บทที่ 13
เป็เวลาสองชั่วโมงกว่าแล้วที่คุณมารียังไม่ลงมาข้างล่าง อาหารที่เขาทำไวให้ก็น่าจะเย็นชืดเป็ที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่พี่อาทิตย์ที่ส่งข้อความเขาก็ได้ตอบกลับอีกคนไปแล้วแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ได้อ่านข้อความของเขาเลย ตอนนี้เดือนอ้ายก็ทำได้แค่เพียงนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น แกงส้มที่ทำไว้ก็แบ่งไปให้ป้าแมวเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรทำเลยจริงๆตอนนี้
ระหว่างนั้นก็เลยคิดว่าเอาแกงเข้าตู้เย็นก่อนก็ได้จะได้ไม่เสีย ถึงเวลาจะกินก็ค่อยเอามาอุ่นได้ เดือนอ้ายลุกขึ้นยืนได้ก็ต้องล้มลงไปกับพื้นทันที อาการทรงตัวมันควบคุมไม่อยู่ ่นี้เดือนอ้ายมีอาการนอนไม่ค่อยหลับ เขาคิดว่าการที่ตัวเองนอนไม่พอคงทำให้หน้ามืด ตอนนี้ก็สองทุ่มแล้วด้วย เดือนอ้ายพยุงตัวเองขึ้นจากพื้นเดินไปที่ห้องครัว ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น แต่ว่ามันไม่ใช่ของเขา มันคงเป็ของคุณมารี
เมื่อเดือนอ้ายนำแกงเข้าตู้เย็นเสร็จก็เดินมาหยิบโทรศัพท์ของอีกคนหมายที่จะเอาไปให้ เมื่อขึ้นไป้าก็พบว่าห้องของอีกคนไม่ได้ปิดประตูเอาไว้ ร่างเล็กเดินเข้าไปวางโทรศัพท์ที่หัวเตียง แต่กลับเหลือบไปเห็นสีหน้าของอีกคนที่ดูไม่ค่อยดีนัก เหงื่อของอีกคนผุดขึ้นตามใบหน้า เดือนอ้ายคิดว่าอีกคนน่าจะไข้ขึ้น เพราะอากาศมันเปลี่ยนกะทันหัน
“คุณมารีครับ..คุณมารี”ร่างเล็กเรียกเท่าไหร่อีกคนก็ยากที่จะตื่น สงสัยจะให้มากินยาคงยากแล้ว เดือนอ้ายเดินลงไปหยิบเจลลดไข้จากในตู้เย็นทันทีก่อนที่จะเดินกลับขึ้นไป้า
“ขอโทษนะครับ”เขาวางเจลลดไข้ไว้ที่หน้าผากอีกอย่างแ่เบา ถ้าตื่นมาอีกคนจะโกรธที่เขาถือวิสาสะยุ่งกับตน เขาก็ยอมให้อีกคนโกรธดีกว่า เขาเองก็เห็นว่าคุณมารีคือคนสำคัญของพี่อาทิตย์ จะไม่ให้ทำอะไรเลยได้ยังไง เมื่อจัดการเสร็จ ร่างเล็กก็ค่อยๆเดินออกจากห้องมาช้าๆ
ทันทีที่ประตูปิดลง ร่างบางที่ขดตัวอยู่บนเตียงก็ค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะยกยิ้มขึ้น มือเล็กที่ถือไดร์เป่าผมอยู่ภายใต้ผ้าห่มก็ค่อยๆเอาออกมา จริงๆแล้วเหตุการณ์เมื่อกี้เป็การสร้างสถานการณ์ขึ้นมา เธอแค่อยากลองใจลูกสะใภ้ตัวเองว่าขนาดเธอทำตัวไม่ดีใส่ไปขนาดนั้นยังจะดูแลเธออีกมั้ย แต่มันก็เป็ไปตามคาด เหนือความคาดหมายไปนิดคือลูกสะใภ้เอาเจลลดไข้มาแปะให้ เอาเป็ว่ามารีจะยอมรับจริงๆว่าเด็กคนนี้ผ่าน
และเธอก็เชื่อแล้วว่าคุณย่าของอาทิตย์มองเด็กคนนี้ไว้ไม่ผิดจริงๆ
เช้านี้ตื่นมาเดือนอ้ายก็รีบไปหามารีทันทีแต่เมื่อไปที่ห้องก็พบว่าอีกคนกลับไม่ได้อยู่ที่ห้อง ร่างเล็กรีบเดินลงบันไดมาก็เห็นว่าคนที่ตัวเองกำลังตามกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่หน้าบ้าน ส่วนป้าแมวก็กำลังยืนคุยอยู่ด้านข้าง เขาเดินเข้าไปก่อนจะเอ่ยทัก “คุณมารีหายดีแล้วหรอครับ?”
