“อ๊ะ อ๊ะ อย่านะ!”
"อ๊า... อ๊า…!!"
"ใหญ่จัง รู้สึกดีจังเลย"
เสียงนั้นเหมือนกับนายเพื่อนบ้านกำลังมีเซ็กซ์กับใครสักคนอยู่ และเสียงครางระคนเสียงร้องแห่งความสุขสมก็ดังขึ้นไม่หยุดหย่อน
แต่ไม่นานฉันก็เริ่มจับอะไรแปลกๆ ได้ เพราะเริ่มได้ยินคำพูดบางคำที่ซ้ำไปซ้ำมา ไม่ว่าจะเป็บทสนทนา หรือน้ำเสียงที่ใช้ก็ดูจะเหมือนกันทั้งหมด
แถมมีบางประโยคหรือบางเสียงหยุดลงกะทันหัน แล้วก็เปลี่ยนไปเป็เสียงอื่นทันที
ความรู้สึกหงุดหงิดและขายหน้าที่เกิดขึ้นในตอนแรก ตอนนี้กลับกลายเป็คลื่นแห่งความไม่พอใจที่ซัดกระหน่ำเข้ามาแทนที่
ฉันมัวแต่วิตกกังวลอยู่ในห้องทั้งวัน แต่นายเพื่อนบ้านนั่นกลับดูหนังโป๊สบายใจฉ่ำเหรอ ไหนจะเนื้อหาที่ชัดเจนขนาดนั้นอีก ทำไมนายยังกล้าเสนอหน้ามาตำหนิฉันเื่เสียงดังอีกฮะ!
ถ้าเป็ก่อนหน้านี้ที่ฉันอยู่ในห้องเวลานี้แล้วละก็ คนที่ต้องถูกตำหนิคงเป็นายเพื่อนบ้านนี่ต่างหาก!
พอคิดถึงเื่นี้ ความ้าที่จะขอโทษนายเพื่อนบ้านของฉันก็หายไป แล้วถูกแทนที่ด้วยความหิวโหยที่สะสมมาทั้งวัน
เพราะเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า ฉันจึงล้มเลิกแผนที่จะออกไปเดินเล่นและซื้อของ ตอนนี้จึงทำได้แค่เอาวัตถุดิบที่เหลืออยู่ในบ้านมาทำมื้อเย็นแบบง่ายๆ แทน วันหยุดทั้งวันของฉันสูญเปล่าไปหมด
ส่วนเื่ที่ว่าจะขอโทษนายเพื่อนบ้านดีไหม ก็ไม่อยู่ในหัวฉันอีกต่อไป
“เป็วันที่แย่จริงๆ ”
ในขณะที่ฉันกำลังไม่สบอารมณ์ เสียงอีโรติกที่ดังมาจากข้างห้องก็หยุดลงไปโดยไม่รู้ตัว
ฉันหันมองไปที่ผนังอันว่างเปล่า แล้วรู้สึกอยากด่าคนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของผนังนี่เสียจริง
“สนุกเหลือเกินนะ นายเพื่อนบ้าน”
…
หลังจากทำงานหนักมาหลายวัน เราก็ได้พักผ่อนอีกครั้ง
ตามที่คุณซาเอกุสะซังแจ้งไว้ เนื่องจากมีการจัดเตรียมงานเพิ่มขึ้นในอนาคต ตารางฝึกซ้อมประจำและตารางกำหนดการต่างๆ อาจจะง่ายขึ้น ซึ่งมันทำให้่นี้มีวันหยุดมากขึ้น
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ฉันยังคิดถึงเื่ที่มีปัญหากับนายเพื่อนบ้านอยู่ แม้เขาจะทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิดบ้าง แต่ฉันก็ทำให้เขาเดือดร้อนจริงๆ
ในทางกลับกัน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีสถานการณ์ผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น แต่ถ้าเขาเอาฉันไปวิพากษ์วิจารณ์บนโซเชียลละก็ อาจเกิดปัญหาร้ายแรงมากๆ ขึ้นมาก็ได้
ในเมื่อเขาไม่ได้ทำให้ฉันเดือดร้อนขนาดนั้น สันติภาพจึงเป็สิ่งที่สำคัญที่สุด ฉันควรจะไปขอโทษเขาอย่างเป็ทางการ
และโอกาสที่ว่านี้ก็ไม่ปล่อยให้รอนานนัก ในที่สุดวันนี้ฉันก็บังเอิญพบเขาที่รออยู่หน้าลิฟต์หลังจากเลิกงานอีกครั้ง
ปกติแล้วฉันสามารถทักเขาได้อย่างเป็ธรรมชาติ แต่คราวนี้อย่าว่าแต่จะทักกันได้เหมือนเคยเลย แค่จะแอบมองใบหน้าด้านข้าง ก็ยังไม่กล้า
เขาเงยหน้ามองสัญญาณไฟที่แสดงอยู่หน้าลิฟต์ด้วยท่าทีเฉยเมย ราวกับไม่สนใจฉันอย่างไรอย่างนั้น
จนกระทั่งเราทั้งสองเข้าไปในลิฟต์ แต่เขาก็ยังดูเพิกเฉย และไม่ได้สนใจรูปร่างหน้าตา หรือตัวตนของฉันเหมือนเดิม ส่วนเื่ที่เขาจับได้ว่าฉันช่วยตัวเอง ก็ใช่ว่าจะพูดอะไรออกมา
เขาดูเ็าเหลือเกิน แล้วอะไรไม่รู้ดลบันดาลให้ฉันที่เดิมทีอยากจะขอโทษเขา ให้พูดบางอย่างออกไปว่า…
“นายเพื่อนบ้านก็ดูหนังเสียงดังมากเหมือนกันนะ...”
