ก่อนหน้านี้เอเลน่าทำ 'สัญญาจ้าง' กับซุนเฟย แต่เหล่าโร้กสาวคนอื่นๆ ต่างทำ 'สัญญามิตรภาพ' กับซุนเฟยซึ่งจะทำให้สถานะของทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกันกับซุนเฟยมากกว่าของเอเลน่า
แม้แต่แม่ชีอาคาร่าก็ยังบังคับให้ซุนเฟยทำ 'สัญญาลูกศิษย์' กับตัวเอง
นั่นหมายความว่า หลังจากนี้ในทุกๆ วัน ซุนเฟยจำใจต้องหาเวลาไปเรียนปรุงน้ำยาและสร้างม้วนคัมภีร์ที่เป็ความรู้ในระดับที่ซับซ้อนกับแม่ชีอาคาร่า ไม่รู้ทำไม ยัยป้าอาคาร่าถึงได้ฝากความหวังไว้กับซุนเฟยนัก นางมักจะหวังว่านักผจญภัยผู้กล้าหาญคนนี้จะสามารถสืบทอดความรู้แปลกๆ (หรือจะบอกว่าประหลาด) ของนางได้
เมื่อส่งทุกคนออกไปจนหมด ซุนเฟยก็หันกลับเข้ามาในห้องโถง
นั่งลงบนเก้าอี้หิน เขายกมือลูบโต๊ะเบาๆ
ในใจของซุนเฟยครุ่นคิดเกี่ยวกับแผนการในอนาคต อาคาร่าและชาร์ซีเป็ NPC ที่สามารถปรุงน้ำยาวิเศษและเทคนิคการหลอมโลหะ หากพวกนางสามารถออกมาอยู่ในโลกแห่งความเป็จริงได้ พวกนางจะมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเมืองแซมบอร์ดในอนาคตแน่ๆ แผนการต่อไป เขาตัดสินใจที่จะคัดเลือกเด็กที่มีพร์ที่เหมาะสมใน 'โรงเรียนแซมบอร์ด' เพื่อให้พวกเขามาเรียนรู้วิชากับอาคาร่าและชาร์ซี ให้พวกเราเรียนรู้เทคนิควิเศษเหล่านี้จากพวกนาง
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า การเรียนรู้ที่ดีจะต้องเรียนรู้ั้แ่เด็ก
แต่เื่นี้ยังไม่ได้มีการพิสูจน์มาก่อน เพราะฉะนั้นซุนเฟยก็อยากพิสูจน์การคาดเดาของตัวเอง ไม่ว่าผลสุดท้ายจะมีปัญหาสำคัญอะไร เขาจะต้องแก้ไขมันให้ได้ หลังจากที่ทำสัญญาวิเศษหลากหลายประเภทพวกนี้ เป็ไปตามที่คาดการณ์ ด้วยการสนับสนุนของพลังเวทตัวเอง เขาสามารถอัญเชิญใครก็ได้ใน 'ค่ายโร้ก' มาที่โลกแห่งความจริงได้ตามใจ
แต่ผู้นำทหารคาเชียและตาเฒ่าเคนกับคนอื่นๆ ก็ไม่ได้มาที่โลกแห่งความจริงครั้งนี้ด้วยกัน เพราะว่าจำเป็ต้องมีคนคอยอยู่ปกป้อง 'ค่ายโร้ก' แม้ว่าลาสบอสอย่างแอนเดเรียของแผ่นดินโร้กจะถูกซุนเฟยสังหารไปแล้ว แต่มอนสเตอร์ชั่วร้ายที่พลัดหลงมาในถิ่นทุรกันดารก็ไม่ได้หายไปด้วยทั้งหมด พลังของพวกมันถูกทำให้อ่อนแอลงก็จริง แต่ก็ยังเป็ภัยคุกคามความปลอดภัยของ 'ค่ายโร้ก' อยู่ดี
เมื่อเรียบเรียงความคิดของตัวเองเรียบร้อย ซุนเฟยก็เปิดประตูมิติกลับเข้าไปในโลก Diablo ใหม่ แต่คราวนี้เขาไม่ได้เลือกตัวละครคนเถื่อน และเมื่อจอโฮโลแกรมสามมิติปรากฏขึ้นตรงหน้า เขาก็เลือกอาชีพที่ยังไม่เคยเล่นมาก่อนนั่นคือ...ดรูอิด
แล้วทำตามแผน ในเวลาไม่กี่วันต่อจากนี้ ซุนเฟยตัดสินใจที่จะใช้เวลาสี่ชั่วโมงเข้าสู่โลก Diablo เพื่อเล่นอาชีพอื่นที่นอกเหนือจากตัวละครคนเถื่อน และจะพิชิตแผนที่ 'ค่ายโร้ก' เพื่อดูว่าหลังจากที่พิชิตแผนที่แผ่นแรกทั้งเจ็ดอาชีพจนหมด จะได้รับของรางวัลจากเสียงลึกลับเ็านั่นหรือไม่
