อาจารย์ฉีงุนงงไปหมดแล้ว
พอซุนเถียนถูกส่งมาทำงานที่โรงเรียน จ้าวกังก็กระตือรือร้นมอบไมตรีเป็อย่างมาก
ต่อมากลายเป็ตามเกาะติดตลอดทั้งวัน แบบนี้ยังบอกว่าไม่ได้คบกันอีกหรือ? จ้าวกังคนนี้ค่อนข้างหยิบหย่ง อาจารย์ฉีไม่ปลื้มนัก แต่เธอก็ไม่ได้สนิทกับซุนเถียนสักเท่าไร ย่อมไม่อาจเปิดประเด็นนินทาจ้าวกังได้
นั่นไม่ใช่การละลาบละล้วงผู้อื่นหรอกหรือ หญิงแต่งงานแล้วอย่างเธอไม่ชอบคนประเภทจ้าวกัง แต่ถ้าหญิงสาววัยรุ่นเขาชอบล่ะ!
เมื่อเห็นอาจารย์ฉีแสดงความห่วงใย ซุนเถียนก็พรั่งพรูทุกสิ่งที่ตนเองอยากพูดมาโดยตลอดออกมา
ความถือว่าตนเป็ใหญ่ของจ้าวกัง ไมตรีของจ้าวกัง คำสั่งสอนที่จ้าวกังให้เธอ การปฏิเสธนับครั้งไม่ถ้วนของเธอ คนรอบข้างมักนึกว่าเธอกำลังเขินอาย จ้าวกังก็ราวกับฟังไม่รู้ความ ไม่ว่าซุนเถียนจะสนทนากับเขาหรือไม่ จ้าวกังก็ยังคงสามารถปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอโดยพลการเสมอ... อาจารย์ฉีได้ฟังแล้วหนังตากระตุกไม่หยุด
“เธอไม่ชอบครูจ้าวแม้แต่นิดเดียวจริงๆ หรือ?”
ซุนเถียนส่ายศีรษะเหมือนกลองป๋องแป๋ง
อาจารย์ฉีพูดไม่ออกเลย อีกทั้งมีท่าทางรังเกียจเล็กน้อยด้วย
นี่จ้าวกังข่มเหงหญิงสาวหน้าบาง สร้างแรงกดดันจากผู้คนรอบข้าง พฤติกรรมก่อกวนไม่หยุดไม่หย่อนเช่นนี้ ราวกับอันธพาลไม่มีผิด
และมันมาจากความมั่นใจมากว่านิสัยของซุนเถียนนั้นข่มเหงง่าย พอนึกถึงว่าตนเองเคยนำเื่ของทั้งสองมาหยอกเอินเมื่อตอนยังไม่รู้ความจริงเช่นนี้ อาจารย์ฉีรู้สึกผิดไม่น้อย
“เสี่ยวซุน ฉันว่าเื่นี้เธอต้องบอกครอบครัวนะ ผู้ใหญ่มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่า พวกเขาสามารถช่วยเธอวิเคราะห์เพื่อรับมือได้”
เด็กคนนี้ก็ซื่อเสียจริงๆ อาจารย์ใหญ่ซุนเป็อาของเธอแท้ๆ ทว่ากลับปล่อยให้จ้าวกังรังควานนานขนาดนั้นเสียได้
ความหมายของอาจารย์ฉีคือให้ซุนเถียนกลับไป ‘ฟ้อง’ ถ้าไม่ยินดีคบหา แต่ถูกฝ่ายชายฝืนบังคับ ก็ควรแจ้งผู้ปกครอง และนอกจากนี้ญาติผู้ใหญ่ของซุนเถียนคืออาจารย์ใหญ่ซุนไม่ใช่หรือไร!
