#ทฤษฎีเลี้ยงไซม่อน - Noren (Omegaverse)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

Chapter seventeen: Smell of us




เพราะเ๱ื่๵๹ราวทั้งหมดที่ได้รับฟังจากเจซมันทำให้ความรู้สึกของแพทริเซียในตอนนี้หนักอึ้งไปหมด จากที่เคยได้รับรู้เ๱ื่๵๹ราวจากคุณแม่มาบ้างแล้วแต่พอได้ฟังรายละเอียดจากคนในตระกูลก็ยิ่งทำให้แพทรู้สึกหดหู่เข้าไปใหญ่ ยิ่งเ๱ื่๵๹ราวทั้งหมดที่ได้ตอกย้ำว่าทำไมไซม่อนถึงออกจากคฤหาสน์ไม่ได้ก็ทำให้แพทได้รู้เหตุผลแล้วว่าการที่จะได้เป็๲ผู้สืบทอดตระกูลคนต่อไปมันไม่ได้เป็๲เ๱ื่๵๹ง่ายเลยสักนิด 



เหมือนกับว่าชีวิตของไซม่อนจะตกอยู่ในอันตรายตลอดเวลา



โดยที่เขาไม่ได้รับรู้เลยสักนิดว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานการณ์นั้น ๆ



เสียงของเครื่องยนต์ที่ดับลงพร้อมกับเสียงเปิดประตูจากคนขับรถทำแพทริเซียหลุดออกจากภวังค์ ความคิดที่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวทำให้เขาต้องสะบัดหน้าไล่ความฟุ้งซ่านออกไปจนทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างกันต้องหันมามอง



“เข้าใจแล้วใช่ไหม?”  เจซเอ่ยถามขึ้น



“เข้าใจแล้วครับ”



“ลงไปพักผ่อนได้แล้ว ราตรีสวัสดิ์”



แพทริเซียพยักหน้ารับน้อย ๆ ก่อนจะก้มเก็บถุงที่ถูกวางอยู่ข้างตัวแล้วก้าวลงจากรถด้วยแววตาเหม่อลอย สองขาเรียวก้าวช้าเพราะความหนักอึ้งในใจ ความรู้สึกไม่ปลอดภัยที่กำลังคืบคลานเข้ามาทำให้ใจสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ในตอนแรกแพทก็คิดว่าทุกอย่างเป็๞เพียงแค่เ๹ื่๪๫ราวในอดีตนั่นแหละจึงทำให้เขาตัดสินใจมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไม่กลัวอะไรเท่าไหร่นัก แต่พอได้รู้ว่าทุกอย่างมันยังคงมีสืบต่อมาจนรุ่นของไซม่อนก็ทำให้แพททำตัวไม่ถูกเหมือนกัน หากเขารู้ว่าทุกอย่างเป็๞แบบนี้ เขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองจะตัดสินใจรับสอนไซม่อนหรือเปล่า นี่มันเหมือนกับว่าเขาเอาชีวิตตัวเองมาพัวพันกับความเป็๞ความตายยังไงอย่างนั้น



ขนาดเจซยังดูกังวลขนาดนั้นตอนเจอลุค



ไม่อยากจะคิดภาพถ้าคนของอีแวนส์ได้เจอกับไซม่อนเลย



“คุณมอร์แกน”



“..”



“แพทริเซีย”




เสียงทุ้มเอ่ยเรียกจากด้านหลังจนทำให้แพทหันกลับไปมองทันที และเขาก็พบว่าเป็๲เจซที่เดินตามหลังมาห่าง ๆ อีกฝ่ายยังคงแสดงสีหน้าเป็๲กังวลอย่างเห็นได้ชัดหลังจากได้เล่าทุกอย่างให้เขาฟัง แพทเดาว่าเจซเองก็คงกังวลใจอยู่ไม่น้อยกับการต้องเล่าเ๱ื่๵๹ราวเหล่านี้แต่เพราะเป็๲ตัวเขาเองนั่นแหละที่ไปขอร้องให้อีกฝ่ายเล่าทั้งหมด



ตอนนี้เขาก็เริ่มรู้สึกผิดกับเจซขึ้นมานิดหน่อยแล้วละ




“ครับคุณแมคคอยด์”



“แค่เดินมาส่งเพราะนี่มันก็ดึกมากแล้ว คงไม่ดีเท่าไหร่ถ้าจะปล่อยให้คุณเดินเข้าคฤหาสน์คนเดียว”



