หยวนลนลานรีบดึงพลังิญญาของตนกลับ แต่เนี่ยหลีปิดอาณาเขติญญาของตนได้เร็วมาก ฉู่หยวนมีเวลาดึงพลังิญญาของตนกลับมาได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
ฉู่หยวนรู้สึกว่าพลังิญญาของตนฉีกเป็ชิ้นๆ ขาดเป็สองส่วน ครึ่งหนึ่งถูกทิ้งไว้ในอาณาเขติญญาของเนี่ยหลี ใบหน้าของเขาซีดเซียวฝีเท้าซวนเซแทบล้มทั้งยืน พลังิญญาถูกฉีกไปครึ่งหนึ่งจึงาเ็สาหัส ทั่วร่างเรี่ยวแรงเหือดหาย มุมปากเริ่มมีเืไหลซึมออกมา
เห็นภาพฉากนี้ ผู้คนรอบด้านต่างหันมองหน้ากันไปมา
ในการเผชิญหน้ากันทางพลังิญญา คนนอกย่อมยากจะเห็นได้ชัดเจน พวกเขาไม่รู้ว่าพลังิญญาครึ่งหนึ่งของฉู่หยวนถูกกักไว้ในอาณาเขติญญาของเนี่ยหลีไปตลอดกาลแล้ว มองเห็นเพียงสีหน้าอันเ็ปท่าทางหวาดกลัวของฉู่หยวน ตรงกันข้าม เนี่ยหลีกลับเปี่ยมไปด้วยพลัง บอกเป็นัยว่าการต่อสู้เมื่อครู่ฉู่หยวนตกเป็ฝ่ายเสียเปรียบเนี่ยหลี
สิ่งที่ทำให้พวกเขาคิดไม่ตกก็คือ พลังิญญาของเนี่ยหลีเห็นได้ชัดว่ายังก้าวไม่ถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวด้วยซ้ำ ส่วนฉู่หยวนเป็ถึงผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงสามดาวแล้ว!
เหตุใดคนที่พ่ายแพ้กลับเป็ฉู่หยวนไปได้เล่า?
เนี่ยหลีรู้สึกถึงพลังที่กำลังสาดซัดอยู่ภายในอาณาเขติญญาของตน ดวงตาเป็ประกายวูบวาบ พลังิญญาเหล่านี้ยังผสานกับพลังของเขาได้ไม่มากนัก แต่ก็ถูกเนี่ยหลีหลอมรวมเข้ามาส่วนหนึ่งแล้ว อาณาเขติญญาของเขาเพิ่งกระจายแสงสีฟ้าสดใสออกมา แสงนี้ยิ่งนานก็ยิ่งเจิดจ้า
เนี่ยหลีรู้สึกได้ชัดเจนว่าตนเข้าใกล้ระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว เวลานี้หากทดสอบพลังิญญา เกรงว่าคงต้องมีอย่างน้อยเก้าสิบห้าจุดเป็แน่
ภายในอาณาเขติญญา ม่านกั้นระดับทองแดงหนึ่งดาวมีรอยปริร้าวตลอดทั่วทั้งผืน อีกไม่นานก็คงทะลุแล้ว
พลังิญญายังคงไต่ระดับขึ้นไปและผสานกัน
ตูม!
เนี่ยหลีได้ยินเสียงลั่นในหัว กลางอาณาเขติญญากระเพื่อมะเิตัว เสียงัคำรามบางเบาดังขึ้นให้ได้ยิน ดูเหมือนว่าสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่กลางอาณาเขติญญาของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
ระดับทองแดงหนึ่งดาว
แสงสว่างฉายวูบขึ้นในดวงตาของเนี่ยหลี ไม่รู้ว่าในอาณาเขติญญาของตนมีอะไรซุกซ่อนอยู่ ขณะฝึกยุทธ์ในชีวิตหนก่อนเขาไม่เคยพบว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในอาณาเขติญญาของตน ดูเหมือนอาณาเขติญญาในชาตินี้จะมีความแตกต่างออกไป อาจเกี่ยวข้องกับบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาหรือไม่?
ด้วยความก้าวหน้าในพลังยุทธ์ เนี่ยหลีแม้เคยมีประสบการณ์ในชีวิตหนก่อน แต่ก็ยังระงับความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ เพราะนี่หมายความว่าเขาได้ย่างเท้าก้าวแรกเข้าสู่เส้นทางฝึกยุทธ์ได้สำเร็จแล้ว เดินขึ้นสู่เส้นทางบนถนนแห่งโชคชะตาที่แตกต่างจากชีวิตในหนที่แล้ว!