อาจารย์ฉีให้กำลังใจซ้ำแล้วซ้ำอีก ซุนเถียนเองก็คิดว่าเื่นี้จะคลุมเครือต่อไปไม่ได้
ซุนเถียนบอกเล่าเื่ราวต่ออาสะใภ้ด้วยความอึดอัดแสนสาหัส รวมถึงความคิดของเธอที่มีต่อจ้าวกัง และธุระไม่ชอบมาพากลบางอย่างที่จ้าวกังวานให้เธอช่วยในคราวนี้
“เขาจะไปเฟิ่งเสียนกับฉันให้ได้ ฉันกับนักเรียนเสี่ยวหลานเป็ผู้หญิงทั้งคู่ นี่มันไม่เหมาะสม”
คุณนายซุนหัวเราะหึหึ
นั่นหมายความว่าไม่ได้เป็การปรักปรำจ้าวกังจริงๆ สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวหลานบอกครั้งก่อนก็ตรงกันแล้วไม่ใช่หรือ?
จะไปเมืองเฟิ่งเสียนให้ได้ เป็เพราะห่วงใยซุนเถียน หรือ้าฉวยโอกาสคุกคามนักเรียนหญิงกันเล่า?
การสอบคัดเลือกรอบแรกเป็เื่ที่สำคัญมาก จ้าวกังยังคิดวางอุบายแบบนี้อีก คุณนายซุนอยากฟาดเ้าคนสารเลวนี่ให้ตายเหลือเกิน—ที่ตามจีบซุนเถียน เพราะเห็นแก่เส้นสายของบ้านซุนสินะ? หากคุณจะเสแสร้งก็ต้องเสแสร้งให้แเีหน่อย จะหาเศษหาเลยกับนักเรียนหญิงหน้าตาสะสวยไปพร้อมกันอีก เห็นว่าหลานสาวเธอเป็อะไรกัน!
คุณนายซุนไม่กล่าวโทษเซี่ยเสี่ยวหลานแน่นอน เด็กคนนั้นลำบากยากเข็ญ เป็คนมุ่งมั่นตั้งใจเรียน มิเช่นนั้นคงไม่แจ้งความแปลกปลอมของจ้าวกังต่อเธอทันทีทันใดหรอก
ผู้ที่มีปัญหาคือจ้าวกัง!
ดูท่าทางจะไม่ใช่แค่เคยตามจีบอาจารย์หญิงคนอื่น นั่นอาจเป็คำอธิบายที่น่าฟังเท่านั้นสินะ คงเคยกระทำการอุกอาจยิ่งกว่าการตามจีบเป็แน่ คุณนายซุนข่มความโกรธเคืองเอาไว้
“หลานวางใจเถอะ มีอาอยู่ทั้งคน เถียนเถียนของเราเป็หญิงสาวเต็มตัวแล้ว ควรคบใครจริงจังสักคน หลานไม่ต้องสนเื่จ้าวกัง รับรองว่าต่อจากนี้ไปเขาจะไม่มาวุ่นวายกับหลานอีก”
ถ้าเป็คู่ที่ไม่ใช่ ก็ต้องไม่ปล่อยให้จ้าวกังขัดขวางวิวาห์แห่งความสุขที่แท้จริงของหลานสาว
คุณนายซุนเองก็หวั่นใจ เธอคิดว่าซุนเถียนเป็เพียงวัยรุ่นขี้อายคนหนึ่ง จึงไม่เข้าไปก้าวก่ายเื่ความสัมพันธ์รักใคร่ของซุนเถียน หากถูกจ้าวกังกระเซ้ากระซี้จนถึงขั้นแต่งงานจริง ซุนเถียนจะต้องทุกข์ทรมานเป็แน่ เช่นนั้นเธอกับเหล่าซุนจะอธิบายกับบิดามารดาซุนเถียนอย่างไรกัน เกิดเื่ใต้จมูกเหล่าซุนเชียวนะ!
คุณนายซุนปลอบหลานสาว และบอกให้เธอไปเฟิ่งเสียนกับเซี่ยเสี่ยวหลาน
จากนั้นก็รายงานเื่ราวแก่อาจารย์ใหญ่ซุน อาจารย์ใหญ่ซุนโมโหมากไม่แพ้กัน “จ้าวกังช่างแปลกพิกล เขามีภาระหน้าที่ในการสอนนะ ไม่ตั้งใจสอนนักเรียน คิดแต่เื่เหลวไหลทั้งวัน!”