“ขอบคุณครับ”



“คุณมอร์แกน”  เจซเอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง



“ครับ”



“ผมสอดนามบัตรไว้ในถุงผ้าของคุณ ถ้าหากมีอะไรหรือ๻้๵๹๠า๱ความช่วยเหลืออะไรที่มันเกินกว่ากำลังของตัวเองก็ให้ติดต่อมา”



แพทริเซียก้มลงเปิดถุงผ้าในมือของตัวเองทันทีที่เขาเอ่ยจบ กระดาษสีดำใบเล็กที่ถูกตีพิมพ์ด้วยฟอนต์สีเงินเป็๞ชื่อของ Jesse Mcqoid ก็ถูกแนบอยู่ตามที่เขาได้บอกมาจริง ๆ

“ขอบคุณครับ”



“จำไว้นะคุณมอร์แกน”



“ครับ?”



“ถ้าหากจะเชื่อใจใคร ขอให้เป็๞แค่ไซม่อนคนเดียวเท่านั้น”



“..”



“ดูแลตัวเองให้ดี ไว้พบกันใหม่”




ไร้ซึ่งคำตอบจากแพทริเซีย คนตัวเล็กทำเพียงยืนนิ่งทบทวนคำพูดของเ๯้าของแผ่นหลังที่กำลังจะเดินลับหายไป แม้คำพูดของอัลฟ่าเ๯้าของดวงตาสองสีจะแฝงไปด้วยความห่วงใยแต่ความรู้สึกหนักอึ้งที่มาพร้อมประโยคเ๮๧่า๞ั้๞นี่สิ 



ถ้าหากจะเชื่อใจใครอย่างนั้นเหรอ




แพทริเซียใช้เวลานานนับสิบนาทีกับการเดินขึ้นไปบนห้องพักเพราะความเหม่อลอยและความคิดที่กำลังตีกันปะปนไปหมดจึงทำให้ทุกอย่างดูช้าลงกว่าที่เคยเป็๲ กว่าโอเมก้าตัวเล็กจะข่มตานอนหลับได้ในคืนนั้นก็ใช้เวลาเกือบฟ้าจะสว่างเข้าไปแล้ว แพทริเซียนอนหลับไปพร้อมกับความคิดฟุ้งซ่านมากมายที่ต่อให้เขาจะอยากหยุดคิดแค่ไหนก็หยุดไม่ได้ แต่อย่างน้อยเขาคิดว่าก็ยังโชคดีที่ยังมีวันหยุดอีกวันให้ได้ใช้เวลาจัดการตัวเองโดยที่ไม่ต้องทำอะไร



เพราะเ๹ื่๪๫ราวมากมายที่ได้รับรู้มามันทำให้เขาต้องคิดหนัก



จนลืมไปเลยว่ามีใครบางคนที่กำลังรออยู่





  • Simon’s theory   -


เพราะผ้าม่านที่ไม่ได้ถูกปิดสนิทอย่างทุกวันจึงทำให้แสงแดดจากข้างนอกสาดส่องเข้ามารบกวนคนที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราจนได้ เสียงครางเบา ๆ ในลำคอดังขึ้นเมื่อความเมื่อยล้าเกิดขึ้นทันทีที่ร่างเล็กขยับเปลี่ยนท่าทาง เสียงพรูลมหายใจเข้าออกยังคงสม่ำเสมอเหมือนก่อนหน้าแม้ในตอนนี้เ๯้าตัวจะรู้สึกตัวบ้างแล้ว แพทริเซียซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มหนาอีกครั้งเมื่อแสงแดดสว่างแยงเข้าดวงตาคู่สวยที่กำลังหลับพริ้มอยู่ แต่คิ้วสวยก็ต้องขมวดอีกครั้งเมื่ออาการครั่นเนื้อครั่นตัวที่กำลังเกิดขึ้นมันช่างคุ้นเคยเหลือเกิน




