“สอบถามมาแล้ว…” เจียงหงหย่วนเล่าเื่ที่ได้ยินมาให้หลินหวั่นชิวฟัง เถ้าแก่เถาคงไม่โกหกเขา เพราะขาของหมอฉู่มีปัญหาจริงๆ อีกทั้งเขายังแน่วแน่ว่าจะไม่รับศิษย์อีก
“คุยกับเถ้าแก่เถาแล้ว ให้เขาช่วยแนะนำหมอคนอื่น ถึงเวลา…”
“ข้าจะไปอีกรอบ” หลินหวั่นชิวตัดบทเจียงหงหย่วน “ข้าจะลองไปดู หากไม่ได้จริงๆ ค่อยไปหาหมอท่านอื่น”
หมอฉู่มีความสามารถ นางไม่อยากให้หงป๋อพลาดโอกาส
สองวันนี้หงป๋อมีรอยยิ้มก็จริง แต่นางมองออกว่ารอยยิ้มนี้แสร้งออกมา
อายุแค่นี้แต่กลับมีจิตใจลึกล้ำ ยอมปั้นหน้ายิ้มเพราะกลัวพวกนางเป็ห่วง ทำเอานางปวดใจไปหมด
“ไปเมื่อไร?” เจียงหงหย่วนรู้สึกว่าเป็ไปไม่ค่อยได้ แต่นี่เป็สิ่งที่ภรรยาตัวน้อยอยากทำ เขาพูดบั่นทอนนางไม่ลง
“กินข้าวเที่ยงเสร็จก็ไปกันเถิด” หลินหวั่นชิวตอบ “หากจะเลือกวันมงคลสู้ไปวันนี้เสียเลยดีกว่า จัดการให้เรียบร้อย ถามสักสองครั้งเป็พอ ถ้าไม่ได้จริงๆ ค่อยถอดใจ ควรรีบสอบถามให้เรียบร้อยเื่หมอคนอื่นก็ต้องสอบถามเช่นกัน”
“ได้”
ตอนกินข้าวเที่ยง หลินหวั่นชิวเล่าแิของตัวเองให้เจียงหงป๋อฟัง
เจียงหงป๋อผงะ เขาไม่ตั้งความคาดหวังใดๆ “พี่สะใภ้ ไม่ต้องแล้วขอรับ เรียนจากหมอท่านใดก็ได้”
หลินหวั่นชิวคีบเนื้อไก่ให้เขา พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ได้ ข้าต้องไป ไม่อย่างนั้นข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหงป๋อของพวกเราพลาดโอกาสเพราะต้าเกอของเ้าเขลาเกินไปหรือไม่?”
พี่สะใภ้ทำเพื่อเขา
ไม่เช่นนั้นเหตุใดถึงเอาตัวไปให้ผู้อื่นดูถูก
เขารู้สึกผิดและเสียใจ มือที่อยู่ใต้แขนเสื้อกำหมัดแน่น เล็บข่วนจนฝ่ามือถลอกก็ยังไม่รู้เื่
เจียงหงหย่วน “…”
ย่อมได้ ภรรยาตัวน้อยบอกว่าข้าเขลาก็คือข้าเขลา เขาเหลือบตามองเจียงหงป๋ออย่างอิจฉา “ฟังพี่สะใภ้เ้า ไม่ต้องคิดเื่อื่น รีบกิน!”
