“ข้าได้ยินมาว่านายน้อยฉินแห่งสี่คุณชายเมืองเว่ยเฉิงนั้นเป็คนที่ไฮโซวางท่า และถือตัว ไม่เคยมองคุณชายอีกสามคนอยู่ในสายตาและทำทุกอย่างที่อยากทำก่อนหน้านี้ ตาเฒ่าผู้นี้คิดว่าเ้าพยายามทำตัวให้แปลกแยกแต่ดูเหมือนว่าก็เป็แค่กบในกะลาที่ไม่รู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน”
“จริงเหรอ?” ฉินเฟิงเริ่มหัวเราะอย่างไร้อารมณ์สงสัยว่าตาแก่นี่พูดมากจัง เขาพูดอย่างหุนหัน “เวลาคนเราอยากจะหยิ่งผยองก็ต้องแข็งแกร่งพอที่จะหยิ่งผยองนายน้อยผู้นี้คงตายไปนานแล้วถ้าไม่มีความแข็งแกร่ง ฉันเป็คนง่ายๆ ถ้าฉันไม่พอใจแกฉันก็จะฆ่าแก ถ้าแกไม่พอใจฉัน แกก็มาฆ่าฉันแต่ฉันกลัวว่าแกจะไม่มีแรงพอและตายก่อนที่จะทันได้ฆ่าฉัน”
“ฮึ่ม สมแล้วที่เป็เด็กขนยังไม่ขึ้น จะตายอยู่แล้วยังวางท่าหยิ่งยโสตาเฒ่าผู้นี้จะบอกให้ว่าแม้แต่ภายในเมืองเว่ยเฉิงนี้ มันก็มีคนที่กล้าฆ่าแก”
ตอนนี้เฒ่าเฟิงโกรธจริงๆแล้ว ความกดดันที่เขาปล่อยออกมาจากร่างกายเพิ่มขึ้นทันทีทำให้บรรยากาศรอบตัวเขากระเพื่อมเบาๆ
หมัดที่ซ่อนความแรงจนน่าตกตะลึงพุ่งมาที่ท้องของฉินเฟิง
เมื่อหมัดถูกปล่อยออกมาเฒ่าเฟิงก็คำรามราวกับสัตว์ป่า แม้แต่คนดูที่อยู่ไกลๆ ก็ยังรู้สึกได้ถึงสายลมเบาๆจากการคำราม ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะเดินทางได้หลายพันกิโลเมตร
หมัดนี้ไวมากและกระแทกเข้ากับท้องของฉินเฟิงอย่างโเี้ดวงตาของฉินเฟิงประกายความใเขาไม่แม้แต่จะมีเวลาตั้งตัวขณะที่ปลิวออกไปและหล่นลงบนพื้นอย่างรุนแรงแม้จะพยายามกลั้นเอาไว้แต่เขาก็ยังต้องกระอักเืออกมา
ไวมาก!ตาแก่นี่มันโคตรไวเลย!
นั่นเป็สิ่งที่ฉินเฟิงคิดในใจในตอนที่เขายังเป็คนดูจากชั้นสาม เขาสังเกตเฒ่าเฟิงอย่างต่อเนื่องและแล้วเขาก็สามารถเห็นการเคลื่อนไหวของมันชี้ให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของตาแก่คนนี้คือความเร็ว
ทว่าเมื่อลงมาที่สนามเองแล้วเขาพบว่าความเร็วของตาแก่นี่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยิ่งกว่านั้น ร่างเล็กๆนั่นยังซ่อนแรงไว้มหาศาล
ตามประกาศของระบบที่บอกว่าเฒ่าเฟิงนั่นเป็จอมยุทธ์ขั้นสี่มันเป็ครั้งแรกที่ฉินเฟิงเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่งแบบนี้ด้วยความแข็งแกร่งขั้นหนึ่ง รวมกับหมัดพยัคฆ์คำรนขั้นกลาง เขาสามารถปล่อยหมัดที่มีพลังมากกว่าคนธรรมดา5เท่า ซึ่งอาจจะพอรับมือกับเฒ่าเฟิง
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เข้าสู่ลานประลองแล้ว ฉินเฟิงพบว่าเขาคิดตื้นเกินไปปกติแล้วจอมยุทธ์ขั้นสี่จะมีพละกำลังมากกว่าคนธรรมดา 5 เท่าและเร็วกว่าคนธรรมดา 1.4 เท่าเป็หลักฐานว่าเฒ่าเฟิงไวกว่ามาก ทำให้มันเป็ไปไม่ได้ที่ฉินเฟิงจะต่อยโดนเขา
แม้จะมีเกราะับินอยู่แต่หลังจากโดนต่อยตรงๆ ฉินเฟิงก็พบว่ามันยากที่จะทนความเ็ป
วูบ!
