ภายในห้องรับรองมีอาหารอันโอชะวางเรียงอยู่ทั่วทั้งโต๊ะ ผัดผักมีสี่ถึงห้าเมนู ดูเอร็ดอร่อยเหลือเกิน อาหารทั้งหมดมีเจ็ดถึงแปดจาน รูปลักษณ์ภายนอกดีเยี่ยม อาหารเช้ามากมายเต็มโต๊ะนี้ไม่มีความมัน แต่สามารถกระตุ้นความอยากอาหารของผู้คนได้อย่างง่ายดาย สำหรับอาหารเช้าบนโต๊ะนี้เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเ้าของบ้านให้ความสำคัญแก่พวกเขา
เถ้าแก่เฉิงอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัดเพราะรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขามาโดยตลอด เมื่อเขาเผยยิ้มออกมาให้ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ทั้งสุขุมและเย้ายวน หลังจากที่เชิญกูเฟยเยี่ยนนั่งลงแล้ว เขาก็เลิกคิ้วมองไปที่จวินจิ่วเฉิน "เฉินเฉิน? ฮ่าๆ หนุ่มน้อย นั่งลงเถอะ"
จวินจิ่วเฉินเอ่ยเสียงแ่โดยที่ไม่แสดงออกถึงความต่ำต้อยและไม่แสดงออกถึงความโอหัง “ขอบคุณเถ้าแก่เฉิง ข้าน้อยมิอาจมองข้ามกฎระเบียบได้”
เถ้าแก่เฉิงจึงเอ่ยว่า “ผู้ที่เคยดื่มสุรากับตัวข้าหัวหน้าสมาคมผู้นี้ไม่จำเป็ต้องทำตามกฎของที่นี่ ถ้าเ้าเห็นแก่นังหนูผู้นี้ พวกเราไปโต๊ะอื่นได้”
เขาให้ความสำคัญกับจวินจิ่วเฉินมากกว่ากูเฟยเยี่ยนอย่างเห็นได้ชัด เขายังวางแผนที่จะทิ้งให้กูเฟยเยี่ยนทานอาหารตามลำพัง ส่วนตัวเองนั้นจะไปที่อื่นกับจวินจิ่วเฉิน ซ่างกวนฟูเหรินเสนอให้เถ้าแก่เฉิงไปทานอาหารกับจวินจิ่วเฉินเป็การส่วนตัวเช่นกัน นางจะมาอยู่เป็เพื่อนกูเฟยเยี่ยนเอง
กูเฟยเยี่ยนรีบเอ่ยทันที "เฉินเฉิน ในเมื่อเถ้าแก่เฉิงให้ความสำคัญ เ้าก็ไม่จำเป็ต้องระมัดระวังมากเกินไป นั่งลงเถอะ! "
มีละครเื่ใดบ้างที่กูเฟยเยี่ยนไม่เคยแสดง ทว่าละครที่ต้องแสดงเป็เ้านายของจวินจิ่วเฉินนั้น นางกระทำออกมาด้วยความหวาดผวาและไม่เป็ตัวของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าจวินจิ่วเฉินดูไม่เหมือนผู้คุ้มกัน ทว่าเมื่อเขามานั่งข้างกายนางแล้วกลับมีบุคลิกลักษณะของการปกป้อง
เถ้าแก่เฉิงเป็คนฉลาดมาก เขามองออกั้แ่แรกแล้วว่าภูมิหลังของจวินจิ่วเฉินไม่ธรรมดา ทว่าเขามองตัวตนของกูเฟยเยี่ยนไม่ออก และมองความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างจวินจิ่วเฉินกับกูเฟยเยี่ยนไม่ออกเช่นกัน
เพียงแต่ว่าเถ้าแก่เฉิงไม่ได้สนใจในเื่นี้ หลังจากที่จวินจิ่วเฉินนั่งลงแล้ว เขาก็พอใจและเริ่มพูดคุยกับกูเฟยเยี่ยน
“นังหนู เมื่อคืนนี้เ้าชนะได้งดงามมาก...”