……
ในขณะที่ซุนเฟยเข้าสู่โลก Diablo เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เมืองแซมบอร์ดก็เริ่มคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพิธีขึ้นครองราชย์
บนท้องถนนสามารถมองเห็นแเื่ที่มาจากอาณาจักรอื่นได้ง่าย
ผู้ค้ารายย่อยบางรายไว้ต่อความรู้สึกถึงโอกาสการทำธุรกิจ พวกเขาต่างลากคนในครอบครัวมาสร้างธุรกิจขนาดเล็กๆ กันวุ่นวาย ยิ่งทำให้ในเมืองคึกคักเข้าไปอีก ตลอดเส้นทางของเมืองแซมบอร์ดเต็มไปด้วยเสียงะโเรียกลูกค้าอย่างครึกครื้น ดูมีสีสันมาก ผู้คนสัญจรไปมามากกว่าเดิมถึงหนึ่งเท่า หลังจากที่ผู้คนผ่านเข้ามาจากประตูหลักก็จะเข้าสู่ 'ถนนสีทอง' ที่กว้างขวาง ซึ่งตอนนี้ถนนเส้นนี้เริ่มคับแคบขึ้นมาแล้ว
ในตอนนี้เอง เหล่าสาวๆ แสนสวยต่างดึงดูดความสนใจจากผู้คนเป็จำนวนมาก
บรรดาสาวๆ กลุ่มนี้ นอกจากหญิงสาวคนหนึ่งที่สวมชุดกระโปรงสีม่วงคลุมทั้งตัวและดูไม่คุ้นหน้าคนนี้แล้ว สาวๆ คนอื่นต่างสวมชุดเกราะที่ทำขึ้นอย่างง่ายๆ ซึ่งมันเผยให้เห็นผิวขาวดุจหิมะได้เป็อย่างดี พวกนางแต่งตัวเรียบง่าย และแต่ละคนก็มีใบหน้าที่น่ารักและสวยงามราวกับเอลฟ์สาวกำลังเดินอยู่ท่ามกลางมนุษย์ ท่าทางเหมือนไม่เคยเห็นอะไรมาก่อน เดี๋ยวถามนี่ถามนั่น ท่าทางอยากรู้อยากเห็นบวกกับใบหน้าเยาว์วัยที่ไม่มีท่าทีระมัดระวังตัวช่างดูไร้เดียงสายิ่งนัก ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเหมือนกลุ่มเด็กสาวที่ไม่เคยััโลกภายนอกมาก่อน
บนถนนที่มีผู้คนเดินไปมาก็มีคนไม่น้อยที่มีความคิดอยากจะเข้าไปทัก ทว่าก็ไม่มีใครสักคนกล้าที่จะไปหาเหล่าเทพธิดาน้อยกลุ่มนั้น
เหตุผลง่ายๆ
เหล่าสาวๆ กลุ่มนี้ แม้ว่าดูๆ ไปแล้วจะดูใสซื่อไร้เดียงสา แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากร่างกลับไม่ได้อ่อนแอเลย โดยเฉพาะหญิงสาวที่ดูอายุประมานยี่สิบปีที่มีผมสีแดงเพลิง ใบหน้าที่สวยหยาดฟ้า เยือกเย็น ราวกับเป็เทพธิดาผู้สูงส่ง ด้านหลังของนางยังมีธนูสีทองที่มีรูปร่างแปลกๆ และมีพลังเวทที่น่าเกรงขามคอยแผ่ออกมา ยิ่งบวกกับกลิ่นอายพลังที่ดุดันอย่างไม่ปิดบังบนร่างของนาง นั่นยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกถึงอันตราย ประหนึ่งดาบวงพระจันทร์ที่กำลังชักออกมาจากปลอกที่สวยงามและคมกริบ เมื่อไรที่ดาบฟันผ่านก็สามารถผ่าร่างได้เป็ชิ้นๆ อย่างง่ายได้ ไร้ผู้ต้านทาน
นอกจากนางคนนี้แล้ว ยังมีพัศดีโอเลเกร์ที่เป็หนึ่งใน ‘ขุนนางที่ได้รับความโปรดปราน’ ขององค์าาอเล็กซานเดอร์ ที่คอยตามปรนนิบัติเหล่าสาวๆ กลุ่มนี้อยู่ข้างๆ ประหนึ่งข้ารับใช้
ในบรรดาข้อมูลที่เผยออกมามากมายว่ากันว่า สาวสวยกลุ่มนี้อาจจะเป็สหายขององค์าาอเล็กซานเดอร์ มาที่เมืองแซมบอร์ดเพื่อมาแสดงความยินดีที่ได้ขึ้นครองบัลลังก์
