“ก็ได้สโมสรหวงเจียก็ได้ ไปกันเถอะ!” จ้าวหลิงเซียนมีความสุขขึ้นมาทันทีและออกจากคฤหาสน์
เธอใช้ฉินเฟิงเป็โล่เพื่อที่จะได้ลงโทษเขาเธออยากจะให้เขาชดใช้ที่เขายกเลิกหมั้นและบังคับจูบเธอ
ตระกูลเหลียงแห่งเมืองหลวงไม่ใช่ตระกูลธรรมดาจ้าวหลิงเซียนตื่นเต้นที่คิดถึงความเป็ไปได้ว่าชายสองคนนี้จะสู้กัน
ผู้หญิงนี่เป็สัตว์ที่อันตรายจริงๆ!
“ไอ้หนูแกไปได้แล้ว ฉันจะไปกินมื้อค่ำใต้แสงเทียนกับคุณจ้าวหลิงเซียนดังนั้นมาทางไหนไปทางนั้น” เมื่อพวกเขาออกจากคฤหาสน์เหลียงเซิงก็ทิ้งคราบสุภาพบุรุษออกและมองฉินเฟิงอย่างนักเลง
เหลียงเซิงอายุแค่ 21ปีเขาเด็กที่สุดในรุ่นเยาว์ของตระกูลเหลียงที่อยู่เมืองหลวง เขาอายุพอๆ กับฉินเฟิงในเมืองหลวงเขามีพี่ชายอีก 2คนที่ดูแลเขาดังนั้นเขาจึงไม่เกรงกลัวกฎหมายใดและไม่มีอะไรที่เขาไม่กล้าทำ
ก่อนหน้านี้ เขายับยั้งชั่งใจต่อหน้าจ้าวต้าไห่เนื่องจากเขายังต้องทำตัวมีมารยาทต่อหน้าพ่อตาในอนาคต ทว่าเขารอไม่ไหวแล้วที่จะอัดฉินเฟิง
แกกล้าเสนอหน้ามาหานายน้อยเหลียงผู้นี้เหรอ? คนที่กล้าทำแบบนี้ไม่เคยมีใครรอดชีวิตมาก่อน
“น่าเสียดายคืนนี้ฉันก็ชวนหลิงเซียนไปเดทเหมือนกัน ดังนั้นคนที่จะไปควรเป็นายมากกว่ามั้ง”ฉินเฟิงไม่ได้โกรธแต่ยิ้มอย่างสงบให้กับเหลียงเซิงแทน
ความโกรธส่องประกายขึ้นในดวงตาของเหลียงเซิงถ้าพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงและมีคนกล้าพูดกับเขาอย่างนี้ละก็คงโดนตบไปนานแล้ว
อย่างไรก็ตาม ที่นี่คือเมืองเว่ยเฉิงและจ้าวหลิงเซียนก็ยืนอยู่ด้วยเขาจึงไม่สามารถใช้กำลังกับฉินเฟิงได้และพูดเสียงขรึม “ไอ้หนูมันมีคนที่แกไม่ควรหาเื่อยู่นะ ไม่งั้นแกจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตายยังไง”
“ฮ่าๆงั้นเหรอ? อยากลองจัง” ฉินเฟิงไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อยเขายิ้มอย่างแจ่มใสแทน
ในเมืองเว่ยเฉิง ไม่ใช่ทุกคนที่ควรจะหาเื่
เหลียงเซิงประเมินฉินเฟิงอีกครั้งอย่างอดไม่ได้เขามีเื้ัแบบไหนถึงยังสามารถสงบใจได้อยู่? หลังจากเงียบไปนานเขาก็ถาม“ไอ้หนู แกมีความสัมพันธ์ยังไงกับจ้าวหลิงเซียน?”
