“ฮู้ว!”
ตามแนวที่เขาพุ่งลงมามีลมพัดแรงราวกับมีดกรีดหน้า แต่ิอวี่ที่มีเกราะจักจั่นปีกบางอยู่ก็ไม่ได้รู้สึกเ็ปอะไรเลย
ยอดเขาเซิงหานที่อยู่ด้านหลัง กองหิมะถล่มลงมาทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว น้ำมหาศาลไหลทะลักราวกับปีศาจพุ่งกระโจนมาเพื่อกลืนกินตัวของเขา
แต่ิอวี่ตกลงมาเร็วมากและเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย!
ูเาเบื้องล่างขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในสายตาของเขา ิอวี่เป็ดั่งดาวตกที่กำลังตกลงไปข้างล่างผ่านกระแสอากาศที่ไร้รูปลักษณ์
จากความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ หากตกลงไปด้านล่างถ้าไม่ตายก็จะต้องาเ็สาหัสแน่ แต่พอลงไปถึงกลางทาง ิอวี่กลับพลิกตัวกลางอากาศแล้วใช้เท้าแตะไปที่กลางอากาศอย่างแรง
ิอวี่เหยียบอากาศจนกระจายกลายเป็วง ราวกับว่ากำลังเหยียบกระดานไม้แข็งอยู่ เขาใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งเพื่อลดความเร็วในการตก จากนั้นก็ตกสู่พื้นในรูปแบบแนวทแยงมุม
และการดีดตัวกลางอากาศนั้น มันก็คือทักษะการต่อสู้หลิงระดับสูง เท้าแตะเมฆา!
เมื่อครึ่งเดือนก่อน ิอวี่ก็สามารถดีดตัวกลางอากาศได้หนึ่งครั้งแล้ว ดังนั้นเขาถึงได้มีความมั่นใจว่าเขาสามารถตกลงมาจากเขาสูงหมื่นฟุตได้
หิมะด้านหลังของเขาถึงแม้จะถล่มลงมาอย่างหนัก แต่กลับไม่ได้เปื้อนเสื้อผ้าของิอวี่เลยแม้แต่น้อย เพียงแต่จะลำบากผู้ฝึกยุทธ์ที่กำลังปีนผาอยู่ที่ต้องถูกหิมะทับ แต่พวกเขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง คงไม่มีอันตรายถึงชีวิต
“ยังเหลือเวลาอีก ... สิบวัน”
หิมะด้านหลังถล่มลงมาอย่างหนักจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่ิอวี่ไม่หันกลับไปมองเลยแม้แต่นิดเดียว เขารีบวิ่งตรงไปข้างหน้า เหลือเวลาให้เขาได้เดินทางน้อยมากแล้วจึงต้องรีบกลับไปยังวังหลวง!
เมื่อครู่ิอวี่ได้ประเมินดูแล้ว นับั้แ่เวลาที่เขาออกมาจากวังหลวงนั้นผ่านไปแล้วห้าสิบวัน เพราะฉะนั้นเหลือเวลาให้เขากลับไปที่วังหลวงแค่สิบวันเท่านั้น
ตอนที่ิอวี่เดินทางมาถึงยอดเขาเซิงหานมันก็ผ่านไปแล้วประมาณครึ่งเดือน หรือก็หมายความว่า เขาจะต้องเร่งฝีเท้าของเขาให้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ถึงจะสามารถเดินทางกลับไปร่วมงานประลองของราชสำนักในวังหลวงได้ทัน!
ิอวี่วิ่งไปตามเส้นทางของูเาหิมะ ตอนนี้บนพื้นมีลมหนาวแรงมาก แต่ก็ไม่มีผลอะไรกับเขาเลย เมื่อบวกกับเวลาพักผ่อนด้วยก็เท่ากับว่าตอนนี้เขาวิ่งมาแล้วประมาณสองวัน
จากนั้น ิอวี่ก็ใช้เงินไปอีกสามแสนเหรียญหยกดำซื้ออสูรระดับสามมาหนึ่งตัวนั่นคือ ม้าพายุ แล้วควบมันมุ่งหน้าตรงไปยังวังหลวงทันที
ตอนที่อยู่เมืองเสวี่ยเยวี่ย ิอวี่เลือกนั่งรถม้าลมกรดก็เพื่อหลบเลี่ยงการถูกไล่สังหาร แต่ตอนนี้เขาจำเป็ต้องรีบกลับไปยังวังหลวงให้เร็วที่สุด
หลังจากมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกระดับกระชากิญญา ิอวี่ก็มีพลังเพิ่มขึ้นอีกมาก เขาไม่หวาดกลัวอีกต่อไปแล้ว เขาไม่จำเป็ต้องหลบเลี่ยงอีกต่อไป
“ย่ะ!”