พวกโร้กสาวต่างเลือกซื้อของที่ชอบอย่างมีความสุข เพลิดเพลินกับเวลาผ่อนคลาย
บนแผ่นดินโร้ก พวกนางไม่เคยเพลิดเพลินกับเหตุการณ์รื่นเริงผ่อนคลายแบบนี้มาก่อน ในทุกๆ วันจะต้องคอยตื่นตัวและเคร่งเครียด บ่อยครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์และพวกปีศาจ ภายใต้ความมืดที่เข้าปกคลุม พวกนางจะต้องเผชิญกับความตายอยู่เสมอ หลายครั้งที่ต้องพบเห็นพี่น้องคนสนิทต้องาเ็หรือตายไปต่อหน้าตัวเอง...แต่ตอนนี้ พวกสาวๆ ได้ปล่อยวางความกดดันในหัวใจของนางได้เสียที พยายามที่จะเพลิดเพลินไปกับเหตุการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน จึงเหมือนนกน้อยที่ถูกปล่อยออกจากกรงและเริ่มต้นกระพิอปีกบินอย่างไร้ความกังวล
ขณะที่กำลังเดินอยู่ ก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างหน้า
เห็นเพียงผู้คนจำนวนมากกำลังแย่งไปล้อมวงดูอะไรบางอย่างตรงนั้น บางครั้งก็ได้ยินเสียงดีใจ เหตุการณ์ที่ดูคึกคักแปลกๆ นี้ เมื่อเหล่าสาวๆ มองเห็นในใจก็พลันเกิดความสงสัยจึงพากันเข้าไปล้อมวงดูอย่างสนุกสนาน
ในขณะที่พวกสาวๆ กำลังสนุกสนานก็ไม่ทันสังเกตว่า ไม่ไกลจากพวกนางนั้น มีสายตาบางคู่กำลังจับจ้องมองมาที่พวกนาง
“ฝ่าา พวกนางเข้ามาแล้ว พวกเราจะทำอย่างไรดี?”
“ตามไปก่อน มันไม่ง่ายที่จะไปยั่วยุพวกนาง สืบหาประวัติของพวกนางให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยพูดกัน”
……
เขาวงกตใต้ดิน
ห้องโถง
ในอากาศจู่ๆ ก็มีประตูมิติสีฟ้าฉีกกระชากอากาศ ก่อนจะปรากฏร่างซุนเฟยเดินออกมาจากในนั้น
เขาถึงขีดจำกัดเวลาสี่ชั่วโมงของวันนี้แล้ว ไม่จำเป็ที่จะต้องอยู่ในโลก Diablo
ใน่ระยะเวลาเพียงสองชั่วโมงกว่าๆ เนื่องจากมีประสบการณ์และทักษะมากมายที่ได้รับมาจากตัวละครอื่นๆ ดังนั้นความเร็วในการอัพเลเวลจึงเร็วขึ้น ภายในเวลาสั้นๆ ซุนเฟยคาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถอัพเลเวลตัวละครดรูอิดได้ถึงเลเวล 10 อย่างไม่น่าเชื่อ ใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจในทำเควสทั้งสามเควส นั่นคือ ล้างบางถ้ำที่ชั่วร้าย กำจัดบลัด เรเว่น และไปช่วยตาเฒ่าเคน เหลือเพียงเควสที่ต้องไปหาค้อนเวทมนตร์ สังหารเดอะ เคานต์เตสที่หอคอยที่ถูกลืม และสุดท้ายคือการสังหารลาสบอสอย่างแอนเดเรียก็สามารถพิชิตแผนที่ลำดับที่หนึ่งได้
“หากจัดการเวลาดีๆ บางทีพรุ่งนี้คงทำเควสทั้งสามเควสนั่นได้เสร็จหมดแน่ๆ”
สำหรับความเร็วในการอัพเลเวล ซุนเฟยเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น