“ฉันไม่ได้เป็อะไรสักหน่อย”เขามองเห็นใบหน้าอีกคนดูปกติก็โล่งใจ ไข้หายไวกว่าที่คิดอีก “เธอเป็คนเอาเจลลดไข้มาแปะหรอ”
“คะ..ครับ ขอโทษด้วยนะครับที่ถือวิ-“
“ขอบคุณนะเ้าลูกสะใภ้”
“ครับ?”เดือนอ้ายมองอีกคนด้วยสีหน้ามึนงง
“เมื่อคืนฉันไม่ได้เป็ไข้”
“คือ ผมไม่เข้าใจเลยครับว่าหมายความว่าไง?”มารียิ้มออกมาก่อนจะผายมือให้ร่างเล็กนั่งลงข้างกาย
“เมื่อวานแม่แค่แกล้งเฉยๆ แค่อยากลองใจดูน่ะ โทษทีนะ”เขาไม่อยากจะเชื่อรูหูตัวเองว่าเมื่อกี้อีกคนแทนตัวเองว่าแม่ แล้วเื่เมื่อคืนก็ทำเขาสับสนไปหมดด้วย
“คะ..คุณมารี”
“ยังจะเรียกมารีอีก เรียกว่าแม่สิ”
“คุณมะ..แม่”
“แบบนั้นแหละ ลูกคุณไม่โกรธหรอกใช่ไหม”เขามองใบหน้าอีกคนที่ยิ้มด้วยความดีใจ เดือนอ้ายไม่นึกโกรธอีกคนเลยแต่กลับรู้สึกดีใจที่คุณแม่ของพี่อาทิตย์ดูอบอุ่นขนาดนั้น
“อ้ายไม่โกรธครับ..คุณแม่ทำอ้ายใหมดเลย”
“แม่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะเล่นใหญ่นักหรอกแต่แมวน่ะสิบอกให้แม่เล่นใหญ่”
“ป้าแมวหรอครับ?”เขาหันไปมองป้าแมวทันที อีกคนก็ยิ้มให้ จนตอนนี้เขาเข้าใจขึ้นมาแล้วบ้างว่าป้าแมวคือคนของคุณแม่ของพี่อาทิตย์นั่นเอง
“ตอนที่แม่อยู่ต่างประเทศก็มีแมวนี่แหละที่คอยบอกว่าเราน่ะเป็คนยังไง”มารีพูดออกพร้อมกับถอนหายใจ “ให้คุยกับไอ้ลูกชายตัวดีก็คงเปลืองน้ำลาย ยิ่งคนเล็กก็เหนื่อยจะพูด”
“ถ้างั้นคุณแม่มาที่นี่ก็เพื่อจะมาลองใจอ้ายหรอครับ?”
“อื้ม ตอนนี้แม่มั่นใจแล้วล่ะว่าเราเหมาะสมที่สุดแล้ว”มารียกมือขึ้นลูบหัวเดือนอ้ายอย่างช้าๆ ตอนนี้เธอหมดห่วงแล้วที่อาทิตย์ได้เจอคนแบบเดือนอ้าย เธอเองก็ยอมรับว่าเคยคิดว่าจะมีใครเหมาะสมกับอาทิตย์มากไปกว่าหยก แต่ตอนนี้เธอมั่นใจว่าเดือนอ้ายคือคนที่ดีที่สุดสำหรับอาทิตย์ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเ้าลูกชายจะเป็ยังไงบ้าง แต่ก็ได้ยินมาจากแมวบ้างแล้วว่าหลงเมียขั้นสุด มารีก็คิดว่าคงจะจริง กล้องวงจรปิดมีเป็ร้อยตัวขนาดนี้ ที่บ้านก็คงสั่งให้คนมาติดเพิ่มแล้วแน่
ไม่น่าเชื่อว่าร่างเล็กคุยกับอีกคนอย่างถูกคอ คุยได้ทุกเื่เลยด้วยซ้ำ เสียงหัวเราะดังลั่นเรียกให้คนที่มาใหม่คิ้วขมวด ร่างสูงเดินลงจากลงแล้วรีบตรงดิ่งไปที่ร่างเล็กทันที มือหนาจับที่ไหล่เล็กเอาไว้แน่นพร้อมกับส่งสายตาไม่พอใจไปให้แม่ตัวเอง
“นี่แม่นะอาทิตย์”
“แม่มาทำอะไรที่นี่?”
