“ขอบคุณมากที่ชี้แนะ ข้าเพิ่งเข้ามาในจวนดังนั้นจึงยังมีเื่ที่ไม่เข้าใจอยู่มาก ดังนั้นจำต้องขอคำแนะนำจากท่านด้วย”
ก่อนมาที่นี่ ฮ่องเต้สั่งให้นางทำความเข้าใจกับสถานการณ์ภายในจวนอวี้แห่งนี้ค่อนข้างมาก
ได้ยินมาว่าหมู่เฟยของท่านอ๋องอยู่ประทับอยู่ที่นี่ด้วยเมื่อลองไตร่ตรองดูแล้ว ท่านนี้คงเป็สาวใช้ข้างกายพระสนมเต๋อเฟยไม่ผิดแน่
หากนางสร้างสัมพันธไมตรีอันดีกับสาวใช้คนนี้บางทีอาจจะเป็การดีเมื่อได้อยู่หน้าพระพักตร์พระสนมเต๋อเฟย
ท่าทางว่านอนสอนง่ายของหงอวี้ทำให้จิ่นเยว่รู้สึกดีกับนางไม่น้อย
ภายในวังมีหญิงสาวจากซีฟานมากมายถูกส่งมาเป็เครื่องราชบรรณาการทว่าตำแหน่งกลับไม่สูงนัก
แต่ถึงอย่างนั้นพวกนางก็ยังอยู่ในวังอย่างมีความสุขได้รับความรักความเมตตาจากสนมทั้งหลายดังนั้นนางจึงรู้สึกดีกับหญิงสาวจากซีฟานผู้นี้มาก
“ท่านน้า เหตุใดจึงมาที่นี่กระนั้นหรือรีบเข้าไปนั่งข้างในก่อนเถิด”
สาวใช้ทั้งสามถูกจิ่นเยว่อบรมสั่งสอนมาเป็อย่างดี
ดังนั้นพวกนางจึงรู้สึกสนิทสนมกับจิ่นเยว่ มิได้มองว่านางเป็คนนอก
หลินเมิ้งหยาหายตัวไปอีกครั้งเื่นี้กลายเป็เื่ธรรมดาของตำหนักหลิวซินไปเสียแล้ว ทว่าครั้งนี้ไม่เหมือนกันเหตุเพราะพระสนมเต๋อเฟย้าพบพระชายา
จื่นเยว่เดินตามหลังป๋ายจีเข้าไปภายในหงอวี้แอบเดินตามเข้าไปเพราะความอยากรู้อยากเห็น
“ว่าอย่างไรนะ? พระชายาหายตัวไปอีกแล้ว? คราวนี้ใครเป็คนลักพาตัวพระชายาไปกัน?”
ตอนนี้แม้แต่จิ่นเยว่เองก็รู้สึกว่าเื่นี้กลายเป็เื่ธรรมดาไปแล้วหรืออาจพูดได้ว่าการหายตัวไปของหลินเมิ้งหยาเป็เพียงเื่ธรรมดาเท่านั้น
“พวกเราเองก็ไม่รู้เ้าค่ะ บางทีอาจเพราะอารมณ์ไม่ดีก็เลยออกไปเดินเล่นกระมัง”
สาวใช้ทั้งสามกลับรู้สึกเอื่อยเฉื่อยเสียยิ่งกว่าจิ่นเยว่
เมื่อก่อนเวลานายหญิงไปไหน นางมักจะพาสาวใช้อย่างพวกนางไปด้วยทว่าตอนนี้พวกนางไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายหญิงหายไปไหน
“เฮ้อ พวกเ้านี่หนา! ต่อจากนี้ไปจะต้องตามติดพระชายาอย่าให้ห่างในเมื่อพระชายาหายไปเช่นนี้ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าควรกลับไปทูลพระสนมเช่นไร”
หงอวี้แอบหัวเราะ อารมณ์ของพระชายาพระองค์นี้รุนแรงยิ่งนัก
ฟู่จวินของตนเองพาหญิงสาวคนหนึ่งกลับมาแต่เพียงเท่านั้นทว่านางกลับหนีออกไปข้างนอก