พลังิญญาของฉู่หยวนเพิ่งถูกเนี่ยหลีหลอมรวมไปเพียงส่วนเดียว หากมีเวลามากขึ้น เขาย่อมสามารถหลอมเอาพลังิญญาทั้งหมดมาเป็ของตนได้ ทำสำเร็จเมื่อใด ไม่แน่ว่าเนี่ยหลีอาจก้าวขึ้นสู่ระดับทองแดงสองดาวได้อีกด้วย!
หากเสิ่นซิ่วรู้ว่าพลังยุทธ์ของเนี่ยหลีมีความก้าวหน้ารวดเร็วเช่นนี้ ไม่รู้ว่านางจะคิดอย่างไร
“ฉู่หยวนพ่ายแพ้หรือ?”
“คิดไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะออกมาเช่นนี้!”
“หากไม่มีวิธีรับมือ เนี่ยหลีก็คงไม่กล้าท้าฉู่หยวนหรอก! ข้าคิดว่าเนี่ยหลีโอหังเสียอีก คิดไม่ถึงว่ามันจะแข็งแกร่งถึงปานนี้!”
ทุกคนพากันใกับผลลัพธ์และเริ่มถกเถียงกันอย่างไม่หยุดหย่อน
ผลลัพธ์เช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็เยี่ยจื่ออวิ๋น เฉินหลินเจี้ยน หูเหยียนหลันรั่ว หรือแม้กระทั่งเสิ่นเยวี่ย ทุกคนอดที่จะแปลกใจมิได้
“ดูเหมือนข้ายังคงประเมินเขาต่ำไป!” เฉินหลินเจี้ยนพึมพำ ท้าทายคนที่สูงกว่าตนถึงสามระดับ มีแต่อัจฉริยะเท่านั้นจึงจะทำได้! เนี่ยหลีเพิ่งมีอาณาเขติญญาสีแดงเท่านั้นจริงหรือ? เขาค่อนข้างไม่อยากจะเชื่อ หากมีคนบอกว่าเนี่ยหลีมีอาณาเขติญญาสีฟ้าที่หาได้ยาก เขาคงเชื่อมากกว่านี้เสียอีก
เยี่ยจื่ออวิ๋นดวงตาเป็ประกายด้วยความอัศจรรย์ใจ แม้นางไม่ชอบเนี่ยหลีเพราะเนี่ยหลีมักชอบพูดจาปากพล่อยกับนาง แต่สิ่งนี้ไม่อาจขัดขวางความห่วงใยของนางที่มีต่อเนี่ยหลีได้ ขณะที่เนี่ยหลีท้าทายฉู่หยวน นางก็ยังรู้สึกกระวนกระวายใจไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าเนี่ยหลีจะสามารถเอาชนะได้ ความจริงข้อนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของนางยิ่งนัก
เสิ่นเยวี่ยจ้องเขม็งไปที่แผ่นหลังของเนี่ยหลี เขากัดฟันกรอดๆ เขามักคิดว่าเนี่ยหลีสามารถเอาชนะตนได้ก็เพราะความโชคดี เวลานี้มาคิดๆ ดูแล้ว ที่แท้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเนี่ยหลีเพียงหยอกเขาเล่นเท่านั้น! ไม่แปลกใจว่าครั้งก่อน ลูกน้องระดับทองแดงสองดาวสามคนลงมือกับเนี่ยหลี แต่ไม่อาจทำอันตรายเนี่ยหลีได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเนี่ยหลีมีชุดเกราะระดับทองแดง แต่เป็เพราะเนี่ยหลีเหนือชั้นกว่านักสู้ระดับทองแดงสองดาวเ่าั้ ที่เนี่ยหลีถูกรุมทำร้ายในวันนั้นล้วนเป็การเสแสร้งทั้งนั้น นึกถึงว่าตนถูกคนมากมายกล่าวโทษ ความโกรธอย่างหนึ่งก็แผ่ซ่านขึ้นมาในอกอีกครั้ง แทบอยากจะะเิออกมาแล้ว
เนี่ยหลี เ้าช่างเ้าเล่ห์ต่ำช้ายิ่งนัก!
