"อะไรนะ!? อายุเพียงสิบแปดปีอยู่ระดับแก่นแท้์?! หนานเป่ยเฉาเป็อัจฉริยะประเภทใดกัน? เพียงแค่คิดเกี่ยวกับเื่นี้ก็น่ากลัวแล้ว!"
"อายุสิบแปดปีอยู่ระดับแก่นแท้์ขั้นกลางมันน่ากลัวก็จริง แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ เขาสามารถเอาชนะระดับแก่นแท้์ขั้นปลายด้วยระดับแก่นแท้์ขั้นกลางนี่สิ! และคนที่เขาได้เอาชนะได้ยังเป็กวนอี้หยุนที่เอาชนะไป๋ฮัวเตี๋ย ทั้งสองนั้นเป็ศิษย์ในระดับต้นๆจากสี่นิกายใหญ่ พวกเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นปลายทั่วๆไป!"
"ข้าไม่เคยคาดว่าอัจริยะไร้ที่เปรียบได้จะอยู่ในนิกายอัคคีผลาญฟ้า! ศิษย์จากอีกสามนิกายใหญ่จะต้องรู้สึกกดดันอย่างมากเป็แน่! หนานเป่ยเฉาผู้นี้อายุเพียงแค่สิบแปดเท่านั้นอนาคตของเขาไร้ที่สิ้นสุดและเขาอาจจะเป็ภัยคุกคามต่อนิกายใหญ่อื่นๆอีกด้วย"
หลายๆคนต่างคุยเกี่ยวกับเื่ของหนานเป่ยเฉา ผู้ปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนไม่ทราบ การแข่งขันประจำแคว้นฉีนั้นสำคัญมากต่อสี่นิกายใหญ่และหนานเป่ยเฉาผู้นั้นสามารถเอาชนะเหล่าอัจฉริยะเขตในจากนิกายทั้งสี่ทั้งหมดด้วยตัวเขาเอง นี้แสดงให้เห็นถึงพร์ที่เขามี นอกจากนี้ตอนนี้เขายังมีอายุเพียงสิบแปดปี และนี่ทำให้เขาได้เป็ดวงดาราเจิดจรัสแห่งแคว้นฉี
"มีอะไรที่น่าภาคภูมิใจกัน? อัจฉริยะตัวจริงอยู่นี่!"
หวงต้ามองไปยังเจียงเฉิน ในสายตาของมัน เจียงเฉินเป็สุดยอดอัจฉริยะที่สุดเท่าที่มันเคยพบเจอ แม้ว่าเขาจะยังอยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้นก็ตาม มันหายากมากๆในการหาคนที่อยู่ระดับต่ำกว่าขอบเขตแก่นแท้์ที่สามารถเอาชนะเจียงเฉินได้ เจียงเฉินอายุยังไม่ถึงสิบหกปีด้วยซ้ำ ความสำเร็จของเขาในอนาคตย่อมไม่ด้อยกว่าหนานเป่ยเฉาแน่นอน
"ท่านพี่เจียงเฉิน ดูเหมือนว่าหนานเป่ยเฉาคนนั้นจะทรงพลังมากเลยนะเ้าคะ"
เยี่ยนเฉินหยวี่พูด
"ดูเหมือนว่าแคว้นฉีเป็สถานที่สำหรับเสือหมอบและัซ่อน แต่ก็ดีมันทำให้ความพยายามที่จะมายังที่แห่งนี้เป็ผลดีต่อข้า หากเหล่าอัจฉริยะของแคว้นฉีธรรมดาเกินไป มันคงจะน่าเบื่อแย่"
เจียงเฉินหัวเราะออกมาและจดจำชื่อหนานเป่ยเฉาไว้ มันหายากที่จะหาคนในวัยใกล้เคียงเขาที่คู่ควรที่จะจดจำชื่อ
"เ้าหนู หลังจากใช้เวลาไปมากมายในูเา ปากของบิดานั้นแทบจะไร้ความรู้สึกแล้ว ข้า้าให้เ้าเลี้ยงข้าวข้ามื้อใหญ่หน่อย"
หวงต้าพูด
"แน่นอน งั้นเลือกสถานที่เถอะ"
เจียงเฉินตอบตรงๆ เขามีกำลังมากพอที่จะจ่ายค่าอาหารมื้อใหญ่
"ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าที่ไหนดีหรือไม่? นี่เป็ครั้งแรกที่บิดามาที่นี่ บิดา้าอาหารที่เลิศรสที่สุด!"
