ชิงอีแอบออกจากวังมาสองวันแล้ว โชคดีที่เซียวเจวี๋ยสั่งให้คนไปบอกฉู่จื่ออวี้และส่งคนไปตำหนักเชียนชิวด้วยเช่นกัน เนื่องจากข่าวลือเื่โรคแปลก เหล่าข้าหลวงจึงอยู่ห่างๆ จากตำหนักเชียนชิว
แม้ว่าจะต้องไปบริเวณนั้น ก็ต้องเลี่ยงไปอีกทาง
ชิงอีที่นอนอยู่บนเตียงใหญ่ของเซียวเจวี๋ยมาทั้งวัน ถ้าจะพูดให้ถูกคืออยู่ข้างเขาทั้งวัน
คนรับใช้ภายในจวนถึงกับพูดไม่ออก ไม่ว่าท่านอ๋องจะอยู่ที่ไหน ก็จะมีชิงอีตามติดตลอด แล้วชิงอีก็ไม่ได้ทำอะไร นอกจากกอดหมอนนอน
องค์หญิงใหญ่ผู้นี้กลับชาติมาเกิดเป็คนขี้เซาหรือไร?
ผู้คนต่างชื่นชมทักษะการนอนของชิงอีเป็อย่างมาก เพราะไม่เคยเห็นใครชอบนอนขนาดนี้มาก่อน
เวลากินก็หลับได้ อาบน้ำก็หลับได้ ใช่ แม้กระทั่งตอนอาบน้ำ...ก็หลับได้!
กลับกันที่ชิวอวี่เห็นแล้วไม่รู้สึกแปลกใจ ไม่ว่าที่ไหนในตำหนักเชียนชิว ชิงอีก็สามารถนอนได้
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ในที่สุดชิงอีก็ตื่นขึ้นมา
อยู่ข้างกายพ่อหนุ่มคนนี้ห้ามสบายจนเกินไป เพราะการถูกห้อมล้อมด้วยิญญาร้าย มันเย็นสบายจนนางไม่อยากลืมตา หากไม่มีเสียงร้องของแมวที่ดังลั่นอยู่ด้านนอก นางก็ไม่อยากจะตื่นเลยจริงๆ
เซียวเจวี๋ยที่กำลังวาดภาพอยู่ เมื่อเห็นนางตื่นมาพร้อมแววตามึนงงสับสน แลดูไร้เดียงสา โดยเฉพาะรอยน้ำลายเล็กๆ ตรงมุมปากของนาง
ดวงตาของเขาสั่นไหว และก้มมองพู่กัน
บนกระดาษมีภาพวาดของหญิงสาวนอนตะแคงข้างอยู่บนตั่งอันสวยงาม ปากเล็กๆ ของนางเปิดออกเล็กน้อย และมีน้ำหยดใสไหลออกจากมุมปาก
นี่เขาวาดนางั้แ่เมื่อไรกัน?
เซียวเจวี๋ยใเล็กน้อย คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก
เมื่อเห็นนางลุกขึ้น เขาก็ม้วนรูปภาพที่ยังไม่แห้งดีอย่างใจเย็น ชิงอีเหลือบมองเขา ทว่า ก็ไม่ได้สังเกตอะไร นางขมวดคิ้วและออกหาผู้กระทำผิดสองรายที่มารบกวนฝันดีของตน
หลังจากที่นางออกไป เซียวเจวี๋ยก็คลี่กระดาษออกดู เพราะหมึกยังไม่ทันแห้ง มันจึงเปียกไปทั่วทั้งกระดาษ ทำให้รูปภาพเลือนรางจนมองไม่ออกได้ว่ามันคืออะไร เช่นเดียวกับความรู้สึกของเขาในยามนี้
เขาขยำกระดาษเป็ก้อนกลม แล้วโยนลงโถ หลังจากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ในเมื่อมองไม่ชัด สู้ทิ้งไปเสียดีกว่า
สุดท้ายแล้ว มันก็แค่ขยะชิ้นหนึ่ง
ต่อให้จะเติมหมึกลงไป ก็ไม่อาจแปรเปลี่ยนเป็รูปภาพอันสวยงามได้แล้ว
นอกห้องหนังสือ
ทันทีที่เดินออกมา เ้าแมวอ้วนก็ะโโหยง แล้วร้องเหมียวๆ ไม่หยุดด้วยความดีใจ ราวกับว่าได้เจอผู้ช่วยชีวิต
ฝั่งตรงข้ามคือเสี่ยวไป๋ที่เชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจ ประหนึ่งว่ามันเป็สุนัขเพียงตัวเดียวในใต้หล้า
“ไร้ประโยชน์ซะจริง กระทั่งสุนัขก็สู้ไม่ได้” ชิงอีเบะปากและเตะเ้าแมวอ้วนออกไป
ดูเหมือนนางจะลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนที่ทางแยกระหว่างยมโลกกับปรโลก นางก็ถูกสุนัขตัวนี้ข่วนไปตั้งเท่าไร
“เสี่ยวไป๋ มานี่ เรามาสู้กัน” ชิงอีที่ม้วนแขนเสื้อขึ้น เตรียมตัวต่อสู้
ฮึ ตอนที่นางยังเป็เป็เด็ก นางถูกมันหลอกหลายครั้ง พอมีวิชาเลยกลับไปหาที่นั้นอีก ทว่า มันก็หายไปแล้ว
“ข้ามีเหตุผลพอ ข้าไม่รังแกสุนัข แล้วจะสู้กับเ้าด้วยมือเดียว” ชิงอีจ้องไปที่เสี่ยวไป๋ พร้อมส่งยิ้มอย่างไร้ยางอาย
เสี่ยวไป๋เห่าใส่ ในแววตาฉายชัดว่านางมารร้ายโกหกมันอีกแล้ว!
