เมื่อเขาปรากฏตัว หลงเหยียนััได้ถึงกลิ่นอายของความตายเสียแล้ว รังสีพลังที่มาจากยอดฝีมือระดับชีพเทพทำให้เขารู้สึกกลัวจนหายใจไม่ออก นี่คงเป็ความแตกต่างของระดับพลัง
เื่ที่เหนือความคาดหมายเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป ผู้าุโรู้สึกเหมือนใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ไม่มีใครนึกถึงว่าพยัคฆ์ร้ายจูเก๋อที่น่ารังเกียจจะมาในเวลานี้ ยิ่งนึกไม่ถึงว่าแค่รังสีของเขาก็ทำให้หลงเหยียนใแล้ว
ดูเหมือนเป้าหมายที่อยากมาช่วยบิดาและการชิงต้นเซียนหอมหมื่นลี้สามต้นคงเป็ไปไม่ได้แล้ว ถึงกระนั้น หลงเหยียนก็ไม่ใช่คนที่จะยอมพ่ายแพ้ง่ายๆ
“ท่านปู่เคยบอกว่าอย่าเป็คนที่ไร้ซึ่งความกลัว เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่แข็งแกร่ง เราต้องควบคุมสติ”
มีเพียงสงบอารมณ์ สมองถึงทำงานและหาวิธีมาแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าได้
“เหยียนเอ๋อ เ้ารีบหนีไปเถอะ วันนี้ตาแก่นั่นต้องฆ่าพวกเราทั้งตระกูลหลงแน่ รีบหนีไป ปู่จะปกป้องเ้าเอง มีแค่เ้าที่ยังเป็ความหวังของพวกเรา…”
เมื่อครู่คนตระกูลเซียวคุกเข่าอยู่ตรงหน้าหลงเหยียน บัดนี้ใบหน้าของเซียวมั่วเหยียนกลับประกายรอยยิ้มจองหอง คนตระกูลเซียวลุกขึ้น แม้กระทั่งเซียวหยุนเหว่ยที่าเ็หนักก็ใช้พลังปราณผนึกไม่ให้เสียเื บรรเทาความเ็ปแล้วมองหลงเหยียนด้วยสายตาเกลียดชัง
ปากที่เปื้อนเืหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆๆ นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ท่านจูเก๋อจะกลับมาในเวลานี้ มาในเวลาที่เหมาะเจาะเสียจริง หลงเหยียน ดูเหมือนข้าจะประเมินเ้าต่ำเกินไปแล้ว ทว่าครั้งนี้ ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าเ้าจะหนีอย่างไร…”
อวีเหวินสังหารก็รู้สึกผยองเช่นกัน ทั้งหมดนี้เป็เื่ของพละกำลังทั้งนั้น อยู่ๆ เื่ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน หลงเหยียนนึกไม่ถึงว่าเ้าหมอนี่จะปรากฏตัวเร็วเพียงนี้
ทุกคนในตระกูลหลงต่างก็ร้อนใจแทนหลงเหยียน ทว่าแววตาของหลงเหยียนก็หันไปสบตากับพยัคฆ์ร้ายจูเก๋อ
“ผู้าุโจูเก๋อ คิดว่าตระกูลหลงของข้าคงไม่เคยมีความแค้นอะไรกับท่านมาก่อน วันนี้ท่านปล่อยพวกเราไปเถิด หญ้าวิเศษทั้งสามต้นนี้ท่านเอาไปเลย แล้วเราจะถอยออกไปเอง ท่านคิดว่าอย่างไร”
พยัคฆ์ร้ายจูเก๋อมองหลงเหยียน เขาไม่ได้พูดโต้ตอบ ทว่ากลับหัวเราะเสียงดัง “เด็กน้อยเอ๋ย ความคิดที่ใสซื่อของเ้าทำให้ข้าอยากหัวเราะจริงๆ เมื่อสองวันก่อนข้าเคยบอกแล้ว ข้าชอบโลหิตของเ้านัก มีหรือที่ข้าจะยอมปล่อยเ้าไป หากเป็ไปได้ ข้าจะเสียแรงมาไกลเช่นนี้ทำไม มาถึงสถานที่บ้าๆ แห่งนี้แล้วเ้านึกว่าข้าอยากได้หญ้าวิเศษสามต้นนั้นน่ะหรือ ข้ามีพลังระดับชีพเทพแล้ว หญ้าวิเศษสามต้นนี้ไม่ได้ช่วยอะไรข้าเลย สิ่งที่ข้าสนใจคือเ้าต่างหาก…”