“เหลียงเซิงเขาเป็แฟนของฉัน วันนี้คุณเห็นเขาแล้วดังนั้นยอมแพ้ไปได้แล้ว”ก่อนที่ฉินเฟิงจะพูด จ้าวหลิงเซียนก็เข้ามากอดแขนเขาและมองเหลียงเซิงอย่างเ็า
คนคนนี้อาศัยภูมิหลังของตระกูลเหลียง ทั้งหยิ่งและผยองจ้าวหลิงเซียนไม่ชอบเขาสักนิด
ในทางกลับกันฉินเฟิงเป็ลูกชายเพียงคนเดียวของคนที่รวยที่สุดในเมืองเว่ยเฉิงเขาไม่ได้ทำตัวเหมือนกับคุณชายผู้สูงศักดิ์เลยสักนิด
จ้าวหลิงเซียนเริ่มเทียบผู้ชายทุกคนที่เธอเจอกับฉินเฟิงโดยไม่รู้ตัว
รอยยิ้มของเหลียงเซิงหายไปและใบหน้าก็บึ้งตึง “ฮ่าๆๆ คุณจ้าวถ้าผมพูดถูกมันน่าจะเป็แค่เพื่อนธรรมดามากกว่า ถ้าคุณคิดกับมันแค่เพื่อนจริงก็อย่าพยายามหลอกผมเลย คุณก็รู้นิสัยของผมดีใครหน้าไหนที่ขโมยผู้หญิงของผมมันจบไม่สวยแน่”
“จะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจไปกันเถอะ อย่าไปสนใจเขาอีกเลย” จ้าวหลิงเซียนรู้สึกโกรธมากจากคำขู่พวกนั้นและเธอก็ดึงฉินเฟิงไปด้วยขณะที่เดินออกไป
เหลียงเซิงหัวเราะเ็าทันที “คุณจ้าวถ้าคุณแน่ใจว่าจะไปกับไอ้เด็กนี่ล่ะก็ ผมจะถามอาจ้าวว่าเขาเป็แฟนของคุณจริงๆหรือเปล่า”
จ้าวหลิงเซียนหยุดเดินทันที เธอไม่ยอมให้เขาไปถามพ่อของเธอแน่นอนถ้าเขาไปถามละก็คงจะทำให้พ่อของเธอและลุงหวงใตายแน่นอน
“คุณ้าอะไร?” จ้าวหลิงเซียนพูดด้วยความโกรธขณะที่จ้องเหลียงเซิง
“ก็ไม่มีอะไรมากไม่ใช่ว่าคุณจ้าวพูดเองเหรอว่าจะไปสโมสรหวงเจียกับผม? คุณจะทำเป็ลืมไม่ได้นะ”
รอยยิ้มสุภาพบุรุษปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเหลียงเซิงอีกครั้งเขาเปิดประตูรถขณะกล่าว “ถ้าไม่รังเกียจ เชิญครับคุณจ้าว ปอร์เช่ 911 ของผมนั่งได้แค่ 2คน ส่วนเพื่อนของคุณถ้ามันอยากตามมาก็ให้โบกแท็กซี่ไปแล้วกันแต่ไปถึงก่อนผมหน่อยก็ดีนะ เพราะมันต้องเป็ VIP เท่านั้นถึงจะเข้าสโมสรหวงเจียได้หากว่ามันไปช้า มันคงจะทำได้แค่นั่งยองๆ อยู่ข้างนอกและได้กินลมเป็มื้อค่ำแทน”
ฉินเฟิงเนี่ยนะจะเข้าสโมสรหวงเจียไม่ได้? จ้าวหลิงเซียนเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆๆไม่ต้องห่วงหรอกคุณเหลียง พอดีผมมีรถส่วนตัว” ฉินเฟิงยิ้มอย่างใจเย็นอีกครั้งเขาเอื้อมมือไปหาจ้าวหลิงเซียงที่อยู่ข้างๆ และกล่าว “หลิงเซียนถ้าเธอไม่ชินกับการนั่งรถสปอร์ตเธอจะมานั่งรถส่วนตัวกับฉันก็ได้นะ”
“โอเค”จ้าวหลิงเซียนตกลงที่จะไปกับฉินเฟิงโดยไม่หยุดคิด
ทว่าเมื่อเธอมาถึงที่รถส่วนตัวของฉินเฟิงจ้าวหลิงเซียนก็ต้องตกตะลึง
มันคือจักรยานเก่าๆ โทรมๆสมัยยุคพระเ้าเหากับล้อเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 28 นิ้วซึ่งมันสามารถพินิจให้เป็วัตถุโบราณได้เลยอาจจะเป็ไปได้ว่ามีใครทิ้งมันเอาไว้