คงไม่ใช่หรอกมั้ง อีกตั้งเป็๞อาทิตย์กว่าจะถึงเวลา


คงยังไม่ฮีทตอนนี้หรอก




แพทริเซียจำวันครบรอบฮีทของตัวเองได้ดีและคอยกินยาระงับอย่างตรงเวลาในทุก ๆ เดือนเพราะฉะนั้นไม่มีทางที่เขาจะแสดงอาการฮีทออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวแบบนี้ สำหรับตัวแพทเองนี่เป็๲เ๱ื่๵๹ที่สำคัญที่สุดในชีวิต คนอย่างแพทริเซียจะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองตกเป็๲อันตรายกับอัลฟ่าหน้าไหนทั้งนั้น แม้มันจะต้องฝืนธรรมชาติของตัวเองก็ตาม ยังไงเขาก็ต้องเลือกคู่ครองที่ตรงกับใจของเขาไม่ใช่เพียงเพราะแค่ความผิดพลาดเหมือนอย่างในนิยายน้ำเน่าที่เขาเคยอ่านมา



คนตัวเล็กค่อย ๆ ค้ำยันตัวขึ้นมานั่งพิงกับหัวเตียงกว้างด้วยความเหน็ดเหนื่อย ทั้งที่ตัวเขาเองก็พยายามจะไม่คิดถึงเ๹ื่๪๫ที่เจซเล่าแล้วแต่พอตื่นขึ้นมาความคิดทั้งหมดก็วนกลับมาในหัวอัตโนมัติอย่างห้ามไม่ได้ แพทริเซียถอนหายใจออกมายาว ๆ ด้วยความหนักใจ 




ตั้งใจไว้แล้วแท้ ๆ ว่าจะทำงานนี้ให้จบแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น



แต่ทำไมความกลัวในใจมันถึงมีมากมายขนาดนี้



มือเล็กทั้งสองข้างยกขึ้นลูบใบหน้าเบา ๆ ก่อนจะฟุบใบหน้าลงไปกับฝ่ามือของตัวเอง หูทั้งสองข้างของแพทริเซียอื้ออึง ไม่ว่าแพทจะพยายามสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหยุดความคิดของตัวเองที่กำลังฟุ้งซ่านอยู่ได้สักนิด เขาไม่อยากจะคิดเลยสักนิดว่าถ้าหากเขาบังเอิญไปพบกับคนของอีแวนส์คนเดียวแบบนั้นอีกแล้วถูกพบว่าเป็๞คนของควินท์เรลนั้นจะเป็๞ยังไง เพียงแค่คิดมือทั้งสองข้างก็สั่นซะจนทำอะไรไม่ถูก เขาเองไม่ได้อยากตกอยู่ในอันตรายที่ไม่มีใครเตือนแบบนี้เลยสักนิด 

ในขณะที่ความคิดกำลังทำงานหนักจนทำให้ไหล่บางในชุดนอนกำลังจะเริ่มสั่นเพราะความโหวงในใจที่เกิดขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ จู่ ๆ เสียงตะกุกตะกักที่ดังแว่วเข้ามาในหูก็ต้องทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความแปลกใจ ก่อนเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากหน้าประตูจะทำให้แพทริเซียเด้งตัวขึ้นจากเตียงอัตโนมัติ 



ต้องเป็๞เสียงของไซม่อนแน่ ๆ




มือเล็กที่กำลังชื้นเหงื่อเอื้อมไปเปิดประตูก่อนรอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าเ๯้าของห้องทันทีที่ได้เห็นภาพตรงหน้า ภาพของทายาทตระกูลควินท์เรลที่เขาคุ้นเคยกับสุนัขคู่ใจที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นหน้าห้องและจ้องมองมาทางเขา ความหนักใจและความกังวลต่าง ๆ ที่เคยมีอยู่ล้นในอกแต่พอได้เห็นภาพตรงหน้าก็ทำเอาแพทริเซียโล่งใจขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย




“อรุณสวัสดิ์คุณมอร์แกน”  อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยทักเขาก่อน



“อรุณสวัสดิ์คุณควินท์เรล”



ไซม่อนมองหน้าเขาอยู่ครู่นึงก่อนจะชะงักและก้มลงไปเกาท้องให้เ๯้าแซมมี่ที่นอนหงายอยู่บนพื้นเหมือนเดิม ท่าทางที่เขามักจะได้รับเวลาที่อีกฝ่ายเริ่มมีเ๹ื่๪๫อะไรในใจหรือกำลังไม่พอใจอะไรสักอย่างแบบนั้นทำแพทริเซียหลุดยิ้มได้อย่างง่ายดาย ทั้ง ๆ ที่แพทเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมอีกฝ่ายถึงทำท่าทางอย่างนั้นใส่เขา เพราะเขากับไซม่อนก็ไม่ได้เจอกันเกือบจะหนึ่งวันเต็ม ๆ ด้วยซ้ำ



“ว่าแต่คุณควินท์เรลมาทำอะไรหน้าห้องเราล่ะวันนี้?”


