“คนสวยสินค้าประมูลสิบชิ้นแรกในวันนี้เป็ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เซิ่งหัวของพวกเรา แล้วพวกเราก็ยินดีจะให้ประมูลสินค้าของคลินิกไม่ก่อนและพวกเราจะไม่ตรวจสอบงานความรับผิดชอบใดใดของงานประมูลเมืองหลวง” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งลุกขึ้นมาพูดในเมื่อเมื่อสักครู่สมาคมการค้าตงหัวออกเงินร้อยล้านตอนนี้จึงเป็โอกาสที่ดีในการประจบประแจงสมาคมการค้าตงหัว จะไม่คว้าเอาไว้ได้อย่างไร
“ของจากสมาคมฉีเฟิงของพวกเราก็ประมูลหลังคลินิกไม่ก็ได้”
“ของของฉันก็ประมูลหลังได้” ชายชราผู้หนึ่งลุกขึ้นมาพูดคนทั่วทั้งหอประชุมอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นมา ชายชราผู้นี้คือเสิ่นฉางเทียนนายกสมาคมวิจัยโบราณคดีแห่งหัวซย่า เขาไม่ได้มีเงินมากมายหากในงานประมูลในเมืองหลวงทุกๆ ครั้งมีของของเขาละก็จะประมูลได้ใสราคาที่สูงมากและเงินพวกนี้ก็จะเข้าสู่มูลนิธิของเขาเพื่อใช้ในงานการกุศลอย่างการช่วยเหลือเด็กเล็ก
“สินค้าประมูลของตระกูลเฉินเลื่อนประมูลออกได้ครับ” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงดัง
“สินค้าประมูลของตระกูลซุนเลื่อนประมูลออกได้ครับ” “สินค้าประมูลของตระกูลหนานกงเลื่อนประมูลออกได้ครับ” ในเวลาไม่นานสินค้าที่อยู่ในหนังสือคู่มืองานประมูลครั้งนี้ต่างก็เลือกที่จะเลื่อนประมูลกันทั้งสิ้นเพื่อที่จะให้สินค้าประมูลของคลินิกไม่เลื่อนมาเป็อันดับแรกทำให้หลิ่วเยียนอดไม่ได้ที่จะมองกัวไฮว่แวบหนึ่ง
“หลิ่วเยียน ในเมื่อทุกคนยินดีที่จะเลื่อนประมูลสมาคมตงหัวจะจ่ายค่าชดเชยให้อีก งั้นก็ประมูลของคลินิกไม่ก่อนแล้วกันเอาตามที่ทุกคนพอใจ” โม่เป่ยเฟิงนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวไม่ติดเก้าอี้แล้วเลยรีบออกมาพูดขึ้นด้วยเสียงดังหลิ่วเยียนก็ผงกศีรษะเบาๆ
“วันนี้คลินิกไม่มีสินค้าอยู่สองชนิดค่ะ เหล้ารสเลิศกับยาลูกกลอนเรามาเริ่มจากเหล้าดีกว่าค่ะ” หลิ่วเยียนกล่าวยิ้มๆ “เหล้าในวันนี้มีทั้งหมดสามสิบจิน พวกเราแบ่งออกเป็ 30 ส่วนส่วนละสามจิน บรรจุลงในขวดเรียบร้อยดีแล้วค่ะ” ในขณะที่พูดก็มีสาวสวยคนหนึ่งเข็นรถคันเล็กเดินขึ้นเวทีมาบนรถเรียงรายไปด้วยขวดสีขาวขนาดไม่เล็กบรรจุเหล้าสามจินอยู่สิบใบ
“ราคาขั้นต่ำของเหล้านี้คือสามสิบล้านราคาขั้นต่ำของทุกขวดคือสามสิบล้านค่ะ” หลิ่วเยียนกล่าวต่อส่วนด้านล่างเวทีต่างก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กัน
“ให้ตาย เหล้าอะไรเนี่ยจินละสิบล้าน หลอกกันหรือเปล่า ทำยาออกมาคงไม่ใช่เพราะจะให้เราซื้อเหล้าพวกนี้หรอกนะ” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งพูดด้วยเสียงดังทำให้ผู้คนต่างก็ผงกศีรษะเกรียวกราว