ค่ำคืนมืดมิดลมแรง ิอวี่ควบม้าพายุอย่างรวดเร็วบนถนนที่รกร้าง ตอนนี้ใกล้ครบสิบวันแล้ว อีกแค่สามวันเขาก็จะสามารถกลับไปถึงวังหลวงได้แล้ว
ตลอดทางมีเพียงเสียงฝีเท้าม้าวิ่งควบอยู่ แต่ก็มีลมปราณที่ไร้ร่องรอยตามิอวี่มาด้วย พวกเขาเหมือนกับิญญาที่ตามติด ไม่ว่าิอวี่จะเร่งฝีเท้าให้เร็วมากแค่ไหน พวกเขาก็ตามมาทันอยู่ดี
ไม่นานนัก ิอวี่ก็มาถึงทางตัน ตรงนี้มันเป็กำแพงที่ไม่มีทางให้ไปต่อได้
ิอวี่กระตุกเชือก ม้าพายุก็หยุดลงและหันหลังกลับมาอย่างเชื่อฟัง
ผ่านไปไม่กี่อึดใจ ก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากทางด้านข้าง
“อิอิ ... ”
เมื่อมองไปตามเสียงก็เห็นผู้ชายวัยกลางคนปิดตาอยู่บนหลังคา มือขวาของชายคนนั้นถือกระบี่สีดำ ส่วนด้านซ้ายของเขานั้นว่างเปล่า
คนคนนี้ ก็คือคนที่ิอวี่ตัดแขนซ้ายของเขาไปในวันนั้น นักรบเื ม่อ!
ในเวลานี้ ที่หลังคาอีกฝั่งหนึ่งก็มีชายอีกสองคนปรากฏตัวขึ้น รูปร่างของพวกเขาไม่แตกต่างกับม่อเท่าไร คือมีรูปร่างผอมสูงเห็นกระดูก แต่ว่าพวกเขาทั้งหมดมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดกันทั้งหมด!
คนด้านซ้ายปิดตาซ้ายข้างหนึ่ง มีรอยดาบฟัน ตาขวามีสีแดงราวกับสีเืดูดุร้ายมาก บนหัวไหล่ซ้ายของเขาก็มีลายปักคำว่า “จง” เอาไว้ ส่วนมือขวาของเขามีโซ่สีดำและกำลังควงโซ่นั้นอยู่กลางอากาศ
คนทางขวามีดวงตาที่ยาวรี รูม่านตาของเขาเปล่งแสงเย็นะเืออกมา บนมือทั้งสองข้างของเขาสวมถุงมือที่ติดกรงเล็บเหล็กเอาไว้ มีตะขอเหมือนเอาไว้กระชากิญญาของเขา แล้วที่ด้านหลังเสื้อของเขานั้น ก็มีคำว่า “จง” ปักอยู่เหมือนกัน
คนที่ถือโซ่มีชื่อว่าคู ส่วนคนที่สวมกรงเล็บเหล็กนั้นมีชื่อว่าโยว!
