวเฮยฉับไว วิ่งเข้าพงหญ้าไปทันที ผ่านไปไม่นานก็ได้ยินเสียงไก่ร้องแว่วออกมาจากพงหญ้า “คลั่กๆๆ”
จับได้แล้ว! เจินจูวิ่งเหยาะๆ ตามไป
หูฉางกุ้ยดึงสติกลับมาได้ เข้าไปจับไก่ฟ้าตัวนั้นขึ้นทันที ดึงเถาวัลย์หนึ่งเส้นมามัดไว้เหมือนเดิม
“ตัวนี้เป็ตัวเมีย” หูฉางกุ้ยมองไก่ฟ้าในมือ กล่าวเสียงไม่สบายใจหนึ่งประโยค
“ตัวเมีย? เช่นนั้นน่าจะมีไข่ใช่หรือไม่เ้าคะ?” เจินจูโต้กลับ วิ่งกลับไปข้างหญ้าคาสูงเมื่อสักครู่ แหวกพงหญ้าออกเบาๆ เป็ไปดังคาด มีไข่ไก่ป่าสีเหลืองอ่อนสิบกว่าฟองปรากฏออกมาอยู่ตรงหน้านาง
เข้าป่าครั้งนี้ ได้รับของมากมายเลย ปลาหนึ่งตะกร้าใหญ่ ไก่ฟ้าสองตัวรวมกับไข่ไก่หนึ่งคอก เจินจูแบกไก่ฟ้าสองตัวลงเขาไปด้วยกันกับหูฉางกุ้ยอย่างดีอกดีใจ
เข้าและออกจากูเาใช้เวลาไปเกือบสองชั่วยาม เมื่อพวกเขากลับมาถึงบ้าน ก็เป็เวลา่บ่ายแล้ว
หลี่ซื่อเก็บกับข้าวไว้บนเตา เมื่อสองพ่อลูกล้างมือทานข้าวกลางวันเสร็จ ก็เริ่มจัดเก็บปลาในตะกร้านั้นให้เป็ระเบียบ
ปลาที่ยังมีชีวิตอยู่ล้วนปล่อยเลี้ยงในโอ่งน้ำ จัดการปลาที่ตายแล้วหรือเกือบตายก่อน
เลือกแบ่งปลาตัวใหญ่ออกมาส่วนหนึ่ง ให้หูฉางกุ้ยถือไปบ้านเก่าสกุลหู แล้วถือโอกาสนำตาข่ายดักปลากับตะกร้าปลาไปคืนให้จ้าวต้าซาน แน่นอนว่านำปลาสองตัวไปมอบให้ด้วยเพื่อเป็การขอบคุณ
ปลาเงินตัวเล็ก ปลาซิวและปลาไหลนาสองตัวทั้งหมดใส่เลี้ยงไว้ในโอ่งน้ำ เพื่อให้ปลาเหล่านี้สามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายวัน เจินจูตั้งใจใส่น้ำแร่จิติญญาเข้าไปข้างในเล็กน้อยเป็พิเศษ
ไก่ฟ้าขังเลี้ยงไว้ในเล้าไก่หลังบ้าน
อาหารเย็นเป็เนื้อปลามื้อใหญ่ ผัดปลาซิวเผ็ดหอม ปลาเงินทอดกรอบและปลาเกล็ดเงินน้ำแดง แล้วยังมีผัดผักหนึ่งถาดอีกด้วย ล้วนใช้ถาดใหญ่รองรับไว้ เพราะมีน้ำหนักมาก
หลี่ซื่อควบคุมการปรุงอาหาร เจินจูช่วยเป็ลูกมือ รูปแบบอาหารไม่กี่ชนิดวิธีการทำคล้ายกัน แม้เทียบฝีมือครัวของหวังซื่อไม่ได้ แต่ฝีมือของหลี่ซื่อดีขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างมาก
ปลาซิวกับปลาเงินล้วนต้องผ่านการทอดน้ำมัน ขั้นตอนการทำค่อนข้างมาก รอให้กับข้าวขึ้นโต๊ะท้องฟ้าก็มืดลงเรียบร้อยแล้ว