มันไม่หลงกลหรอก!
มันไม่ได้เหมือนสุนัขสามหัวในตอนนั้นแล้ว หากมันสู้นางได้ก็คงแปลก แล้วต่อให้มันมีพลังเท่าเมื่อก่อนก็ไม่อาจต่อกรกับนางในตอนนี้อยู่ดี
น่าเสียดายที่ตอนนางเป็เด็ก มันน่าใช้อุ้งเท้าตบเยอะกว่านี้หน่อย
ชิงอีอยากสู้เหมือนเมื่อก่อนเต็มแก่ ส่วนเ้าสุนัขไม่เต็มใจที่จะสู้ด้วย จึงกลายเป็นางวิ่งไล่เสี่ยวไป๋อยู่ตรงลานบ้าน โดยมีเ้าแมวอ้วนวิ่งไล่หลังอยู่อีกตัว
สุนัขวิ่ง คนไล่ แถมท้ายด้วยแมวอีกหนึ่งตัว ช่างดูครึกครื้นอะไรขนาดนี้!
เซียวเจวี๋ยยืนฟังเสียงเอะอะโวยวายตรงประตูเงียบๆ
เขาชอบความเงียบมาตลอด ทว่า ตอนนี้เขากลับไม่รู้สึกรำคาญแม้แต่น้อย
ลุงจงที่นำชามาให้ก็ยืนมองอยู่ตรงทางเดินครู่หนึ่ง หลังจากยื่นชาให้เซียวเจวี๋ยแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดว่า “ความจริงแล้วองค์หญิงใหญ่ทรงไม่ใช่คนไม่ดีเลยนะพ่ะย่ะค่ะ ความสุข ความโกรธ และความเกลียดชังฉายชัดบนพระพักตร์ นี่เป็สิ่งที่หาได้ยากยิ่ง”
ใช่...
เซียวเจวี๋ยก้มหน้าดื่มชา
มีแต่เด็กน้อยเท่านั้นที่เป็เช่นนี้ ไม่ซ่อนอารมณ์และไม่ซับซ้อนอะไร
ไม่ใช่ว่านี่คือความไร้เดียงสาหรอกหรือ?
เซียวเจวี๋ยก้มหน้าลงและคิดเกี่ยวกับมัน อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
สามารถทำให้ผู้คุมนรกทั้งสิบก้มหัวให้ ความคุมปรโลกมานับพันปีได้อย่างราบรื่น คงเรียกว่าไร้เดียงสาไม่ได้หรอกมั้ง?
นางไม่เคยปิดบัง หลอกลวง หรือว่าแค่...
“ไม่วิ่งแล้ว ข้าไม่วิ่งแล้ว เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว” ชิงอีนอนหอบบนพื้น โดยศีรษะของนางทับลงบนตัวเ้าแมวอ้วน จนมันแทบแบน “ยังจะงงอะไรอยู่อีกล่ะ เ้าหมาโง่ ยังไม่รีบพาข้ากลับไปพักในห้องอีกหรือไร?”
เสี่ยวไป๋ส่งสายตาดูถูก เท้าท่านเป็เพียงเครื่องประดับหรือไร?
จู่ๆ เซียวเจวี๋ยก็เอามือปิดหน้า ลุงจงแปลกใจเล็กน้อย ท่านอ๋องเป็อะไรไปนะ?
หน้าที่ไม่มีคนเห็นของเซียวเจวี๋ยนั้น มีความซับซ้อนยิ่งนัก ขมวดคิ้ว ส่วนั์ตาทอประกายและเจือรอยยิ้มอย่างไม่อาจควบคุม
เ้าปัญหาตัวน้อยนี่ไม่ชอบปกปิดเสียที่ไหน นางก็แค่...ี้เีปกปิดเท่านั้น!
ผีี้เี!
แต่...