ทรวงอกอวบอูมของหูเหยียนหลันรั่วเริ่มสั่นสะท้านแรง ผู้ที่ยังไม่ก้าวถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวด้วยซ้ำ กลับสามารถท้าทายนักสู้ระดับทองแดงสามดาวได้ เนี่ยหลีทำให้นางแปลกใจยิ่งนัก มีความลับมากมายเท่าไหร่ซุกซ่อนอยู่ในตัวของเนี่ยหลีกัน?
“พี่สาวต้องหาเวลาขุดคุ้ยทุกอย่างในตัวเ้าออกมา ข้าอยากจะรู้นักว่ายังมีอะไรซุกซ่อนอยู่บ้าง!” หูเหยียนหลัวรั่ว สองแก้มแดงระเรื่อ ดวงตาแฝงแววเ้าชู้หยาดเยิ้มขึ้นมา
เวลานี้ฉู่หยวนผู้ต่อสู้กับเนี่ยหลีมีเนื้อตัวเปียกชุ่มด้วยเหงื่อ กำลังหอบหายใจอย่างหนัก พลังิญญาที่ถูกทำลายสาหัสนั้น ผลกระทบกับพลังของเขาก็ใหญ่หลวงมากเช่นกัน เขาจะต้องพักฟื้นอย่างน้อยถึงครึ่งปีถึงจะฟื้นตัวขึ้นมาได้
“เื่ราวในวันนี้จะไม่จบลงแต่เพียงเท่านี้แน่!” ฉู่หยวนเสียงดังลั่น จ้องมองเนี่ยหลีด้วยความเกลียดชังอย่างยิ่ง
“ได้ทุกเมื่อ ที่เ้า้า!” สองคิ้วของเนี่ยหลีเลิกสูง เขาไม่เห็นฉู่หยวนอยู่ในสายตา หลังจากเกิดใหม่ เนี่ยหลีมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ไม่เคยนับคนเหล่านี้เป็คู่ต่อสู้ของตน ฉู่หยวนาเ็ คิดฟื้นฟูร่างกายเกรงว่าคงต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนหรือมากกว่านั้น อีกหลายเดือนหลังจากนี้ ฉู่หยวนจะพบว่าตนต้องเป็ฝ่ายแหงนมองเนี่ยหลีแล้ว
พญาอินทรีสยายปีกบินขึ้นฟ้าสูง จะเห็นฝุ่นดินที่ฟุ้งขึ้นมาบนพื้นอยู่ในสายตาหรือ?
ฉู่หยวนหมุนตัว ท่าทางอับอายโซเซเดินจากไป
การต่อสู้ระหว่างเนี่ยหลีกับฉู่หยวนกลายเป็จุดสนใจและหัวข้อสนทนาของทุกคน ไม่มีใครดูแคลนเนี่ยหลีเพราะเหตุที่เนี่ยหลียังก้าวไม่ถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวอีกแล้ว
พวกเขาไม่รู้ว่าหลังการประลองครั้งนี้ เนี่ยหลีได้ก้าวเข้าสู่ระดับทองแดงหนึ่งดาวเรียบร้อยแล้ว!