จุดตะเกียงน้ำมันขึ้น เข้าประจำที่นั่งตามลำดับ ตะเกียบของทุกคนล้วนยื่นมาทางปลาเงินทอดกรอบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ทุกคนต่างอยากรู้ว่าปลาเงินตัวน้อยที่เสี่ยวเฮยคิดถึงอยู่ตลอดเวลารสชาติจะเป็อย่างไร
ตัวปลาสีเหลืองนวลและกรอบ เนื้อนุ่มรสชาติเข้มข้นอร่อยมากจริงๆ
ผิงอันทานได้เบิกบานใจเป็อย่างยิ่ง ปลาเงินไร้ก้างไร้เกล็ด ทานเข้าไปหนึ่งคำ หวาน หอม กรอบและร่วน เคี้ยวกันจนเสียงดังกรวบๆ
หลัวจิ่งเคยทานปลาเงินมาแล้ว แต่วิธีทำไม่เหมือนกัน การทำของที่บ้านเขาเป็ไข่ตุ๋นใส่ปลาเงินอย่างเดียว หรือเป็ไข่ตุ๋นใส่ปลาเงินและกุ้งแห้ง ล้วนเป็การตุ๋นโดยไม่ใส่เครื่องปรุงเป็หลัก รสชาติสดอร่อยและเรียบเนียน
ปลาเงินทอดส่วนใหญ่จะกรอบเนื้อนุ่ม เช่นนี้รสชาติดึงดูดความสนใจของเขาได้มากกว่า
ขณะที่ทั้งครอบครัวกำลังทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย กลับได้ยินเสียงเคาะประตูลานบ้านขึ้น
เสี่ยวหวงที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวเย็นอยู่ ได้วิ่งออกไปด้วยความเร็วสูง และเห่าไปทางประตูลานบ้านพักหนึ่ง
“ดึกขนาดนี้แล้ว เป็ใครกันนะ?” เจินจูถือถ้วยหันไปมองข้างนอกเล็กน้อย
“ข้าจะไปดูหน่อย” หูฉางกุ้ยลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก
เจินจูหยิบตะเกียบขึ้น พุ้ยข้าวที่เหลืออยู่ครึ่งถ้วยด้วยความรวดเร็ว มีแขกมาเช่นนี้อีกเดี๋ยวพวกนางต้องไม่สามารถทานข้าวได้ดีๆ แน่นอน รีบทานให้หมดจะดีกว่า
ผิงอันเห็นเช่นนั้นจึงรีบคีบปลาเงินหนึ่งชิ้นแล้วพุ้ยข้าวในถ้วยขึ้นตาม
หลัวจิ่งมองซ้ายขวาแวบหนึ่ง การกระทำในมือจึงเพิ่มความเร็วขึ้นด้วย
ขณะนี้คนในบ้านล้วนรีบคีบกับข้าวเคี้ยวข้าว ไม่มีคนเอ่ยอะไรออกมาสักคำ
รอให้หูฉางกุ้ยนำทางแขกเข้ามาในห้องโถง อาหารในถ้วยของพวกเจินจูล้วนทานกันได้พอสมควรแล้ว
“ไอ๊หยา ฉางกุ้ย ขออภัยด้วยจริงๆ รบกวนเวลาอาหารเย็นครอบครัวเ้าแล้ว” เสียงคุ้นเคยดังกังวานขึ้น แฝงไว้ด้วยความรู้สึกผิดอย่างสุภาพ
“ไม่ ไม่ใช่เื่ใหญ่อะไรขอรับ วันนี้อาหารเย็นของที่บ้านหุงหาช้าไปหน่อย” หูฉางกุ้ยตอบกลับด้วยความตึงเครียดเล็กน้อย
