แววตาของหานซินถูกความชั่วร้ายบางอย่างควบคุมอย่างสมบูรณ์ ใบหน้าของนางประดับไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายคล้ายคนบ้า เมื่อได้ยินคำถามของหานเทียน นางทำเพียงหัวเราะออกมาแล้วตอบว่า "ข้าทำสิ่งใดงั้นหรือ? พัดเฉียนคุนเป็ของข้า ใครหน้าไหนก็แย่งไปไม่ได้!”
ในขณะที่นางกำลังพูด ร่างเพรียวบางก็ลอยขึ้นจากพื้นราวห่านป่าตัวหนึ่งและพุ่งตรงเข้าไปหาพัดเฉียนคุนทันที
แต่หานเทียนจะปล่อยให้หานซินทำสำเร็จได้อย่างไร เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าชัยชนะที่เป็ของเขากำลังจะถูกน้องสาวของตัวเองแย่งไป เวลานี้เขาไม่สามารถระงับความโกรธที่อยู่ภายในใจของตัวเองได้อีกต่อไป หานเทียนไม่รอให้หานซินได้เข้าใกล้พัดเฉียนคุน เขาซัดฝ่ามือเข้าโจมตีหานซินก่อน
หานซินไม่ทันระวังตัว นางจึงถูกหานเทียนโจมตีเข้าใส่จนกระอักเืออกมาเต็มปาก
"ท่านบังคับให้ข้าต้องทำเช่นนี้เองนะ!" ไม่ว่าหานซินจะสูญเสียสติสัมปชัญญะไปมากน้อยเพียงใด แต่นางก็ยังรับรู้ได้ว่าหานเทียนเป็พี่ชายของตนเองและเป้าหมายแรกเริ่มของนางก็ไม่ใช่เขา แต่ตอนนี้หานเทียนกลับลงมือกับนาง ทันใดนั้นพลังอันรุนแรงที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของหานซินแทบจะควบคุมเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป
หานซินเปลี่ยนเป้าหมายจากพัดเฉียนคุนมายังหานเทียนแล้วกระหน่ำโจมตีเขาอย่างต่อเนื่อง
มันไม่ใช่การโจมตีด้วยพลังลมปราณ ทั้งยังไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้แบบใดที่หานเทียนเคยเห็นมาก่อน ก่อนหน้านี้ร่างกายของหานเทียนเหนื่อยล้าจนแทบจะหมดเรี่ยวแรงจากการต่อสู้กับพวกสัตว์อสูรอยู่แล้ว มาตอนนี้ยังถูกหานซินโจมตีใส่อย่างไม่ลดละเช่นนี้อีก ดังนั้นสีหน้าของเขาจึงซีดเผือดแทบไร้สีเื
แต่หานซินไม่สนอะไรอีกแล้ว นี่ช่างเป็การต่อสู้ที่ไม่คิดถึงชีวิตเอาเสียเลย!
หานเทียนพบว่าวิธีการโจมตีของหานซินทั้งแปลกประหลาดและชั่วร้าย เขาอยากถามว่านางกำลังตกอยู่ในมนต์สะกดชั่วร้ายอะไรหรือไม่ แต่ในขณะที่การเคลื่อนไหวของเขาหยุดชะงักไป หานซินก็ฉวยโอกาสนี้ฟาดฝ่ามือเข้าไปที่กลางอกของหานเทียน
เป๊าะ กร๊อบ......
เสียงกระดูกแตกดังชัดเจนเข้าไปในหูของหานเยว่
หานเยว่หันหน้ามามอง นางเห็นหานเทียนกำลังร่วงลงมาจากกลางอากาศราวกับเศษผ้า
"พี่ใหญ่!"
หานเยว่ะโออกมาเสียงดัง นางอยากจะพุ่งตัวเข้าไปหาพี่ชายของตนเอง แต่สัตว์อสูรพวกนี้ก็ไม่เปิดโอกาสให้นางเลย ยิ่งหานเยว่กระวนกระวายการเคลื่อนไหวของนางก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนางหาช่องว่างได้ก็พุ่งตัวออกไปและวิ่งเข้าไปหาหานเทียนทันที นางเห็นแววตาอ่อนแรงของหานเทียน บนใบหน้าของเขามีเืไหลออกมาจากมุมปาก
ดวงตาของหานเยว่เบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ นางหันไปมองหานซินที่กำลังแย้มยิ้มอย่างบ้าคลั่งและเอ่ยถามเสียงดัง "หานซิน เ้าเป็บ้าไปแล้วหรือ!?"