ได้ยินมาว่าหญิงสาวของต้าจิ้นเชื่อฟังหลักสามปฏิบัติสี่คุณธรรม1 ดูเหมือนโอกาสของนางจะมาถึงแล้ว
กว่าจะตื่นนอน พระอาทิตย์แขวนอยู่กลางขอบฟ้าไตร่ตรองดูก่อนจะพบว่าเป็เวลาบ่ายแล้ว
หลินเมิ้งหยาลุกขึ้นทว่านางต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่ากลีบดอกไม้คลุมร่างของนางตนเองอยู่ก่อนจะตกลงบนพื้น
เพราะเหตุนี้นางจึงไม่รู้สึกหนาวเลยสินะ รู้สึกเหมือนกำลังห่มผ้าห่มผืนใหญ่
“ตื่นแล้วหรือ? มานี่สิ กินผลไม้”
ใบไม้ขนาดใหญ่ที่ห่อหุ้มผลไม้เอาไว้ถูกวางลงตรงหน้าหลินเมิ้งหยา
ชิงหูหยักยิ้มอย่างไม่ใส่ใจนักทว่าดวงตาเสมือนจิ้งจอกของเขากลับหรี่เล็กเสมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
“ขอบใจเ้ามาก”
คิดไม่ถึงเลยว่าเ้าจิ้งจอกเ้าเล่ห์จะมีประโยชน์มากมายมหาศาลขนาดนี้หลินเมิ้งหยาหยิบผลไม้แล้วส่งเข้าปาก
ผลไม้ชนิดนี้มีรสหวานปานน้ำผึ้ง เมื่อได้ดูดกลืนน้ำหวานของมันศีรษะอดไม่ได้ที่จะพยักลงเบาๆ
เพียงสองสามคำก็กินหมดแล้วหนึ่งลูก
“ทำไมเ้าไม่กินล่ะ?”หลินเมิ้งหยากินติดต่อกันเข้าไปหลายลูกจนเริ่มรู้สึกอิ่มสายตาพลันมองชิงหูด้วยความสงสัย
น่าแปลกชะมัด ทุกครั้งเ้าเด็กนี่เห็นของกินเป็ไม่ได้จะต้องปรี่เข้าไปเป็คนแรกเสมอ เหตุใดวันนี้จึงยอมปล่อยให้นางกินได้เล่า
แปลกจริงๆ!
“ผลไม้ชนิดนี้มีพิษ ข้ากินไม่ได้หรอก”
เพียงพูดจบ เขาได้เห็นดวงตากลมโตจ้องตนเองเขม็ง
รอยยิ้มพลันผุดออกมา ก่อนจะกลายเป็เสียงหัวเราะ
“ฮ่าๆๆ นี่เ้าเชื่อจริงหรือ เ้ามีความรู้เื่ยาพิษแท้ๆเหตุใดจึงแยกไม่ออกกันเล่า”
ในสายตาของชิงหู หลินเมิ้งหยาคือปรมาจารย์ด้านยาพิษ
ดังนั้นเมื่อหลินเมิ้งหยาตื่นนอน เขาจึงอยากแกล้งนางสักเล็กน้อย
คิดไม่ถึงเลยว่าขณะที่สมองของนางยังทำงานได้ไม่เต็มที่นางจะถูกหลอกง่ายเช่นนี้
จริงๆ เลย หัวเราะจนน้ำตาไหลหมดแล้ว
ทว่าที่หลินเมิ้งหยาชะงักหาใช่เพราะตกหลุมพรางของชิงหูแต่เพราะผลไม้ชนิดนี้มีส่วนผสมของยาถอนพิษชนิดหนึ่งในร่างกายนาง
ตอนที่ข้ามภพมา ร่างกายของนางถูกยาพิษอย่างรุนแรงแม้จะถอนยาพิษออกไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังมียาพิษอีกหลายชนิดที่ยังไม่ถูกกำจัดออกไป
บังเอิญ ผลไม้ที่ชิงหูนำมาให้คือหนึ่งในยาถอนพิษ
บนโลกนี้ล้วนมีความบังเอิญ
เอ๋?ชิงหูมองหลินเมิ้งหยาที่กำลังกัดกินผลไม้ไม่หยุดตรงหน้าเหตุใดจึงไม่ด่าไม่ตีเขากันเล่า?