“ทำไมพี่อาทิตย์พูดน้ำเสียงแบบนั้นล่ะ แม่เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”อาทิตย์มองไปที่ภรรยาตัวเองที่ตอนนี้ปกป้องแม่ตัวเองด้วยสายตาไม่เข้าใจ แถมเดือนอ้ายก็ไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้ใส่ด้วย
“แม่ไปทำอะไรอ้าย?”
“ถามมาได้นะ แม่จะไปทำอะไรลูกสะใภ้ล่ะ”ว่าจบมารีก็จับหัวเดือนอ้ายไปพิงไว้ที่ไหล่ตนก่อนจะโดนมือหนาฉกอีกคนกลับคืน
“ห้ามแตะอ้าย”
“แค่ตัวยังแตะไม่ได้ ทำเป็งูหวงไข่ไปได้”
“จะบอกได้ยังว่าแม่มาทำอะไรที่นี่”
เมื่อคืนอาทิตย์ปั่นงานเสร็จก็รีบขับรถมาที่นี่ทันทีที่เห็นว่ากล้องวงจรปิดจับภาพแม่ของเขาเอง ร่างสูงกังวลว่าเดือนอ้ายจะโดนแม่ทำอะไรรึเปล่า เพราะในตอนนั้นแม่ไม่มีท่าทีที่จะยอมรับเดือนอ้ายเท่าไหร่นักแต่ไม่คิดว่าพอมาถึงจะเห็นทั้งคู่นั่งคุยกันพร้อมหัวเราะดังลั่น
“แม่มาที่นี่ไม่ได้รึไง อีกอย่างก็มาเยี่ยมลูกสะใภ้ด้วยเนอะ”เดือนอ้ายยิ้มให้กับมารีเป็ภาพที่ทำเอาอาทิตย์เจ็บหัวใจไม่น้อย อีกคนยังไม่เคยยิ้มให้เขาขนาดนี้เลยแล้วแม่เป็ใครกันถึงได้รับรอยยิ้มของเดือนอ้ายแบบนั้น
“พี่อาทิตย์มาเหนื่อยๆพักก่อนเถอะ เดี๋ยวอ้ายไปเอาน้ำให้”ร่างเล็กรีบไปหยิบน้ำข้างใน จุดประสงค์ก็คือตั้งใจจะให้สองแม่ลูกเขาคุยกันสะดวกนั่นแหละ
“แม่จงใจจะมาแกล้งอ้ายใช่ไหม?”เมื่อร่างเล็กเดินไปแล้วร่างสูงก็เปิดประเด็นกับผู้เป็แม่ทันที
“คิดอะไรของแก แม่มาเยี่ยมลูกสะใภ้จริงๆแต่ก็แค่ลองใจไปนิดหน่อย”พูดจบร่างสูงก็มีสีหน้าบึ้งตึงทันที “แต่แม่เคลียร์กันแล้ว อย่าเพิ่งมาตาขวางได้ไหม เดือนอ้ายน่ะ..ไม่เหมือนใครหรอกนะอาทิตย์”
“ผมรู้”
“รักษาภรรยาแกให้มันดีๆ เชื่อเถอะ เดือนอ้ายไม่ปลอดภัยที่จะอยู่ที่นี่หรอกนะ”
“หลังจากจบฝึกงาน ผมจะให้อ้ายกลับกรุงเทพทันที”
“แล้วยังไง? กรุงเทพมันปลอดภัยกว่าตรงไหน”
“อย่างน้อยอ้ายก็ยังอยู่ใกล้ผม”อาทิตย์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมปล่อยให้อ้ายอยู่ที่นี่นานไม่ได้”