ต่อให้จ้าวกังคบหากับซุนเถียนจริง อาจารย์ใหญ่ซุนก็ไม่มีทางตกลงให้เขาตามไปเฟิ่งเสียนเด็ดขาด
เพื่อทำให้นักเรียนเซี่ยเสี่ยวหลานจดจ่อกับการสอบ ทางโรงเรียนจึงจัดเตรียมที่พักในเฟิ่งเสียนไว้ หนุ่มสาวจะเกาะติดกันเหนียวแน่นแยกไม่ได้แม้แต่ครู่เดียวเชียวหรือ ถึงได้คิดตามไปเฟิ่งเสียนอีก รบกวนการสอบของนักเรียนเสี่ยวหลานขึ้นมาจะทำอย่างไร!
เมื่อตอนนี้รับรู้แล้วว่าจ้าวกังคิดไปเองฝ่ายเดียว อาจารย์ใหญ่ซุนจึงไม่มีความกังวลอะไรอีก
เขาเตรียมจะเรียกจ้าวกังมาคุยอย่างเป็เื่เป็ราว ชายหนุ่มวอแวซุนเถียนทุกวัน หน้าที่การสอนที่ได้รับมอบหมายนั้นเบาเกินไปใช่หรือเปล่า ถึงมีเวลาว่างมากมายขนาดนั้น?
อาจารย์ใหญ่ซุนตามหาจ้าวกัง กลับถูกแจ้งว่าจ้าวกังลาหยุดงาน
“ลาหยุดในวันพรุ่งนี้!”
อาจารย์ทั่วไปขอลาหยุดย่อมไม่ะเือาจารย์ใหญ่อยู่แล้ว
แต่เมื่อเป็จ้าวกัง อาจารย์ใหญ่ซุนก็อดที่จะสงสัยขึ้นมาไม่ได้ จ้าวกังผู้นี้้าทำอะไรกันแน่!
----------------------------------------
ระยะทางจากเขตอันชิ่งถึงเมืองเฟิ่งเสียนพอๆ กับถึงเมืองมณฑล
เฟิ่งเสียนและซางตูตั้งอยู่คนละทิศทาง เวลาเดินทางไปเฟิ่งเสียนเทียบเท่ากับการเดินทางไปเมืองมณฑล ดังนั้นเซี่ยเสี่ยวหลานจึงไม่ได้พิจารณาเฟิ่งเสียนในตอนทำธุรกิจ่แรก อย่างไรเสียก็ไกลเท่ากัน สภาพเศรษฐกิจของซางตูเฟื่องฟูกว่าแน่นอน
นี่เป็ครั้งแรกที่เธอไปเฟิ่งเสียน
เธอกับซุนเถียนนั่งรถรับส่งออกจากเขตอันชิ่งด้วยกัน ติดสอยห้อยตามด้วยเก่อเจี้ยน
หลี่ต้งเหลียงถูกส่งไปยังเมืองเฟิ่งเสียนล่วงหน้าก่อนเรียบร้อย เปิดห้องพักในบ้านพักหลังเดียวกันกับที่เซี่ยนอีจงจองให้เซี่ยเสี่ยวหลาน และอยู่ห้องถัดจากห้องของเซี่ยเสี่ยวหลานเท่านั้น
ซุนเถียนมองเก่อเจี้ยนหลายหน เซี่ยเสี่ยวหลานอธิบายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“นี่คือญาติจากต่างถิ่นของฉันน่ะค่ะ เขาจะไปทำธุระที่เฟิ่งเสียนนิดหน่อยเหมือนกัน ดังนั้นจึงไปพร้อมกับฉันเสียเลย”
ซุนเถียนไม่คิดอะไรมากมาย ตามความเข้าใจของเธอ คงไม่คิดว่านักเรียนหญิงคนหนึ่งอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานจะจ้างคนคุ้มกัน คำว่า ‘คนคุ้มกัน’ นี้ไม่อยู่ในฐานความรู้ของอาจารย์เสี่ยวซุนด้วยซ้ำ เก่อเจี้ยนเงียบขรึมพูดน้อย แค่ทักทายซุนเถียนแล้วก็ไม่ส่งเสียงอีก ความสนใจทั้งหมดของซุนเถียนจึงอยู่กับเซี่ยเสี่ยวหลาน
จะคุยอะไรกับนักเรียนเซี่ยดีเล่า?