เมื่อเถ้าแก่เฉิงเอ่ยออกมาเช่นนี้ ซ่างกวนฟูเหรินที่นั่งอยู่ข้างกายเขาถึงกับเบ้ปากขึ้น ทว่านางก็ไม่ได้เอ่ยแทรก กูเฟยเยี่ยนมีความตื่นตัวและเฝ้าระวัง
เถ้าแก่เฉิงกล่าวอีกครั้งว่า “เดิมพันได้ก็ต้องยอมรับในความพ่ายแพ้ได้ นับั้แ่วันนี้เป็ต้นไป วัตถุดิบที่จำเป็ต่อการค้าขายนี้ กรรมการบริหารแต่ละหน่วยงานของหอการค้าเสวียนคงจะให้ความร่วมมืออย่างไม่มีเงื่อนไข”
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนคิดว่าเถ้าแก่เฉิงจะดูแลการค้าขายนี้ด้วยตนเอง ครั้นได้ยินเช่นนี้ นางจึงมีความสุขมากกว่าเดิม การที่สามารถขอวัตถุดิบจากกรรมการบริหารในกิจการต่างๆ ได้โดยตลอด ถือเป็เื่ที่ให้ความสะดวกแก่นางมากจริงๆ !
เถ้าแก่เฉิงกล่าวพลางนำสัญญาฉบับหนึ่งออกมา กูเฟยเยี่ยนมองดูด้วยความใ และในที่สุดนางก็ผ่อนคลายความระแวงลง บัดนี้หญิงสาวมีความเลื่อมใสศรัทธาเถ้าแก่เฉิงจริงๆ หนังสือสัญญานี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อเป็ใบรับรองสัญญาการเดิมพันของนางกับซ่างกวนฟูเหรินเมื่อคืนนี้ โดยที่มีตราประทับใหญ่ของหอการค้าเสวียนคงอยู่บนนั้น
เถ้าแก่เฉิงยังแนะนำพ่อบ้านท่านหนึ่งให้รู้จัก คนผู้นั้นมีนามว่าสยงเฟย เป็บุคคลที่มีความสามารถ มีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบหัวหน้าผู้ดูแลซ่างกวน
กูเฟยเยี่ยนเก็บหนังสือสัญญาลงพลางตั้งใจยืนขึ้นโค้งคำนับและกล่าวว่า “ขอบคุณเถ้าแก่เฉิง ขอบคุณฟูเหริน!”
หลังจากที่มอบหมายเื่นี้เรียบร้อยแล้ว เถ้าแก่เฉิงจึงเชิญกูเฟยเยี่ยนกับจวินจิ่วเฉินรับประทานอาหารเช้า เขาไม่เจรจากับกูเฟยเยี่ยนอีกต่อไป ไม่มีการพูดคุยเลยแม้แต่ประโยคเดียว ทว่าเขาพูดคุยกับจวินจิ่วเฉินในเื่ของสุรา
ว่ากันว่าการที่ได้พบคู่หูดื่มสุรา ดื่มกันพันแก้วยังว่าน้อย ในมุมมองของกูเฟยเยี่ยน เถ้าแก่เฉิงก็คือคู่หูคู่ปรับในการดื่มสุรา!
ดูเหมือนว่าเถ้าแก่เฉิงจะไม่ชอบเรียกชื่อปลอมของจวินจิ่วเฉิน เขาเรียกเพียงแค่หนุ่มน้อยเท่านั้น เถ้าแก่เฉิงยิ้มพลางเอ่ยว่า “หนุ่มน้อย ปีนี้เ้าอายุเพียงแค่ยี่สิบปีใช่หรือไม่ ความสามารถในการดื่มสุรามาจากการฝึกฝน ฮ่าๆ ตอนที่ตัวข้าอายุเท่าเ้า ความสามารถในการดื่มสุราของข้ายังเทียบเท่าเ้าไม่ได้เลย”
จวินจิ่วเฉินมีความสุขที่ได้พบกับคู่ต่อสู้เช่นกัน เพียงแต่วันนี้เขาอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก เขาสำรวมรอยยิ้มและหวงแหนคำพูดดั่งทองคำ "เถ้าแก่เฉิงถ่อมตนแล้ว"
เถ้าแก่เฉิงกล่าวต่อ “ตัวข้าคือผู้ที่คิดค้นสูตรสุราเกล็ดน้ำค้างขาว ข้าคุ้นเคยกับสุรานี้มากกว่าเ้า ฮ่าๆ ถึงแม้ว่าผลจะเสมอกัน แต่เมื่อคิดคำนวณดีๆ ตัวข้าหัวหน้าสมาคมผู้นี้พ่ายแพ้แล้ว”
จวินจิ่วเฉินตอบกลับไป “ถึงแม้ว่าท่านจะคุ้นเคยกับสุราเกล็ดน้ำค้างขาว ทว่าการแข่งขันเมื่อคืนนี้ ผู้น้อยใช้ความคิดในการพักหายใจหายคอไปนาน ถ้าท่านเอาจริงเอาจังขึ้นมา ยังถือว่าพวกเราเสมอกัน”
เถ้าแก่เฉิงดีใจมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาชอบความเที่ยงตรงและความตรงไปตรงมาของจวินจิ่วเฉิน “หนุ่มน้อย พวกเรานัดเวลามาประลองอีกครั้งเป็อย่างไร? เ้าเป็ผู้เลือกสุรา! ตัวข้าเป็ผู้ตั้งกฎเกณฑ์!”