หวงต้าพูดออกมาอย่างไม่รีรอ
เจียงเฉินสอบถามคนเดินเท้า
"นี่พี่ชาย ภัตตาคารที่ดีที่สุดในเมืองหยินเยว่อยู่ไหนหรือ?"
"เ้าเพิ่งเข้ามาสินะน้องชาย เมื่อเ้าไม่รู้เกี่ยวกับร้านอาหารในเมืองหยินเยว่! เ้าเดินตามถนนนี้ไปราวๆชั่วโมงและเ้าจะพบกับภัตตาคารหยินเยว่ แต่ราคาอาหารที่นั่นไม่ใช่ถูกๆ คนทั่วๆไปไม่มีปัญญาจ่ายหรอกน้องชาย"
คนเดินเท้าได้ชี้ไปยังถนนใหญ่และอธิบาย
"ตกลง งั้นไปภัตตาคารหยินเยว่กัน วันนี้ บิดาจะกินอาหารทั้งหมดในภัตตาคารหยินเยว่ซะให้เต็มคราบ!"
หวงต้าะโไปมาด้วยความตื่นเต้น เหมือนกับขอทานที่หิวโหยมาสามคืนและได้พบกับไก่อบอยู่ตรงหน้า
หวงต้าได้เดินนำหน้า เจียงเฉินและเยี่ยนเฉินหยวี่ได้ตามหลังมันไป มุ่งตรงไปยังภัตตาคารหยินเยว่
ในเมืองหยินเยว่ มีเพียงเ้าเมืองเท่านั้นที่สามารถมีกิจการที่มีชื่อหยินเยว่ ดังนั้นภัตตาคารหยินเยว่จึงเป็กิจการของเ้าเมือง
ในเมืองหยินเยว่มีเ้าเมืองเป็ผู้ปกครองเพียงหนึ่งเดียว อิทธิพลกลุ่มอื่นๆได้ก้มหัวให้กับเ้าเมือง เ้าเมืองเป็ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ มีผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์เพียงคนเดียวในเมืองหยินเยว่ นั่นเป็เหตุว่าเขาเป็ผู้ปกครองเพียงหนึ่งเดียว
ไม่นานหลังจากนั้น เจียงเฉิน เยี่ยนเฉินหยวี่และหวงต้าได้มาถึงภัตตาคารหยินเยว่ มันเป็ภัตตาคารที่ดูโอ่อ่ามีการตกแต่งอย่างหรูหรา และบนประตูทางเข้ามีคำสองคำอยู่ 'หยินเยว่' มันเป็อาคารสองชั้น และการตกแต่งโอ่อาและหรูหรา ไม่ว่าใครต่างรู้สึกถึงกลิ่นอายของพวกชนชั้นสูงจากสถานที่แห่งนี้
ชัดเจนว่า คนที่สามารถเข้ามาทานอาหารที่นี่ได้ต่างเป็ชนชั้นสูงหรือไม่ก็คนร่ำรวยที่สุดในเมืองหยินเยว่ ภัตตาคารแห่งนี้ไม่รับเหรียญทอง รับเพียงเม็ดยามนุษย์หยวนเท่านั้นแทนการใช้จ่าย มันเป็สิ่งที่คนทั่วไปไม่สามารถที่จะจ่ายได้
ใน่บ่าย จะเป็่ที่ยุ่งมากที่สุดในแต่ละวันของภัตตาคารหยินเยว่ บรรดาคนมั่งคั่งและคนดังที่สวมชุดราคาแพงต่างเข้ามากัน
"ยินดีต้อนรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี เชิญเข้ามาด้านใน! รับชาัที่ดีที่สุดนะขอรับ!"
