“ไม่นะ! ”
เฉิงอี้เฟยร้องะโเสียงดังราวกับบ้าคลั่ง เขารีบทะยานตัวจาก้าหลังคาลงไปทันทีประหนึ่งกับ้าไล่ตามลูกธนูคมเล่มนั้น
ลูกธนูที่ตนเองยิงออกไป ตนเองจะไปไล่ตามได้อย่างไร? เขาสูญเสียการควบคุมแล้ว “ไป๋หลี่ิชวน เ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ปล่อยนาง ปล่อยนาง…”
ทว่าเขายังคงร้องะโอยู่ ทางด้านของลูกธนูคมทั้งสองเล่มนั้นได้ฉิวเฉียดผ่านใบหูของกูเฟยเยี่ยนไป แม้ว่าเกือบจะทำให้นางได้รับาเ็ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้โดนนางเลยแม้แต่น้อย
กูเฟยเยี่ยนสะลึมสะลือไม่ได้สติ นางจึงไม่รับรู้ทุกอย่าง
เฉิงอี้เฟยหยุดกะทันหันด้วยใบหน้าขาวซีด ต่อให้เป็การตื่นตระหนกใไปเอง อัตราการเต้นของหัวใจเขาก็ยังคงเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ !
ไป๋หลี่ิชวนหัวเราะเสียงดัง ดูเหมือนว่าเขาจะควบคุมทุกอย่างได้อย่างมั่นคงและคาดเดาได้ั้แ่แรกแล้วว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็เช่นนี้ เขาคิดแค่ว่าเื่ใจหายใจคว่ำนี้เป็เพียงเื่ล้อเล่นและหยอกล้อเฉิงอี้เฟยเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าเฉิงอี้เฟยหยุดชะงักในระยะไกล รอยยิ้มของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็ขี้เล่น “จิจิจิ แม่ทัพเฉิง ดูเหมือนว่าเ้าจะชอบนังหนูคนนี้มากเลยสินะ! ”
เฉิงอี้เฟยรีบง้างคันธนูขึ้นมาอีกครั้งพลางเอ่ยด้วยความโกรธเคือง “ไป๋หลี่ิชวน ปล่อยนางซะ! เปิ่นเจียงจวินจะเหลือศพอันสมบูรณ์ไว้ให้เ้า! ”
ไป๋หลี่ิชวนยิ้มเยาะเบาๆ โดยไม่สนใจคำเตือนนี้เลยสักนิด
“แม่ทัพเฉิง เดิมพันกันดีไหม? เดิมพันว่า…”
เขาใช้มือข้างหนึ่งโอบกูเฟยเยี่ยนไว้แน่น มืออีกข้างหนึ่งนำพัดพับออกมาด้วยความสง่างามพลางชี้ไปยังนักยิงธนูมากมายด้านข้างของหอประตูเมืองอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะเอ่ยพูดต่อไปว่า “พนันว่าเมื่อลูกธนูคมของพวกเ้าถูกปล่อยออกมา มันจะสังหารนังหนูคนนี้ให้ตายได้หรือไม่? ”
“เ้า! ”
อารมณ์ของเฉิงอี้เฟยพลุ่งพล่านมาก ชั่วพริบตาเดียวเขาก็ง้างคันธนูเล็งไปที่ดวงตาของไป๋หลี่ิชวนอย่างแม่นยำ
ไป๋หลี่ิชวนปล่อยให้เฉิงอี้เฟยเล็งไปที่ดวงตาโค้งแหลมใสเป็ประกาย ที่ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งความชั่วร้ายและความเกียจคร้าน “ตัวข้าใช้ชีวิตเป็สิ่งเดิมพัน เดิมพันว่าพวกเ้าสังหารนางไม่ได้แล้ว อีกทั้งยังทำร้ายนางไม่ได้แม้แต่น้อยอีกด้วย เป็อย่างไร เ้าจะเดิมพันหรือไม่? ”
เฉิงอี้เฟยกำคันธนูไว้แน่นโดยไม่ตอบอะไร
ไป๋หลี่ิชวนหมายความว่าอย่างไรกัน?