“ก็ พาแซมมี่ม-”


“พาแซมมี่มาเดินเล่น”




เสียงทุ้มของอัลฟ่าหนุ่มถูกกลืนหายไปทันทีที่แพทริเซียเอ่ยประโยคที่เขากำลังจะบอก แพทริเซียหลุดหัวเราะออกมายิ่งทำให้ริมฝีปากของไซม่อนเบะลงไปยิ่งกว่าเดิม 



“เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคุณควินท์เรล?”



“เปล่า ไม่มีอะไร”



“แล้วทำไมคุณถึงทำหน้าบึ้งตึงแต่เช้าอย่างนั้นล่ะ?”



และแพทก็ได้รับคำตอบจากอีกฝ่ายเป็๲เพียงแค่การเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาครู่เดียวก่อนที่ไซม่อนจะก้มหน้าลงไปมองเ๽้าแซมมี่เหมือนเดิม แพทริเซียไม่อยากจะเชื่อเลย เหมือนกับว่าในตอนนี้เขากำลังถูกอีกฝ่ายเมินยังไงอย่างนั้นแหละ 



คนตัวเล็กยกแขนขึ้นกอดอกมองการกระทำของคนตรงหน้านิ่ง ๆ อย่างครุ่นคิด ถ้าหากเมื่อวานไม่ได้เกิดอะไรขึ้นแล้วอะไรคือเหตุผลที่ไซม่อนทำหน้าง้ำงอใส่เขาอยู่แบบนี้ อัลฟ่าหนุ่มชำเลืองขึ้นมามองเขาเป็๞พัก ๆ ทั้งที่แสดงสีหน้าเหมือนเดิมยิ่งทำให้แพทริเซียขมวดคิ้วสงสัยกับการกระทำของไซม่อนเข้าไปใหญ่



หรือไม่พอใจที่เขาไม่อาบน้ำแล้วเปิดประตูมาทักทายอีก




“ไหนบอกว่าจะกลับเร็ว”  เสียงทุ้มเอ่ยแ๶่๥เบาในลำคอ



“อะไรนะคุณควินท์เรล?”



“..”



“คุณพูดอะไร เราไม่ได้ยินเลย” แพทริเซียขยับก้าวเข้าไปใกล้เขามากขึ้นก่อนจะก้มตัวน้อย ๆ ลงไปถามอีกฝ่ายที่กำลังก้มหน้าอยู่



“ไหนบอกว่าจะกลับเร็ว”



 และในขณะเดียวกันที่แพทริเซียก้มเข้าไปใกล้ก็เป็๞จังหวะเดียวกับที่อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามองจนใบหน้าของทั้งสองห่างกันไม่ถึงคืบ ทั้งสองคนค้างนิ่งอยู่สักพักจนเป็๞แพทที่ตั้งสติได้และถอยหลังออกมาทันทีด้วยความ๻๷ใ๯



“เอ่อ”



จริง ๆ แล้วแพทเองก็ไม่ได้คิดอยากเข้าข้างตัวเองนักหรอกนะ แต่การกระทำพร้อมคำพูดแบบนั้นมันเหมือนกับว่าอีกฝ่ายอยากเจอเขาหรือเปล่า และแล้วใบหน้าหวานก็เห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ถึงแม้แพทจะค่อนข้างมีภูมิต้านทานกับคำพูดชวนหวานเลี่ยนหรืออะไรแบบนั้นก็เถอะ แต่เพราะประโยคที่แสดงถึงความจริงใจที่ดูเหมือนกับว่าอยากเจอเขาพร้อมใบหน้าซื่อ ๆ แบบนั้นก็ทำแพทต้องเม้มปากแน่นทันที



นี่มันครั้งแรกเลยที่มีคนทำแบบนี้กับเขา



แต่ยังไม่ทันที่แพทจะได้คิดอะไรต่อ ประโยคที่อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยออกมาก็ทำให้รอยยิ้มหวานพลันหุบหายไปทันที



“ไหนขนมของเราล่ะ”




ขนม?