อีกหมัดที่ไวปานสายฟ้าส่งมาที่เขา
คนดูตกอยู่ในความเงียบก่อนจะเริ่มตื่นเต้นขึ้นชายแก่คนนี้มองดูเหมือนจะอ่อนแอแต่ความจริงแล้วกลับแข็งแกร่งสุดๆเมื่อจุดประกายความกระหายเืในตัวของพวกเขาบางคนก็ตื่นเต้นจนเหมือนกับเสพยาเข้าไป พวกเขาเกือบจะะโลงมาจากชั้นสอง
เมื่อยืนอยู่บนชั้นสามความกังวลก็แสดงขึ้นบนหน้าของหานอิ๋งอิ๋งหัวใจของเธอรู้สึกเหมือนกับห้อยอยู่ในอากาศหลังจากที่เห็นฉินเฟิงปลิวด้วยหมัด
เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงห่วงฉินเฟิงมากขนาดนั้นแต่เธอแค่อยากให้เขาไม่เป็ไร
“ฮ่าๆๆ ไอ้หนู แกยังกล้าหยิ่งต่อหน้าพ่ออีกหรือเปล่า?” ฉินเฟิงไม่แม้จะสามารถป้องกันตัวเองได้ก่อนที่จะโดนส่งปลิวไปไอ้เด็กนี่มันอ่อนยิ่งกว่าอ่อนสำหรับเฒ่าเฟิงเขาจึงไม่เห็นมันอยู่ในสายตาและยืนอยู่เหนือหัวอย่างหยิ่งผยองราวกับว่าเขากำลังมองมดที่กำลังจะบี้ในเร็วๆ นี้
“เฮอะ แกคิดว่าหมัดแกแรงนักหรือไง?” หลังจากพ่นเืในปากฉินเฟิงก็หัวเราะอย่างเ็า “แกไม่อายเหรอที่มายืนเพื่อวางท่าให้ดูสูงส่ง?ฉันหมายถึงแก่ปูนนี้แล้วยังรับจ้างนวดอีกเหรอ? ถึงแม้ว่าแกจะอยากนวดก็คงมีแรงไม่พอที่จะทำหรอกหรือว่าตอนเย็นไม่ได้กินข้าวมา?”
ฉินเฟิงจงใจเยาะเย้ยเฒ่าเฟิงแม้ว่าเขาจะโดนอัดจนน่าเวทนา แต่เขาก็พบว่าเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายกำลังสั่นด้วยความตื่นเต้นและดูดซับยาเสริมพลังในร่างกายอย่างรวดเร็ว
เขารู้ว่าเขากำลังจะทลายขีดจำกัดแล้วครั้งล่าสุดตอนที่เขาสู้กับอวี่เหวินเสียง เขาก็ประสบกับความรู้สึกแบบนี้และได้เข้าสู่ขั้นแรก
ถ้าฉินเฟิงเป็อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆและเข้าสู่ขั้นที่สอง เขาจะได้รับแต้มสำราญ 500 แต้มซึ่งเพียงพอที่จะซื้อยาสมานทองขั้นต้นเพื่อช่วยจางเปียวยิ่งกว่านั้นเขาอาจจะมีความแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะเฒ่าเฟิง
ตามคาดเฒ่าเฟิงโกรธเพราะคำพูดของฉินเฟิง ั์ตาของเขาเบิกกว้างราวกับจะะเิออกมาเขาจ้องฉินเฟิงและกล่าวว่า “ฮึ่มข้าไม่เคยคิดว่าแกจะมีความกล้าเหมือนกับไอ้กล้ามนั่นน่าสงสารที่โลกนี้ผู้ชนะคือาา แค่ความกล้ามันไม่พอหรอก”
ขณะที่เขาพูดเฒ่าเฟิงยกเท้าขึ้นทันทีและกระทืบลงบนมือของฉินเฟิง เสียงกร๊อบดังออกมาจากข้อมือแม้ความเจ็บจะฉีกหัวใจเป็เสี่ยงๆ ฉินเฟิงก็กัดฟันอดทนไว้
กร๊อบ!
ครั้งนี้เท้าของเฒ่าเฟิงลงที่ขาทำให้ขาของฉินเฟิงหัก
แม้ว่าจะแก่มากแล้วแต่วิธีการของเฒ่าเฟิงก็โเี้มาก ทำให้คนดูหายใจอากาศเยือกเย็นเข้าไปเสียงเชียร์ก็เงียบลง
ทั้งสนามเงียบแบบแปลกๆจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหมุดตก
“อย่าสู้อีกเลย ฉินเฟิง ยอมแพ้ซะ...ขืนคุณยังสู้ต่อ คุณจะตายเอานะ”เมื่อเห็นฉากนี้ หานอิ๋งอิ๋งเกือบจะร้องไห้ขณะที่ะโไปหาฉินเฟิง
เมื่อฉินเฟิงได้ยินหานอิ๋งอิ๋งเป็ห่วงเขาอย่างจริงใจก็รู้สึกอบอุ่นในใจนิดหน่อยเขารู้สึกว่าร่างกายได้ดูดซับยาเสริมพลังจนถึงคอขวดแล้ว ถ้าเขาโดนอีกครั้งหนึ่งเขาก็จะสามารถเข้าสู่ขั้นที่สอง
เช่นนี้เขาจึงมองไปที่ชายแก่โเี้โดยไม่มีท่าเกรงกลัวหรืออ้อนวอน เขาคำรามออกมา“ไอ้แก่เฟอะฟะ นายน้อยผู้นี้บอกแล้วไง อยากนวดก็ใส่แรงเข้าไปหน่อยไม่งั้นก็ไสหัวไปซะ”
“บัดซบ ในเมื่อแกอยากตายมากขนาดนั้น พ่อจะเติมเต็มความปรารถนานั้นให้!”
เฒ่าเฟิงโกรธโดยสมบูรณ์และใบหน้าที่แก่ของเขาก็แดงก่ำเขารวบรวมพลังทั้งหมดที่เท้าและเตะไปที่หน้าอกของฉินเฟิง
“ไปตายซะ!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้