ชายหนุ่มที่ดูเหมือนว่าจะเป็เสี่ยวเอ้อได้ก้มหัวทักทายลูกค้าขณะที่ะโรายการที่สั่ง ในภัตตาคารหยินเย่ว์แม้แต่เสี่ยวเอ้อยังเป็ผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ นี่หมายความว่าไม่สามารถนำเมืองชื่อไปเปรียบเทียบได้
เมื่อเสี่ยวเอ้อเห็นเจียงเฉินและคนอื่นๆ เขารีบมาด้านหน้าและทักทาย
"นี่เป็ครั้งแรกที่พวกท่านทั้งสองได้มายังภัตตาคารหยินเยว่สินะขอรับ เชิญเข้ามาด้านในขอรับ!"
เสี่ยวเอ้อมีสายตาที่เฉียบแหลม เขาสามารถจำลูกค้าทั้งหมดที่มายังภัตตาคารหยินเยว่และหากเขาเห็นคนผู้นั้นเป็ครั้งแรกพวกเขาก็จะเป็คนที่ไม่เคยมาที่แห่งนี้มาก่อน ดังนั้นเมื่อเขามองไปยังเจียงเฉินและเยี่ยนเฉินหยวี่ ชายหนุ่มดูดีและมีพร์และเด็กสาวที่งดงามดุจนางฟ้าจาก์ พวกเขาทั้งคู่มีกลิ่นอายของผู้ม่งคั่งแผ่ออกมา ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะดูิ่แต่อย่างใด
เจียงเฉินผงกหัวของเขาและเดินตรงเข้าไปยังภัตตาคารหยินเยว่ หวงต้าได้เดินตามหลังไปลิ้นของมันแล่บออกมาจากปาก และหน้ามันดูปิติยินดี ความเร็วของมันรวดเร็วยิ่งกว่าเจียงเฉิน
"ช้าก่อน! ที่นี่เป็ภัตตาคารชั้นสูง สัตว์เลี้ยงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปขอรับ!"
ตอนนี้เสี่ยวเอ้อได้พบหวงต้าที่อยู่ด้านหลังพวกเขา เขาได้ไปขวางมันไม่ให้เข้าไปด้านใน
ได้ยินคำว่า 'สัตว์เลี้ยง' หวงต้าเกิดโทสะขึ้นมาทันที มันกระโจนขึ้นสู่อากาศและตะครุบเขาลงบนพื้น
เสี่ยวเอ้อเป็เพียงผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ แต่เมื่อเขาโดนหวงต้ากดลงบนพื้น มันรู้สึกเหมือนมีูเามากดทับตัวเขา แค่เพียงหายใจก็ลำบากแล้วสำหรับเขาในตอนนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงเื่ที่จะต่อต้านหวงต้าเลย
"สารเลว! เ้าว่าผู้ใดเป็สัตว์เลี้ยง? บิดาเป็คนโดดเด่นนะเฮ้ย! เ้ากล้าดีเช่นไรที่มาเรียกข้าว่าสัตว์เลี้ยง! เ้ากล้าดีอย่างไรเรียกภัตตาคารขยะนี่ว่าชั้นสูง?! บิดาอุตส่าห์ให้เกียรติเ้าโดยมากินข้าวที่นี่.........บัดซบ!เ้ากล้าดีอย่างไรมาดูถูกบิดา เ้าคงเชื่อว่าข้าจะไม่กัดเ้าให้ตายสินะ?!"
หวงต้าไม่ใช่ผู้ที่สามารถมาตอแยด้วยได้ มันเป็ถึงลูกหลานของกิเลน มันมีสายเืหนึ่งที่สูงส่งที่สุดในโลก แต่เสี่ยวเอ้อผู้นี้ทำกับว่ามันเป็สัตว์เลี้ยงทั่วๆไป จะไม่ให้หวงต้าไม่สามารถกราดเกรี้ยวได้อย่างไร?
ในขณะนั้นคนหลายๆคนในภัตตาคารหยินเยว่เริ่มมองดูว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น สายตาของพวกเขาต่างจับจ้องไปยังหวงต้า หมาที่สามารถพูดได้ นี่มันไม่ธรรมดา
"เกิดอะไรขึ้น?"