อย่าบอกนะว่าหมายถึงขนมที่เขาสัญญาไว้




“ก็ขนมที่บอกว่าจะซื้อมาฝากเราไง”


สรุปก็แค่อยากกินขนมสินะ



ไอ้บ้าไซม่อน



ทั้งที่มันไม่ใช่เ๹ื่๪๫น่าหงุดหงิดเลยสักนิดแต่ในตอนนี้แพทริเซียกลับกัดฟันกรอดด้วยความหมั่นไส้อัลฟ่าตรงหน้า ถึงแม้ในใจจะเถียงว่าไม่ใช่ความผิดอะไรของไซม่อนก็เถอะแต่ใครจะไปคิดกันล่ะว่าท่าทางแบบนั้นมันไม่ได้มีให้เขา แต่กลับมีให้ขนมเ๯้ากรรมที่เขาต้องเสียเวลาทั้งวันกับคนอย่างลุค อีแวนส์เพื่อให้ได้มา


ถึงบอกไปไอ้อัลฟ่าหน้าหมานี่ก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก


แล้วทำไมเขาถึงต้องมารู้สึกหงุดหงิดกับเ๱ื่๵๹แค่นี้ด้วยล่ะเนี่ย




“ทำไมมองเราแบบนั้นล่ะคุณมอร์แกน?”



“ฮะ..”



“มองอย่างกับจะฆ่าเราอย่างนั้นแหละ”


แพทริเซียชะงักเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยทักท้วงขึ้นมา ทั้งที่จริงเขาแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าในตอนนี้เขาแสดงสีหน้ายังไงออกไปให้อีกฝ่ายได้เห็น แต่การอธิบายสีหน้าของเขาที่ไซม่อนบรรยายออกมานั้นทำเขาปรับสีหน้าแทบไม่ทัน แพทริเซียกระแอมเล็กหน่อยเพื่อปรับอารมณ์ของตัวเองก่อนจะเอ่ยแก้ตัวออกไปเบา ๆ

“อ๋อ.. ก็เปล่านี่”



“งั้นก็ดีแล้ว แต่ขนมเราล่ะ”



“อื้ม! เรารู้แล้วน่าคุณควินท์เรล จะเข้าไปเอาให้เดี๋ยวนี้แหละ”  แพทถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียเข้าไปในห้อง ทิ้งให้อัลฟ่าหนุ่มและเ๽้าสุนัขขนปุยนั่งมองตามด้วยความงุนงง 



ใช้เวลาเพียงไม่นาน คนตัวเล็กก็ออกมาพร้อมกับถุงใบใหญ่ที่ทำให้ไซม่อนทำตาลุกวาว ถุงกระดาษสีขาวที่เขาไม่คุ้นเคยแต่กลิ่นหอมของขนมที่ลอยออกมาแตะจมูกแม้ถุงจะถูกปิดอยู่ก็ทำให้ไซม่อนยิ้มออกมาได้อย่างง่ายดาย จริง ๆ แล้วเขาเองก็ไม่ได้ถึงกับเป็๞พวกคลั่งไคล้ขนมอะไรแบบนั้นหรอก แต่พอเป็๞ขนมที่มีคนตั้งใจซื้อมาให้แบบนี้ ความรู้สึกมันก็ต่างกันจริง ๆ และถุงกระดาษสีขาวก็ถูกหยิบยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้เขารู้สึกดีเข้าไปใหญ่



คุ้มแล้วแหละมั้ง



กับการที่นั่งรอมาทั้งวัน๻ั้๫แ๻่เมื่อวาน




ใช่ ไซม่อนนี่แหละที่นั่งรอแพทริเซีย๻ั้๫แ๻่อีกฝ่ายออกจากคฤหาสน์ไปจนดึกดื่น ถึงแม้เขาจะคอยบอกตัวเองอยู่ตลอดก็เถอะว่ามันไม่มีความจำเป็๞ที่ต้องมานั่งรออีกฝ่ายเลยเพราะแพทก็ได้ให้สัญญาไว้แล้ว แต่ทำไมตลอดทั้งวันของเขาวนเวียนอยู่กับการคิดเ๹ื่๪๫คุณครูฝึกสอนตรงหน้าด้วยก็ไม่รู้ ความกังวลใจที่จู่ ๆ เขาก็รู้สึกขึ้นมามากมายทั้งวันยิ่งทำให้เขาเอาแต่ใจจดใจจ่ออยู่กับการรออีกฝ่าย และนั่นก็คงเป็๞เหตุผลที่เขารีบจูงเ๯้าแซมมี่มาทางฝั่งปีกขวาของชั้นสอง๻ั้๫แ๻่เวลาเช้าตรู่ด้วยละมั้ง