“รู้ใช่ไหมว่าตอนนี้ศิวาลัยกำลังจะโดนอะไร”มารีพูดขึ้นพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาให้ลูกชายตนเองดูภาพ “โกดังของแม่ที่อิตาลีจับภาพนี้ได้”
สิ่งที่ปรากฏขึ้นในจอโทรศัพท์ของมารีคือภาพของชายสองคนที่สวมหน้ากากสีดำมายืนที่หน้าโกดังแต่มันไม่ใช่ภาพเดียว สามสิบกว่ารูปถูกเปิดค้างเอาไว้ อาทิตย์มองไปที่ภาพแล้วก็ได้แต่คิดถึงคนที่จะทำเื่แบบนี้ได้ก็คงมีตระกูลเดียวเท่านั้น
“แม่คิดว่าคือพวกมันรึเปล่า”
“คนของแม่จับพวกมันสองคนได้แล้ว แต่พอเค้นดูก็ไม่ตอบว่าใครส่งมา ถ้าเป็แบบนี้ก็คงชัดแล้วล่ะ”มารีเองก็คิดไม่ผิดว่าต้องเป็ฝีมือของตระกูลนั้น
“ที่บริษัทเริ่มแปลกขึ้น บอร์ดบริหารบางคนเริ่มไม่เห็นด้วยกับการประชุม”
“อาทิตย์”มารีจับมือลูกชายไว้แน่น “ปกป้องศิวาลัยไว้นะ อย่าให้ใครมาแย่งไปได้”
“ครับ”
“แล้วเื่ที่จะให้อ้ายย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพ ให้อ้ายไปอยู่ที่เซฟเฮ้าส์ของแม่เถอะ”มารีเองก็นึกห่วงลูกสะใภ้ไม่น้อย เธอไม่อยากให้อีกคนต้องมาอยู่ในระหว่างาธุรกิจแบบนี้หรอก ยิ่งเป็ภรรยาของอาทิตย์แล้วล่ะก็มันไม่ต่างอะไรกับการเป็’จุดอ่อนของศิวาลัย’
หลังจากที่อาทิตย์มาถึงที่ไร่ศิวาลัย อีกคนก็เอาแต่หมกตัวอยู่แต่กับภรรยาไม่ยอมไปไหนเลย แถมยังไม่ให้เดือนอ้ายไปทำงานด้วย ร่างเล็กยืนกอดอกมองอีกคนที่ตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียง สายตาของร่างสูงก็ยังคงจ้องมาที่ร่างเล็ก ตอนนี้ก็เกือบจะค่ำแล้วด้วย
“จะไม่กินข้าวรึไง”
“ถ้ากูไม่กิน มึงจะป้อนป่ะ”
“ป้อน แต่จะป้อนด้วยมือนะ เค็มเลยแหละ”ร่างเล็กทำท่าจกข้าวให้อีกคนดูจนอาทิตย์หลุดหัวเราะออกมา
“เดี๋ยวนี้มึงกล้าสู้กูแล้วนี่”
“อ้ายไปสู้พี่ตอนไหน ยังไม่ทันต่อยเลย”
“ไม่ใช่สู้แบบนั้น มานั่งนี่หน่อย”ร่างสูงตบมือลงที่ว่างเตียงข้างกาย เดือนอ้ายเดินไปนั่งอย่างว่าง่ายก่อนจะโดนรัดเอวให้โน้มตัวลงนอน แขนแกร่งยังคงโอบเอวเล็กไว้แน่น
“ไหนบอกให้นั่งไง นี่มันนอนแล้ว!”
“ขอนอนกอดหน่อย กูไม่ได้กอดมึงนานนี่”เดือนอ้ายหยุดนิ่งให้อีกคนกอดเพราะน้ำเสียงออดอ้อนของอีกคน ใบหน้าหล่อฝังจมูกลงที่ไหล่ของเดือนอ้ายก่อนจะสูดดมกลิ่นหอมหวานของอีกคน กลิ่นของร่างเล็กเป็กลิ่นของดอกไม้ผสมผลไม้ ซึ่งอาทิตย์ก็ดันชอบมันไปแล้ว
ร่างเล็กค่อยๆหันไปหาคนที่นอนกอดอยู่ด้านหลัง ร่างสูงยังคงหลับตาแบบนั้น เดือนอ้ายรู้ดีว่าการขับรถไปมามันเหนื่อยแค่ไหน เขาเองก็ไม่อยากให้อีกคนต้องวนไปวนมา จนตัวเองก็เริ่มคิดไว้บ้างแล้วว่าหลังจากฝึกงานก็คงต้องย้ายกลับไปกรุงเทพจะดีกว่า เขาไม่อยากให้อีกคนลำบาก
มือเล็กเอื้อมมือไปลูบโครงหน้าอีกคนช้าๆ พี่อาทิตย์ในตอนนี้เป็มุมที่เขาอยากจะเก็บเอาไว้คนเดียว ไม่อยากให้ใครมาแย่งไป หากใครต่อใครจะมองว่าอีกคนน่ากลัวแค่ไหน แต่สำหรับเขา พี่อาทิตย์ก็คือแสงอาทิตย์อันอบอุ่นของเขาที่ทำให้มีความสุข ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะขออยู่เคียงข้างพี่อาทิตย์ตลอดไป
เดือนอ้ายลูบหน้าอีกคนไปสักพักก็มีมือมากุมตัวเองซ้อนไว้ อาทิตย์จับมือเล็กเอาไว้ที่ข้างแก้มก่อนจะลืมตาขึ้น ใบหน้าสวยยังจ้องมองมาที่อาทิตย์ไม่วางตา ร่างสูงเองชักจะหวงใบหน้านี้จริงๆ ทำไมภรรยาของเขาถึงสวยได้ขนาดนี้กันนะ
“พี่อาทิตย์”
“ว่าไง”
“อ้ายคิดถึงพี่นะ”แม้ว่าเราสองคนจะนอนจ้องหน้ากันแต่เขาก็พูดออกมาจากใจ ยิ่งอยู่ด้วยกันแบบนี้ก็ไม่อยากแยกจากอีกคนเลย
“กูก็คิดถึงมึง”
แต่ก่อนอาทิตย์ไม่เคยเชื่อคำพูดของใครเลยว่าการคิดถึงใครสักคนมันทรมาน จนกระทั่งได้ห่างจากคนที่ตัวเองรักมันทรมานแบบนี้นี่เอง ทั้งที่พยายามจัดการตัวเองโดยไม่เล่นโทรศัพท์แต่ก็ดูเหมือนว่าใจก็ยังคงเรียกร้องหาแต่เดือนอ้าย
ไม่ว่าจะมองหน้าใครก็คิดว่าเดือนอ้ายไปหมด อาทิตย์ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน แม้แต่กับหยกก็ไม่เคย ความสัมพันธ์ของอาทิตย์กับหยกมันเป็สิ่งที่อธิบายได้ยาก จริงๆแล้วอาทิตย์ไม่เคยขอหยกเป็แฟน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำเหมือนหยกไม่สำคัญเพียงแต่อีกคนกับเขามีเป็ความสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจ หยกจึงเป็คนสำคัญของศิวาลัยแต่ไม่ใช่คนรัก พวกเราทั้งคู่ต่างรู้ดี
สิ่งที่อาทิตย์ย้ำเตือนตัวเองมาตลอดเื่การเสียชีวิตของหยกมันเกิดขึ้นจากตัวเองเพราะศัตรูก็ต่างคิดว่าหยกคือคนรักของเ้าสัวศิวาลัย นั่นจึงเป็จุดอ่อน ผลที่ตามมามันเลยทำให้หยกต้องเสียชีวิตลง
“ตอนอยู่ที่บริษัทไม่ได้มีลูกค้ามาเต๊าะพี่ใช่ไหม?”
“หึ ถึงเต๊าะไปกูก็มองแค่มึงอยู่ดี”ร่างเล็กยิ้มกว้างออกมาทันทีที่ได้ยินคำตอบ “มึงเถอะ มีคนมายุ่งกับมึงรึเปล่า”
“ไม่มีหรอก คนแถวนี้เขารู้หมดว่าอ้ายเมียเ้าสัว”
“เมียใครนะ?”