บนใบหน้าของหานซินยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่ นางหลุบตามองไปยังหานเยว่ด้วยสภาพคลุ้มคลั่ง "ใช่ ข้าบ้าไปแล้ว พัดเฉียนคุนเป็ของข้า ใครก็ตามที่แย่งมันไปข้าจะฆ่าให้ตาย!"
ดวงตาของหานเยว่เบิกกว้าง "เ้า! ไร้สาระสิ้นดี!"
หานซินหัวเราะอย่างบ้าคลั่งมากขึ้น ราวกับว่าการที่ได้ยินหานเยว่ดุด่าเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก "ฮ่าฮ่าฮ่า หานเยว่ พวกเ้านี่ไร้ค่านัก หากเ้ามีความสามารถมากพอก็มาแก้แค้นให้หานเทียนสิ!"
หานเยว่จ้องมองหานซินด้วยความโกรธถึงขีดสุด แต่นางก็ไม่กล้าพอที่จะลงมือ
ตอนที่ทั้งสองกำลังมองหน้าหยั่งเชิงกันอยู่นั้น ชายจากตระกูลอื่นที่ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ใหญ่ก็ตะะโกนออกมาเสียงดังลั่นว่า "นั่นมันอะไรน่ะ!?"
หานซินและหานเยว่ละความสนใจจากอีกฝ่ายไปชั่วขณะ ทั้งคู่มองไปยังทิศทางที่ชายคนนั้นชี้นิ้วไป
เมื่อทั้งสองได้เห็นเ้าสิ่งนั้น ใบหน้าของพวกนางก็ดูไม่ได้ในทันที
สัตว์อสูรตัวหนึ่งที่ขนาดใหญ่กว่าสัตว์อสูรพวกนี้สามถึงสี่เท่ากำลังมุ่งหน้ามาอย่างรวดเร็ว
"สัตว์อสูรระดับสูง!" หานเยว่จำสัตว์อสูรตัวนั้นได้ นางสังเกตเห็นว่ารอบๆ เริ่มมีสัตว์อสูรระดับต่ำมารวมตัวกันมากขึ้น นางไม่ได้สนใจหานเทียนอีกแล้วรีบพุ่งตัวไปยังพัดเฉียนคุนทันที
หานซินส่งเสียงในลำคอออกมาอย่างเ็าและรีบพุ่งตัวไปยังพัดเฉียนคุนเช่นกัน
ชายจากตระกูลอื่นเองก็อยากแบ่งน้ำแกง [1] ด้วย ดังนั้นเวลานี้พวกเขาทั้งสามคนจึงเริ่มต่อสู้เพื่อแย่งชิงพัดเฉียนคุนกัน
ตอนที่หานโม่และเซวียอีเฉินมาถึงบริเวณที่ัักลิ่นอายของพัดเฉียนคุนได้ พวกเขาก็เห็นว่าตรงนั้นมีคนสามคนกำลังต่อสู้กัน ส่วนสัตว์อสูรระดับต่ำหลายตัวต่างหมอบอยู่บนพื้นตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ไกลออกไปมีสัตว์อสูรระดับสูงตัวหนึ่งกำลังใช้ปากคาบพัดเฉียนคุนขึ้นมาโบกไปมาก่อนจะโยนขึ้นไปไว้บนหลังของมัน
ิัของสัตว์อสูรระดับสูงตัวนั้นเป็พื้นผิวแข็งๆ ที่เรียบลื่น หลังจากมันโยนพัดเฉียนคุนขึ้นไปแล้วพัดก็ไถลลงมาระยะหนึ่ง สุดท้ายตัวปลายพัดก็เกี่ยวติดกับลำคอของสัตว์อสูร
“เ้าพวกคนโง่เง่า!”
เมื่อหานโม่มาถึงนางก็สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้ว่าอาการาเ็สาหัสของหานเทียนไม่พ้นเป็ฝีมือหานซิน ส่วนหานซินก็กำลังต่อสู้อยู่กับหานเยว่และชายจากตระกูลอื่น แน่นอนว่านางเพียงคนเดียวก็สามารถจัดการทั้งสองคนได้อย่างง่ายดาย ทักษะความสามารถของนางเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว
ผู้เข้ารอบทั้งสิบคนยกเว้นนางและเซวียอีเฉินแล้ว เวลานี้เหลือเพียงแค่สามคนเท่านั้น ส่วนอีกครึ่งหนึ่งสูญหายไปด้วยฝีมือของหานซิน.....