ถ้าถามว่าเธอเตรียมพร้อมกับการสอบคัดเลือกแล้วหรือยัง จะทำให้นักเรียนเซี่ยประหม่าหรือเปล่า
ถามว่าคนตระกูลเซี่ยยังมาก่อความวุ่นวายไหม? ไม่ได้ไม่ได้ นี่ก็ไม่ใช่หัวข้อสนทนาที่น่าพอใจเท่าไรเหมือนกัน
พิจารณาจาก่วัยของจิตใจ ซุนเถียนเป็เพียงสาวน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าเซี่ยเสี่ยวหลาน แถมไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไร เมื่อเห็นท่าทางฝืนหาประเด็นสนทนาของเธอ เซี่ยเสี่ยวหลานก็ได้แต่กลั้นหัวเราะ
“ครูซุน ครูกับครูจ้าวกำลังคบกันหรือคะ?”
ซุนเถียนอึ้ง นี่เป็สิ่งที่นักเรียนควรถามรึ
ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานยิ้มแย้มแจ่มใส สีหน้าผ่อนคลายมาก ไม่ใช่การหยอกล้อ และไม่ได้ปีนเกลียว ซุนเถียนคลายกังวลขึ้นมาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้มีอะไรที่ลำบากใจจะพูดเสียหน่อย หากพูดไม่ได้กระทั่งกับนักเรียน จะอธิบายอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งกับเพื่อนร่วมงานที่เข้าใจผิดเ่าั้ได้อย่างไร?
ซุนเถียนส่ายหน้า
“ครูกับครูจ้าวเป็แค่เพื่อนร่วมงานน่ะ”
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้้าสอดรู้เื่ของคนอื่น ซุนเถียนเคยช่วยเธอ เธอถึงกลัวว่าซุนเถียนจะอยู่ในสภาวะเสียเปรียบ
“แต่คนอื่นเขาพูดว่าพวกครูกำลังคบหากันนี่นา ฉันเห็นว่าครูจ้าวก็เป็มิตรมากด้วย ครูซุน ถ้าครูไม่ชอบครูจ้าว รีบพูดให้ชัดเจนดีกว่านะคะ”
ขนาดนักเรียนยังคิดเช่นนี้ ซุนเถียนยิ่งรู้สึกว่าตนเองทำถูกต้องแล้ว
เธอปฏิเสธจ้าวกังชัดเจนแล้ว อธิบายกับอาจารย์ฉีแล้ว อีกทั้งบอกอาสะใภ้แล้ว
ส่วนต่อหน้านักเรียน ซุนเถียนไม่ลำบากใจที่จะเล่าอีกรอบหนึ่ง เมื่อพูดถึงว่าเธอปฏิเสธไม่ให้จ้าวกังไปเฟิ่งเสียนด้วยกัน เซี่ยเสี่ยวหลานแววตาเป็ประกาย จ้าวกังอยากไปเฟิ่งเสียน คงไม่เกี่ยวข้องกับเื่การสอบคัดเลือกของเธอสินะ? จะดีที่สุดถ้าไม่เกี่ยวข้อง เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าเธอไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับอีกฝ่ายมากนัก แต่กิริยาวาจาของจ้าวกังขณะรั้งเธอที่โรงเรียนเมื่อกคราวก่อนนั้น ดูเหมือนว่า้ามีปฏิสัมพันธ์กับเธอมากทีเดียว
เซี่ยเสี่ยวหลานจะใส่ใจคนประเภทนี้ไปทำไม ทว่าหากจ้าวกังเสนอหน้าเข้ามาใกล้เธอ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ถือสาที่จะให้บทเรียนแก่เขาสักหน่อย