ไม่เหมือนหลินเมิ้งหยาคนเดิม!
“เ้าเด็กน้อย เ้าถูกใครทำให้สมองมีปัญหาไปแล้วหรือไม่?”
เขาค่อยๆ ก้าวเท้ามาข้างหน้ายื่นนิ้วมือออกไปเคาะศีรษะหลินเมิ้งหยาเบาๆแต่กลับพบว่าเด็กสาวไม่แม้แต่จะด่าว่าเขาเลยแม้แต่น้อย
แปลก แปลกมากจริงๆ
“ปัญญาอ่อน หากข้าไม่ด่าเ้า ชีวิตเ้าจะขาดสีสันไปหรืออย่างไร?”
หลินเมิ้งหยาถลึงตาโตพร้อมทั้งเอ่ยจิกกัดขึ้นมาขณะเดียวกันชิงหูยกมือขึ้นตบหน้าอกตัวเอง
ยังดี ยังดี สมองของเ้าเด็กน้อยยังปกติดี
“เอาล่ะ ตอนนี้อารมณ์ดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่? สายมากแล้วพวกเรากลับไปกินข้าวกลางวันกันเถิด!”
ชิงหูโอบตัวหลินเมิ้งหยาขณะเดียวกันกลิ่นหอมของดอกไม้เตะเข้าที่จมูกของเขา
ปกติแล้วหลินเมิ้งหยามักจะพกเครื่องหอมกลิ่นสะอาดสะอ้านเสมอ
ทว่าตอนนี้กลิ่นหอมของดอกไม้กลับส่งความหวานละมุนออกจากตัวนางจนหัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ
แขนโอบรอบร่างบาง เพียงออกแรงเล็กน้อย ทั้งสองก็โบยบินขึ้นไป
หลินเมิ้งหยาหันกลับไปมองทุ่งดอกไม้ด้วยท่าทางเสียดาย หากมีโอกาสนางอยากมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
แอบย่องกลับเข้าไปเฉกเช่นเดียวกับตอนออกมา
ทว่าทันทีที่ผ่านเข้าทางประตูหลังของจวน สีหน้าเคร่งขรึมของหลินขุยพลันปรากฏต่อหน้าคนทั้งสอง
“พระชายา ท่านอ๋องเชิญเสด็จ”
เ้าชิงหูคนนี้เป็หายนะที่แท้จริง
ทันทีที่ออกจากคุกมา เขาก็พาพระชายาออกไปเที่ยวเตร่เพราะเหตุนี้จึงมีข่าวลือเช่นนั้นจากเจียงหู
“ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
ทั้งที่ถูกจับได้ ทว่าหลินเมิ้งหยากลับมิได้มีท่าทีใส่ใจนางสามารถเข้าออกจวนได้ตามความ้า นี่คือหนึ่งในสัญญาที่หลงเทียนอวี้มอบให้กับนาง
ยิ่งไปกว่านั้นหลงเทียนอวี้เป็ผู้อนุญาตให้ชิงหูเป็องครักษ์ประจำกายของนางเอง
สั่งให้ชิงหูกลับไปที่ตำหนักก่อน หลินเมิ้งหยาเดินตามหลินขุยไปยังห้องอ่านหนังสือของหลงเทียนอวี้
“พระชายา ข้าน้อยมีเื่บางเื่ไม่แน่ใจว่าสามารถพูดได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
หลินขุยเป็คนตรงไปตรงมา หาใช่คนมีเล่ห์เหลี่ยมใดๆอีกทั้งหลินเมิ้งหยายังเป็คนคุ้นเคย ดังนั้นทั้งสองจึงมิได้มีพิธีรีตองต่อกันมากนัก
“เชิญ”
“พระชายาไม่ควรออกไปกับเด็กคนนั้นสองคนพ่ะย่ะค่ะเจียงหูมีข่าวลือที่ว่า...ว่าเขาเป็คนของผู้มีอำนาจเหตุเพราะเขาฆ่าเ้านายของตนเอง ดังนั้นจึงต้องหลบหนีอุตลุดต่อจากนี้ไปพระชายาอย่าได้ทรงไปไหนมาไหนกับเขาสองต่อสองเลยพ่ะย่ะค่ะเพื่อป้องกันมิให้เขาทำร้ายพระองค์ได้”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงดูแคลนของหลินขุยหัวใจของหลินเมิ้งหยาพลันกระตุก
