ในโลกที่แปลกประหลาดนี้มีสิ่งของล้ำค่าหายากต่างๆ มากมายที่สามารถเพิ่มพูนพลังปราณรบให้แก่ผู้ฝึกยุทธ์ได้ ตัวอย่างเช่น ยาชนิดต่างๆ ยาพลังปราณหิมะของตระกูลเสว่เป็อีกหนึ่งชนิดที่สามารถเพิ่มระดับความเร็วในการดูดซับพลังปราณรบได้ บนโลกนี้ของล้ำค่าหายากที่เขารู้จักซึ่งสามารถทำให้ผู้มีพลังฝีมือเพียงระดับขั้นที่สองขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ ภายในเวลาเพียงไม่กี่วันสามารถเลื่อนระดับขั้นพลังฝีมือขึ้นมาถึงระดับขั้นที่สามได้ และพลังฝีมือยังคงเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นมีแต่เพียงผลึกั ผลึกที่มีอัตราการเกิดขึ้นเพียงน้อยนิดที่ออกมาพร้อมกับไข่ั
ผลึกัเป็ของล้ำค่าหายากระดับสูงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ภายในอัดแน่นไปด้วยพลังงานบริสุทธิ์มหาศาล มันสามารถทำให้ลูกัที่เพิ่งฟักออกจากไข่เลื่อนขั้นระดับพลังขึ้นเทียบเท่ามารอสูรระดับห้าในทันที และลูกัที่กลืนผลึกัลงไปจะมีโอกาสอย่างมากเมื่อหลังจากเข้าสู่่เติบโตเต็มวัยแล้วจะสามารถก้าวข้ามระดับขั้นคุณภาพเดิมของผู้เป็พ่อแม่ ตัวอย่างเช่นัดำ จากมารอสูรแปดคุณภาพระดับขั้นสูงสุดจะมีโอกาสอย่างมากที่จะกลายเป็อสูรศักดิ์สิทธิ์
ตอนนี้แน่ใจแล้วว่าเย่ชิงหานกำลังทำการดูดซับพลังงานจากผลึกั แถมพลังฝีมือยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้ ทำให้เย่สือซานปลื้มปีติยินดีเป็พิเศษ ผลึกัเป็เสี่ยวเฮยที่นำมา พวกเขาไม่กล้าที่จะคาดหวังว่าเสี่ยวเฮยจะนำมามอบให้พวกเขาหลอม ในทางกลับกันถึงแม้จะเป็พวกเขาที่นำผลึกัมาสุดท้ายก็จะมอบให้เย่ชิงหานหลอมเพื่อดูดซับพลังเช่นเดิม
ทำไมน่ะรึ? คำถามนี้ตอบได้อย่างง่ายดายมาก นั่นก็เพราะว่าเย่ชิงหานมีอสูรศักดิ์สิทธิ์ และมีวิชาต่อสู้ร่างอสูรที่แหกกฎ์
แม้พลังฝีมือของเย่ชิงหานในตอนนี้เมื่อเปรียบเทียบกับพวกเขาแล้วจะอ่อนด้อยอยู่มากจนสามารถสังหารได้ในพริบตา แต่ถ้าหากให้เขาเติบโตยิ่งขึ้นกว่านี้ รับรองได้เลยว่าจะกลายเป็บุคคลในประวัติศาสตร์ของตระกูลที่สามารถเทียบได้กับปฐมาจารย์บรรพบุรุษเย่หวงผู้ก่อตั้งตระกูลเย่ แม้กระทั่งปรมาจารย์เย่รั่วสุ่ยก็ต้องด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งเพราะไม่ได้มีวิชาต่อสู้ร่างอสูรที่สุดยอดเช่นนี้ เขาคิดวาดฝันถึงตอนที่เย่ชิงหานพลังฝีมือบรรลุถึงระดับขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ อาศัยพลังฝีมือเพียงคนเดียวบุกตะลุยกวาดล้างไปทั่วทั้งเขตปกครองเทพปีศาจและเขตปกครองเทพคนเถื่อน ภาพบรรยากาศที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรเช่นนั้น เพียงแค่คิดก็ทำให้จิติญญาสั่นสะท้านขึ้นด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ
ดังนั้นแม้ในตอนนี้ร่างกายจะรู้สึกอ่อนเพลียไปบ้าง แต่จิตใจกลับดีขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งเย่สือชีที่ทำหน้าที่สำรวจเส้นทางที่อยู่เบื้องหน้าห่างออกไปก็วิ่งด้วยจิตใจที่ปีติยินดีอย่างมากเช่นเดียวกัน
ตอนนี้กำลังจะเข้าใกล้เขตแดนสนามรบตะลุมบอนเข้าไปทุกที ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะประมาท การสำรวจเส้นทางจึงต้องขยายขอบเขตเพิ่มขึ้นอีกหน่อย หากพบเจอกองกำลังของนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนจะได้รีบพาเย่ชิงหานและเย่ชิงอู่หลบหนีออกไปได้ทันท่วงที พลังฝีมือระดับขั้นที่สองและขั้นที่สามขอบเขตจ้าวนักรบอย่างพวกเขา หากคิดจะพาใครสักคนหลบหนียากที่จะมีใครหยุดเอาไว้ได้
.................................
หลงไซ้หนานเริ่มเดือดดาลขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไหนแต่ไรมาสีหน้าของนางนั้นสุขุมราบเรียบ ตอนนี้เริ่มปรากฏแววดำคล้ำขึ้นเล็กน้อย
สามวันแล้ว ผ่านไปสามวันเต็มๆ! นางจัดกลุ่มบุกโจมตีขึ้นไปถึงสิบกว่าครั้งล้วนถูกเยาขาข่าและหมันก้านต้านทานไว้ทุกครั้ง
ในวันแรกที่บุกโจมตีล้มเหลวทั้งสองครั้ง จากนั้นั้แ่วันที่สองเป็ต้นมานางเปลี่ยนแผนการบุกโจมตีใหม่ ตัดสินใจว่าจะไม่คำนึงถึงอัตราการาเ็ล้มตายอย่างไรก็จะต้องทำลายแนวป้องกันของเผ่าคนเถื่อนให้พังทลายลงให้ได้ นางเริ่มส่งคนออกไปทำการบุกโจมตีทุกเวลา จัดให้ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตจ้าวนักรบปะปนรวมกันกับนักรบระดับหัวกะทิธรรมดาทั่วไป สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันบุกโจมตีแนวป้องกันเพื่อค่อยๆ ทำให้นักรบเผ่าคนเถื่อนระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนทำการเผาไหม้พลังคนเถื่อนให้หมดไปมากที่สุด
นางรู้ดีว่าหาก้าที่จะทำลายแนวป้องกันด่านหน้าที่ราวกับกำแพงเหล็กกล้าให้ทลายลง จำเป็อย่างยิ่งที่จะต้องทำให้พลังคนเถื่อนของนักรบระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนเหล่านี้ถูกใช้ไปให้หมดเสียก่อน หากบนร่างของทั้งสิบกว่าคนนี้ยังเปล่งประกายแสงสีเหลืองอยู่ พวกของตนเองทางนี้ก็คงไม่สามารถที่จะบุกโจมตีขึ้นไปฆ่าพวกนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนทั้งหลายที่อยู่บนยอดเขาได้
ดังนั้นนางจึงเริ่มแผนการสู้รบนองเืขึ้น ไม่ต้องสนใจต่ออัตราการาเ็ล้มตายที่เกิดขึ้น ไม่ต้องสนราคาที่ต้องจ่ายออกไป บุกโจมตีขึ้นไปอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้พลังคนเถื่อนของพวกมันเผาไหม้จนหมดไป
เพียงแต่ว่าผ่านไปสามวันแล้ว ทั่วร่างของนักรบเผ่าคนเถื่อนทั้งสิบกว่าคนที่ยืนปักหลักอยู่เอวยอดเขาที่ดูราวกับเสาหินนั้นยังคงเปล่งประกายแสงสว่างสีเหลืองออกมาอยู่ไม่หยุด มันทำให้นางเดือดดาลเป็อย่างมาก สีหน้าไม่ได้มีลักษณะของความสุขุมราบเรียบอีกต่อไป ตอนนี้กลับถูกแทนที่ด้วยความร้อนรนกระวนกระวายใจ
สามวัน สูญเสียนักรบระดับหัวกะทิไปหลายร้อยคน แต่กลับฆ่านักรบของเผ่าคนเถื่อนและเผ่าปีศาจได้เพียงสิบกว่าคน ที่สำคัญในจำนวนหลายร้อยคนเป็คนของเมืองัของตนเองเสียส่วนใหญ่ แล้วอย่างนี้จะให้นางอารมณ์ดีอยู่ได้อย่างไร? จะให้สีหน้าเหมือนเดิมอยู่ได้อย่างไร?
ฟิ้ว!
ข้างๆ มีเงาร่างหนึ่งพุ่งแหวกอากาศมา ดึงอารมณ์ความคิดของหลงไซ้หนานกลับมาสู่ปัจจุบัน นางสูดหายใจเข้าลึกไปหลายครั้งพร้อมกับปรับสีหน้าอาการให้ดูดีขึ้นมาสักหน่อย
ผู้ที่มาคือฮวาเฉ่า ใบหน้าที่สวยงามปรากฏแววของความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางให้เห็น สีหน้าดำคล้ำดูไม่ค่อยดีนัก เอ่ยปากพูดขึ้นด้วยความร้อนรน “ร้อยกิโลเมตรทางด้านซ้ายมีนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนจำนวนมากรวมตัวกันขึ้น คาดว่าอีกห้าวันข้างหน้าจะมีนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนจำนวนมากเดินทางมาถึงที่นี่ พวกเรามีเวลาเพียงแค่สามวัน! สามวันหลังจากนี้ไม่ว่าจะบุกโจมตีสำเร็จหรือไม่ก็ต้องถอยออกไปจากที่นี่”
ข่าวสารที่ฮวาเฉ่านำมาทำให้สีหน้าที่เพิ่งปั้นให้ดูดีขึ้นมาได้ไม่นานของหลงไซ้หนานต้องเปลี่ยนไปอีกครั้ง แม้นางจะคาดการณ์ไว้แต่แรกแล้วว่านักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนจะต้องรู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่ และคงต้องนำกำลังเสริมมาช่วยอย่างแน่นอน แต่ไม่คาดคิดว่าพวกมันจะรู้ข่าวกันรวดเร็วถึงเพียงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่กำลังเสริมที่แยกกันมาแต่ละเผ่า แต่เป็การรวมตัวกันมาอีกต่างหาก
เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่ถูกพวกมันรับรู้ั้แ่แรกแล้ว นึกถึงหลายวันก่อนที่สังหารหน่วยส่งข่าวของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนไปสิบกว่าคน หลงไซ้หนานส่ายหัวออกมาอย่างอับจนปัญญา “เวลาสามวัน? พยายามทำอย่างเต็มความสามารถแล้วกัน หวังว่าท่านเทพาจะปกปักรักษาลูกหลานของตนเองให้ปลอดภัย!”
.................................
บุกขึ้นไป บุกโจมตีขึ้นไป!
บุกโจมตีขึ้นไปอย่างไม่ต้องคำนึงถึงอะไรทั้งนั้น!
ตกกลางคืนเขตปกครองเทพาเปิดประชุมปรึกษาหารือก่อนการสู้รบขึ้น แจ้งข่าวสารใหม่ที่ได้รับมาแก่ผู้นำกองกำลังคนอื่นๆ ให้ทราบโดยทั่วกัน เมื่อทุกคนได้รับรู้ว่าทัพเสริมของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนอีกไม่กี่วันก็จะมาถึงที่นี่ สีหน้าของพวกเขาล้วนเปลี่ยนไปในทันที ในขณะเดียวกันก็ลงความเห็นอย่างเป็เอกฉันท์ว่าไม่ต้องสนใจราคาที่ต้องจ่ายออกไป ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องบดขยี้พวกเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่อยู่บนยอดเขาให้แหลกไปให้ได้
บนยอดเขาขาดมีบุคคลสำคัญระดับสูงของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนอยู่บนนั้น มีเพียงทางเดียวคือต้องสังหารพวกเขาเ่าั้ให้ได้ถึงจะทำให้การร่วมมือกันของทั้งสองเผ่าพังทลายลง หาไม่แล้วละก็นักรบของเขตปกครองเทพาทั้งหมดจะต้องพบเจอกับหายนะชนิดที่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้อย่างแน่นอน
คมดาบจ่อคอไม่สู้ไม่ได้ ทุบหม้อข้าวหม้อแกงไม่ชนะก็ยอมตาย พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ถึงแม้ต้องใช้ชีวิตคนไปสร้างทางเดินก็ต้องสร้างให้เป็ทางเดินขึ้นมาให้ได้
เสียงกลองรบที่ทุ้มต่ำและหนักอึ้งทำลายความเงียบสงบในตอนเช้าตรู่หายไปจนหมดสิ้น แสงอรุโณทัยยังไม่ทันที่จะสาดส่อง แต่บนเกาะแห่งความมืดมิดกลับปกคลุมไปด้วยไอหมอก มองผ่านหมอกควันสีขาวที่หนาทึบ มองเห็นยอดเขาขาดได้เลือนรางอยู่เบื้องหน้า ดูราวกับมารอสูรตัวใหญ่ที่นอนขดแยกเขี้ยวกางกรงเล็บอันน่าสะพรึงกลัวรอคอยอยู่ตรงนั้น...
ฆ่า!
หลงไซ้หนานอยู่ในชุดเสื้อคลุมสีแดงลักษณะท่าทางองอาจห้าวหาญ กระบี่ัคำรามในมือตวัดฟาดชี้ออกไปยังยอดเขาขาด นักรบระดับหัวกะทิของเขตปกครองเทพาจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มพุ่งทะยานแหวกม่านหมอกหนาทึบมุ่งหน้าขึ้นไปยังถนนทางเดินคดเคี้ยวบนยอดเขา
บริเวณตีนเขา นักรบระดับหัวกะทิยืนเรียงรายต่อแถวกันเตรียมพร้อมรับ่ต่อกองกำลังที่อยู่ด้านหน้า รอจังหวะดันเสริมเข้าไปส่วนผู้ที่อยู่ด้านหลังก็ดันเสริมเข้ามา ใช้พลังฝีมือและร่างกายของตนเองสร้างเป็ทางเดินให้สหายร่วมรบที่อยู่ด้านหลัง
“นายน้อย ฝากดูแลบิดามารดาที่บ้านของข้าด้วย!”
“พี่น้องของข้า อย่าลืมเผากระดาษเงินกระดาษทองให้ข้าเยอะๆ ทุกๆ เดือนด้วยละ ข้าใช้เงินเปลือง ได้ยินมาว่าโลกหลังความตายนี่ราคาของขึ้นเอาขึ้นเอา...”
“ฝากบอกพี่สะใภ้คนที่สองข้างบ้านข้าด้วยว่าข้าแอบรักนางมาตลอด ยังมีอีกบอกนางด้วยว่าตอนอาบน้ำให้ปิดประตูหน้าต่างให้ดีๆ...”
“น้องหก อย่าลืมช่วยข้าจ่ายค่าสาวงามที่ค้างอยู่ที่หอนางโลมลี่ชุนด้วยละ ฝากบอกฟางฟางด้วยว่าต่อไปอย่าให้ลูกค้าค้างค่าบริการอีก ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีจิตใจดีอย่างข้าซะที่ไหน!”
“…”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้