หากว่ายิงธนูออกไปทั้งหมด ไป๋หลี่ิชวนจะยังปกป้องแพทย์หญิงตัวน้อยได้อย่างไร หมอนั่นไม่ได้พูดล้อเล่นแน่ๆ มันจะต้องดันแพทย์หญิงตัวน้อยออกไปเป็โล่กำบัง?
ไป๋หลี่ิชวนกำลังยั่วยุชัดๆ ! หมอนั่นอาศัยการที่มีแพทย์หญิงตัวน้อยเป็ตัวประกันในมือแล้วทำการยั่วอารมณ์!
เขาคิดดีแล้ว เขา เฉิงอี้เฟย ไม่กล้าเดิมพัน!
ทำอย่างไรดี?
เฉิงอี้เฟยครุ่นคิดด้วยความร้อนใจ
แม้ว่าเขาจะเป็คนที่เอาแต่ใจ ทว่าไม่ใช่คนที่ไร้สมองทำตัวหุนหันพลันแล่น เขาเข้าใจดีว่าวิธีการที่ชาญฉลาดที่สุดคือการดำเนินต่อไปโดยพยายามไม่ทำให้กูเฟยเยี่ยนได้รับาเ็ จากนั้นจึงเข้าจับกุมตัวไป๋หลี่ิชวน
เฉิงอี้เฟยไม่เชื่อว่าด้วยทักษะธนูของตนเองกับเหล่าทหารชั้นยอดบนหอประตูเมืองแล้วจะยังไม่สามารถจัมกุมตัวไป๋หลี่ิชวนไว้ได้อีก! แต่ฉากเมื่อสักครู่นี้ทำให้จิตใจของเขาเกิดความหวาดผวา เขาไม่แน่ใจว่าในรอบที่สองและรอบที่สาม แพทย์หญิงตัวน้อยจะยังคงโชคดีเช่นนี้หรือไม่?
ท้ายที่สุดเฉิงอี้เฟยจึงตัดสินใจที่จะไม่เคลื่อนไหวเพื่อรอจังหวะบุกโจมตี
ถึงอย่างไรเขาก็ไม่กล้าและไม่ยอมใช้ชีวิตของแพทย์หญิงตัวน้อยมาเป็สิ่งเดิมพัน เขาทำได้เพียงแค่ยืดเวลาออกไปเพื่อรอจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย
เฉิงอี้เฟยะโเสียงดัง “เ้า้าอะไรกันแน่ถึงจะยินยอมปล่อยนางไป? ”
ไป๋หลี่ิชวนไม่ได้ตอบไปตามตรง แต่ถามกลับด้วยใบหน้าเอาจริงเอาจัง “ทำไม แม่ทัพเฉิงจะไม่เดิมพันอย่างนั้นหรือ? ”
ดวงตาของเฉิงอี้เฟยทอประกายแสงแห่งความซับซ้อน ก่อนจะเจตนาเร่งรัด “อย่ามาเล่นลูกไม้กับเปิ่นเจียงจวิน ต้องทำอย่างไรเ้าถึงจะปล่อยนางไป ให้มันตรงไปตรงมาหน่อย! ”
ไป๋หลี่ิชวนยิ้มแย้มด้วยความเ้าเล่ห์และทราบว่าตนเองไม่สามารถอยู่นานได้ แม้ว่าเขาจะอยากจะประจันหน้าจวินจิ่วเฉิน แต่ไม่ว่าอย่างไรที่แห่งนี้ก็เป็อาณาเขตของจวินจิ่วเฉิน เขามีความเสียเปรียบมาก
“ในเมื่อแม่ทัพเฉิงไม่มีอารมณ์ในการเดิมพัน เช่นนั้นตัวข้าก็ขอลาไปก่อน! ”
หลังจากที่เขาเอ่ยแล้วก็ได้โอบกอดกูเฟยเยี่ยนไว้ในอ้อมอก ก่อนจะไปเผชิญหน้ากับนักยิงธนูบนหอประตูเมือง เขาใช้วิชาตัวเบาเพื่อพุ่งตัวไปด้านหน้า
เฉิงอี้เฟยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ โดยที่คิดไม่ถึงว่าหมอนี่จะมองข้ามการคุกคามของเขา และมองข้ามการคุกคามของนักยิงธนูบนหอประตูเมือง นักยิงธนูไม่ได้รับคำสั่งจากเฉิงอี้เฟยทำให้ไม่มีใครกล้ายิงธนูออกไป ไป๋หลี่ิชวนยันพื้นดินพลันทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อ้าบินผ่านกำแพงเมือง
ในที่สุดเฉิงอี้เฟยก็ทนไม่ไหวแล้ว เขาเล็งไปที่แผ่นหลังของไป๋หลี่ิชวนอีกครั้งแล้วยิงออกไปด้วยความรุนแรง!