ในเวลานี้ ม่อ คู โยว นักรบเืของหอว่านจงถึงสามคนมารวมตัวกันอยู่ตรงนี้
“ในที่สุดเ้าก็รู้สักทีนะว่าหนีไม่รอดแล้ว จำไว้ มันคือชะตาของเ้า” ม่อยังคงเสียบแหบแห้งเหมือนเดิม เขามองมายังิอวี่ที่อยู่บนถนน น้ำเสียงเ็าอย่างมาก
คูที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นมาว่า “หอว่านจง้าปลิดชีพใคร ไม่เคยต้องเอาตัวรอดไปวันๆ วันนี้ เ้าตายแน่”
ส่วนคนสุดท้ายอย่างโยวไม่พูดเลยแม้แต่คำเดียว เขานิ่งมาก ในฐานะนักฆ่า เขาเป็แค่เครื่องมือสังหารเท่านั้น เขาทำเป็แค่สังหารเป้าหมายให้ตายเร็วที่สุดเท่านั้น หลังจากที่เป้าหมายของเขาตายก็จะจากไปในทันที
เพราะเื่ของหนึ่งเดือนก่อน ทำให้หอว่านจงต้องส่งคูกับโยวมาด้วย เพราะ้าฆ่าิอวี่ให้ตายให้ได้ เพื่อไม่ให้เขามีโอกาสใดๆ อีก
ปกติแล้ว การเจอนักรบเืคนหนึ่งก็เหมือนเจอเทพมรณะมาจุติ แต่ในเวลานี้มีนักรบเือยู่ถึงสามคน บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยจิตสังหาร มันสามารถฆ่าคนให้ตายได้เลย
แต่ิอวี่กลับะโลอยตัวขึ้นบนหลังม้าพายุ และยืนอยู่บนหลังม้า จากนั้นก็พูดว่า “ไร้ผู้คน ที่นี่เหมาะมากที่จะฆ่าคน”
“ถูกต้อง” ม่อมองไปที่ิอวี่แล้วยิ้มแสยะ ครั้งที่แล้วถูกิอวี่ฟันแขนซ้ายขาดไป เขาได้รับความอัปยศอย่างมาก เขารู้ว่าิอวี่มีพร์สูงมาก ดังนั้น เขาไม่มีทางยอมให้ิอวี่พัฒนาเติบโตต่อไปได้อีก วันนี้ิอวี่จำเป็ต้องตายเท่านั้น!
ิอวี่กลับยิ้มแล้วพูดว่า “ที่ข้าหมายถึง คือฆ่าเ้านะ”
ที่จริงิอวี่รู้อยู่แล้วว่านักรบเืสามคนตามเขามา ดังนั้น เขาถึงตั้งใจเดินทางมายังที่เงียบสงบไร้ผู้คนแบบนี้!
“ไม่รู้จักที่ตายซะแล้ว”
ม่อคำรามเสียง ลมปราณพลุ่งพล่านขึ้นมา จากนั้นก็ะโลงมาจากหลังคาแล้วพุ่งแทงกระบี่มาที่ิอวี่ เขาเหมือนกับเป็หนึ่งเดียวกับยามวิกาล กระบี่กุ่ยเจี้ยนของเขานั้นมืดเหมือนกับความมืดมิด พุ่งโจมตีอย่างไร้เสียงมาตรงหน้าของิอวี่
“ิญญา”
วินาทีที่ม่อลงมือ ิวี่ก็นำน้ำจากบ่อศักดิ์สิทธิ์ในหัวใส่ไปที่จุดเซินถิง ััแห่งิญญาของเขาถูกเปิดออกในทันที
กระบี่กุ่ยเจี้ยนที่รวดเร็วอย่างมาก เมื่ออยู่ตรงหน้าของิอวี่มันกลับช้าลงไปหลายเท่า ิอวี่เอียงหัวไปเล็กน้อย ตัวเฉียดผ่านหน้ากระบี่ไป
ม่อรู้สึกงงมากแต่ก็พลิกกระบี่กุ่ยเจี้ยนในมือ แล้วฟันใส่ิอวี่อีกครั้ง แต่ิอวี่ก็ยังหลบไปได้อีก
ไม่ว่ากระบี่กุ่ยเจี้ยนของม่อนั้นจะทางทะลุหรือมุดไปมุมไหน ิอวี่ก็เหมือนจะรู้ล่วงหน้าไปหนึ่งก้าว เขาสามารถหลบได้ในทุกครั้ง ไม่กี่อึดใจเขาก็ปล่อยไปแล้วห้ากระบวนท่า แต่ไม่มีกระบวนท่าไหนที่สามารถทำอันตรายิอวี่ได้เลย
“การเคลื่อนไหวของเ้ามันช้าเกินไปแล้ว”
ิอวี่หลบกระบี่ของม่อได้อีกครั้ง จากนั้นก็ซัดหมัดที่เต็มกำลังไปบนตัวของม่อ ทำให้เขากระเด็นไปไกล
“เ้า!”
ม่อตกตะลึงอย่างมาก เมื่อหนึ่งเดือนก่อน ิอวี่ใช้กระบี่ต่อหน้าเขายังต้องระวังและรับมืออย่างทุลักทุเลอยู่เลย แต่ตอนนี้เขากลับสามารถหลบกระบี่ของเขาได้อย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า มันเหลือเชื่อเกินไป!
