อีกอย่างนี่คือสมุนไพรที่เถ้าแก่หวังสั่งจองไว้ นางไม่อยากเสียคำพูด
หลังจากมองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวัง ถึงก้าวเข้าประตูใหญ่จี้ซั่นถังอย่างมั่นใจ
“แม่หนู มาแล้วรึ ครั้งนี้มาเร็วทีเดียว” ปริมาณของที่เขา้าไม่ใช่น้อยๆ ยังนึกว่านางต้องใช้เวลาหาอีกหลายวัน ไม่คิดว่าวันนี้ก็มาแล้ว
“ของที่ท่าน้าอยู่ตรงนี้หมดแล้ว ท่านตรวจนับดู” ิเป่าจูวางกระบุงลงให้เถ้าแก่หวังตรวจสอบ
หลังตรวจสอบสองรอบ จำนวนของไม่มีผิดพลาด ก็ดีดลูกคิดสองสามครั้ง คำนวณตัวเลขแล้วแจ้งให้ิเป่าจูรับทราบ
“สามสิบตำลึงพอดี เอาล่ะ เก็บให้ดีๆ ด้วยเล่า” เถ้าแก่หวังหยิบเงินจากลิ้นชักออกมาพลางกำชับเป็พิเศษ
ิเป่าจูรู้สึกซาบซึ้งใจ แต่สุดท้ายแล้วชีวิตก็สำคัญกว่า นางรับเงินไว้ แต่ปฏิเสธที่จะรับใบสั่งสมุนไพรที่เถ้าแก่ยื่นให้
“เถ้าแก่หวัง ต่อไปข้าจะไม่มาขายสมุนไพรอีกแล้วล่ะ” นางอธิบายสถานการณ์ให้เถ้าแก่หวังฟัง
“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดไม่ทำแล้วเล่า”
การค้าสมุนไพรสามารถทำเงินได้มหาศาล นางมีช่องทางที่ดีแท้ๆ บทจะล้มเลิกก็ล้มเลิกง่ายๆ ได้อย่างไร เถ้าแก่หวังไม่เข้าใจ
“ข้าวางแผนว่าต่อไปจะตั้งแผงลอยค้าขายเล็กๆ น้อยๆ จะปลอดภัยกว่า” ิเป่าจูหาข้อแก้ตัวส่งเดช ไม่สามารถอธิบายเหตุผลที่แท้จริงได้
เถ้าแก่หวังครุ่นคิด ด้วยเหตุผลนี้ก็พอจะเข้าใจได้ ถึงอย่างไรก็เป็ลูกชาวนา การตั้งแผงลอยเล็กๆ ก็เป็ทางเดียวที่จะหาเลี้ยงชีพได้ ถึงเชื่อนาง
“เมื่อเ้าวางแผนไว้แล้ว ข้าก็จะไม่พูดอะไรมาก ต่อไปหาก้าความช่วยเหลืออะไรก็มาหาข้าได้เสมอ” หลังจากได้ทำความรู้จักกันมาสักพัก เขาก็ยังคงชอบเด็กผู้หญิงคนนี้มาก
“ขอบคุณเถ้าแก่หวังมากเ้าค่ะ”
ิเป่าจูขอบคุณด้วยใจจริง เถ้าแก่หวังคือคนแรกและคนเดียวที่ยินดีรับซื้อสมุนไพรจากนาง ยิ่งไปกว่านั้นยังให้ความช่วยเหลือในเวลาที่นางลำบากที่สุด แต่ตนเองก็มีเป้าหมายใหญ่ยิ่งกว่าที่ต้องทำให้สำเร็จ
นางถือเงินสามสิบตำลึงพลางใช้ความคิด
อย่างไรเสียการเปิดโรงหมอก็เป็เื่ที่ต้องทำไม่ช้าก็เร็ว ไปดูทำเลหน้าร้านแต่เนิ่นๆ รู้ราคาไว้บ้างแต่ตอนนี้ย่อมดีกว่า
ทำเลที่ตั้งไม่ควรห่างไกลเกินไป มิเช่นนั้นหากเกิดโรคร้ายแรงหรือโรคฉุกเฉินก็จะไม่ทันกาล กลุ่มลูกค้าก็มีน้อย
แต่ก็ไม่อาจอยู่ในย่านคึกคักเกินไป ไม่อย่างนั้นด้วยเงินน้อยนิดเพียงแค่นี้เกรงว่าคงซื้อได้แค่ประตูบานเดียว
เดินตามตรอกซอกซอยอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดิเป่าจูก็เจอหน้าร้านที่ต้องใจ เ้าของเดิมมีความประสงค์จะเซ้งร้านต่อ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจรายละเอียด และถึงอย่างนั้นราคาก็อาจสูงถึงห้าสิบตำลึง