“ของเราเหรอ?” อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยถามพร้อมลุกขึ้นยื่นมือรับถุงกระดาษสีขาวจากแพทริเซียมาไว้กับตัวเอง เขาเปิดปากถุงออกน้อย ๆ เพื่อสอดส่องดูของข้างในและมันก็ทำให้เขายิ้มออกมาอีกครั้ง ขนมมากมายที่ถูกเลือกสรรถูกบรรจุในถุงจนแน่นไปหมด 



“ใช่ ของคุณนั่นแหละ”



“ทั้งหมดเลย?”



“อื้ม ก็เราไม่รู้ว่าขนมอันไหนจะถูกใจคุณเลยเลือกมาเกือบทุกอย่างที่มีในร้านเลย”



“ราคาคงแพงน่าดู”



“ไม่เลย” 



“ให้เราจ่ายคืนให้ได้ไหม?”



“ไม่ต้องหรอก เราตั้งใจซื้อมาฝากคุณควินท์เรลนะ”


“งั้นจ่ายคนละครึ่งก็ได้.. เผื่อจะได้ทานด้วยกัน”  ไซม่อนเอ่ยเสียงแ๶่๥พร้อมจ้องมองใบหน้าของแพทริเซียด้วยแววตาใสซื่อ



เหมือนลูกหมาเลย



แพทริเซียก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มทันทีที่ได้เห็นสายตาของอีกฝ่าย ท่าทางที่แสดงออกมาเหมือนเด็กซื่อแบบนั้นยิ่งทำให้ความเอ็นดูที่แพทมีให้ไซม่อนมีเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยปกติแล้วการซื้อของฝากให้คนรอบข้างนั้นเป็๲เ๱ื่๵๹ปกติที่เขามักจะทำเป็๲ประจำ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะตอบกลับมาแบบไซม่อน และยิ่งความคิดที่อยากแบ่งกันทานนั่นอีก 



แพทกำลังจะหยุดยิ้มไม่ได้แล้วจริง ๆ




“ราคามันเท่าไหร่เหรอคุณมอร์แกน”



“คุณควินท์เรล”



“อื้ม ว่าไง?”



“เราซื้อมาให้คุณ ไม่จำเป็๲ต้องจ่ายให้เราหรอก แต่ถ้าคุณอยากแบ่งให้เรากินก็เป็๲สิทธิ์ของคุณเพราะขนมทั้งหมดในถุงนี้เป็๲ของคุณ”



“แต่ว่า-”



“ไว้โอกาสหน้า คุณควินท์เรลค่อยเอาขนมอย่างอื่นมาฝากเราบ้าง ดีไหม?”



“เราจะมีโอกาสได้ไปซื้อเมื่อไหร่กันล่ะ..”  



ไซม่อนบ่นอุบอิบพร้อมกับก้มหน้าจนคางชิดอก โอเมก้าตัวขาวชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคตัดพ้อและท่าทางของคนตรงหน้า ทั้งที่จริงมันควรเป็๲ประโยคปลอบใจที่อีกฝ่ายไม่ต้องใส่ใจก็ได้ แต่เพราะเป็๲ไซม่อนด้วยละมั้ง ถึงพร้อมจะลองทำทุกอย่างตามที่เขาพูดออกไปทุกครั้ง


“ก็ไม่เห็นต้องเป็๞สิ่งของที่ต้องซื้อเลยก็ได้นี่”


“..”  อัลฟ่าหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย



“ขอแค่เป็๞อะไรที่คุณควินท์เรลเห็นแล้วคิดถึงเราขึ้นมาหรือคิดว่าอยากให้สิ่งนั้นกับเราแค่นั้นก็พอแล้วละ”



“ได้ยังไงกัน ขนมนี่ก็ดูแพงออก”


“สิ่งของที่อยากให้กันมันไม่ได้มีมูลค่าที่ราคาหรอกนะคุณควินท์เรล”



“..”



“มูลค่ามันอยู่ที่ใจของคนอยากให้มากกว่า”



“เหรอ..”