ตอนนี้เขายังอยู่ใน 'โหมดดรูอิด' เมื่อเขาโบกมือขึ้นมาด้วยอารมณ์ดีใจ คลื่นพลังธาตุบริสุทธิ์ของดรูอิดก็เปล่งประกาย ระหว่างนั้นก็มีหมาป่าั์สีขาวปรากฏขึ้นมากลางอากาศแล้วะโลงมาอยู่ข้างๆ ซุนเฟย เหมือนกับได้เห็นคู่หูของตัวเอง หมาป่าั์จึงเข้ามาถูไถที่ขาของซุนเฟย
ร่างของหมาป่าขาวยังแผ่กลิ่นอายอันตรายออกมา
ดรูอิดมีทักษะ 'อัญเชิญจิตวิญญาญหมาป่า'
ทักษะนี้ซุนเฟยได้อัพเพิ่มเป็เลเวล 3 แล้ว ตอนนี้เขาสามารถอัญเชิญหมาป่าสีขาวออกมาได้สามตัวในเวลาเดียวกันเพื่อมาต่อสู้เพื่อตัวเอง กล่าวก็คือ หมาป่าสีขาวทุกตัวจะมีพลังการต่อสู้เทียบเท่านักรบหนึ่งดาว เรียกได้ว่าไม่อาจมองข้ามทักษะประเภทอัญเชิญสัตว์ได้ อาชีพของดรูอิดมีกระบองสังหาร
นอกจากนี้ ซุนเฟยยังมีความสามารถกลายร่างเป็ 'มนุษย์หมาป่า' และ 'มนุษย์หมี' ได้ หลังจากที่กลายร่างแล้วจะมีความว่องไว พลังการโจมตี ความเร็วเหมือนหมาป่า มีพลังมหาศาลและพลังป้องกันของหมี
ปัจจุบันนี้ เขาเลือกทักษะกลายร่างและทักษะอัญเชิญของดรูอิด เหลือเพียงทักษะธาตุที่ยังไม่ได้เพิ่มชั่วคราว เพราะทักษะธาตุถือว่าเป็ทักษะเวทมนตร์และมีความซับซ้อนกว่า 'โหมดจอมเวท'
เมื่อรับรู้ถึงลักษณะพิเศษของพลังดรูอิดแล้ว ซุนเฟยก็อดกลั้นไม่ยอมกลายร่างเป็มนุษย์หมาป่า เขาตัดสินใจเปลี่ยนเป็ 'โหมดคนเถื่อน' จากนั้นก็หยิบอัญมณีระดับสูงขึ้นมาสองสามก้อนที่ได้รับการอัปเกรดจาก 'ลูกบาศก์ฮอราดริก' ที่ 'ค่ายโร้ก' ก่อนหน้านี้ เขาเดินออกจากเขาวงกตใต้ดินไปยังโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ในเมืองแซมบอร์ด
โบสถ์
“นายท่าน คิดไม่ถึงว่าท่านจะมาด้วยตัวเอง ช่างเป็เกียรติแก่พวกเราอย่างยิ่ง”
สำหรับการมาเยือนของซุนเฟย ทำให้นักบวชแมซโซลาและหัวหน้าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ลูเซียโนต่างรู้สึกเกินความคาดหมาย และตื่นตระหนกด้วยความดีใจ ่สามวันมานี้ทั้งสองคนพยายามอย่างหนักที่จะเข้าหาซุนเฟย เสียทั้งเงินและวัตถุไปไม่น้อยเพื่อให้ซุนเฟยโปรดปราน ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเริ่มมีผลเล็กน้อย
“อืม พวกเ้าทั้งสองคน...่นี้คงจะเหน็ดเหนื่อยกันสินะ”
ซุนเฟยมองหน้าท่าทางราวกับคนรับใช้ของทั้งสองคน ในใจก็พลันมีความสุข แต่บนใบหน้าไม่แสดงอาการอะไร วางท่าทางสูงส่ง พลิกเบี้ยล่างให้กลายเป็เบี้ยบน1 หันไปมองเก้าอี้ในห้องที่มีเพียงตัวเดียว ซุนเฟยเห็นทั้งสองคนต่างพูดขึ้นมาว่า
“ไม่เหนื่อยเลย ไม่แม้สักนิด การได้รับใช้นายท่าน ถือเป็เกียรติของพวกเรา!” ลูเซียโนที่กลับมาฉลาดอีกครั้งก็รีบแย่งประจบ
“อืม ข้าจะจดจำพวกเ้าไว้”
ซุนเฟยกวาดสายตามองทั้งสองคนและจงใจแผ่พลังศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์ออกมาจากร่างของเขา ทำให้เขาดูสูงศักดิ์จนไม่อาจละสายตาได้ราวกับพระเ้าลงมาประทับ ซุนเฟยพูดอย่างช้าๆ ว่า “วันนี้ที่ข้ามาหาพวกเ้า เพราะข้ามีเื่หนึ่งที่จำเป็ต้องรบกวนให้พวกเ้าทั้งสองคนทำให้ข้า”