นับั้แ่วันแรกที่ได้เจอกับชิงหู นางคาดเดาเอาไว้แล้ว
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเื่ราวของชิงหูจะเป็เช่นนี้
“ต่อไปข้าจะระวัง เ้าวางใจเถิด”
สำหรับหลินขุย ผู้ชายคนหนึ่งกลายเป็คนทรยศเื่นี้มิใช่เื่ที่จะยอมรับกันได้
ดังนั้นแม้เขาจะไม่สนใจว่าชิงหูคือนักฆ่าตัวฉกาจแห่งเถาฮวาอู๋แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่มีอาจมองชิงหูเป็คนดีได้
เพราะเหตุนี้สายตาของคนเหล่านี้จึงมองชิงหูแปลกๆ สินะ
ดูเหมือนเ้าเด็กนั่นจะปิดบังความลับเอาไว้เยอะเลยทีเดียว
หลินเมิ้งหยาไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อยคนที่เคยเจอกับเื่พวกนี้มักมองว่ามันเปรียบเสมือฝันร้าย
ตัวนางเองมิได้มีอุปนิสัยชอบขุดคุ้ยประวัติของผู้อื่น
ขอเพียงนางรู้ว่าเวลานี้ชิงหูเป็เพื่อนที่ดีของนางคนหนึ่งก็เพียงพอแล้ว
ทันทีที่เข้ามาถึงตำหนักของหลงเทียนอวี้ นางได้เห็นร่างบางสวมใส่ชุดสีแดงไกลๆ
หลงเทียนอวี้มีรูปร่างรางหน้าตาสง่างามราวกับหยกชุดสีดำที่กำลังสวมใส่ขับให้เขาดูหล่อเหลามากขึ้น
ด้านหลัง ใบหน้าสวยงามเรียวเล็กรูปไข่กำลังส่งยิ้มหวานละมุนละไม
ช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน! แม้แต่นางที่เป็คนนอกยังอดไม่ได้ที่จะอิจฉา!
“ท่านอ๋อง พระชายามาแล้วพ่ะย่ะค่ะ” หลินขุยไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรแม้ท่านอ๋องจะมิได้ทำอะไรผิด แต่เขาเองก็ไม่เคยเจอกับสถานการณ์เช่นนี้
ก่อนนั้นจวนอวี้ไม่มีหญิงสาวรุมเร้าเช่นนี้แต่มีเพียงพวกเขาที่เป็ชาย ดังนั้นจึงไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
เฮ้อ ผู้หญิงยิ่งเยอะก็ยิ่งยุ่งยาก
หลงเทียนอวี้ชำเลืองสายตาเ็าทางหลินเมิ้งหยาดวงตาคู่นั้นมิต่างอะไรจากถูกน้ำแข็งเกาะกุม
เมื่อคืนไล่เขาออกไปไม่พอ วันนี้ยังออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก
เหตุใดนางจึงใจกล้าบ้าบิ่นเช่นนี้
“พวกเ้าออกไปก่อน” สะบัดมือ ไล่หลินขุยและหงอวี้ทั้งสองยืนนิ่งเงียบอยู่ในตำหนักมิพูดมิจาเช่นเดียวกับเมื่อคืน
“เ้าออกไปกับใคร?” แม้เสื้อผ้าของหลินเมิ้งหยาจะยังคงเรียบร้อยดีทว่าเรือนร่างของนางกลับมีกลิ่นหอมของดอกไม้อ่อนๆหรือนางมัวไปเชยชมดอกไม้กระนั้นหรือ?