“ฉินเฟิงไว้หน้าตัวเองสักหน่อยนะ ตลอดมานายพยายามจะทำตัวเท่กับแบทโมบิลของนายที่มหา’ ลัยนี่นายจะทำให้ฉันดูเหมือนคนบ้าหรือไง?”จ้าวหลิงเซียนแอบหยิกเอวของฉินเฟิงอย่างแรงและเกือบจะกระทืบเท้าด้วยความโกรธ
ก่อนหน้านี้เหลียงเซิงโกรธเต็มที่แต่เมื่อเห็นรถส่วนตัวของฉินเฟิง เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างช่วยไม่ได้“ไอโย้...ว้าว...จัสว้าวเลย คุณจ้าวเพื่อนคุณนี่เป็คนที่ตลกที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยผมว่าคุณคงจะขึ้นปอร์เช่ของผมใช่ไหม?ถ้าคุณขึ้นจักรยานนั่นคุณอาจจะได้กินอาหารเบาๆตอนเที่ยงคืนแทนนะ ฮ่าๆๆ!”
เหลียงเซิงมองฉินเฟิงอย่างกับคนบ้ามีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่อยากจะแข่งกับปอร์เช่ของเขาด้วยจักรยาน 28 นิ้ว
เขารู้สึกยินดีมากและอาจจะเป็ไปได้ที่เห็นจ้าวหลิงเซียนตบฉินเฟิงด้วยความโกรธแล้วก็มาขึ้นปอร์เช่ของเขา
“คุณไปก่อนเลยฉันชอบนั่งจักรยานเล่นยามค่ำ มันจะรู้สึกถึงลมเย็นๆ ที่ปะทะผิวและเป็มิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย”ในขณะที่เหลียงเซิงยังจินตนาการอยู่ จ้าวหลิงเซียนพูดอย่างเ็าทำให้เขาอึ้ง
“ใช่แล้วจักรยานนั้นสะดวกสบายมาก ไม่จำเป็ต้องเติมน้ำมัน ไปไหนก็ได้ที่อยากไปขึ้นมาสิหลิงเซียน พี่จะพาไปขี่รถเล่นชิลๆ” ฉินเฟิงกล่าวขณะหัวเราะและมองไปที่เหลียงเซิง
จ้าวหลิงเซียนอาจจะไม่เคยขี่จักรยานมาก่อนหลังจากที่เธอขึ้นก็เซอย่างช่วยไม่ได้จนในที่สุดฉินเฟิงต้องต้องใช้แขนโอบกอดเธอจากด้านหลังเพื่อให้จักรยานมั่นคง
เมื่อรู้สึกถึงฉินเฟิงที่อยู่ใกล้จ้าวหลิงเซียนก็อดที่จะนึกถึงตอนที่พวกเขาจูบกันแบบเร่าร้อนอย่างช่วยไม่ได้ใบหน้าของเธอแดงก่ำ โชคดีที่มันค่อนข้างมืดจึงเห็นไม่ค่อยชัด
“คุณเหลียงเราขอตัวไปก่อนนะ คุณควรจะขับเร็วๆ ล่ะไม่งั้นเราจะหาอะไรทำโดยที่ไม่รอคุณนะถ้าช้าเกินไป”ฉินเฟิงเริ่มถีบจักรยานขณะที่รู้สึกถึงเอวผอมเพรียวของจ้าวหลิงเซียนและออกไปอย่างมีความสุข
นี่เป็ครั้งแรกที่เขาขี่จักรยานด้วยเหมือนกันตอนแรกเขาก็ควบคุมได้ไม่ค่อยดีจึงส่ายไปส่ายมาค่อนข้างแรงทำให้จ้าวหลิงเซียนกรี๊ดออกมาและหยิกเขาหลายครั้ง อย่างไรก็ตามฉินเฟิงเรียนรู้ได้เร็วและขี่อย่างมั่นคงกับจ้าวหลิงเซียนท่ามกลางสายลมยามเย็น
เมื่อเห็นทั้งสองหายไปอย่างช้าๆเหลียงเซิงก็โกรธจนอยากจะขับรถชนฉินเฟิงและฆ่ามัน
เขาด่าในใจไปเรื่อยๆ แกอยากจะไปถึงก่อนด้วยจักรยานเก่าๆซอมซ่อนั่นอ่ะนะ หัวแกคงโดนลิงเตะจนกระทบกระเทือนแน่ๆ และต่อให้แกถึงก่อนแล้วยังไง? ไม่มีบัตร VIPแกก็ยังต้องรอให้พ่อพาแกเข้าไปอยู่ดี...