ในเวลาเดียวกัน ชายแก่เดินออกมาจากห้องภายในภัตตาคาร ชายคนนี้มีพลังปราณอันกล้าแกร่งรอบตัวเขา เขาเป็ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ สายตาของเขาตกไปยังเจียงเฉินและเยี่ยนเฉินหยวี่แล้วมีหมาสีเหลืองอยู่ข้างๆ ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปโดยพลัน ประสบการณ์ของเขานั้นมีมากไม่ใช่สิ่งที่เสี่ยวเอ้อจะเทียบได้ เขานั้นสามารถบอกได้ในการมองเพียงครั้งเดียวว่าทั้งสามไม่สามารถตอแยได้ง่ายๆ
"คุณชาย ตัวข้านั้นมั่งคั่งแต่ภัตตาคารหยินเยว่กลับกีดกันมิให้สหายข้าเข้าไป มันหมายความเช่นไรหรือ?"
หน้าของเจียงเฉินเ็า พูดอย่างไม่แยแส
"มิกล้าๆ เชิญท่านทั้งสามเข้าข้างในเถิด!"
เ้าของภัตตาคารทำท่าทางต้อนรับ จนถึงตอนนี้ในที่สุดหวงต้าก็ได้ขยับออกจากเสี่ยวเอ้อ มันเดินตรงไปที่โต๊ะด่งหัวหน้า
"เ้ามองหาอะไร? ไม่เคยพบหมาหน้าตาดีรึ?"
หวงต้ามองไปยังรอบๆด้วยสายตาหลงตัวเอง
บัดซบ! เ้าจะมาภูมิใจอะไรในเมื่อเ้าเป็หมา
ทุกๆคนต่างไร้คำพูด
ด้านหลังเจียงเฉิน เสี่ยวเอ้อลุกขึ้นยืนอย่างสำนึกผิด แต่เขาไปยืนด้านข้างของเ้าของภัตตาคารอย่างสุภาพ เขารู้ว่าตัวเขาได้ก่อปัญหาเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าแม้แต่หายใจเสียงดัง
"คราวหน้าดูให้มันดีๆหน่อย! เร็วเข้าสิ รีบไปบริการพวกเขาให้ดีด้วย"
เ้าของภัตตาคารจ้องเสี่ยวเอ้อ
เมื่อเจียงเฉินเดินไปยังโต๊ะ เขารู้สึกได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่เขา เมื่อเขาหันกลับไปยังที่มาของสายตานั่นก็พบเด็กหนุ่มอายุประมาณสิบกว่าปีสวมชุดสีฟ้า ผมสีดำของเขาได้แสกกลางมองดูสะอาดสะอ้าน หน้าตาของเขาดูดี ดวงตาของเขาสดใส แม้ว่าเขาจะดูเกียจคร้านก็ตาม แต่ไม่อาจปิดบังความไม่ธรรมดาของเขาได้
ชายหนุ่มชุดสีฟ้าได้ก้าวไปยังเก้าอี้ด้วยเท้าข้างหนึ่งของเขาและขณะที่เอนไปยังกำแพง มีขวดไวน์ในมือทำมาจากผลึกแก้ว เมื่อเขาเห็นว่าเจียงเฉินมองเขา เขายกไวน์ขึ้นต่อเจียงเฉินและยิ้มให้
ริมฝีปากเจียงเฉินยกขึ้น เขาทักทายเด็กหนุ่มกลับด้วยรอยยิ้ม
"มานี่หน่อยสิ!"
เสี่ยวเอ้อตั้งใจต้อนรับพวกเขา เขาพาทั้งสามไปยังโต๊ะตัวใหญ่ใจกลางห้อง ทางที่เขามองไปยังหวงต้านั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เ้าหมาตัวนี้น่าหวาดกลัวยิ่ง พลังปราณที่แผ่ออกมาจากร่างมันไม่ใช่สิ่งที่เสี่ยวเอ้อสามารถขัดขืนได้
"มีสิ่งใดที่้าสั่งหรือขอรับ?"
เสี่ยวเอ้อถาม
"นำทุกอย่างที่มี นำอาหารที่เลิศรสที่สุดในภัตตาคารมาให้ข้า! แต่ละเมนูแยก.....ไม่สิ แยกเป็เมนูละสามจาน!"
หวงต้าพูดอย่างไม่ลังเล นอกจากนี้เสียงของมันยังดังมาก มันดึงดูดสายตาประหลาดใจจากผู้คนรอบข้างอีกครั้ง
"อะไรนะ? ทั้งหมดเลยรึ?"