“นายท่าน โปรดสั่งมา พวกเรายินดีรับใช้นายท่าน”
ทั้งสองคนได้ยิน ในใจก็พลันดีใจ สิ่งที่พวกเขากลัวมากที่สุดคือการที่ซุนเฟยจะไม่ใช้ตัวเอง ในเมื่อตอนนี้ได้เปิดปากให้ช่วย นั่นเป็เื่ที่ดีที่สุด อธิบายได้ว่านายท่านคนนี้เริ่มยอมรับพวกเขาอย่างช้าๆ แล้ว
“อืม ดี งั้นข้าไม่เกรงใจ” ซุนเฟยพูดจบ ก็มีก้อนหินเวทมนตร์ระดับสูงสี่ก้อนปรากฏออกมาบนฝ่ามือของเขา แสงสว่างสดใสของมันแทบทำให้คนหลงใหล “พวกเ้าใช้ลู่ทางของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์แทนข้า ติดต่อนักเวทระดับสูงเพื่อแลกเปลี่ยนก้อนหินเวทมนตร์ในมือข้าให้กลายเป็ก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำให้เร็วที่สุด”
“นี่คือก้อนหินเวทมนตร์ระดับกลาง?” ลูเซียโนอุทานอย่างแปลกใจ
“โอ้พระเ้า ที่แท้ยังมีก้อนหินเวทมนตร์ระดับกลาง...โอ้ ก้อนหินเวทมนตร์ธาตุไฟมีพลังพลุกพล่าน ก้อนหินเวทมนตร์ระดับนี้ไม่ใช่ว่าหาได้ยากหรือ? นายท่าน นี่...”แมซโซลาอดไม่ได้ที่จะอุทานอย่างใ รู้สึกริมฝีปากแห้งผาก ดวงตาจับจ้องไปที่มันไม่คลาดสายตา
ไม่น่าแปลกใจที่ทั้งสองคนจะพากันใ ความจริงแล้วมูลค่าก้อนหินเวทมนตร์ที่ซุนเฟยหยิบออกมามันมีมูลค่าสูงมาก
ก้อนหินเวทมนตร์ระดับกลางหนึ่งก้อนสามารถแลกก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำได้อย่างน้อยหนึ่งร้อยก้อน เพียงก้อนหินเวทมนตร์ระดับกลางสองก้อน มีมูลค่าสูงกว่าก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำหนึ่งหีบที่พวกเขามอบเป็เครื่องบรรณาการให้แก่ซุนเฟยเมื่อไม่กี่วันก่อนเสียอีก คาดว่าเมื่อแลกเปลี่ยนแล้วคงจะได้มูลค่าที่ไม่น่าเชื่อด้วยซ้ำ อาจแลกก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำได้มากกว่าหนึ่งล้านก้อนด้วยซ้ำ สำหรับทั้งสองแค่เสียก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำร้อยกว่าก้อนก็ทำให้พวกเขารู้สึกเ็ปแล้ว แต่พวกเขาคาดไม่ถึงว่าซุนเฟยจะมั่งคั่งขนาดนี้
“ทำไม? หรือว่า...พวกเ้าแลกไม่ได้?” มองทั้งสองคนที่พากันตกตะลึงแล้วต้องขมวดคิ้ว
“อ่า...ไม่ๆๆ ข้าแลกได้ แลกได้! เพียงแต่มันอาจต้องใช้เวลา...นานสักเล็กน้อย” แมซโซลาเหมือนสะดุ้งตื่นจากฝัน รีบตอบกลับ
ตอนนี้หัวใจของเขากำลังเต้นโครมคราม นี่เป็โอกาสทองสำหรับเขา ก้อนหินเวทมนตร์ระดับสูงหายากมาก หากพวกเขาสามารถใช้ลู่ทางของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อแลกเปลี่ยนมัน ต้องถือเป็ผลงานใหญ่แน่นอน อาจทำให้ท่านบิชอปเซิร์จเยเรมีประทับใจอีกด้วย
---------------------------
1 พลิกเบี้ยล่างให้กลายเป็เบี้ยบน ความหมายคือ พลิกฐานะที่เสียเปรียบให้กลายเป็ได้เปรียบ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้