"ฮะ?"
ฉันที่ถือกระเป๋าด้วยมือทั้งสองข้างหลุบตามองลงไปข้างหน้า
และถึงฉันจะไม่ได้มองเขาตรงๆ แต่ภาพที่เขาหันศีรษะมา ก็สะท้อนจากกระจกลิฟต์เข้ามาอยู่ในสายตาฉันจนได้
“ฉันหมายถึง… เสียงที่นายดูหนังไง มันรบกวนฉันเหมือนกัน มันดังมากเลย!”
“ฮ่าๆ ไม่ใช่หรอกมั้ง?”
เขาจ้องตอบฉันด้วยอาการเลิ่กลั่กสุดๆ ฉันเองก็คอยมองปฏิกิริยาของเขาผ่านทางหางตา และใบหน้าของเขาก็ชัดเจนขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว
ชายหนุ่มคนนี้ช่างมีใบหน้าที่สดใสและหล่อเหลาเอาการ คิ้วที่คมเข้มก็ช่วยขับเน้นให้โครงหน้าเขาคมชัดขึ้นไปอีก
แม้ในมือเขาจะถือแค่ถุงพลาสติกจากซูเปอร์มาร์เก็ต แต่เสื้อผ้าที่สวมก็ดูเรียบง่ายมีรสนิยมใช้ได้
แล้วขนาดฉันจะสวมรองเท้าแมรีเจน[1] ที่มีส้นสูงมากๆ แต่ยังสูงถึงแค่คางของเขาเท่านั้น นั่นยิ่งตอกย้ำให้ฉันเห็นถึงความสูงที่ต่างกันสุดๆ ของเรา
แม้ว่าฉันจะเป็คนที่เย้าแหย่เขาก่อน แต่ท่าทางลุกลี้ลุกลนของเขาตอนนี้ ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาในใจฉันดูเป็รูปเป็ร่างขึ้นมาบ้างแล้ว
พอคิดว่าเขาอาจมีด้านน่ารักๆ ที่ฉันคิดไม่ถึง ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ารูปร่างหน้าตาของเขาถูกใจฉันไปเสียหมด
“ถ้านาย้า ฉันสามารถทวนประโยคที่ฉันได้ยินให้นายฟังได้นะ”
“เดี๋ยวก่อน... ฉันว่าฉันไม่ได้เสียงดังขนาดนั้นนะ เธอก็พูดเกินไป”
“อะไรกัน! ฉันก็ใช้ระดับเสียงที่คิดว่าพอดีในห้องของตัวเองเหมือนกัน นี่อย่าบอกนะว่า นายแอบฟังใช่มั้ย?”
“ฮ่าๆ ทำไมฉันที่ถูกรบกวนต้องมาถูกตั้งคำถามแบบนี้เหรอ? เธอต่างหากที่จงใจให้ฉันได้ยินเสียงใช่มั้ย?”
“วะ… ว่าไงนะ?!”
ในขณะที่ลิฟต์มาถึงชั้นของเรา เราทั้งสองก็กลับมาปิดปากเงียบก่อนที่ประตูลิฟต์จะเปิดอีกครั้ง
เนื่องจากทางเดินนั้นเงียบเชียบมากจนอาจทำให้เสียงสนทนาดังก้อง ฉันจึงไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขาอีก
ฉันจ้องมองนายเพื่อนบ้านที่เดินข้างกัน และขณะที่เรากำลังเดินเข้าไปที่สุดทางเดินของชั้นด้วยท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยง ฉันก็จงใจเดินกระแทกส้นเท้าให้เกิดเสียงดังในทุกฝีก้าว
"ราตรีสวัสดิ์! นายเพื่อนบ้าน"
"จิ๊…"
เขาส่งเสียงจิ๊ปาก ปลดล็อกประตูและเข้าไปในห้องโดยไม่โต้เถียงฉันแม้แต่นิด
เสียงปิดประตูดังกระแทกอย่างแรง เหมือนว่าเขาจะโกรธกับการกระทำของฉันเอามาก
"อา…"
แล้วฉันเพิ่งนึกได้ว่าตอนนี้ควรจะเป็มิตรกับเขามากกว่า แต่ดูจะสายเกินไปแล้ว...