เสี่ยวเอ้อตื่นตระหนก ภัตตาคารหยินเยว่เป็ภัตตาคารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหยินเยว่ และในแต่ละจานนั้นมีราคาแพงมาก ในแต่ละจานที่นำมาเสิร์ฟ มีราคาขั้นต่ำสองร้อยถึงสามร้อยเม็ดยามนุษย์หยวน แม้แต่ตระกูลที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองยังสั่งไม่มากขนาดนี้ และไม่เพียงเท่านั้น เ้าหมายังสั่งแต่ละเมนู นำมาสามจานอีก มันมีราคามากกว่าเม็ดยามนุษย์หยวนพันเม็ด
"เป็อะไร? ข้าบิดาเ้ามีจ่าย! รีบๆไปเอาอาหารมาเสิร์ฟให้ข้าได้แล้ว หากเ้าปฏิเสธคำสั่งของข้า ข้าจะใช้ฟันของข้าฉีกเ้าเป็ชิ้นๆ!"
หวงต้าแยกเขี้ยวออกมาอีกครั้ง
"ขอรับ ได้ขอรับ!"
เสี่ยวเอ้อไม่กล้าปฏิเสธ ในที่สุดเขาก็พบลูกค้าที่มั่งคั่งสุดๆ และเขานั้นมีความสุขมากกว่าเศร้า
"เ้าหมานี่สุดยอด มันสามารถกินได้เยอะขนาดนั้น"
"พวกเขาร่ำรวยแบบสุดๆแต่สิ่งที่พวกเขากระทำนั้นมันแกะดำของตระกูลชัดๆ"
"เด็กสาวคนนั้นงดงามมาก ข้าสงสัยนักว่านางมาจากที่ไหน....."
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เสี่ยวเอ้อได้นำอาหารจานเล็ก ใหญ่เติมเต็มที่ว่างบนโต๊ะ ในบรรดาอาหารนั้นมีแม้กระทั่งหัวใจของสัตว์อสูรขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ได้นำไปตุ๋นกับสมุนไพรและโสม มันดูหรูหราอย่างมาก
"ก๊ะก่ะ บิดาทนรอไม่ไหวแล้ว!"
หวงต้าหัวเราะเสียงดังอย่างตื่นเต้น ร่างของมันยืนขึ้นเหมือนมนุษย์ ยืนบนสองเท้า ขาหน้าของมันทั้งสองวางบนโต๊ะและน้ำลายมันหกรดบนจานหัวใจสัตว์อสูร
เมื่อเห็นเช่นนี้ เจียงเฉินและเยี่ยนเฉินหยวี่ขมวดคิ้วเป็ปม เ้าหมาเวรนี่ยังจะกินขนาดนี้? ทำเอาความอยากอาหารของพวกเขาหายไปทันทีเมื่อเห็นฉากนี้
วะก๊ะก่ะ......
ทั่วทั้งภัตตาคารเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของหวงต้า มันแลบลิ้นยาวออกมา
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนั้นสร้างความตกตะลึงแก่ทุกคนในภัตตาคาร หวงต้าดั่งพายุ กวาดอาหารทุกอย่างด้วยลิ้นของมัน เพียงแค่นาทีเดียว มันกวาดอาหารทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะเข้าปากมัน จานถูกเลียสะอาดจนสามารถใช้เป็กระจกได้เลย
"รสชาติไม่ได้แย่อะไรนัก เอาอาหารมาให้ข้าอีกโต๊ะ!"
น้ำลายของหวงต้าเลอะทุกที่ มันะโหาเสี่ยวเอ้อที่ยืนด้านข้าง
"บัดซบ! เ้าจะมัวยืนบื้ออยู่ตรงนี้ด้วยเหตุใดล่ะ? นำอาหารมาให้ข้าเร็วเร็วเข้า!"
ขาหน้าของหวงต้าทุบลงบนโต๊ะ ทำจานทั้งหมดร่วงลงพื้น
บัดซบ!
เจียงเฉินเอามือปิดหน้าของเขา เขาอยากที่จะออกจากที่นี่พร้อมเยี่ยนเฉินหยวี่ทันทีและทำเป็ไม่รู้จักเ้าหมานี่ นี่มันน่าอับอายขายหน้าโดยแท้