“กรี๊ด...ฉินเฟิง อะไรมันอยู่ข้างล่างนายน่ะ?มันทั้งแข็งและกำลังทิ่มก้นฉันอยู่เนี่ย”หลังจากออกจากบ้าน จ้าวหลิงเซียนก็พบบางอย่างแปลกๆเธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับบางอย่างแข็งๆ ที่กำลังทิ่มก้นเธออยู่
เธอเอื้อมมือจะขยับมันออกไป แต่เมื่อมือของเธอัักับมันมันทำให้เธอถึงกับแข็งทื่อเหมือนิญญาออกจากร่าง
อื้ม! ฉินเฟิงครางออกมาอย่างมีความสุข
“กรี๊ด...ฉินเฟิงหยุดรถเดี๋ยวนี้ ฉันจะลงแล้ว! ฉันจะฆ่านาย ไอ้สัตว์ป่า ไอ้บ้ากาม! กรี๊ด...!”จ้าวหลิงเซียนเริ่มคลั่งและดิ้นอย่างเกรี้ยวกราดจักรยานเซไปเซมาอย่างแรงและพวกเขาเกือบจะชนตั้งหลายครั้ง
ฉินเฟิงก็รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย เขารีบปลอบเธอให้ใจเย็นลง“น้องหลิงเซียน หยุดทำตัววุ่นวายได้แล้ว ยิ่งเธอดิ้นแบบนี้มันคงอีกนานกว่าจะสงบลง”
จ้าวหลิงเซียนหยุดขยับทันทีและนั่งอยู่เฉยๆสองนาทีที่รู้สึกราวกับสองศตวรรษ แต่อย่างไรก็ตามเ้าสิ่งนั้นก็สงบลง
ค่ำคืนที่จอแจปรากฏต่อสายตาของพวกเขา ลมเย็นๆจากแม่น้ำพัดผ่านจ้าวหลิงเซียนรู้สึกเหมือนได้กลับไปสู่วัยเด็กอีกครั้งตอนที่แม่ของเธอขโมยเงินทั้งหมดและออกจากตระกูลจนครอบครัวเกือบหมดตัว
ใน่ระหว่างนั้นพ่อของเธอก็ขี่จักรยาน 28 นิ้ว แบบนี้ไปส่งเธอที่โรงเรียนแม้ว่าพวกเขาจะโดนหัวเราะเยาะบ่อยๆ จากพวกลูกคนรวยจ้าวหลิงเซียนก็เก็บความทรงจำล้ำค่านั้นเอาไว้เพราะว่ามีแค่ตอนที่ไป-กลับจากโรงเรียนเท่านั้นที่เธอใช้เวลาอยู่กับพ่อของเธอเธอรู้สึกสบายใจและปลอดภัยขณะที่นั่งกับพ่อของเธอ
“น้องหลิงเซียนเธอจะหลับไม่ได้นะรู้ไหม?” ฉินเฟิงรู้สึกแปลกนิดหน่อยหลังจากที่เห็นว่าจ้าวหลิงเซียนเงียบลงหลังจากทำตัววุ่นวายตลอดทั้งการเดินทาง
“ฉินเฟิงในอนาคตนายยังจะพาฉันซ้อนจักรยานของนายด้วยหรือเปล่า?” จ้าวหลิงเซียนสับสนกับตนเองและไม่อาจมองเห็นใบหน้าที่มีความสุขของเธอหลังจากที่พูดจบ แม้แต่ตัวเธอเองก็ใ
เธอพบว่าตนเองค่อยๆ เริ่มพึ่งพาฉินเฟิง
“แน่นอนตราบใดที่เธอไม่กลัวว่าจะมีอะไรแข็งๆ ทิ่มก้นเธอละก็ ฉันก็ไม่มีปัญหา”ฉินเฟิงแกล้งหยอกล้อ
จ้าวหลิงเซียนก็เริ่มะโและหยิกขาฉินเฟิงหลายๆครั้งก่อนที่จะพูดว่า “ฉินเฟิง ขับให้เร็วกว่านี้ได้ไหม?”