หลังจากเลื่อนขึ้นเป็นักสู้ระดับทองแดงหนึ่งดาว พลังของเนี่ยหลีก็เพิ่มพูนขึ้นอีกหลายเท่า เวลานี้หากเนี่ยหลีต้องต่อสู้จริงๆ ต้องไม่ด้อยไปกว่าผู้ใดในกลุ่มอย่างแน่นอน
ผ่านเหตุการณ์นี้ไป คณะก็เดินทางต่อไปบนถนนขรุขระแคบๆ สายหนึ่ง
“น้องชาย เ้าทำให้พี่สาวแปลกใจจริงๆ ข้าเห็นเ้าเมื่อคืนตั้งกระโจนอยู่ตามลำพังห่างออกไปตรงมุมหนึ่ง คืนนี้เ้ามาตั้งกระโจมอยู่ข้างๆ ข้าก็ได้ พวกเราจะได้นั่งแลกเปลี่ยนความรู้ในการฝึกยุทธ์กันดีหรือไม่” หูเหยียนหลันรั่วเดินมาถึงข้างหน้าของเนี่ยหลี ยืนใกล้เนี่ยหลีห่างกันแค่ไม้บรรทัดเดียว
พอก้มลงไป ทรวงอกอวบอิ่มของหูเหยียนหลันรั่วก็แทบจะแตะถูกตัวของเนี่ยหลีแล้ว ยังมองเห็นร่องลึกของหุบเขาคู่นั้นได้รางๆ โดยเฉพาะยอดที่ชูชันอยู่สองจุด ยิ่งยั่วยวนใจผู้คน
เขาได้กลิ่นหอมของดอกกล้วยไม้จากร่างกายของนาง ต้องยอมรับเลยว่าหูเหยียนหลันรั่วมีเสน่ห์ชวนหลงใหลอย่างยิ่ง
ในชีวิตหนก่อน เนี่ยหลีเป็เพียงเด็กผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง ปกติแล้วย่อมไม่มีเด็กผู้หญิงที่ไหนมาสนใจ กระทั่งเมืองกวงฮุยถูกทำลาย เขาจึงมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเยี่ยจื่ออวิ๋น มีเทพธิดาประจำใจ ไม่เคยคิดว่าชีวิตครั้งนี้จะได้รู้จักเซียวหนิงเอ๋อร์ ยังมีหูเหยียนหลันรั่วเป็ฝ่ายเข้ามายั่วยวนเขาอีก ดูเหมือนจะเป็โชคที่สวยงามเหลือเกิน
น่าเสียดายที่เนี่ยหลีไม่ใช่เด็กชายธรรมดาจากชีวิตหนก่อนแล้ว เขาย่อมไม่ถูกโฉมงามยั่วยวนได้ง่ายๆ ในใจมีแต่เยี่ยจื่ออวิ๋นเพียงคนเดียว
เยี่ยจื่ออวิ๋นยอมตกหลุมรักกับคนธรรมดาเช่นเนี่ยหลีในชาติก่อน ทำให้ชีวิตทั้งชีวิตของเนี่ยหลีแปรเปลี่ยนไป ต่อมาเยี่ยจื่ออวิ๋นจากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้า เป้าหมายสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของเนี่ยหลีเมื่อกลับมาเกิดใหม่ครั้งนี้ก็คือการปกป้องเยี่ยจื่ออวิ๋น!
หูเหยียนหลันรั่วคิดว่าอาศัยความงามเพียงอย่างเดียวนางก็จะสามารถยั่วยวนเนี่ยหลีได้ ช่างคิดกับเนี่ยหลีง่ายเกินไป
เห็นหูเหยียนหลันรั่วกำลังล่อลวงเนี่ยหลีด้วยรูปโฉมที่เย้ายวน เยี่ยจื่ออวิ๋นเบ้ปาก นางไม่ชอบสตรีผู้นี้เอาเสียเลย เพราะหูเหยียนหลันรั่วยั่วยวนเกินไป ทำให้นางรู้สึกอึดอัดใจ นางมองๆ เนี่ยหลี “หูเหยียนหลั่นรั่วยั่วยวนเ้าเด็กคนนี้ เดาว่าเขาก็คงจะต้องเดินตามก้นส่ายๆ ของนางไป ช่างเขาเถอะ มิใช่เื่ของข้าเสียหน่อย” เยี่ยจื่ออวิ๋นคิดเช่นนี้จึงหมุนตัวออกไป
“ขอบคุณในความหวังดีของคุณหนูหลันรั่ว คุณหนูหลันรั่วเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินแล้ว เกรงว่าข้าคงไม่มีอะไรจะแลกเปลี่ยนความรู้กับคุณหนูหลันรั่วอีก ลืมมันเสียเถอะ!” เนี่ยหลีพูดปฏิเสธเบาๆ
เยี่ยจื่ออวิ๋นชะงักฝีเท้าและหันไปมองเนี่ยหลี นางคิดไม่ถึงว่าเนี่ยหลีจะปฏิเสธผู้หญิงที่ยั่วยวนใจเช่นนี้ได้
ดวงตางดงามของหูเหยียนหลันรั่วเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ แม้นางยังไม่เคยขึ้นเตียงกับใคร แต่นางรู้จักทรัพย์อันหมายถึงรูปโฉมอันน่าประทับใจของตนเป็อย่างดี บ่อยครั้งที่นางมักหว่านเสน่ห์ใส่ชายหนุ่มทั้งหลายที่เข้ามาตีสนิทกับนางจนหัวปั่น ไม่เป็ตัวของตัวเอง ให้อีกฝ่ายไม่ได้กินไม่ได้หลับไม่ได้นอน ในสายตาของนาง การยั่วยวนเนี่ยหลีซึ่งยังเป็เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ แค่นี้มิใช่เื่ยากเย็นเกินมือ คิดไม่ถึง ั้แ่แรกที่ได้รู้จักกับเนี่ยหลี สายตาของเนี่ยหลีบริสุทธิ์สดใส ปฏิเสธคำขอของนางอย่างเด็ดขาด
นางอดที่จะรู้สึกละอายและเคืองใจในเวลาเดียวกันไม่ได้ ดวงตาของนางพลันเรียวยาวขึ้น กระจายแสงเจิดจ้าน่าหลงใหลออกมา เสียงพูดก็นุ่มนวลอ่อนโยนยิ่ง นางเอ่ยอย่างเขินอาย “น้องเนี่ยหลีไม่้าใกล้ชิดกับพี่สาวหรือ?”