หลงเหยียนพยักหน้า แววตาเปลี่ยนไปเช่นกัน “ก็ดี ในเมื่อท่านอยากให้ข้าตาย ทั้งยัง้าโลหิตของข้าอีก เช่นนั้นก็เข้ามา ต่อให้ข้าต้องสู้จนตัวตายก็ต้องถลกหนังเ้ามาเหมือนกัน”
ครั้งนี้ หลงเหยียนไม่เพียงแค่ไม่ยอมถอย กลับกัน เขายังแสดงออกถึงความเด็ดเดี่ยว เผชิญหน้าด้วยความไม่ยอมแพ้ ในสายตาของผู้าุโและบิดาหมองหม่นราวกับได้ตายไปแล้ว เพราะพวกเขารู้ดีว่าต่อให้หลงเหยียนเหนืุ์แค่ไหน ครั้งนี้เขาไม่มีทางรอดจากน้ำมือยอดฝีมือระดับชีพเทพแน่
คนที่อยู่ในนี้ต่างก็เป็ญาติสนิทของเขา มีหรือที่หลงเหยียนจะยอมถอย ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่แล้ว เหตุใดไม่ลองสู้ดูสักตั้งเล่า หลงเหยียนอยากลองััความรู้สึกนี้ดูสักครั้ง อยากรู้ว่ายอดฝีมือระดับชีพเทพจะน่ากลัวมากเท่าใด
“ท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านลุง อาหญิง พี่อวี่ซี และน้องหยุนฉี ครั้งนี้ข้าคงต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือระดับสูงจริงๆ ระหว่างที่ข้ารับมือกับเขา พวกเ้าต้องรีบหนีไป”
ขณะที่หลงเหยียนกำลังพูด แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว…
สำหรับคำพูดของผู้าุโแห่งตระกูลหลง หลงเหยียนไม่อาจฟังเข้าไปในความคิดได้อีก ยิ่งกว่านั้น ผู้าุโรู้สึกว่าหลงเหยียนรั้นในการทำหน้าที่ของคนเป็ปู่อย่างเขา ตอนนี้ไม่มีใครพูดอะไรกับหลงเหยียนได้อีก ส่วนหลงเหยียนเองก็อยากแบกรับหน้าที่ทั้งหมดเพียงลำพัง
พยัคฆ์ร้ายจูเก๋อมองหลงเหยียน แววตาเต็มไปด้วยความโลภ คล้ายโลหิตของหลงเหยียนเป็สิ่งล่อใจคนสำนักมารอย่างเขามาก
“เด็กน้อย เ้าไม่รู้หรือ ยิ่งเ้าเด็ดเดี่ยวมากเท่าไร ยิ่งพร์ด้านวรยุทธ์เ้าเหนือชั้นมากเท่าไร โลหิตของเ้าก็ช่วยในการฝึกวิชาของข้าได้มากเท่านั้น เท่าที่ข้าเคยเห็น พร์ของเ้าดีที่สุดในสถานที่เล็กๆ เช่นนี้ ทว่าน่าเสียดายที่เ้ามาเจอข้า ฮ่าๆๆๆๆ การฆ่าเ้าต่อหน้าทุกคน คงถือว่าไม่ทำผิดต่อตระกูลหลงของเ้าแล้ว พร์เช่นนี้ หากปล่อยเ้าไป อีกหน่อยคงเป็ใหญ่เป็โตแน่ หากโทษก็คงต้องโทษที่เ้าโชคร้ายเอง”
บนตัวพยัคฆ์ร้ายจูเก๋อเต็มไปด้วยกลิ่นคาวของโลหิต เกรงว่าคงมีคนตายด้วยน้ำมือเขาไม่น้อย ดูเหมือนว่าเขารู้สึกอวดดี ไม่เห็นหลงเหยียนอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ
น้ำเสียงและกิริยาของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่เขาพูด คล้ายตนเองเป็ผู้สูงส่งที่กำลังคุยกับคนชั้นล่างอย่างไรอย่างนั้น