ทันใดนั้น!
ไป๋หลี่ิชวนยังคงทำแบบที่ได้พบครั้งแรก เขาไม่หลบหลีกแต่เจตนาหันข้างให้กูเฟยเยี่ยนมาเป็โล่กำบัง!
อันที่จริงในขณะเดียวกันร่างกายอีกด้านหนึ่งของไป๋หลี่ิชวนนั้นปราศจากโล่กำบังและการป้องกัน ต่อให้เฉิงอี้เฟยไม่ลงมือด้วยตนเองก็สามารถให้นักยิงธนูบนหอประตูเมืองลงมือได้
ทว่าเขาไม่ได้สั่งการ!
เขาตกตะลึงตาค้างอีกครั้ง
จนกระทั่งลูกธนูคมเล่มนั้นพุ่งเฉียดท้องของกูเฟยเยี่ยนไปโดยไม่ได้ทำให้นางาเ็ จิตใจและร่างกายอันตึงเครียดจนถึงขีดสุดของเฉิงอี้เฟยก็ผ่อนคลายลงมา
อันตรายมาก! อันตรายมาก! มันระทึกขวัญกว่าลูกธนูก่อนหน้านี้เสียอีก!
เขามองเห็นชัดเจนว่าเพียงแค่ธนูเล่มนั้นเอียงข้างอีกนิดเดียวมันก็จะทะลุผ่านท้องของกูเฟยเยี่ยนได้
มือของเขากำลังสั่นเทา
ไป๋หลี่ิชวนทะยานลงบนพื้นดินพลางหัวเราะเสียงดังมากกว่าเมื่อสักครู่นี้เสียอีก “แม่ทัพเฉิง ดูเหมือนว่าเ้า้าเดิมพันสินะ! แต่น่าเสียดายที่เ้าแพ้แล้ว! ”
หลังจากที่เขาเอ่ยจบก็ได้ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง ในครั้งนี้เขาข้ามหอประตูเมืองโดยตรงเพื่อออกจากเมืองไป!
เหล่านักยิงธนูบนหอประตูเมืองล้วนมองไปที่เ้านายของตนเองด้วยความตกตะลึง
ทหาราุโในกลุ่มของพวกเขาคือผู้ที่เฝ้าดูการเจริญเติบโตของเฉิงอี้เฟยมาโดยตลอด ในส่วนของเหล่าทหารหน้าใหม่นั้นก็ถูกเฉิงอี้เฟยชี้แนะด้วยตนเอง พวกเขาล้วนไม่เคยเห็นว่าเฉิงอี้เฟยจะมีจิตใจว้าวุ่นลังเลเช่นนี้
นี่ไม่ใช่ปฏิกิริยาตอบสนองที่แม่ทัพควรจะมี หากว่าอยู่ในสนามรบมันจะอันตรายถึงชีวิตมาก
เฉิงอี้เฟยมองไปที่มืออันสั่นเทาของตนเองด้วยความใ
บางทีนี่อาจเป็ค่ำคืนนี้ที่เขาได้รู้ว่าตนเองชื่นชอบแพทย์หญิงตัวน้อยคนนั้นมากเพียงใด เขาสงบสติอารมณ์แล้วไล่ตามออกไปในทันที
ในขณะนี้หมางจ้งที่ระดมคนมาก็ได้ไล่ตามออกไปเช่นกัน
หลังจากที่พวกเขาออกมาจากตัวเมืองได้ไม่นาน เงาสีดำก็ข้ามผ่านกำแพงด้วยความเร็วราวกับแสงที่วาบผ่านไป ทหารคุ้มกันบนกำแพงเมืองต่างก็ไม่ได้สังเกตเห็น
เงานี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็จวินจิ่วเฉิน
เขาเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย สวมใส่หน้ากากสีเงิน
อะไรคือวิชาเคลื่อนไหวดั่งเงา? มันก็คือความเร็วประดุจเงา!