“ขอรับ” เจียงหงป๋อตอบเบาๆ หางตาเปียกเล็กน้อย
หลินหวั่นชิวคาดการณ์ว่าท่านหมอน่าจะนอนกลางวัน นางกินข้าวเสร็จแล้วจึงกลับห้องไปนอนงีบ ผ่านไปครึ่งชั่วยามจึงลุกขึ้นแล้วให้เจียงหงหย่วนเข้ามาช่วยขนของ
ของห่อใหญ่ ไม่รู้ด้านในใส่สิ่งใดไว้
เจียงหงหย่วนไม่ได้ถาม
ชายฉกรรจ์ไปเอารถล่อ พาภรรยากับน้องชายไปบ้านหมอฉู่อีกครั้ง
คนเฝ้าประตูมีสีหน้าไม่สู้ดีนักเมื่อเห็นเจียงหงหย่วน เบื้องบนสั่งมาแล้วว่าถ้าเจอพวกเขาให้ถามก่อนว่ามาทำกระไร ถ้ามาฝากตัวเป็ศิษย์ไม่ต้องให้เข้ามา
“พวกเ้ามาทำกระไร?” น้ำเสียงของคนเฝ้าประตูไม่ค่อยดีนัก คนเป็บ่าวใช้ย่อมรู้ว่านายท่านไม่ชอบพวกคนที่มากราบเป็ศิษย์ที่สุดแล้ว
เจียงหงหย่วนลงจากรถ เลิกม่านประคองภรรยาตัวน้อยลงมา ภรรยาตัวน้อยมอบกล่องใบหนึ่งให้คนเฝ้าประตูด้วยรอยยิ้ม “ไม่ทำกระไร รบกวนท่านนำสิ่งนี้ไปมอบให้ท่านหมอ ท่านหมอเห็นแล้วจะเรียกพบข้าเอง”
คนเฝ้าประตูจะเปิดดู หลินหวั่นชิวรีบห้าม “ประเดี๋ยวก่อน ของสิ่งนี้ห้ามเปิดด้านนอก หากเสียหายขึ้นมา เกรงว่าท่านจะตกงาน”
เห็นคนเฝ้าประตูทำหน้าลังเลก็พูดอีกว่า “พวกข้านำของมามอบอย่างเปิดเผยบริสุทธิ์ หากมีปัญหา เชิญพวกท่านแจ้งทางการได้เลย หลายคนในถนนและตรอกซอกซอยต่างเห็นพวกข้า”
บุรุษเฒ่าเฝ้าประตูถึงได้เดินเข้าบ้านอย่างไม่เต็มใจ ทิ้งคำพูดไว้หนึ่งประโยคว่า “พวกเ้ารอก่อน”
“นายท่าน นี่เป็ของจากคนบ้านตระกูลเจียงที่มาพบท่านเมื่อคราวก่อน บอกให้ท่านเปิดดูขอรับ” บุรุษเฒ่าเฝ้าประตูเดินไปยืนข้างหมอฉู่อวี๋ที่กำลังหรี่ตานั่งรับแดดอยู่ เขามอบกล่องไม้ในมือออกไป
หมอฉู่ลืมตาพูดอย่างเกียจคร้าน “เปิดดู”
“ขอรับ!”
“มารดามันเถิด!” บุรุษเฒ่าเปิดกล่องออก แต่เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในกลับใเข่าอ่อน ล้มก้นคะมำลงพื้น
หัวใจมนุษย์ดวงหนึ่งกลิ้งหล่นลงพื้น กลิ้งมาหยุดข้างเท้าหมอเฒ่า
บุรุษเฒ่าหนีหัวซุกหัวซุน หมอฉู่ตำหนิอย่างหมดคำจะพูด “กลับมาประเดี๋ยวนี้!”
ไร้ประโยชน์!
บุรุษเฒ่ากลับมาด้วยตัวสั่นเทา
“ของปลอม!” จริงๆ เลย หากไม่ใช่เพราะกลัวก้มลงเก็บแล้วจะล้ม เขาคงไม่ะโเรียกเสียงดังขนาดนี้!
“หา…ของปลอมหรือ? บ่าวใแทบแย่ นายท่านรอประเดี๋ยว ข้าจะไปไล่พวกเขาเดี๋ยวนี้?”
“เ้าเก็บขึ้นมาให้ข้า ผู้ใดใช้ให้เ้าไปไล่คน? เก็บขึ้นมาให้ข้า!” หมอฉู่โมโหจนเครากระเพื่อม
บุรุษเฒ่ายังคงหวาดกลัว แต่เขากลัวหมอฉู่มากกว่า เก็บหัวใจข้างเท้าท่านหมอขึ้นมามอบให้ด้วยมือสั่นเทา
แม่เ้า เกือบใตายแล้ว
ท่านหมอรับหัวใจไป เช็ดฝุ่นกับเสื้อบุรุษเฒ่า เขาทำหน้าไม่ถูก…
ไอ๊หยา นายท่านของพวกเขาคงไม่ได้ถูกผีเข้าใช่หรือไม่ เหตุใดจึงจ้องหัวใจคนด้วยตาเป็ประกายเช่นนี้?