ความเย็นะเืแผ่ไปทั่วดวงตาของหานโม่
ดูเหมือนว่าการประลองในรอบนี้จะไม่มีทางจบลงดีๆ ได้เสียแล้ว
"หานโม่ เ้ายังไม่ตายได้อย่างไร!" หานซินที่กำลังโจมตีใส่หานเยว่เหลือบไปเห็นหานโม่ นางจึงกรีดร้องออกมาด้วยความใ
หานโม่ชำเลืองมองหานซินด้วยหางตาอย่างไม่ใส่ใจและพุ่งตรงไปหาพัดเฉียนคุนโดยไม่พูดไม่จาแม้แต่คำเดียว
พอหานซินได้เห็นจุดมุ่งหมายของหานโม่ นางก็ไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าเหตุใดหานโม่ถึงยังมีชีวิตอยู่ นางยกขาข้างหนึ่งถีบชายผู้นั้นออกไป ส่วนมืออีกข้างก็กระชากผมของหานเยว่เอาไว้และเอ่ยเสียงเย็นราวกับปีศาจร้ายว่า "ไปเอาพัดเฉียนคุนมาให้ข้า!”
หานเยว่มองไปยังพัดเฉียนคุนที่ห้อยอยู่บนคอของสัตว์อสูรระดับสูงแล้วใบหน้ายับยู่ยี่ "หานซิน เ้ามันบ้าไปแล้ว! ข้าจะไปเอาชนะสัตว์อสูรระดับสูงได้อย่างไร!"
หานซินหัวเราะเยาะแล้วเพิ่มแรงกระชากผมหานเยว่ให้มากขึ้น "เ้าคิดว่าข้ากำลังขอคำปรึกษาจากเ้าอยู่หรือ? หากเ้าไม่อยากไป งั้นข้าจะส่งเ้าไปเอง!"
เมื่อหานซินพูดจบก็ลุกขึ้นยืนและโยนหานเยว่เข้าไปหาสัตว์อสูรระดับสูง
เหล่ามนุษย์ที่อยู่ตรงนั้นไม่ได้สำคัญกับมันเลย มันสนใจเพียงพัดเฉียนคุนที่ห้อยอยู่ตรงคอ เมื่อเห็นว่ามีบางสิ่งกำลังพุ่งเข้ามาหา ทันใดนั้นมันก็พ่นลมหายใจร้อนๆ ออกมาจากทางจมูกด้วยความรำคาญ
"โฮก......"
เสียงคำรามของสัตว์อสูรระดับสูงดังกึกก้อง หานโม่ที่กำลังจะเข้าใกล้พัดเฉียนคุนยกมือขึ้นมาปิดหูเอาไว้ นางไม่สามารถก้าวไปด้านหน้าได้อีกแม้แต่ครึ่งก้าว
หานเยว่รับการโจมตีจากเสียงคำรามของสัตว์อสูรระดับสูงโดยตรง ร่างกายของนางกระเด็นออกไปไกลแล้วตกลงบนพื้น หูของนางมีเืไหลออกมา
เมื่อเห็นเช่นนี้ทุกคนก็อดที่จะรู้สึกประหม่าไม่ได้
นี่คือสัตว์อสูรระดับสูงที่มีพลังทำลายล้าง แต่มันไม่รุนแรงเกินไปหน่อยหรือ!
หานซินเห็นว่าแม้แต่หานโม่เองก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับสูงตรงๆ ภายในใจของนางก็ไหวสะท้าน
แม้ว่านางจะมีพลังของชายเสื้อคลุมดำคอยช่วยเหลืออยู่ แต่หานซินก็ยังมีสัญชาตญาณในการปกป้องชีวิตตัวเอง ดังนั้นหากนางต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับสูงเพียงลำพังนางก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะเอาชนะได้เช่นกัน
พอดีกับที่หานเยว่ลอยมากองอยู่แทบเท้าของนาง หานซินจึงดึงผมของหานเยว่ให้ลุกขึ้นมา
"ไปซะ! ไปเอาพัดเฉียนคุนมาให้ข้า มิเช่นนั้นข้าจะฆ่านางเสีย!"
นิ้วทั้งห้าของหานซินกางออกวางแล้วกำรอบคอหานเยว่ จนขึ้นรอยแดงทันที
หานโม่มองภาพตรงหน้าโดยที่ภายในใจไม่มีความรู้สึกใดเลย
'ฉู่หยุน' เป็ชื่อของชายหนุ่มที่คู่กับหานิผู้นั้น ตอนนี้เขากำลังอยู่ท่ามกลางาเย็นของเหล่าทายาทตระกูลหาน แม้ว่าจะเห็นหานเยว่ถูกหานซินจับเป็ตัวประกัน แต่เขาก็ยังมองทุกอย่างตรงหน้าอย่างนิ่งเฉยไม่เคลื่อนไหวใดๆ
........................................................................
เชิงอรรถ
[1] แบ่งน้ำแกง หมายถึง แบ่งผลประโยชน์