จ้าวเหวินเฉียงหิ้วของว่างสองกล่องกับสุราขาวหนึ่งกา พร้อมกับสาวเท้าก้าวยาวๆ เข้ามาในห้องโถง มีชายหนุ่มวัยเยาว์ในชุดเสื้อคลุมชายยาวสีขาวพระจันทร์ตามอยู่ด้านหลัง
เจินจูอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ หัวหน้าหมู่บ้านพาจ้าวไป่ิมาที่บ้านของนางทำไม? คงไม่ใช่เพราะตอนเช้านางไปเจอความลับเื่ของเขากับจ้าวไฉ่สยา แล้วจะมากล่าวเตือนให้ปิดปากใช่ไหม? แต่ดูแล้วไม่น่าใช่ นำของขวัญมาด้วยเช่นนี้ น่าจะมีเื่ขอร้องอย่างอื่นมากกว่า
สองฝ่ายเปิดฉากทักทายกันอย่างสุภาพ
หลี่ซื่อเก็บกวาดถ้วยและตะเกียบของตนเองให้เป็ระเบียบเรียบร้อย แล้วไปห้องครัวหยิบถ้วยและตะเกียบสะอาดหนึ่งคู่มาให้สองปู่หลานจ้าวเหวินเฉียงกับจ้าวไป่ิ
จ้าวเหวินเฉียงบ่ายเบี่ยงไม่ได้ จึงถือโอกาสดึงจ้าวไป่ินั่งลง เปิดสุราขาวที่ตนเองนำมา เทให้ตัวเขาเองกับหูฉางกุ้ยครึ่งถ้วย
หลัวจิ่งกับผิงอันฉวยโอกาสทานข้าวอิ่มกลับห้องไปแล้ว ส่วนเจินจูอยากรู้จุดประสงค์การมาของหัวหน้าหมู่บ้าน ดังนั้นทำเพียงย้ายม้านั่งออกมา แล้วนั่งอยู่ข้างๆ อุ้มเสี่ยวเฮยขึ้นมาลูบขนให้มันเบาๆ แต่หูกลับตั้งใจฟัง
จ้าวไป่ินอกจากทักทายสองสามประโยคในตอนแรกแล้ว จึงนั่งรออยู่ข้างจ้าวเหวินเฉียงอย่างใจเย็นเท่านั้น
“ฉางกุ้ย เมื่อวานได้ยินว่าเ้าจับงูน้ำได้หลายตัว?” ข้อดีของหมู่บ้านเล็กก็เป็เช่นนี้ บ้านผู้ใดเกิดเื่เล็กน้อยขึ้น ไม่นานทั่วทั้งหมู่บ้านล้วนรู้กันหมด
“เอ่อ… หลังเขามีบึงน้ำ ด้านข้างมีงูน้ำหลายตัว อืม… ก็ จับมานิดหน่อยขอรับ” หน้าผากหูฉางกุ้ยมีเหงื่อผุดออกมาเล็กน้อย งูเป็เสี่ยวเฮยจับมา เขาไม่ชินกับการพูดปด ทำได้เพียงตอบอย่างว่างเปล่าไม่มั่นคง
“อ๋อ เช่นนั้นปลาเหล่านี้ก็จับมาจากในบึงนั้นหรือ?” ไม่คิดเลยว่าูเาซิ่วซีจะมีบึงน้ำดีเพียงนี้ ชนิดของปลาดูแล้วค่อนข้างมากเลยทีเดียว
“ใช่แล้วขอรับ แมวที่บ้านชอบกินปลา เพราะอย่างนั้นวันนี้จึงไปดักมานิดหน่อย ฮ่าๆ” หูฉางกุ้ยหัวเราะซื่อๆ สองที
“…” ดักปลาเพื่อแมวหนึ่งตัว
จ้าวเหวินเฉียงหางตากระตุก มองแมวดำโอนอ่อนเชื่อฟังในอ้อมแขนเจินจูแวบหนึ่ง ความเป็อยู่ครอบครัวหูผ่านไปอย่างดีแล้ว ท่าทางก็มีสง่าราศีขึ้นด้วยจริงๆ