เซียวเจวี๋ยค่อยๆ เคลื่อนมือที่ปิดบังลงมากำหมัด แล้วเม้มปากเพื่อควบคุมมุมปากของตนเอง
ไม่มีใครคาดเดาความนัยของั์ตาอันลึกล้ำของเขาได้
เหตุใดสถานการณ์ตรงหน้าถึงได้ดูสดใสและมีชีวิตชีวาในสายตาของเขาเช่นนี้
จนไปถึงขั้น...
น่ารัก?
หลังจากเล่นสนุกไปพักหนึ่งแล้ว ชิงอีก็กลับห้องและผล็อยหลับอีกครั้ง เ้าแมวอ้วนเองก็ขดตัวอยู่ข้างๆ เพื่อรับความเย็นสบายของิญญาชั่วร้าย
หลังจากที่นางผล็อยหลับไป เซียวเจวี๋ยจึงสั่งให้คนอื่นออกไป ก่อนที่เขาจะร่ายเกราะป้องกันให้ชิงอี แล้วเดินออกมาอยู่ใต้ชายคา เสี่ยวไป๋เองก็เดินมานั่งข้างกายเขา มันเงยหน้าขึ้นมองเขา
“ผู้คนในยมโลกต่างเกลียดนางยิ่งนัก คิดไม่ถึงเลยว่าเ้าจะเป็เพื่อนกับนาง”
เซียวไป๋แลบลิ้นพ่นลมลมหายใจออกมา น้ำเสียงของมันคมชัดเหมือนวัยรุ่น “ข้าก็ไม่ได้อยากจะเป็เพื่อนกับนางหรอก เป็นางที่ยืนกรานจะประลองกับข้า ข้าเห็นว่าตอนนั้นนางตัวเล็กนิดเดียว กระทั่ง แม่น้ำยมโลกก็ยังข้ามไม่ได้ แล้วนางมักถูกผีตัวเล็กในแม่น้ำล้อเลียนอยู่เสมอ ข้าเลยฝึกฝนกับนางมาหลายพันปี”
เซียวเจวี๋ยหลับตาลงพร้อมรอยยิ้ม ในตอนนั้นดวงิญญาของเขานำกองทัพไปปราบปีศาจในสระหยิน จึงเหลือเพียงเพลิงิญญาบริสุทธิ์ในเขตแดนยมโลก
าที่สระหยินดูเหมือนจะได้รับชัยชนะ เพลิงิญญาบริสุทธิ์ที่เขาปกป้องไว้ในยมโลกก็มาถูกขโมยไป
ทหารนับล้านในยมโลกต้องตายด้วยน้ำมือของปีศาจ์
เซียวเจวี๋ยหุบยิ้ม แล้วดวงตาก็แดงก่ำด้วยความแค้นเคือง
คงต้องขอบคุณเย่เหยียนที่ก่อเื่พวกนี้ขึ้น
เซียวเจวี๋ยสูดลมหายใจ ปรับสีหน้าให้เป็ดั่งเดิม “นางกับพวกเราเราถูกกำหนดให้เป็ศัตรู อย่าอยู่ใกล้กันเกินไป”
ประโยคนี้คล้ายเป็การย้ำเตือนเสี่ยวไป๋และตัวเอง
เมื่อเสี่ยวไป๋ได้ยินคำพูดนั้นก็อดถอนหายใจไม่ได้ มันหวนนึกถึงเด็กสาวน้อยอวบอ้วนผู้กลัวความเ็ปที่เคยถูกมันผลักให้ปีนขึ้นมาจากแม่น้ำยมโลกซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เด็กน้อยนั่นกลับกลั่นน้ำตาะโเรียกหาาาเป่ยอิน
ทุกครั้งที่มา นางจะมีไข่มุกบุญกุศลติดมือมาด้วย
ปีแล้วปีเล่า ไข่มุกบุญกุศลก็เพิ่มพูนเรื่อยๆ มันเป็สมบัติล้ำค่าของนาง
หากนำมันมากองรวมกันคงได้พระราชวังหลังหนึ่งเลยล่ะ นางซ่อนมันไว้ในของวิเศษ เพียงเพื่อจะมอบให้คนในดวงใจ
เมื่อพูดถึงเื่นี้ ตอนที่พบกันครั้งสุดท้าย นางฝากของวิเศษไว้กับมัน เพื่อให้มันเอาไปถวายแด่าา ทว่า เย่เหยียนก่อฏขึ้นและาาทรงพ่ายแพ้ในการต่อสู้ที่สระหยิน ยมโลกจึงตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย!
มันติดตามาามาจุติบนโลกมนุษย์ ทว่า มันทิ้งของวิเศษไว้ที่ยมโลก
เื่นี้ มันต้องทูลาาหรือไม่?
เสี่ยวไป๋ลังเล มันมองหน้าของเซียวเจวี๋ย และลอบถอนหายใจเงียบๆ
ขอโทษนะ เ้าสาวน้อยจ้ำม่ำ มันไม่อาจเอาสิ่งนั้นไปถวายตามที่นาง้า...