“พละกำลัง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพละกำลังเท่านั้น ข้าไม่ยอม หากพละกำลังข้าแกร่งกว่าเขา วันนี้คงไม่เป็เช่นนี้”
หลงเหยียนนึกถึงเมื่อก่อนในตอนที่ตนเคยถูกหยามศักดิ์ศรี เวลานี้ ความรู้สึกทั้งหมดะเิออกมาแล้ว
เซียนหอมหมื่นลี้อยู่ตรงหน้า และบิดาเขาก็อยู่ตรงหน้าเช่นกัน ทำให้หลงเหยียนยิ่งรู้สึกไม่พอใจ…
“ได้ เป็เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เ้าเป็คนบีบข้าเองนะ!” หลงเหยียนก้าวถอยหลัง เมื่อครู่เขาแปลงร่างกลับมาเป็ร่างเดิมแล้ว ตอนนี้เขาใช้กายธาตุพลังที่มาจากพลังการประสานจิตอีกครั้ง ทันใดนั้นมันก็กระจายไปทั่วร่าง ขนาดตัวใหญ่สิบเมตร
บนร่างของเขาเต็มไปด้วยขนสีดำของหมี เกราะป้องกันตัวที่หนาแน่นคล้ายทองคำทำให้หลงเหยียนแลดูน่าเกรงขาม โลหิตจากหินวิเศษจำนวนมหาศาลกำลังประสานเข้ากับร่างกายขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว
เมื่อมีโลหิตปริมาณมหาศาลเป็พลังหนุน รังสีพลังของหลงเหยียนเพิ่มขึ้นทันที พลังปราณก็เพิ่มขึ้นยี่สิบเท่า
พยัคฆ์ร้ายจูเก๋อตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง “ข้าดูไม่ออกเลยนะ แท้จริงแล้วเ้าก็มีิญญาสัตว์เป็หมีทะลวงนี่เอง ฮ่าๆๆๆๆ กะลาก็ยังเป็กะลาวันยังค่ำ ไม่เคยออกไปเปิดหูเปิดตามาก่อน ิญญาสัตว์ตัวนี้ไม่เลวเลย แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งระดับชีพเทพแล้ว ต่อให้แปลงร่างแล้วอย่างไร”
เมื่อพยัคฆ์ร้ายจูเก๋อพูดจบ ทันใดนั้น ร่างกายเขาก็ขยายใหญ่ ขณะเดียวกัน ร่างกายเขาก็สูงประมาณหกเมตร หลงเหยียนสูงมากกว่า ทว่ารังสีพลังที่ทะลุทะลวงบนตัวกลับทำให้ผู้าุโแห่งตระกูลตื่นตะลึง
การแปลงกายเป็ปีศาจอสูรระดับมายาที่หนึ่งทำให้เขารู้สึกจองหองมากกว่าเดิม ใช้ร่างกิเลนในการรับมือกับหลงเหยียนที่แปลงกายเป็ปีศาจอสูรระดับทองคำขั้นที่หก
ไม่ว่าจะเปรียบด้านรังสีพลังหรือความน่าเกรงขาม หลงเหยียนพ่ายให้กับเขาแล้วหนึ่งระดับ
ผู้าุโกับคนที่เหลือร่างกะพริบมาอยู่ข้างหลงเหยียน ส่วนหลงเหยียนกลัวว่าร่างขนาดใหญ่จะทำอันตรายแก่บิดา เขาจึงเลือกสถานที่ต่อสู้นอกหลุมใหญ่ ยามนี้ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ บนเทือกเขาหยุนหลัวมียอดฝีมือแปลงกายเป็ปีศาจอสูรสองตัว พลังระดับชีพัและระดับชีพเทพปะทะกัน
การต่อสู้นี้ต่างกันจนไร้ซึ่งความหวัง หลงเหยียนต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ทุกคนต่างก็ไม่มั่นใจตัวหลงเหยียน ในเมื่อหากเทียบกันด้านระดับพลัง หลงเหยียนด้อยกว่าเขามากโข
--------------------