“ใช่ครับ”



อัลฟ่าหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มออกมาพร้อมแววตาที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้จะโล่งใจขึ้นบ้างที่อีกฝ่ายไม่ได้ทำหน้าง้ำงอแบบในตอนแรกแต่เขาก็ยังไม่เข้าใจสายตาที่อีกฝ่ายจ้องมองมาอยู่ดี แล้วจู่ ๆ ไซม่อนก็ยืดตัวเต็มความสูงก่อนจะก้าวเข้ามาหาเขาช้า ๆ จนโอเมก้าตัวเล็ก๻๷ใ๯ถอยจนแผ่นหลังติดกับกำแพงหน้าห้อง




“อ.. อะไรเหรอคุณควินท์เรล”




หัวใจดวงเล็กเต้นถี่ขึ้นมาเมื่อได้กลิ่นไม้สนที่เป็๞เอกลักษณ์จากอีกฝ่ายลอยมาแตะจมูก แพทอยากจะกลั้นหายใจเหลือเกินแต่ก็กลัวจะผิดสังเกตจนอีกฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมาอีก ทั้งที่ไซม่อนยังไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำแต่ทำไมเขาถึงรู้สึกใจเต้นแปลก ๆ ขึ้นมาได้มากขนาดนี้ 



“ขอบคุณนะ”



“ครับ”



“ขอบคุณทั้งเ๱ื่๵๹ขนม ทั้งเ๱ื่๵๹ที่ตั้งใจซื้อมาให้เรา”



“เราพูดกับคุณควินท์เรลไว้แล้วนี่ เราตั้งใจซื้อมาให้จริง ๆ”



“อื้ม เราก็รอคุณมอร์แกนอย่างตั้งใจเหมือนกัน”




ประโยคบอกเล่าที่ฟังดูแล้วแสนธรรมดาแต่ในตอนนี้กลับทำให้ใบหน้าหวานเห่อร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ หัวใจที่กำลังเต้นแรงกลับเต้นถี่ขึ้นจนแพทริเซียได้ยินเสียงจังหวะหัวใจของตัวเองดังก้องอยู่ในหู ฝ่ามือเล็กเลื่อนขึ้นมาทาบทับที่หน้าอกข้างซ้ายน้อย ๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น 



ในตอนนี้ แพทไม่กล้ามองหน้าไซม่อนด้วยซ้ำ



แต่อาการของอัลฟ่าหนุ่มก็ไม่ได้ต่างกัน ใบหูของเขาแดงขึ้นมาจนต้องยกมือขึ้นจับหูตัวเองเพื่อเก็บซ่อนอาการเอาไว้ บทสนทนาที่จบลงอย่างไม่ตั้งใจก็ถูกแทนที่ด้วยความเงียบที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณและมีเพียงแค่เสียงของเ๽้าแซมมี่ร้องครางหงิงขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเ๽้านายไม่ได้สนใจตัวมันอีกต่อไปแล้ว



แพทริเซียค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจของตัวเองออกช้า ๆ เขาเลื่อนมือชื้นเหงื่อของตัวเองถูไปมากับเสื้อนอนก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองอัลฟ่าตรงหน้าที่กำลังจ้องมองเขาอยู่เหมือนกัน 




“กลิ่นขนมมันหอมเนอะ”  ไซม่อนเอ่ยขึ้นมาพร้อมชำเลืองมองถุงกระดาษในมือของตน



“อ๋อ.. อ่า ก็ต้องหอมสิ ที่ร้านใช้เนยสดทำเองด้วยนะ”



“มันหอมกลิ่น.. วนิลาน่ะสิ”




แพทตอบกลับไปพร้อมเสียงหัวเราะแห้ง ๆ เพื่อแก้เขินกับสถานการณ์ตรงหน้า แต่พอได้รับคำตอบแบบนั้นกลับมาพร้อมได้มองไซม่อนใกล้ ๆ แบบนี้ ภาพในวันที่เขาสอนให้อีกฝ่ายจัดระเบียบร่างกายของตัวเองครั้งแรกก็ผุดขึ้นมาจนทำให้ริมฝีปากเล็กต้องเม้มเข้าหากันแน่น เสียงหอบหายใจที่เคยดังของทั้งคู่ในวันนั้นก็ดังก้องขึ้นมาในหูจนแพทต้องกลืนน้ำลายตัวเองอย่างยากลำบาก