“ไม่มีปัญหา”
หลังพูดจบเขาก็เริ่มเร่งความเร็วหลังจากก้าวข้ามขั้นหนึ่งและกินยาเสริมพลัง ร่างกายของฉินเฟิงก็แข็งแกร่งขึ้นมาก
เขาเร่งความเร็วจนขาของเขาเบลอเป็ภาพติดตาหลังจากเข้าสู่ขั้นหนึ่ง เขาก็ไม่เคยฝึกร่างกายจริงๆ จังๆ เลยดังนั้นนี่จึงเหมาะสำหรับการฝึกฝนร่างกาย
สายลมเบาๆ แปรเปลี่ยนเป็รุนแรงถ้าไม่ใช่เพราะฉินเฟิงจับกระโปรงของจ้าวหลิงเซียนไว้เธอคงจะรู้สึกเหมือนกำลังจะบินออกไป
ต้นไม้ข้างทางเบลอและหายไปอย่างรวดเร็วแม้แต่รถยนต์ก็ยังถูกแซงไว้ข้างหลังพวกเขาเคลื่อนที่ไวมากและดูเหมือนว่าอากาศจะเคลื่อนที่เร็วจนจ้าวหลิงเซียนหายใจลำบาก
เธอหลับตาอย่างช้าๆและเผยรอยยิ้มที่เบ่งบานออกมาราวกับดอกไม้บานสะพรั่งเธอดูสวยมากจนสามารถทำให้บางคนมึนเมาได้แค่มองเท่านั้น ทว่ามันก็ใช้เวลาแค่ครู่เดียวก่อนจะหายไป
จู่ๆ เธอก็จำหลายสิ่งหลายอย่างในสมัยเด็กได้เธอเป็เด็กโดดเดี่ยวที่โดนแม่ทิ้ง เป็เด็กสาวที่ขาดความอบอุ่นในวัยเด็กเป็เ้าหญิงเ็า เป็คนน่าสงสารที่ถูกยกเลิกหมั้น
เธอนึกถึงความทรงจำสมัยประถมจนถึงตอนนี้และน้ำตาก็ไหลรินออกมาอาบใบหน้ารอบข้างของพวกเขาเงียบสงบและมีแต่เสียงลมเท่านั้น
อย่างไรก็ดี เธอค่อนข้างมีความสุขกับความรู้สึกนี้แม้เธอจะเพิ่งเคยขี่จักรยานแบบนี้ มีฉินเฟิงปั่นและเธอนั่งอยู่ข้างหน้าเขามันก็ไม่ได้รู้สึกแย่มากนักที่ขี่จนกว่าจะหมดเวลาของวัน
อย่างน้อยในตอนนี้เธอก็ไม่ได้รู้สึกเหงาและไม่ได้รู้สึกว่าเธออยู่คนเดียวในโลก