แต่ว่า ม่อกลับยิ้มมุมปาก เพราะคูกับโยวฉวยโอกาสลอบโจมตีขนาบข้างเข้ามา
คูฟาดโซ่เหล็กในมือออกมา มันพุ่งรัดไปยังมือซ้ายของิอวี่ราวกับอสรพิษในทันที
เมื่อิอวี่หันกลับไปมอง โยวก็กำลังกางกรงเล็บพุ่งเข้าใส่เขา เขาทำมือเป็รูป “ไม้กางเขน” ราวกับว่ากรงเล็บของเขานั้นจะฉีกท้องไส้ของิอวี่จนขาด เพื่อให้เขาตายในกระบวนท่าเดียว!
“กางแขนสีเื”
“พัวะ”
กระบี่เฟิงโหวในมือของิอวี่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง คมกระบี่ยังไม่ทันได้ชักออกมา ฝักกระบี่ก็ชนเข้ากับกรงเล็บเหล็กอย่างรุนแรงแล้ว
ได้ยินแค่เสียงะเิ อากาศก็เริ่มเปลี่ยนแปลง ลมปราณของทั้งสองฝ่ายะเิตัวออกจนพื้นแตกเป็รอย กำแพงทั้งสองข้างถนนะเืจนเป็รูและถล่มลงมา
แต่ว่า ฝักกระบี่ในมือของิอวี่กลับสามารถต้านกางเขนสีเืเอาไว้ได้ อย่าลืมว่า ตอนนี้ิอวี่มีพลังเทียบเท่ากับราชสีห์สองพันตัว แต่พลังของโยวนั้นเทียบเท่าแค่ราชสีห์หนึ่งพันตัวเท่านั้น แล้วจะสู้ิอวี่ได้อย่างไรกัน!
“ไสหัวไป”
ิอวี่ใช้เท้าขวาถีบจนโยวกระเด็นไป จากนั้นก็ใช้มือซ้ายกระชากคูมา
คูตกตะลึงอย่างมากเพราะบนโซ่มีพิษที่ร้ายแรงอยู่ คนทั่วไปเมื่อแตะถูกเพียงเล็กน้อยิัก็เน่าเปื่อยแล้ว แต่ิอวี่กลับไม่เป็อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่เขาจะไปรู้ได้อย่างไรกันล่ะว่าเป็เพราะเกราะจักจั่นปีกบางของิอวี่ เขาจะไปกลัวพิษกัดกร่อนได้อย่างไรกัน?
ประสบการณ์การต่อสู้กับลางสังหรณ์บอกกับคูว่าจะให้ิอวี่กระชากตัวเขาไปไม่ได้ เขาเลยทิ้งโซ่ในมือของเขาในทันทีแล้วะโถอยหลังไป แต่ิอวี่ฟาดโซ่กลับไปเพราะ้าให้คูตกลงมาจากกลางอากาศ จนพื้นเป็หลุมขนาดใหญ่
แต่ในเวลานี้เอง ก็มีเสียงคำรามแหบแห้งแหลมดังขึ้นมาจากด้านหลัง ม่อจับจังหวะ แล้วลอบโจมตีมาจากด้านหลังอีกครั้ง
“ิอวี่ ตายใต้กระบี่ร้องไห้ของข้า มันถือเป็เกียรติอันสูงสุดของเ้าแล้ว!”
“อย่างนั้นหรือ?”
ิอวี่หันหลังกลับแล้วชักกระบี่เฟิงโหวออกมา จากนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังออกมาจากกระบี่ แสงเจิดจ้าที่เ็ามีความเร็วใกล้เคียงกับความเร็วของเสียงถูกแทงออกไป
ชั่วพริบตา พลังอันมหาศาลที่ไม่อาจต้านทานได้ก็พุ่งปะทะเข้ามา ทำให้กระบี่กุ่ยเจี้ยนะเิและแตกออกเป็เสี่ยงๆ
กระบี่ในมือของิอวี่ฟันมาที่แขนขวาของม่อ เืสาดเต็มพื้นไปหมด!
“ไม่!”
ม่อร้องออกมาด้วยความเ็ป ตอนนี้เขาแขนขาดทั้งสองข้างแล้ว เขากลายเป็คนแขนด้วน! ม่อคุกเข่าลงกับพื้น ตัวสั่นไปทั้งตัว สายตาของเขาเลื่อนลอย ตอนนี้เขากลายเป็คนพิการจริงๆ แล้ว!