“ถือว่าอ้ายไม่ได้พูดแล้วกันนะ”
ร่างเล็กรู้สึกดีที่ได้แกล้งอีกคน พอเห็นอาการไม่พอใจก็เหมือนว่าได้เห็นสีหน้างอแงของพี่อาทิตย์มันดูน่ารักจนอยากจับหอมแก้มจริงๆแต่ก็ต้องอดใจเอาไว้ก่อน เดี๋ยวอีกคนก็คงได้ใจอีกที่เขาหอมแก้ม
โดยปกติแล้วถ้าเกิดพี่อาทิตย์ไม่พอใจกับคนอื่นก็คงจะส่งเสียงดุพร้อมกับสายตาอาฆาตแต่กลับเขาอีกคนไม่ได้มีท่าทีแบบนั้น ก็เลยทำให้ไม่ได้รู้สึกกลัวเท่าไหร่ แต่ถึงจะทำใส่ เขาก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอยู่ดี สู้ลูกอ้อนของเดือนอ้ายไม่ได้หรอกนะ เขาไม่ค่อยอ้อนอีกคนบ่อยนัก เพราะยิ่งทำก็เหมือนว่าอีกคนชอบใจเข้าไปใหญ่ ทำอะไรไปก็มีแต่เสียอย่างเดียว เรียกง่ายๆว่าเขาแพ้พี่อาทิตย์แบบหมดรูป
“พูดมา”สายตาคมจ้องมาที่เขาอย่างกดดัน รู้งี้ไม่น่าหลงพูดไปเลย
“เมียเ้าสัว”อาทิตย์ยกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะจุมพิตลงที่หน้าผากอีกคน
“พูดดีนะ คราวหลังพูดอีกดิ”
“พี่อาทิตย์ขี้โกงนี่ เล่นทีเผลอนี่!”ว่าจบเขาก็จุ๊บลงที่ปากอีกคน
“มานี่เลยตัวแสบ”แขนแกร่งรวบร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนทันทีโดยที่ไม่ได้ทันตั้งตัว
“โอ้ยๆๆ อ้ายยอมแล้วๆๆ”อาทิตย์จับฟัดแก้มร่างเล็กไม่ยอมหยุดจนเขาเผลอถีบอีกคนตกเตียงไปจนได้ “อุ้บ”
“เล่นแบบนี้เลยหรอ”
“อ้ายขอโทษ...”ถึงจะขอโทษไปแบบนั้นแต่ร่างเล็กก็ยังคงหัวเราะไม่หยุด อาทิตย์ลุกตัวขึ้นพร้อมกับจับคนตัวเล็กกอดแน่น เขากอดตอบอีกคนเอาไว้
“หลังจากจบฝึกงานย้ายกลับไปอยู่กับกูนะ”อาทิตย์ผละกอดก่อนจะจับไหล่สองข้างไว้ สีหน้าของพี่อาทิตย์ดูจริงจังมาก
“จริงๆอ้ายก็คิดจะกลับไปหลังจากฝึกงาน”
“จะกลับจริงๆใช่ไหม?”
“กลับจริงๆ”
“ไม่ได้หลอกกูนะ”
“อื้อ อ้ายไม่อยากให้พี่อาทิตย์ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว”เขาเป็ห่วงอีกคนด้วย “กลับไปอยู่ด้วยกันนะ”
อาทิตย์รู้สึกใจชื้นไม่น้อยที่ได้ยินว่าอีกคนพร้อมที่จะกลับไปอยู่ที่กรุงเทพ อย่างน้อยการแอบหนีมาราชบุรีครั้งนี้ก็คุ้มแล้ว งานนิทรรศการจะเริ่มต้นขึ้นอาทิตย์หน้า ถึงเวลานั้นอาทิตย์ก็เตรียมเคลียร์เพื่อจะได้ไปฮันนีมูนกับเดือนอ้ายสักที
ั้แ่แต่งงานมา อาทิตย์ไม่ได้สนใจความรู้สึกของอีกคนเท่าไหร่นักจนกระทั่งตกหลุมรัก อีกคนขึ้นมาจริงๆ ร่างสูงก็อยากใช้หน้าที่สามีได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าเดือนอ้ายจะไม่เคยร้องขอเลยสักครั้งก็ตาม อาทิตย์ก็พร้อมที่จะทำตามที่ภรรยา้า ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไร เขาก็ขออยู่ปกป้องอีกคนต่อไป ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงศัตรูของศิวาลัยเช่นกัน ใครก็ตามที่จ้องทำร้ายเดือนอ้าย อาทิตย์ไม่ไว้ชีวิตแน่ เพราะในตอนนี้โชตินันท์ได้แหลกสลายไปแล้ว