จวินจิ่วเฉินกำลังลังเล เถ้าแก่เฉิงจึงกล่าวอีกครั้งว่า “หรือว่าวันหลังข้าไปขอดื่มสุรากับเ้าที่หมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์ดี? ”
จวินจิ่วเฉินปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ไม่เหมาะๆ ่นี้ผู้น้อยไม่มีเวลา เมื่อมีเวลาแล้วจะต้องรีบมาขอคำชี้แนะอย่างแน่นอน หวังว่าเมื่อนั้นเถ้าแก่เฉิงจะยังต้อนรับผู้น้อย”
เถ้าแก่เฉิงหัวเราะเสียงดังลั่น “ครั้นแจ้งชื่อของเ้าเข้ามา เมื่อมีคนในหอการค้าเสวียนคงกล้าสกัดกั้น มันจะได้พบกับการสังหารอย่างไร้ความปรานี! ”
ในที่สุดริมฝีปากของจวินจิ่วเฉินก็เผยรอยยิ้มออกมา เขาไม่มากความ แต่กำมือคารวะเถ้าแก่เฉิง
กูเฟยเยี่ยนถูกทิ้งให้อยู่ด้านข้างโดยที่เอ่ยแทรกอันใดไม่ได้เลย เมื่อนางได้ยินมาถึงตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปลง มิตรภาพระหว่างบุรุษกับบุรุษนั้นเรียบง่ายและตรงไปตรงมาเหลือเกิน! ตัวนางเองสูญสิ้นความคิดไปมากมายถึงจะชนะการค้าในครั้งนี้ ทว่าเพียงแค่บุรุษสองคนนั้นดื่มสุราด้วยกันหนึ่งครั้ง จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็กลายเป็สหายดื่มสุรากับเถ้าแก่เฉิงไปเสียแล้ว ในวันข้างหน้าถ้าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย้าพบเถ้าแก่เฉิง เช่นนั้นจะเป็เื่ที่พบได้ตลอดเวลาเลย!
การเดินทางในครั้งนี้ได้รับการค้าและมิตรภาพ นับได้ว่าค่อนข้างสมบูรณ์แบบ
หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย กูเฟยเยี่ยนและคนอื่นๆ ก็กล่าวคำอำลา เถ้าแก่เฉิงส่งพวกเขาออกไปด้วยตนเอง ทว่าซ่างกวนฟูเหรินกลับฉวยโอกาสดึงกูเฟยเยี่ยนไปด้านข้าง
เื่ราวทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว กูเฟยเยี่ยนจึงไม่กลัวซ่างกวนฟูเหรินอีกต่อไป นางมีความอดทนที่จะฟังซ่างกวนฟูเหริน
ทว่าสิ่งที่คิดไม่ถึงคือซ่างกวนฟูเหรินไม่ให้ความสนใจหัวหน้าผู้ดูแลเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังไม่สนใจการค้าขายในครั้งนี้ การที่นางเปลี่ยนลักษณะท่าทีต่อกูเฟยเยี่ยนเป็เพราะ้าซื้อยาจากกูเฟยเยี่ยน! นางตื่นตระหนกใกับประสิทธิภาพของยาแก้เมาค้างที่กูเฟยเยี่ยนมอบให้เมื่อคืนนี้
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนค่อนข้างที่จะสงสัยว่าเถ้าแก่เนี้ยท่านนี้จะแอบสมคบคิดกับคนในตระกูลตนเองเพื่อเบียดบังผลประโยชน์ใส่ตัวและหลอกลวงเถ้าแก่เฉิง แต่เมื่อเห็นว่าซ่างกวนฟูเหรินเป็ห่วงสุขภาพสามีของตนเองเช่นนี้ นางจึงเลิกระแวงและเลิกสงสัย