ั์ตาของเนี่ยหลีหดตัวลงเล็กน้อย กลิ่นหอมฉุนอย่างหนึ่งลอยมาแตะจมูก ลักษณะของหูเหยียนหลันรั่วในเวลานี้ ผิวพรรณของนางเปล่งประกายชุ่มชื่น ทรวงอกชูชัน ่เอวคอดกิ่ว สะโพกผึ่งผายเตะตา ไม่มีส่วนใดในร่างที่ไม่มีกลิ่นอายยั่วยวน เกรงว่าผู้ชายทุกคนที่ได้เห็นภาพนี้คงอยากกดสตรียั่วยวนผู้นี้ลงไปตรงหน้าและขยี้นางอย่างไม่ปราณี
หูเหยียนหลันรั่วรักษาระยะห่างจากเนี่ยหลี่หนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในใจของเนี่ยหลีกลับเต็มไปด้วยภาพจินตนาการต่างๆ ทรวงอกของหูเหยียนหลันรั่วแนบชิดกับอกของเขา ััที่อ่อนนุ่มลื่นมือนั้นช่างดูเหมือนจริงนัก หูเหยียนหลันรั่วยืนกอดอกจ้องมองเนี่ยหลีด้วยความสนใจยิ่ง “ต่อหน้ามนตร์เสน่ห์ของข้า ดูซิว่าเ้ายังจะเสแสร้งต่อไปได้อีกนานเท่าไหร่!”
หูเหยียนหลันรั่วคิดว่าเหตุผลที่เนี่ยหลีปฏิเสธนางเป็เพียงการแสดงต่อหน้าเยี่ยจื่ออวิ๋นเท่านั้น ในใจของเนี่ยหลีจะต้องเต็มไปด้วยตัณหาราคะอย่างแน่นอน หากนางใช้มนตร์เสน่ห์ เนี่ยหลีจะต้องติดกับนางอย่างแน่นอน
ใจของเนี่ยหลีสั่นะเื ดวงตามีแสงเป็ประกายแสงเจิดจ้าขึ้นมา ั์ตาพลันเริ่มแจ่มใส ภาพลวงตาต่างๆ ก็ถูกทำลายหายไป
มนตร์เสน่ห์เล็กๆ น้อยๆ ก็คิดจะควบคุมเนี่ยหลี นี่ออกจะดูแคลนเนี่ยหลีเกินไปหน่อยแล้ว มนตร์เสน่ห์สามารถจัดการกับพวกที่มีพลังจิตไม่แข็งแกร่งพอเท่านั้น กับเนี่ยหลีที่อยู่มาสองชีวิตแล้ว จิตใจของเขาแข็งแกร่งยิ่งนัก จะมาล่อลวงเขาง่ายๆ เช่นนี้ได้อย่างไร?
“จิตอสูรต้นอิงเถาหิมะ* คิดไม่ถึงว่าคุณหนูหลันลั่วจะมีจิตอสูรที่หายากเช่นนี้!” เนี่ยหลีอุทานออกมา จ้องมองหูเหยียนหลันรั่วอย่างเต็มไปด้วยความหมาย
หูเหยียนหลันรั่วจ้องมองเนี่ยหลีราวกับถูกสายฟ้าฟาด
---------------------------------------
*อิงเถา 樱桃 (yīngtáo) เชอร์รี่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้