“เฮ้อ… นาเดชิโกะ เธอวู่วามเกินไปแล้ว”
ฉันถอนหายใจพลางบ่นให้กับสมองที่คิดน้อยของตัวเอง นี่ไม่ทำให้แผนการที่จะคืนดีกับนายเพื่อนบ้านซับซ้อนและยุ่งยากมากขึ้นไปอีกรึไง
แต่เื่มันเกิดไปแล้วก็ปล่อยมันไปเถอะ ฉันคงต้องหาวิธีอื่นๆ ไปขอโทษเล็กๆ น้อยๆ... ใช่ เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี
เมื่อฉันเข้ามาในห้องก็ถอดรองเท้าและถุงเท้าที่โถงทางเดินอย่างไม่ใส่ใจ คิดแต่ว่าอยากจะชำระล้างความเหนื่อยล้าของวันนี้ออกไป และต้อนรับวันหยุดในวันพรุ่งนี้ให้เร็วที่สุด
แต่พอจัดการทุกอย่างเรียบร้อย และเข้าห้องนอน ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยั้แ่เปิดประตูห้องนอน
แต่เสียงนั้นดังกว่าเมื่อวันก่อนอีก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็หนังโป๊ที่นายเพื่อนบ้านเปิด
“เ้าหมอนี่ ทำตัวเหมือนเด็กเกินไปแล้ว!”
นอกจากจะทำให้ฉันไม่ได้พักผ่อนแล้ว ยังทำให้ฉันกระสับกระส่ายมากขึ้นไปอีก
แรกๆ ก็คิดว่าเขาจะเปิดมันทิ้งไว้จนถึงเช้าไม่ให้ฉันต้องหลับต้องนอน แต่เหมือนเขายังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่ เสียงเ่าั้จึงหายไปั้แ่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ถึงแม้ว่าจะทำตัวไร้เดียงสา แต่ก็ยังดีที่มีสามัญสำนึก และรู้จักเวล่ำเวลาบ้างล่ะนะ
แต่ฉันก็ไม่อยากยอมแพ้ง่ายๆ ถึงวันนี้ฉันจะไม่อยากทำเื่อย่างว่า แต่ก็ยังวิ่งไปที่กล่องไม้ที่วางของเล่นเอาไว้ และสุ่มเลือกพวกมันมาสองสามชิ้น
“ในเมื่อนายคิดว่าฉันส่งเสียงดังและทำตัวเป็เด็ก ฉันก็จะไม่ยอมให้นายได้พักผ่อนเต็มที่เหมือนกัน”
เพราะพรุ่งนี้ฉันมีวันหยุดเต็มวัน ฉันที่มีข้อได้เปรียบจึงตัดสินใจที่จะใช้เวลาร่วมกับเขาในค่ำคืนนี้
ในเมื่อนายคิดว่าฉันตั้งใจทำให้นายได้ยิน ฉันจะทำให้ดูว่าถ้าตั้งใจจริงๆ มันจะเป็ยังไง
อย่าได้ดูถูกศิลปินชื่อดังอย่างฉันเชียวนะ ไม่ว่าจะเสียงร้องไห้หรือเสียงสูงก็ตาม รับรองว่าฉันก็ไม่ได้แย่ไปกว่าหนังที่นายดูหรอก
และนี่ก็เป็คืนที่ฉันนอนหลับดึกที่สุดนับั้แ่ย้ายมาอยู่ที่นี่ และครางเสียงดังว่า ‘นายเพื่อนบ้าน’ บ่อยมากและดังขั้นสุด
ฉันไม่เคยคาดหวังจะให้เขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ชัดเจนเต็มสองหูเท่านี้มาก่อน
แม้ว่าบุคลิกของเขาจะดูน่าหมั่นไส้ไปสักหน่อย แต่ก็มีหลายอย่างที่ดึงดูดใจฉัน ให้เขาอยู่ในภาพจินตนาการของฉันเถอะ... จินตนาการว่าเขาเป็คนที่อ่อนโยนและรักฉันมาก และนั่นคงเป็บุคลิกที่ไม่ว่ายังไง เขาก็ไม่มีวันแสดงออกมาแน่นอน
[1] แมรีเจน (Mary Jane) 1 ในแบรนด์รองเท้าแฟชั่นชื่อดังที่มีกระแสมาจากการ์ตูนเื่ Buster Brown
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้