ก่อนหน้านี้นางสัญญาว่าจะให้เงินิเถี่ยจู้ยี่สิบตำลึง แต่หลังจากคำนวณค่าใช้จ่ายแต่ละวัน ยังต้องซื้อเครื่องเรือน ของตกแต่ง ซื้อหาสมุนไพร ก็รู้ว่ายังห่างไกล
ต่อให้ไม่มียี่สิบตำลึงของสามีภรรยาสกุลิ ก็เกรงว่ายังไม่พอ
ลู่ทางทำเงินเพียงทางเดียวในตอนนี้ก็มีแต่การเก็บสมุนไพรที่หลังเขา ที่พอจะฝากความหวังไว้ได้
นอกจากนี้ เมื่อถึงเวลาที่ในร้านขายยา้าสมุนไพรจำนวนมาก แน่นอนว่าตนเองก็สามารถใช้เวลา่นี้ปลูกเพิ่มเติมไว้ได้
เมื่อตัดสินใจเช่นนี้ ิเป่าจูก็มีเป้าหมาย เพียงชั่วพริบตาหัวใจก็เต็มไปด้วยแรงขับเคลื่อน คิดไว้ว่าหลังจากกลับไปจะทุ่มเทเวลาให้กับหลังเขาอย่างเต็มที่
แม้เป้าหมายจะกำหนดไว้แล้ว แต่ชีวิตก็ยังต้องดำเนินไปตามปกติ ิเป่าจูซื้อผักและเนื้อหมูกลับไปจำนวนหนึ่ง
ระหว่างทางผ่านแผงเต้าหู้จึงแวะซื้อสองก้อน ไม่นึกว่าแม่นางน้อยที่ขายเต้าหู้จะจำได้ ยังพูดคุยกับนางอีกด้วย
“แม่นางมาแล้วหรือ” หลี่อวิ๋นเห็นิเป่าจูเดินมา ก็ร้องทักอย่างกระตือรือร้นแต่ไกล
“อื้ม เต้าหู้ร้านเ้าอร่อยมาก ไม่มีทางลืมอยู่แล้ว วันนี้ขอสองก้อน” ิเป่าจูแย้มยิ้มไม่ตระหนี่ถ้อยคำชื่นชมสักนิด
แต่พูดตามตรง เต้าหู้ร้านนางก็ดีมากจริงๆ ในยุคปัจจุบันมีแต่อาหารสำเร็จรูป เต้าหู้ก็เป็หนึ่งในอาหารสำเร็จรูปที่มีอยู่เต็มซูเปอร์มาร์เก็ต
เต้าหู้ที่มีทั้งน้ำและเนื้อ ให้ััอ่อนนุ่มและสดใหม่ของชาวนาที่ออกเร่ขายตามท้องถนนแทบจะไม่มีให้เห็น
“ได้เลย” หลี่อวิ๋นตอบเสียงใส ทว่าสายตากลับมองไปรอบตัวิเป่าจู “แม่นาง ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนเ้ามีคนมาด้วยมิใช่หรือ”
“ใช่ ไม่นึกว่าท่านยังจำได้ ครั้งก่อนข้าพาน้องชายมาด้วย”
ิเป่าจูไม่รู้ว่าควรจะแนะนำหลี่ไหวฺอวี้อย่างไร ครั้นจะบอกว่าอีกคนหนึ่งแค่มาอาศัยขอข้าวกินก็กระไรอยู่ จึงเอ่ยถึงแต่ิเป่าอวี้ ไม่นึกว่าถ้อยคำที่กล่าวไปโดยไม่เจตนา จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง
น้องชาย? ที่แท้คนที่งามสง่าดุจเทพเซียนผู้นั้นก็คือน้องชายของแม่นางท่านนี้ แต่ดูไม่เหมือนกันเลยจริงๆ หลี่อวิ๋นคิดในใจ
“ครั้งนี้ไม่ได้พามาเดินเที่ยวในเมืองด้วยกันหรือ” หลี่อวิ๋นนับว่าเป็คนฉลาด ดูจากเสื้อผ้าของิเป่าจูก็รู้ว่าเป็เด็กจากครอบครัวชาวนาในหมู่บ้าน
“ถึงอย่างไรก็ต้องมีคนเฝ้าบ้าน” ิเป่าจูไม่อยากบอกอะไรมาก แต่ก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง
เห็นชัดอยู่ว่าจดจ้องหลี่ไหวฺอวี้ตาไม่กะพริบ ไฉนอยู่ๆ ครั้งนี้ถึงมาสนใจเป่าอวี้ของนาง ซ้ำยังเลียบเคียงถามถึงอยู่หลายหน
“อ้อ...”