ไม่ช้าเขาก็แซงหน้าหมางจ้งกับเฉิงอี้เฟยไปอย่างเงียบเชียบ
ผ่านไปชั่วขณะเขาก็เห็นร่างของไป๋หลี่ิชวน เขากำลังจะไล่ตามไปแต่ดูเหมือนว่าไป๋หลี่ิชวนจะสังเกตเห็นเขา เพราะจู่ๆ หมอนั่นก็เลี้ยวเข้าไปในป่ามืดมนที่อยู่ด้านข้าง!
จวินจิ่วเฉินพุ่งเข้าไปทันที แต่หลังจากที่เข้ามาก็หยุดลงกะทันหันและโกรธที่ตนเองหุนหันพลันแล่น
เดิมทีพระจันทร์ในยามค่ำคืนก็ไม่สว่างไสวมากนัก แต่ทันทีที่เข้ามาในป่ามืดมนแล้ว แม้แต่การยื่นนิ้วมือทั้งห้าออกมาก็ไม่สามารถมองเห็นได้ อีกทั้งภายในนี้ยังเงียบเป็เป่าสาก
ไป๋หลี่ิชวนเข้ามาก่อน เขาตามมาทีหลัง มีความเป็ไปได้แปดถึงเก้าส่วนว่าไป๋หลี่ิชวนจะดักซุ่มโจมตี แต่ต่อให้ไม่ได้ดักซุ่ม ไป๋หลี่ิชวนก็สามารถได้ยินการเคลื่อนไหวและระบุตำแหน่งของเขาได้ในทันที ทว่าตัวเขาเองกลับมองไม่เห็นไป๋หลี่ิชวน!
เพราะเหตุนี้ เขาจึงอยู่ในที่แจ้ง ไป๋หลี่ิชวนอยู่ในที่ลับ!
เฉิงอี้เฟยกับหมางจ้งจะตามมาถึงในไม่ช้า เขาไม่ควรหุนหันพลันแล่นเช่นนี้
จวินจิ่วเฉินยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ทว่าก็ตื่นตัวในการระแวดระวังภัยรอบข้างและฟังเสียงการเคลื่อนไหวบริเวณโดยรอบ
เขาลอบประหลาดใจ กูเฟยเยี่ยนเป็อะไรไปกัน?
ในตอนที่นางถูกเขาจับกุมตัว นางยังสามารถดิ้นรนและเล่นตุกติกได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เมื่อตกอยู่ในเงื้อมมือของไป๋หลี่ิชวนเหตุใดจึงไม่มีการเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย? ทักษะพิษของนางเล่า? นางสามารถวางยาพิษที่มองไม่เห็นได้ไม่ใช่หรือ?
เป็ไปได้หรือไม่ว่าเกิดเื่กับหญิงสาวคนนั้น?
จวินจิ่วเฉินขมวดคิ้วแน่น เดิมทีควรระแวดระวังรอบข้างอย่างมาก ทว่ากลับเหม่อลอยโดยไม่รู้ตัว และในตอนนี้เองก็มีไอสังหารจู่โจมมาจาก้าศีรษะของเขา…