“นี่ คือเพลงกระบี่ร้องไห้ที่แท้จริงเลยสินะ”
เสียงของิอวี่ดังขึ้นมาในหูของม่อ มันคล้ายกับถูกน้ำสาดใส่หน้าทำให้สติของเขาแตกกระเจิง กระบี่ร้องไห้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา แต่ตอนนี้ิอวี่เรียนมันแค่เดือนเดียวก็สามารถเอาชนะเขาที่เรียนมันกว่าสิบปีได้แล้ว มันทำให้ม่อรู้สึกว่ารับความจริงเื่นี้ไม่ได้เลย
ม่อคิดว่ามันเป็เพลงกระบี่ที่แข็งแกร่งมากที่สุด แต่กระบี่ของิอวี่รวดเร็วกว่าเขาหลายเท่า โเี้มากกว่าเขาหลายเท่า จิติญญาแห่งกระบี่ก็แข็งแกร่งมากกว่าเขาหลายเท่า เขาเข้าใจแล้วว่าพร์ของิอวี่เหนือกว่าเขาจริงๆ แม้แต่เคล็ดลับสิบหน้าสุดท้ายของ “เพลงกระบี่ร้องไห้” ที่เขาศึกษาทำความเข้าใจมาเป็สิบปี ิอวี่ก็เรียนรู้ได้หมดเลย!
วินาทีที่ิอวี่แทงกระบี่เข้าใส่ม่อ ความภูมิใจในกระบี่ของม่อก็แตกสลายหายไปจนหมด!
“อ๊า!”
ม่อเองก็ทนรับความกระทบกระเทือนจิตใจแบบนี้ไม่ได้ เขาพยายามออกแรงเอาหัวโขกกับพื้น อยากจะโขกให้ตายไปเลย
พอเห็นม่อที่ไร้เรี่ยวแรง ิอวี่ก็อดขำไม่ได้
ตอนนั้นม่อเคยบอกก่อนจะหนีไปว่าจะทำให้เขาตายอย่างอนาถ แต่กลายเป็ว่าวันนี้เขากำลังเอาหัวโขกพื้นให้ตาย ตายอย่างอนาถและน่าสมเพชด้วย
แต่ทุกอย่างนี้ม่อทำตัวเองทั้งนั้น หากไม่ใช่เพราะม่อ เฮยจีก็คงไม่าเ็หนัก ิอวี่ก็ไม่ต้องคุ้มกันเฮยจีอย่างตื่นกลัวแบบนั้น พูดได้เลยว่า ทุกอย่างมันเป็กรรมตามสนอง
แต่ว่า คนที่สั่งการอยู่เื้ัของม่ออย่างพระสนมหลี่ต่างหาก ที่เป็คนร้ายที่แท้จริง!
ิอวี่หันแล้วเดินไปหาคูกับโยวที่าเ็หนักที่พื้น พวกเขามองมาที่ิอวี่ด้วยความตื่นกลัว ราวกับว่ามีเทพมรณะกำลังจะมาปลิดชีพพวกเขา! ิอวี่ไม่ลังเลใจเลยที่จะปาดคอของคูกับโยวที่กำลังตื่นกลัว จากนั้น ิอวี่ก็นำศพของนักรบเืทั้งสามคนเก็บใส่ถุงเก็บของไป
นักรบเืทั้งหมดหนึ่งร้อยแปดคนของหอว่านจงมีคนดูแลที่แตกต่างกันออกไป ม่อ คู และโยวอยู่ในสังกัดของใคร ขุนนางชั้นสูงของราชวงศ์รู้กันดี
เดิมทีิอวี่กำลังเครียดเลยว่าไม่มีหลักฐาน แต่ตอนนี้ เขามีศพเป็หลักฐานสำคัญที่สามารถเอาผิดพระสนมหลี่ที่คิดจะสังหารเขาได้แล้ว!
ิอวี่กลับขึ้นไปบนหลังม้า และหายไปจากถนนทางตันนี้ในทันที
งานประลองยุทธ์ของราชสำนักที่จะเกิดขึ้นในอีกสามวัน ที่จะมีเหล่าผู้กล้าจำนวนมากมารวมตัวกันโดยมีเยี่ยซีเป็ตัวเด่นของงานนี้ งานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกำลังจะเปิดฉากขึ้น องค์ชายสิบเจ็ดที่ถูกมองว่าเป็คนไม่เอาถ่าน กำลังจะกลับไปแล้ว ...
ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว!