ฮูหยินรองหรี่ตายิ้ม หางตานั้นพลันปรากฏให้เห็นรอยยับย่น นางเดินเข้าไปหาจื่อซูแล้วใช้น้ำเสียงเด็ดขาด “นังเด็กคนนี้ อย่าคิดว่าเ้าเข้าวังแล้วก็จะกลายเป็หงส์บินขึ้นฟ้าได้ เ้าเป็สาวใช้ที่สกุลเฟิ่งของพวกเราอบรมสั่งสอนออกมา หากเ้ามาทำเื่ขายหน้าในวังก็เท่ากับทำให้สกุลเฟิ่งของเราขายหน้าไปด้วย หากว่ากันตามกฎบ้านของสกุลเฟิ่งแล้ว ข้ารับใช้ที่กระทำความผิดจะต้องถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนด้วยแส้หนัง...”
พูดแล้วก็รวดเร็วยิ่งนัก เพียงได้ยินเสียง พ่าบ ดังก้องขึ้น แส้หนังเส้นหนึ่งตวัดเข้าใส่ร่างของจื่อซูทันที!
ความเร็วเช่นนี้ช่างน่าตกตะลึง!
นับั้แ่ฮูหยินรองหยิบแส้ และตวัดแส้ลงมา ไหลลื่นราวกับไม่รู้ว่าซักซ้อมมากี่รอบ
สิ่งที่ตามแส้มาด้วยคือกลิ่นอายเทพสีเขียวที่อยู่บนแส้ นี่คือสัญลักษณ์ของจอมยุทธ์ขั้นห้า!
แค่คิดก็รู้ว่าหากแส้นี้ตวัดลงไปบนร่างบอบบางที่แทบจะสิ้นลมของจื่อซู จุดจบจะเป็อย่างไร
ในวินาทีวิกฤตนั้นเฟิ่งเฉี่ยนก้าวออกมายืนข้างกายจื่อซูแล้วเอาตัวเองเข้ารับแส้นี้แทน!
หนึ่งแส้ที่ตวัดลงไปเปี่ยมไปด้วยพลังอันน่าตื่นตระหนก!
ไหล่ขวาด้านหน้าของเฟิ่งเฉี่ยนที่มีอาภรณ์กางกั้นถึงกับมีรอยเืปรากฏขึ้นรอยหนึ่ง!
ผ้าโปร่งที่คลุมใบหน้าของนางก็หลุดไปพร้อมด้วย ส่งผลให้โฉมหน้าที่แท้จริงของนางปรากฏออกมา
ฮูหยินรองสะบัดแขนตวัดแส้อีกครั้ง แส้ที่สองกำลังจะตวัดลงมา นางพลันเห็นใบหน้าของเฟิ่งเฉี่ยนชัดเจน แขนจึงสั่นส่งผลให้การตวัดแส้ครั้งนี้พลาดไปตวัดลงบนพื้น
พ่าบ!
เสียงนั้นยังคงสร้างความตื่นตระหนกและะเืใจให้กับทุกคน!
คนทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ได้แต่ตะลึงงัน
“เหนียงเหนียง เหนียงเหนียงท่านกลับมาแล้ว!” จื่อซูตื่นเต้นดีใจจนน้ำตาร้อนๆ เอ่อคลอกระบอกตา เมื่อเห็นฮองเฮาเหนียงเหนียงถึงกับใช้ร่างของนางรับแส้แทนตน นางซาบซึ้งใจน้ำตาไหลพราก
“ฮอง ฮองเฮาหรือ”
ฮูหยินรองติดอ่างไปชั่วขณะ
คิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าสตรีที่พวกนางพบด้านนอกประตูวังเมื่อสักครู่ ถึงกับเป็ฮองเฮา!
เมื่อสักครู่นางเพิ่งจะปฏิบัติกับนางเฉกเช่นบ่าวรับใช้ ยังพูดจาข่มขู่นางอีกด้วย ซ้ำยังพูดถึงพฤติกรรมในทางไม่ดีของฮองเฮาต่อหน้านาง และที่ร้ายแรงขั้นเอาชีวิตที่สุดก็คือ นางยังเฆี่ยนฮองเฮา...”
แล้วนี่จะทำอย่างไรดี
“พี่สาว พี่สาวหรือ”
เฟิ่งซินเหยาเองก็ตกตะลึงเช่นกัน
ที่แท้สตรีในชุดขาวที่นางพบในป่าหมอกดำ ก็คือพี่สาวของนาง
นางถึงกับตามติดพี่เขยอย่างไม่ลดละต่อหน้าพี่สาวของตน...พี่สาวจะต้องไม่ละเว้นนางแน่นอน!
เมื่อจิตใจลนลานย่อมส่งผลให้มือไม้สั่นไปด้วย
“ฮองเฮา?! ไฉนจึงเป็นางได้”
องค์หญิงหลานซินจับต้นชนปลายไม่ถูก
คนที่นางทุ่มเทจิตใจตามหาถึงกับปรากฏกายอยู่เบื้องหน้านาง นี่มันเกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่
ยังมี นางมองออกว่าดูเหมือนฮองเฮาจะกลับมาพร้อมกับฮ่องเต้ หรือหลายวันมานี้พวกเขาล้วนอยู่ด้วยกัน ฮองเฮามิได้ออกไปจากตำหนักเย็นโดยพลการ แต่เป็เพราะได้รับพระบัญชาจึงออกไปจากตำหนักเย็นหรือ
คิดมาถึงตรงนี้ ลึกๆ ในใจนางถึงกับเย็นวาบ ความเย็นะเืนั้นเสียดแทงเข้าไปถึงกระดูก!
“นาง นางก็คือฮองเฮาหรือ”
โจวหมัวมัวหน้ามืดเกือบสิ้นสติ
ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป นางเพิ่งจะกระจ่างแจ้งถึงฐานะของตนเอง นางบอกว่านางคือฮองเฮา แต่ตนกลับไม่เชื่อซ้ำยังบอกว่าหากนางเป็ฮองเฮา ตนก็เป็ไทเฮาน่ะสิ...
ในสมองมีเพียงความมึนงง โจวหมัวมัวรู้สึกว่าสมองของนางเป็อัมพาตไปชั่วขณะ จึงได้พูดจาเช่นนั้นออกไป!
ตอนนี้จะคลี่คลายสถานการณ์อย่างไรดีเล่า
ด้วยนิสัยเ้าคิดเ้าแค้นของฮองเฮา นางจะต้องไม่ยอมเสียเปรียบแล้วอดทนอดกลั้นแน่นอน หาไม่แล้วคงไม่เกิดเื่กรณีตบหน้าองค์หญิง
แย่แล้ว แย่แล้ว คราวนี้แย่แล้ว
การคาดเดาของนางไม่ผิดพลาด เฟิ่งเฉี่ยนเป็คนไม่ยอมเสียเปรียบแล้วอดทนอดกลั้น ในสถานการณ์ปกตินางล้วนเป็คนผูกใจเจ็บ เพราะหากมีแค้นก็ต้องชำระมันเดี๋ยวนั้น!
เฟิ่งเฉี่ยนปลอบโยนจื่อซูครู่หนึ่งแล้วมอบนางให้กับองครักษ์ข้างกายเซวียนหยวนเช่อคนหนึ่ง ต่อมาจึงตวัดสายตากวาดมามองฮูหยินรอง “ลั่วหยิ่ง ว่ากันตามกฎของวังหลวง หากมีคนด่าทอดูิ่ดูแคลนฮองเฮา ใช้แส้เฆี่ยนฮองเฮา มีโทษอย่างไร”
ลั่วหยิ่งตอบกลับอย่างให้ความร่วมมือเต็มที่ “ทูลเหนียงเหนียง ว่ากันตามกฎของวังแล้ว ความผิดฐานิ่เบื้องสูง โทษสถานเบาให้โบยหนึ่งร้อยไม้แล้วขับออกจากวัง หากทำผิดซ้ำอีกให้ส่งตัวไปขังในคุกหลวงรอปะาหลังฤดูสารทพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮูหยินรองได้ยินแล้วหน้าขาวทันที ขาทั้งสองข้างสั่นเทิ้ม “ฮองเฮา นี่เป็เื่เข้าใจผิดเพคะ! หม่อมฉันไม่รู้ว่าพระองค์คือฮองเฮา จึงได้เข้าใจผิดทำร้ายพระองค์ หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ อีกประการหนึ่ง คนที่หม่อมฉัน้าเฆี่ยนคือจื่อซู มิใช่พระองค์!”
เฟิ่งเฉี่ยนแค่นหัวเราะเสียงเย็น “ความหมายของเ้าก็คือ เปิ่นกงถูกทำร้ายเพราะเข้าใจผิด เป็เื่สมควรอยู่แล้วหรือ”
ฮูหยินรองส่ายหน้าราวกับเป็กลองป๋องแป๋ง
“เ้าด่าทอดูแคลนเปิ่นกงอยู่ก่อน แล้วยังเฆี่ยนเปิ่นกงภายหลัง เ้าบอกมา เปิ่นกงควรลงโทษเ้าอย่างไร” เฟิ่งเฉี่ยนยกยิ้มเ็า ดูน่าเกรงขามทั้งที่ไม่ได้บันดาลโทสะ
เฟิ่งซินเหยาคุกเข่าลงกับพื้นดังตุ๊บและอ้อนวอนขอความเมตตา “พี่สาว พวกเราเป็คนในครอบครัวเดียวกัน ซ้ำมารดาของข้าเป็ผู้าุโของท่าน ครั้งนี้ท่านละเว้นนางเถิด!”
เฟิ่งเฉี่ยนแค่นหัวเราะ พูดอย่างไม่อนาทรร้อนใจ “เมื่อสักครู่พวกเ้าพูดถึงโทษปะาเก้าชั่วโคตร ไฉนจึงไม่คิดว่าพวกเราเป็คนในครอบครัวเดียวกันบ้างเล่า”
“รู้ว่าตกอยู่ในอันตราย พวกเ้าเคียดแค้นชิงชังที่มิอาจตัดความสัมพันธ์กับข้า ตอนนี้อยากอ้อนวอนข้าก็มาพูดกับข้าเื่ความสัมพันธ์ฉันญาติมิตร พวกเ้าคิดว่าข้าเป็โง่เขลาหรือไร เป็คนใจดีใจอ่อนเช่นนั้นหรือ”
เฟิ่งซินเหยาเป็ใบ้ทันที
เฟิ่งเฉี่ยนไม่ได้ลงโทษฮูหยินรองทันทีแต่กลับให้นางรอก่อน นางหันไปเล่นงานองค์หญิงหลานซินก่อน
“องค์หญิง เ้าจับคนของข้ามา ใช้ทัณฑ์ทรมานมาทรมานนาง นี่หมายความอย่างไร”
องค์หญิงหลานซินไม่ลนลานแต่กลับพูดราวกับมีเหตุผล “พี่หญิงฮองเฮา ท่านอย่าเข้าใจผิด ข้าอนุภรรยาเพียงแต่ใส่ใจท่าน เป็ห่วงความปลอดภัยของท่าน ดังนั้นจึงเชิญแม่นางจื่อซูมาไถ่ถาม แต่ข้ารับใช้อาจใจร้อนไปสักหน่อย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์โดยเร็วจึงใช้วิธีการบางอย่าง”
ชัดเจนเหลือเกินว่านาง้าผลักความรับผิดชอบให้กับข้ารับใช้ เฟิ่งเฉี่ยนกระจ่างแจ้งในแผนการของนางดี แต่กลับไม่อาจทำอะไรนางได้ ในเมื่อผู้ที่ลงมือมิใช่นาง นางเองไม่มีหลักฐาน
แต่ว่าคิดว่าเถียงข้างๆ คูๆ อย่างนี้แล้วจะปลอดภัยหายห่วงหรือ
นางหัวเราะเสียงต่ำ “ตามความเห็นขององค์หญิงก็คือข้ารับใช้ของเ้ากระทำการใช้ทัณฑ์ทรมานในการไต่สวนโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเ้าเช่นนั้นหรือ”
องค์หญิงหลานซินหัวใจสะดุดทันที นางลำบากใจแล้ว หากนางบอกว่าใช่ เช่นนั้นย่อมปัดความรับผิดชอบไปจากตนเองได้อย่างสะอาดสะอ้าน ทว่านางเกรงว่าจะปกป้องโจวหมัวมัวไม่ได้ หากนางบอกว่าไม่ใช่ ฮองเฮาย่อมไม่ปล่อยนางไว้แน่
นางควรทำอย่างไรดีนะ
ขณะที่นางตกอยู่ในความคิดที่มิอาจตัดสินใจได้ โจวหมัวมัวเป็ฝ่ายก้าวออกมาเอง “เื่ทั้งหมดล้วนเป็การกระทำของบ่าวเพียงคนเดียวเพคะ ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับองค์หญิง! หากฝ่าาจะทรงลงโทษ ก็ให้ลงโทษบ่าวเพียงคนเดียวเพคะ!”
เฟิ่งเฉี่ยนไม่แสดงความรู้สึกทางสีหน้า ในใจกลับแค่นหัวเราะเสียงเย็น นับว่ายังมีข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีคนหนึ่ง ทว่าน่าเสียดายที่มีใจคอโเี้ ดี ในเมื่อเ้า้ารับผิดชอบเพียงคนเดียว เช่นนั้นข้าจะส่งเสริมเ้า
“ฝ่าา ในเมื่อหม่อมฉันเป็ผู้และดูแลตราประทับหงส์ การดูแลเื่ภายในตำหนักในนั้นย่อมต้องลงมาดูแลด้วยตนเอง เวลานี้เื่ราวกระจ่างแจ้งแล้ว ใช่หรือไม่ ถูกหรือผิด แค่มองก็รู้ ขอฝ่าามอบอำนาจในการจัดการเื่นี้ให้แก่หม่อมฉัน หม่อมฉันจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของวังหลวง ให้รางวัลและบทลงโทษอย่างชัดเจน และตัดสินทุกอย่างด้วยความยุติธรรมและเปิดเผยเพคะ”
สีหน้าท่าทางของนางดูเหมือนกำลังขออนุญาต แต่ที่จริงแล้วนางกำลังบีบบังคับเซวียนหยวนเช่อ ดูซิว่าเขาจะยืนอยู่ข้างใคร
หากเขาลำเอียงไปช่วยองค์หญิงหลานซิน เช่นนั้นนางคงได้แต่...
เหนือความคาดหมายของนางก็คือเซวียนหยวนเช่อรับปากอย่างรวดเร็ว “ในเมื่อเป็เื่ของตำหนักใน ย่อมต้องมอบอำนาจทั้งหมดให้ฮองเฮาดูแล การตัดสินของฮองเฮาก็คือการตัดสินใจของเจิ้น”
ทันทีที่คำพูดนี้ถูกกล่าวออกไป ฮูหยินรองและโจวหมัวมัวมีสีหน้าสิ้นหวัง ใบหน้าขาวเผือด แววตาลนลานด้วยความสับสน