เอาจริงแล้ว การอยู่ใกล้กันของอัลฟ่าและโอเมก้าที่โตเต็มวัยสมบูรณ์อย่างพวกเขานั้นไม่ใช่เ๱ื่๵๹ดีเลยสำหรับคนที่ไม่ได้พร้อมจับคู่กัน จากที่ไม่เคยคิดจะศึกษาเ๱ื่๵๹ระหว่างอัลฟ่าและโอเมก้าแต่หลังจากที่ได้ใกล้ชิดกับไซม่อน เขาเองก็เริ่มศึกษามาบ้างและพบว่ามันก็ค่อนข้างอันตรายสำหรับเพศรองอย่างเขาเหมือนกัน



ถึงแม้จะปกป้องตัวเองดีแค่ไหนก็เถอะ



แต่เพราะสัญชาตญาณก็อาจจะทำให้บางอย่างอยู่เหนือการควบคุม 




และยิ่งในตอนนี้ที่เขาเองก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองนั้นประหม่าและร่างกายก็กำลังสั่นเทิ้มเพียงเพราะแค่อยู่ใกล้กับอีกฝ่ายนี่อีก กลิ่นไม้สนที่ลอยจางมากับอากาศทำแพทริเซียคุมตัวเองได้ยากลำบาก และดูเหมือนในตอนนี้กลิ่นที่อีกฝ่ายกำลังสูดดมอยู่มันก็ไม่ใช่กลิ่นขนมในถุงกระดาษนั่นแล้วละ



เพราะกลิ่นประจำตัวของเขา



คือกลิ่นวนิลา




ยังไม่ทันที่แพทริเซียจะได้พูดแก้ตัวออกไปแต่เพราะอัลฟ่าหนุ่มที่กำลังก้าวเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ พร้อมกับทำจมูกฟุดฟิดใส่เขา โอเมก้าตัวเล็กก็ตัวแข็งทื่อซะจนขยับไปไหนไม่ได้ ไซม่อนแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเองด้วยความสงสัย ความหวานฟุ้งของกลิ่นประจำตัวของโอเมก้าตัวเล็กทำเขาอดไม่ได้จนต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายเรื่อย ๆ  



“กลิ่นมันหอมจริง ๆ นะคุณมอร์แกน แต่มันเหมือนหอมไม่ได้หอมมาจากขนม..”



“ม.. ไม่ใช่หรอก กลิ่นขนมนั่นแหละคุณควินท์เรล”



“แต่-”


“เรา.. เราจะไปอาบน้ำแล้ว กินขนมให้หมดด้วยล่ะ!” แพทริเซียพูดขึ้นอย่างรีบร้อนพร้อมผลักหน้าอกกว้างให้ออกจากตัวเองจนสุดกำลัง คนตัวเล็กรีบวิ่งเข้าไปในห้องพร้อมกับดึงประตูบานใหญ่ให้ปิดลงจนเกิดเสียงดังไปทั่วชั้นสอง



แผ่นหลังเล็กพิงกับประตูห้องนอนพร้อมหัวใจที่เต้นถี่รัว กลิ่นวนิลาหอมหวานที่ลอยฟุ้งอยู่กับอากาศทำแพทต้องขบฟันลงกับริมฝีปากของตัวเองไว้แน่น ดูเหมือนว่าอาการฮีทของเขามันจะมาถึงเร็วกว่าปกติแล้วจริง ๆ ขาเรียวเล็กก้าวยาว ๆ ไปที่โต๊ะเพื่อควานหากระปุกยาระงับอาการฮีทมากำไว้ในมือแน่น



เกือบไปแล้วจริง ๆ



เพียงเพราะแค่อยู่ใกล้กันเท่านั้นเอง



กลิ่นไม้สนที่ติดอยู่ปลายจมูกทำใจดวงเล็กเต้นถี่รัวขึ้นมาอีกครั้ง ความรู้สึกที่เหมือนกำลังถูกปกป้องและความรู้สึกปลอดภัยที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต แต่ในตอนนี้มันกลับค่อย ๆ คืบคลานเข้าที่หน้าอกข้างซ้ายจนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นเหมือนกำลังถูกผ้านวมผืนใหญ่โอบกอดไว้ซะอย่างนั้น



ว่าแต่ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันล่ะ?




  • Simon’s theory  -

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้