“วิถีคนเมืองหลวงใสซื่อสู้อู่เฉิงไม่ได้เลยพวกเธอยังจะมาวิจารณ์เหล้าคลินิกไม่อีก” กัวไฮว่เดินขึ้นไปบนเวทีอีกครั้งเขาไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินไปเปิดขวดแล้วเทเหล้าลงไปในถ้วยใบใหญ่จากนั้นก็โยนไปทางที่นั่งผู้ชมอย่างรุนแรง เซียวอวิ๋นเทียนและคนอื่นๆต่างก็มองออกว่าที่ดูเหมือนโยนเมื่อสักครู่กลับแฝงด้วยเทคนิคไม่น้อยจึงอดไม่ได้ที่จะผงกศีรษะกัน พวกเขาเคยดื่มเหล้านี่มาแล้วเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมายทว่าคนอื่นๆ ไม่ได้เป็เช่นนั้น
“หนึ่งจินสิบล้าน คุ้มมาก ถ้าเกิดใครบอกว่าไม่คุ้มอีกก็รีบไสหัวไปเลยเหล้านี่ฉันเอาหมดเลย จะเงินสดหรือรูดบัตรได้หมดเลย” ชายชราผู้หนึ่งเลยเหล้าสองสามหยดบนแขนของตนแล้วพูดขึ้นเสียงดัง
“ไอ้น้องชาย พวกเราเชื่อแล้วล่ะ อย่าเทเหล้าออกมาอีกเลย พวกเราเชื่อแล้ว” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเห็นว่ากัวไฮว่เทเหล้าออกมาต่อก็พูดขึ้นเสียงดัง
“บอกว่าฉันหลอกกันไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ไม่พูดแล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดเสียงดัง จากนั้นถ้วยเหล้าใบที่สองก็ปลิวไปในอากาศ “หลิ่วเยียน ยังมีอีกเก้าขวด แต่ละขวดให้แก้ราคาเป็สามสิบสามล้านแบบนี้ฉันถึงจะได้คืนทุน” พูดเสร็จกัวไฮว่ก็เดินลงเวทีไปและได้ยินเพียงแค่เสียงแย่งชิงจากล่างเวทีเป็ระลอกๆ บางคนเลียข้อมือบ่งคนเลียขาเก้าอี้ สรุปแล้วก็คือพวกเขาต่างก็แย่งกันเลียทุกที่ที่มีเหล้าใครก็คิดไม่ถึงว่าคนดังเมืองหลวงพวกนี้จะทำแบบนี้ออกมา
“โปรดทุกท่านอยู่ในความสงบด้วยนะคะตอนนี้จะเริ่มประมูลเหล้ารสเลิศของคลินิกไม่นะคะ” หลิ่วเยียนพูดเสียงดัง “ราคาขั้นต่ำคือสามสิบสามล้าน แต่ละครั้งเพิ่มราคาได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านเริ่มเลยค่ะ”
“ร้อยล้าน ฉันให้ร้อยล้าน อย่ามาแย่งฉันเลยนะ” หนานกงโหมวเช่อกล่าวเสียงดังไม่มีใครคาดคิดว่าตระกูลหนานกงจะเสนอราคาประมูลสูงถึงหนึ่งร้อยล้าน
“น้องหนานกง ร้อยล้านไม่พอดื่มเหล้าหรอกนะตอนแรกเหล้านี่ประมูลขายที่เมืองอู่เฉิงราคาหนึ่งร้อยห้าสิบล้านถึงแม้ตระกูลเซวียนหยวนจะไม่มีเงิน แต่ก็ได้เตรียมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านมาลองดู” เซวียนหยวนซยงเฟิงลุกขึ้นมาพูด คราวนี้คนล่างเวทีต่างก็โกลาหลกันคลิปงานประมูลที่แพร่มาจากอู่เฉิงเมื่อหลายเดือนก่อนเป็ของจริงหรือนี่เหล้าสามจินขายไปในราคาสูงถึงหนึ่งร้อยห้าสิบห้าล้านจริงเสียด้วย
“คุณปู่ทุกท่านครับ ทั้งชีวิตพวกคุณไม่เคยดื่มเหล้ารสเลิศกันเหรอ ให้เด็กๆได้ดื่มสักครั้งเถอะ หนึ่งร้อยหกสิบล้าน” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งพูดยิ้มๆเขาคือติงอู่ฝู หัวหน้าอู่ฝูอินเตอร์เนชัลแนล ตอนนี้อายุห้าสิบปีมีทรัพย์สินในบ้านเกินกว่าสี่ร้อยร้อยล้าน เขาได้เสนอเงินนี่ขึ้นมา
หลังจากบอกราคาไปสามครั้ง สามสิบสามล้านก็เปลี่ยนเป็หนึ่งร้อยหกสิบล้านการที่เงินพุ่งพรวดแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในงานประมูลใดๆ
“เสี่ยวติง พวกเรารู้นะว่าพวกเราสู้เงินเธอไม่ได้แต่เธออยากประมูลมาแค่ขวดเดียว ถ้าที่เหลือเธอยังจะประมูลอีกก็อย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจนะ” หนานกงโหมวเช่อพูดด้วยเสียงดังติงอู่ฝูก็ผงกศีรษะยิ้มๆ ของแบบนี้ขวดก็ขวดเดียวแล้วกัน
สุดท้ายเหล้าขวดแรกก็ถูกติงอู่ฝูประมูลมาในราคาสองร้อยสิบล้านกัวไฮว่ยิ้มเล็กๆ ตรงมุมปาก สองร้อยสิบล้านก็ใช้ได้อยู่ทว่าสีหน้าของลูกเศรษฐีตระกูลฉิน ตระกูลชีและตระกูลหลินทั้งสามดูไม่ดีเลย จินละเจ็ดสิบล้านหกจินก็เป็สี่ร้อยล้านกว่า แม้ทั้งสามตระกูลจะออกเงินได้ทว่าก็กระทบต่อตระกูลพวกเขาเยอะอยู่เช่นกัน
“ขวดที่สอง ฉันไม่พูดมากความแล้ว มาเริ่มกันเลยเถอะค่ะ” หลิ่วเยียนยังไม่ทันได้สติจากราคาสูงของเหล้าขวดแรกจะอย่างไรเธอก็คิดไม่ถึงว่าเหล้ารสเลิศที่เธอดื่มไปแล้วหลายครั้งจะขายออกได้ในราคานี้ถ้าเช่นนั้นเธอดื่มลงท้องไปแล้วหลายสิบล้านน่ะสิ
“ไกวไกว หนึ่งจินเจ็ดสิบล้าน โชคดีนะที่ฉันไม่ได้ออกตัวไม่งั้นนายท่านได้หักขาฉันแน่” เมื่อหนิวเหมิ่งได้ยินราคาประมูลอยู่ด้านหลังงานประมูลก็เช็ดเหงื่อบนหน้าผากเบาๆ น้องกัวไฮว่เอ๊ย เหล้านายนี่ฉันดื่มไม่ไหวจริงๆ
บางคนคิดว่าราคาขวดที่สองจะต่ำลงหน่อยทว่าสุดท้ายก็ถูกหนานกงโหมวเช่อประมูลมาได้ในราคาสองร้อยสามสิบล้านขวดที่สามเซวียนหยวนซยงเฟิงประมูลมาในราคาสองร้อยห้าสิบล้าน ทว่าเซวียนหยวนกลับยินยอมอย่างเต็มอกเต็มใจเงินแค่นี้จะไปนับประสาอะไรกับคุณความดีที่กัวไฮว่มีต่อตระกูลเซวียนหยวนอีกอย่างตอนนี้ทั้งสองก็เป็พันธมิตรกัน เป็พันธมิตรกันแน่นอน
“สามร้อยล้าน ผมให้สามร้อยล้าน” ชายวัยกลางคนรายหนึ่งพูดเสียงดังหลายคนต่างก็นำสายตามองไปยังชายวัยกลางคนแต่งตัวมอมแมมผู้นี้ “มองอะไรกัน คิดว่าฉันไม่มีเงินหรือไง ในบัตรนี่มีอยู่สามร้อยสี่สิบล้านเอาไปรูดได้เลย” ชายวัยกลางคนพูดเอะอะ
“เซียวอู๋เต้า คือเซียวอู๋เต้า หมอนี่ยังมีชีวิตอยู่ด้วย” ในที่สุดในฝูงชนก็มีคนจำชายมอมแมมผู้นี้ได้เมื่อสามปีก่อนเกิดเื่น่าสนใจขึ้นในเมืองหลวงในตอนนั้นตระกูลเซียวที่แสนโด่งดังอยู่่หนึ่งถูกฆ่าล้างตระกูลลือกันว่าเซียวอู๋เต้า หัวหน้าตระกูลเซียวได้หลบหนีไปไม่คิดเลยว่าครั้งนี้จะได้มาเจอกันที่เมืองหลวง
“สามร้อยล้านไม่เลวเลย เซียนเทียนระยะหลังก็ไม่เลวเลย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ ทว่าบางคนในงานประมูลถึงกับยิ้มไม่ออกและต่างก็เริ่มหยิบโทรศัพท์ออกมา ผู้ดูแลตระกูลหนานกงตระกูลเซวียนหยวนและตระกูลกู่ทั้งสามท่านต่างก็ขมวดคิ้วมุ่นดูทรงแล้ว่นี้ในเมืองหลวงจะไม่สงบสุขแล้วล่ะ
เหล้าขวดที่ห้าและขวดที่หกต่างก็ประมูลขายไปในราคาสูงถึงสามร้อยล้านเหล้าขวดที่เก้าประมูลไปในราคาสี่ร้อยล้าน ทำให้บรรยากาศในงานประมูลเปลี่ยนไปใหม่