ประหนึ่งได้บุปผางามมา
หมอฉู่พิจารณาหัวใจอย่างวางไม่ลง เขาเคยผ่าศพคนตายร่วมกับคนชันสูตรศพ เคยเห็นหัวใจมนุษย์
“ไปเชิญเข้ามา!” หมอฉู่พูด
“ผู้ใดก็ได้ รีบชงชา ชงชาชั้นดี!”
“ยกเก้าอี้มาสองตัว”
เข้าหน้าหนาวแล้ว เวลาออกมารับแดดแล้ววางเตาฟืนไว้กลางลานบ้านจะอุ่นกว่าอยู่ในห้องยิ่งนัก
เจียงหงหย่วนกับเจียงหงป๋อนึกว่าจะโดนไล่กลับไป คิดไม่ถึงว่าคนเฝ้าประตูจะมาเชิญพวกเขาเข้าไป
หมอฉู่เห็นว่าคนที่มาคือสองพี่น้องบ้านเจียงกับฟู่เหรินน้อยอีกคน หน้าตางดงาม บอบบางอรชร ดวงตาเป็ประกายมาก
เป็สตรีงามผู้เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา
“ข้าไม่รับศิษย์! ขอซื้อหัวใจนี่จากพวกเ้าได้หรือไม่?” หมอฉู่ถาม
หลินหวั่นชิวไม่ตอบคำถาม นางพูดแค่ว่า “หัวใจดวงนี้สร้างตามหัวใจคนของจริง เหมือนแบบสิบในสิบส่วน รวมถึงเส้นเืก็ถอดแบบมาจากของจริง ข้าไม่ขายหัวใจ นี่เป็ของขวัญกราบอาจารย์ที่ข้าเตรียมให้น้องชาย หากท่านยินยอมรับเขาเป็ศิษย์ มันก็จะเป็ท่าน แต่หากไม่ยินยอม เช่นนั้นคงเป็ของผู้อื่น”
ไอ๊หยา…โดนขู่เสียแล้ว
สีหน้าหมอฉู่จมลง ไม่อยากเชิญให้นั่งลงอีก
“ถ้าเช่นนั้นก็ช่างเถิด เชิญพวกเ้าเอากลับไป!” เขาพูดจบก็มองหัวใจอีกครั้ง
เสียดายเหลือเกิน
แต่เขาเป็คนมีหลักการและศักดิ์ศรี ไม่มีทางยอมศิโรราบเป็แน่
หลินหวั่นชิวยิ้มแต่ไม่พูด นางรับห่อผ้าใบใหญ่จากเจียงหงหย่วน หยิบปอดชิ้นหนึ่งออกมาวางบนโต๊ะ
“นี่ก็สมจริงทุกส่วนเช่นกัน”
หมอฉู่เกือบสะอึก แค่หัวใจเขาก็เสียดายแย่ นี่ยังจะมีปอดอีก จะฆ่าเขาหรือไร
แกร๊งๆ
โครงกระดูกถูกหลินหวั่นชิวดึงออกมาจากห่อผ้า นางต้องชูมือสูงมากถึงจะไม่ให้โครงกระดูกลากพื้น
ปากหมอฉู่กระตุกเล็กน้อย
เจียงหงหย่วนมองหลินหวั่นชิว สมบัติที่นางพากลับมาช่าง…รู้จักมอบความประหลาดใจอันน่ายินดี(สยอง)ยิ่งนัก!
“ท่านหมอ พอหรือไม่? ถ้าไม่พอยังมีอีก เป็ของขวัญกราบอาจารย์ที่ข้าเตรียมให้น้องชาย!” หลินหวั่นชิวกลัวว่าของน้อยเกินไปจะโน้มน้าวหมอฉู่ไม่สำเร็จ นางจึงซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์พวกนี้จากเสียนอวี๋ จากนั้นเลือกใช้วัสดุไม้ที่มีความหนาแน่นสูงตอนเลือกทำซ้ำออกมา…
นางหยิบภาพออกมาอีกใบเมื่อพูดจบ กางต่อหน้าหมอฉู่
หมอฉู่เห็นแล้วเกือบหายใจไม่ทัน
“ข้ารับ!”
แม่เ้า อย่าทรมานเขาอีกเลย!