น้ำเสียงที่ฉายแววผิดหวังอย่างเด่นชัดของหลี่อวิ๋นทำให้ิเป่าจูหันมามองนางปราดหนึ่ง
“พาครอบครัวมาเที่ยวบ่อยๆ ก็ได้ ในเมืองสนุกสนานครึกครื้น อีกสองวันก็จะเป็เทศกาลจงหยวน [1] แล้ว ถึงตอนนั้นบนถนนก็จะมีการแสดงด้วยนะ” นางฉวยโอกาสเอ่ยปากทันควัน
ทั้งยังมีการลอยโคมอธิษฐานกับแม่น้ำ ตามตำนานเล่าขานว่าถ้าได้ลอยโคมอธิษฐานกับคนที่ชอบ ก็จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป
เทศกาลจงหยวน? นั่นมันวันปล่อยผีของสมัยโบราณมิใช่หรือ ไม่นึกว่าตนเองจะได้มาเห็นกับตา แต่เทศกาลแบบนี้จะมีการแสดงไล่ผีหรือเปล่า
“เอาสิ หากไม่ยุ่งต้องมาแน่นอน”
ิเป่าจูได้ยินแล้วก็ตื่นเต้น คิดว่าจะพาทั้งสองคนมาเที่ยวชมเทศกาลจริงๆ
“อื้ม ถึงเวลาก็มาหาข้าที่แผงได้ ข้าจะพาเที่ยวให้สนุกไปเลย” หลี่อวิ๋นเห็นิเป่าจูพยักหน้าก็เผยสีหน้ายินดีปรีดา หากได้พบเขาคงดียิ่ง
“เต้าหู้ของข้า...” ิเป่าจูมองมือของหลี่อวิ๋น มีดของนางหยุดอยู่ที่เต้าหู้ก้อนแรกก็ไม่ไปไหนเสียที
“ขออภัยด้วย มัวแต่คุยกับแม่นางเพลินจนลืมเสียสนิท เอานี่!”
หลี่อวิ๋นเก้อเขินเล็กน้อย พวงแก้มแดงซ่าน หั่นเต้าหู้เป็ชิ้นๆ อย่างคล่องแคล่วห่อให้เรียบร้อย ก่อนจะช่วยนำไปใส่กระบุงสะพายหลังให้ด้วยความใส่ใจ
“อวิ๋นเอ๋อร์ เ้ามัวแต่ทำอะไรอยู่ หั่นเต้าหู้แค่นี้ตั้งหนึ่งเค่อเชียวหรือ มือไม้ให้มันไวๆ เข้าหน่อย”
“ทราบแล้วเ้าค่ะท่านแม่”
ิเป่าจูเดินไปไกลแล้ว หลี่อวิ๋นถึงรับคำมารดา แล้วไปทักทายลูกค้าคนอื่นต่อ
ิเป่าจูกลับไปถึงหมู่บ้านก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติ ปากทางเข้าหมู่บ้านวันนี้เงียบเป็พิเศษ หญิงชาวบ้านที่มักจะมายืนซุบซิบนินทากันก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
เมื่อเดินไปตามทางกลับบ้าน ก็เห็นว่ามีกลุ่มคนยืนมุงกันอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง
มิน่าเล่าถึงว่าไม่เห็นใครเลย ที่แท้ก็มารวมตัวกันชมความครึกครื้นอยู่ตรงนี้นี่เอง
ิเป่าจูไม่รู้สึกสนใจแม้แต่น้อย จึงเดินผ่านไปโดยไม่ชายตามอง แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องคล้ายเสียงสุนัขเห่าดังออกมา พร้อมกับเสียงร้องไห้คร่ำครวญปานใจจะขาดของสตรีนางหนึ่ง
ิเป่าจูอดไม่ได้ที่จะหยุดฝีเท้า นึกคาดคะเนบางอย่างอยู่ในใจ ก่อนค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ฝูงชน
“อุ๊ย เ้าดูสิ ร้องอีกแล้ว”
“นั่นสิ เสียงอย่างกับสุนัขเห่า ได้เปิดหูเปิดตาแล้วจริงๆ”
“เ้าว่า จะใช่ถูกปิศาจเข้าสิงหรือไม่”
“จะไม่ใช่ได้อย่างไร ท่านหมอหลี่ก็บอกแล้วนี่...”
เชิงอรรถ
[1] เทศกาลจงหยวน หรือเทศกาลสารทจีน ตรงกับวันที่ 15 เดือน 7 ตามปฏิทินทางจันทรคติ เป็เทศกาลที่ชาวจีนจะเซ่นไหว้บรรพบุรุษ และบำเพ็ญกุศลให้กับผีไร้ญาติ