“ชิงหู” ในเมื่อมีสาวงามอยู่ข้างกาย หลงเทียนอวี้ยังมีอะไรไม่พอใจอีก?
“เ้า...เหตุใดจึงออกไปนอกจวนกับผู้ชายสองต่อสองรู้หรือไม่ว่าตนเองกำลังทำเื่บัดสี?” ดวงตาวาวโรจน์ความโกรธเกรี้ยวพลันปรากฏขึ้นในหัวใจของหลงเทียนอวี้
จะพูดว่าอย่างไรดีนะ ชิงหูเองก็เป็ชายนางอยู่กับเขาสองต่อสองตลอดทั้งวัน หรือ...พวกเขาจะมีความรู้สึกดีต่อกัน?
“ใช่แล้วเพคะ หม่อมฉันคิดจะเปลี่ยนคู่แล้วยังคิดจะหนีออกไปกับคู่ของหม่อมฉันอีกด้วย! ถึงอย่างไรหม่อมฉันและพระองค์ก็เป็เพียงสามีภรรยากันในนามแต่เพียงเท่านั้นหาได้มีข้อห้ามต่อกันและกันไม่”
หลินเมิ้งหยาส่งเสียงเย็นเพราะอารมณ์ที่กำลังพวยพุ่งทำให้นางพูดสิ่งเ่าั้ออกไป เมื่อย้อนนึกแม้แต่นางยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมึนงง
ทั้งปีนกำแพง ทั้งะโกำแพง ์โปรด เหตุใดนางจึงรู้สึกว่าตนเองไม่อาจควบคุมตัวเองได้เช่นนี้
“ได้! ในเมื่อเ้าพูดเช่นนี้ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็มาเป็สามีภรรยาที่แท้จริงกันเลยแล้วกันข้าจะรอดูว่าเ้ายังเปลี่ยนคู่ได้อีกหรือไม่!”
ไม่มีผู้ชายคนไหนบนโลกสามารถทานทนได้เมื่อภรรยาของตนเองเอ่ยว่าจะเปลี่ยนคู่คำพูดเช่นนี้ไม่ต่างอะไรจากการไม่ให้เกียรติกันและทำร้ายกัน
หลินเมิ้งหยายังไม่ทันจะเข้าใจความหมายของหลงเทียนอวี้ ครู่ต่อมาหลงเทียนอวี้แบกนางขึ้นบ่า
“โอ๊ย...ท่านคิดจะทำอะไร ปล่อยหม่อมฉันลงเดี๋ยวนี้!”
นางทุบแผ่นหลังของเขาอย่างแรงใบหน้าขาวนวลพลันแดงระเรื่อเพราะความโกรธ
ทว่าใบหน้าของหลงเทียนอวี้กลับแข็งทื่อเขาไม่สนใจเสียงร้องโวยวายของนางเลยแม้แต่น้อยและแบกนางเข้าไปยังห้องอ่านหนังสือของตนเอง
“ท่าน...ทำให้หม่อมฉันเจ็บนะ!”
ยังไม่ทันเตรียมใจ หลินเมิ้งหยาถูกหลงเทียนอวี้โยนลงบนเตียงขนาดเล็กในห้องอ่านหนังสือ
เตียงไม้แข็งทื่อหาได้นุ่มนิ่มอย่างเตียงในตำหนักหลิวซินไม่
**************************
1 หลักสามปฏิบัติสี่คุณธรรมคือคำสอนของขงจื๊ออันประกอบด้วย
หลักสาม : หญิงสาวยังมิออกเรือนต้องเชื่อฟังพ่อ
หญิงสาวเมื่อออกเรือนแล้วต้องเชื่อฟังสามี
หญิงสาวหากสามีตายไปต้องเชื่อฟังลูกชายคนโต
คุณธรรมสี่ : เป็คนดี
วาจาดี
งดงาม
เอาการเอางาน