กูเฟยเยี่ยนยื่นยาแก้เมาค้างขวดใหญ่พลางเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ซ่างกวนฟูเหริน ยานี้ถือว่าเป็การขอโทษท่านในเื่ที่ผู้น้อยกระทำในหอโคมเขียว ผู้น้อยทำเื่ไม่ดีจริงๆ ”
ซ่างกวนฟูเหรินยิ้มและกล่าวว่า "นังหนู เื่ทางการค้าขายนั้นเป็ไปไม่ได้ที่จะไม่วางกลอุบายต่อกัน ่ที่ข้าอยู่ในวัยสาว ข้าร้ายกว่าเ้าเสียอีก! "
กูเฟยเยี่ยนอารมณ์ดีแล้ว "บัดนี้ฟูเหรินก็ร้ายมากเช่นกัน"
ซ่างกวนฟูเหรินตกตะลึงครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะด้วยความปีติยิ่งกว่าเดิม “ในเมื่อยานี้เป็คำขอโทษจากเ้า ข้าก็จะรับไว้ ในวันข้างหน้าถ้าเปิ่นฟูเหริน้าซื้อยาก็จะซื้อกับเ้า! ”
กูเฟยเยี่ยนน้อมรับด้วยความยินดีอย่างที่สุด “ฟูเหริน้ายาชนิดใดสามารถเอ่ยได้เต็มที่! ”
แต่ใครจะไปทราบว่าซ่างกวนฟูเหรินจะขอยาชนิดอื่นกับนางทันที ซ่างกวนฟูเหรินกระซิบข้างใบหูของกูเฟยเยี่ยน “นังหนู เ้ามียาชนิดนั้นหรือไม่? ”
กูเฟยเยี่ยนไม่เข้าใจ "ยาชนิดใด? "
ซ่างกวนฟูเหรินจึงกล่าวว่า "ยาชนิดนั้น ยาเสน่ห์"
กูเฟยเยี่ยนใเหลือเกิน ปฏิกิริยาแรกของนางคือการหันไปมองเถ้าแก่เฉิงที่ยืนคุยกับจวินจิ่วเฉินอยู่ข้างรถม้า ซ่างกวนฟูเหรินกลัวว่าสามีของตนจะสงสัย จึงรีบเคลื่อนศีรษะของกูเฟยเยี่ยนกลับมาพลางกระซิบแ่เบา "ให้เขาใช้ เ้าวางใจได้ ถ้าเกิดเื่อะไรขึ้นมา ข้าจะไม่หักหลังเ้าแน่นอน! "
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ว่าเถ้าแก่เฉิงกับซ่างกวนฟูเหรินจะไม่เหมือนคู่แต่งงานใหม่ที่ทำตัวรักใคร่สนิทสนมต่อหน้าผู้อื่น แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรพวกเขาก็มีความสามัคคีกันมากนี่นา!
เถ้าแก่เฉิงเป็บุคคลที่มีความเป็บุรุษสูงมาก เขาดูไม่เหมือนว่าจะไม่มีโรคอะไรซ่อนอยู่เลย!
เมื่อต้องเผชิญกับคำขอของซ่างกวนฟูเหริน กูเฟยเยี่ยนจึงลังเลใจก่อนที่จะกระซิบว่า "ข้าไม่มียาแบบนั้น ข้ามีเพียงแค่ยาพิษแบบนั้น ยาพิษ! รุนแรงมาก!”
ซ่างกวนฟูเหรินดีใจมาก "ต้องใช้ยาพิษ เขาจะได้ไม่รู้! มีเท่าใด เปิ่นฟูเหริน้าทั้งหมด! "
กูเฟยเยี่ยนตระหนักได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับโรคที่ซ่อนอยู่แล้ว นางใและกระซิบว่า "ฟูเหริน ท่านจะวางแผนประทุษร้ายสามีของตนเองหรือ? "